Super God Gene - ตอนที่ 3104 แคสต์ก็อตคอร์ท
ตอนที่ 3104 แคสต์ก็อตคอร์ท
ในที่สุดหานเซิ่นก็มีโอกาสได้เห็นลวดลายสายฟ้าสีทอง ตอนนี้เขารู้แล้วว่าชื่อของมันก็คือแคสต์ก็อตคอร์ท
ขณะที่อ่านไปเรื่อยๆ หานเซิ่นก็รู้สึกค่อนข้างแปลก แคสต์ก็อตคอร์ทบอกถึงวิธีการสร้างพระเจ้า แต่มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นเทพสปิริต แต่มันเป็นการเปลี่ยนยืนเรซให้กลายเป็นเทพสปิริต
ยื่นเรซตัวหนึ่งจะมีระดับการเจริญเติบโตอยู่สามระดับด้วยกัน ได้แก่ร่างเยาว์ ร่างเต็มวัย และร่างสุดยอด โดยปกติแล้วยืนเรซทั่วไปจะเจริญเติบโตได้แค่ร่างเต็มวัยเท่านั้น มีเพียงแค่ยีนเรซที่มีพรสวรรค์และเป็นที่สุดของที่สุดเท่านั้นที่จะกลายเป็นร่างสุดยอดได้ พลังของยืนเรซร่างสุดยอดนั้นเป็นอะไรที่น่ากลัวเหนือจินตนาการ
ถ้ายืนเรชต้องการจะเจริญเติบโต พวกมันก็ต้องกินเนื้อของยืนเรชอื่นๆเข้าไปเป็นจํานวนมาก นั่นเป็นหนทางเดียวที่จะสนับสนุนการเจริญเติบโตของพวกมัน
ไม่ว่าจะเป็นยีนเรซระดับสูงอย่างยืนเรซระดับเทพเจ้าหรือยีนเรซธรรมดาทั่วไปอย่างยืนเรชระดับไวเคานต์ ความปรารถนาสูงสุดของพวกมันล้วนแต่เป็นการไปให้ถึงร่างสุดยอดเหมือนกันหมด มันไม่มีอะไรเหนือกว่านั้นอีกแล้ว
แม้แต่ยืนเรซที่หายากอย่างบิ๊กสกายเดม่อนก็ไปถึงแค่ร่างสุดยอด นั่นคือจุดสิ้นสุดของการวิวัฒนาการของยืนเรซทุกตัว
แต่วิชาแคสต์ก็อตคอร์ทนี้สามารถทําให้ยืนเรซร่างสุดยอดเลื่อนขึ้นไปสู่ระดับที่สูงยิ่งกว่า มันสามารถทําให้ยื่นเรซเข้าสู่สภาวะพิเศษเพื่อสร้างร่างกายเทพสปิริตขึ้นมา
ถ้าหานเซิ่นทําให้ยืนเรซของเขากลายเป็นร่างสุดยอดได้ พวกมันก็จะกลายเป็นเทพสปิริต นั่นหมายความว่าเขาจะสามารถควบคุมกองทัพเทพสปิริตหรือแม้กระทั่งรวมร่างกับพวกมันได้
แต่การจะทําให้ยืนเรซกลายเป็นเทพสปิริตนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มันจําเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากโลหิตชีพจรเทพสปิริต
โลหิตชีพจรเทพสปิริตที่ว่าก็คือโลหิตชีพจรเทพสปิริตมังกรโลหิตที่หานเซิ่นเคยได้รับ ซึ่ง เป็นพลังชีพจรชีวิตของจักรวาล นั่นหมายความว่ามันเป็นพลังต้นกําเนิดของเทพสปิริต
และนอกจากโลหิตชีพจรเทพสปิริตแล้ว หานเซิ่นยังจําเป็นต้องมียีนเรซร่างสุดยอดที่มีธาตุเข้ากันกับโลหิตชีพจรเทพสปิริตนั้นอีกด้วย เมื่อมีทั้งสองอย่างแล้วหานเซิ่นถึงจะใช้โลหิตชีพจรเทพสปิริตเพื่อช่วยให้ยื่นเรซวิวัฒนาการกลายเป็นเทพสปิริตได้
แต่ถึงเขาจะมีโลหิตชีพจรเทพสปิริตและยืนเรซเอ็กซ์คลูซีฟ โอกาสสําเร็จของมันก็ยังคงต่ําอยู่ดี ไม่ใช่ทุกยีนเรซจะสามารถกลายเป็นเทพสปิริตได้
หานเซิ่นคิดว่าเรื่องนี้เป็นอะไรที่น่าสนใจ แต่มันก็ไม่ได้ดึงดูดเขามากนัก เขาเองก็เคยกลายเป็นเทพสปิริตเรียบร้อยแล้ว แต่กฎของโลกใบนี้ดูเหมือนจะจํากัดการทําแบบนั้น เขาไม่สามารถเรียกมงกฎสกายก็อตออกมาในจักรวาลนี้ได้
เนื้อหาส่วนท้ายของแคสต์ก็อตคอร์ทนั้นทําให้ดวงตาของหานเซิ่นเบิกกว้าง
