Super God Gene - ตอนที่ 3105 แคสต์ก็อตคอร์ท
ตอนที่ 3105 แคสต์ก็อตคอร์ท
“ผู้บัญชาการ ทําไมเจ้าถึงมาที่นี่? เจ้าต้องการอะไร?” เฟิงเฟยเฟยพาพ่อบ้านออกไปต้อนรับทหารองครักษ์
ทหารองครักษ์นั้นรับผิดชอบความปลอดภัยของเมืองกําแพงหยก ซึ่งประกอบไปด้วยสิบสี่กองทหารม้าและเหล่าผู้บัญชาการของแต่กองก็อยู่ใต้อํานาจการควบคุมของสตีลซีน
กองทหารม้าทั้งสิบสี่ถูกเรียกกันว่าสิบสี่ไรเดอร์ของอาณาจักร ผู้บัญชาการของแต่ละกองทหารล้วนแต่เป็นบุคคลที่พิเศษ ถึงแม้ทหารองครักษ์ทั้งหมดจะเชื่อฟังคําสั่งของสตีลซีน แต่ผู้บัญชาการมากกว่าครึ่งนั้นจงรักภักดีต่อเขา
กองทหารม้าที่มาในครั้งนี้มีชื่อว่าธันเดอร์ไลอ้อนไรเดอร์ พวกเขารับผิดชอบความปลอดภัยของพื้นที่บริเวณนี้ และเป็นที่รู้กันว่าผู้บัญชาการลู่ซานจีนั้นเป็นหนึ่งในผู้บัญชาการคนโปรดของสตีลซีน
ตอนนี้เขาได้นํากองทหารม้าธันเดอร์ไลอ้อนไรเดอร์มาที่บ้านของเฟิงเฟยเฟย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้มาด้วยจุดประสงค์ที่ดี ดังนั้นสีหน้าของเฟิงเฟยเฟยจึงดูค่อนข้างหม่นหมอง
“ทางธันเดอร์ไลอ้อนไรเดอร์ได้รับรายงานว่ามีของผิดกฎหมายอยู่ในบริเวณนี้ พวกเราจึงต้องมาตรวจสอบ ดังนั้นได้โปรดให้ความร่วมมือด้วย”
ลู่ซานจีสวมใส่ชุดเกราะเกล็ดและนั่งอยู่บนหลังของสิงโตที่มีร่างกายลุกเป็นไฟ เขาดูเหมือนกับปีศาจจากขุมนรก เขาดูน่ากลัวมากๆ
เฟิงเฟยเฟยขมวดคิ้วและถาม “ของผิดกฎหมาย? ของผิดกฎหมายอะไร?”
“นั่นเป็นความลับทางราชการ” ลู่ซานจีพูดอย่างเย