จุดประสงค์ที่แท้จริงของแคสต์ก็อตคอร์ทนั้นไม่ใช่การสร้างเทพสปิริต แต่เป็นการใช้พลังของเทพสปิริตเพื่อทําลายบาเรียอวกาศและเข้าไปสู่ขอบเขตที่ไม่ได้ถูกผูกมัดโดยกฎของจักรวาล และเป็นอิสระจากการเวียนว่ายตายเกิด คนๆนั้นจะสามารถเข้าออกโลกต่างๆได้อย่างอิสระ
“ถ้าเราไปถึงระดับนั้นได้ เราก็จะทําลายบาเรียอวกาศและกลับไปสู่จักรวาลของเรา” หานเซิ่นคิดอย่างดีใจ แต่เมื่อเขาอ่านต่อไป ใบหน้าของเขาก็ดูแย่ขึ้นมา
จากข้อความที่ถูกบันถึงเอาไว้บอกว่าการจะไปถึงระดับนั้นได้ คนๆนั้นต้องสร้างเทพสปิริตขั้นรีบูทและรวมร่างกับมัน
ส่วนที่เหลือของอักษรสายฟ้าสีทองบอกถึงตัวอย่างของยืนเรซที่มีโอกาสสูงที่จะวิวัฒนาการได้สําเร็จ เห็นไดเรคชั่นสกายเวิลด์คิงก็อตและสกายฟูลล์ออฟกลัสต์เดม่อนก็อตเป็นหนึ่งในนั้น
เท็นไดเรคชั่นสกายเวิลด์คิงก็อตนั้นเป็นชื่อเต็มของเวิลด์คิงก็อต ตํานานบอกว่ามันเป็นยีนเรซของฉินซิว
ส่วนสกายฟูลล์ออฟบิ๊กลิสต์เดม่อนก็อตคือชื่อเต็มของบิ๊กสกายเดม่อน ซึ่งเป็นยีนเรซที่ตอนนี้มีความสัมพันธ์ที่ประหลาดกับหานเซิ่น
พวกมันต่างก็เป็นยืนเรซที่มีโอกาสจะกลายเป็นเทพสปิริตขั้นรีบูท และถึงพวกมันจะกลายเป็นเทพสปิริตไม่สําเร็จ แต่อย่างน้อยๆพวกมันก็ไปถึงร่างสุดยอดได้ พวกมันล้วนแต่ทรงพลังเพียงพอที่จะต่อสู้กับเทพสปิริตได้
ในแคสต์ก็อตคอร์ทนั้นมียีนเรซถูกบันทึกเอาไว้เพียงแค่ห้าตัวเท่านั้น แต่หานเซิ่นไม่เคยได้ยินชื่อของพวกมันอีกสามตัวมาก่อน
มันยังมีบันทึกเกี่ยวกับยืนเรชอื่นๆที่พอจะมีโอกาสสําเร็จอยู่อีก แต่โอกาสสําเร็จของพวกมันน้อยมากๆ
แม้แต่ยืนเรซอย่างเวิลด์คิงก็อตและบิ๊กสกายเดม่อนก็ยังมีโอกาสสําเร็จแค่ราวๆยี่สิบถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น โอกาสสําเร็จของยืนเรชอื่นๆจึงต่ําจนไม่ต้องพูดถึง
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าบิ๊กสกายเดม่อนจะมีระดับสูงขนาดนั้น เธอเทียบได้กับเวิลด์คิงก็อตของฉันซิว” เรื่องนี้ทําให้หานเซิ่นประหลาดใจอย่างมาก
เขารู้อยู่แล้วว่าบิ๊กสกายเดม่อนนั้นแข็งแกร่ง แต่เขาไม่ได้คิดว่าเธอจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้
หานเซิ่นกําลังสงสัยว่าคนที่ก่อเรื่องใหญ่โตภายในจักรวาลจีโนนั้นคงจะเป็นฉินซิวที่รวมร่างกับเวิลด์คิงก็อต ไม่ใช่ฉินชิวตามลําพัง ไม่อย่างนั้นมันก็จะอธิบายเหตุผลที่ฉินซิวมีเลือดสีฟ้าไม่ได้ เลือดของมนุษย์ในจักรวาลนี้เป็นสีแดง ดังนั้นฉันซิวเองก็ต้องมีเลือดสีแดงเช่นกัน มันคงจะเป็นเพราะเวิลด์คิงก็อตที่มีเลือดสีฟ้า
“บิ๊กสกายเดม่อนดูเหมือนจะสนใจซุนหินนี่มากๆ นี่เธอต้องการจะใช้แคสต์ก็อตคอร์ทเพื่อสร้างร่างกายเทพสปิริตขึ้นมาอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นสงสัย
หลังจากที่เฟิงหยินหยินเปาจนจบเพลงแล้ว เธอก็รู้สึกตัวว่ามันมีก้อนเมฆและสายฟ้าก่อตัวขึ้นเหนือหัวของเธอ เธอรู้สึกช็อคและพูดขึ้นว่า
“พี่ซานมู่ ซุนหินนี้มันประหลาด ทําไมมันถึงได้เรียกก้อนเมฆและสายฟ้าออกมา?”
หานเซิ่นดึงเฟิงหยินหยินเข้ามาใกล้ๆและพูด “เซียวหยิน เรื่องของซุนหินนี่เป็นความลับระหว่างพวกเรา เจ้าอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกกับคนอื่นเด็ดขาด”
“แม้แต่น้าก็บอกไม่ได้อย่างนั้นหรอ?” เฟิงหยินหยินถาม
หานเซิ่นตอบอย่างจริงจัง “ใช่ ไม่ว่าใครก็บอกไม่ได้ มีแค่เจ้ากับข้าเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้”
“เข้าใจแล้ว เรื่องนี้เป็นความลับระหว่างหนูกับพี่ซานมู่เท่านั้น หนูจะไม่บอกใคร”
เฟิงหยินหยินยื่นนิ้วมือออกมาด้วยรอยยิ้ม “พวกเรามาเกี่ยวก้อยสัญญา”
– – –
“โอเค พวกเราจะเกี่ยวก้อยสัญญากัน” หานเซิ่นยืนนิ้วก้อยออกมาเกี่ยวกับนิ้วก้อย ที่เฟิงหยินหยินยื่นมา
หลังจากที่ค้นพบแคสต์ก็อตคอร์ท หานเเซิ่นก็รู้สึกมีความหวังขึ้นมา ถึงแม้เขาจะรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ มันก็ยังมีโอกาสอยู่
ยื่นเรซทั้งห้าที่ข้อมูลบอกนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่หานเซิ่นไม่ได้เป็นเจ้าของ ถึงตอนนี้บิ๊กสกายเดม่อนจะอยู่ข้างกายเขา แต่เขาก็ไม่สามารถทําอะไรกับเธอได้ เขาไม่รู้ด้วยซ้ําว่าร่างจริงของบิ๊กสกายเดม่อนนั้นอยู่ที่ไหน
หานเซิ่นคิด “ถึงแม้เราจะไม่ได้มียีนเรซร่างสุดยอดอยู่ แต่โอกาสที่จะวิวัฒนาการเป็นเทพสปิริ ตได้สําเร็จก็ไม่ควรจะต่ํากว่ายืนเรซร่างสุดยอดอะไรมากนัก เรามีบลัดโกสต์สปิริตและราชานกยูง ปีกทองอยู่ เราควรลองใช้พวกมันดู แต่เราจะหาโลหิตชีพจรเทพสปิริตที่เหมาะสมกับพวกมันได้ยัง ไง? ตอนนี้สิ่งเดียวที่เข้ากันได้ก็คือยืนเรซเทพมังกรโลหิตกับโลหิตชีพจรเทพสปิริตมังกรโลหิต แต่ยีนเรซเทพมังกรโลหิตนั้นยังเป็นร่างเยาว์อยู่เลย เราจําเป็นต้องทําให้มันกลายเป็นร่างเต็มวัยก่อน ที่ให้มันรวมกับโลหิตชีพจรเทพสปิริตมังกรโลหิตเพื่อสร้างร่างกายเทพสปิริตขึ้นมา นี่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ
ขณะที่คิดแบบนั้นหานเซิ่นก็มองเข้าไปในจิตของเขา เขาตรวจเช็คราชานกยูง ปีกทองและพบว่ามันยังคงเป็นไข่อยู่เลย การวิวัฒนาการของมันยังคงไม่เสร็จสิ้น
“การจะป้อนอาหารให้กับยืนเรซด้วยตัวเองนั้นเป็นอะไรที่ช้าเกินไป แถมเราก็ไม่ได้มีเนื้อของยีนเรซจํานวนมาก ดูเหมือนว่าเราคงจะต้องรอจนกระทั่งราชานกยูงปีกทองวิวัฒนาการเสร็จซะก่อนค่อยใช้ชุดเกราะคริสตัลสีดําเพื่อทําให้เทพมังกรโลหิตวิวัฒนาการ” หานเซิ่นตัดสินใจ แต่เขาไม่รู้ว่าราชานกยูงปีกทองนั้นจะวิวัฒนาการเสร็จเมื่อไหร่
ขณะที่หานเซิ่นกําลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่นั้น จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงจากด้านนอก เขาลุกขึ้นและเดินมามองนอกหน้าต่าง เขาเห็นคนในเครื่องแบบหลายคนกําลังเข้าล้อมปราสาทของเฟิงเฟยเฟย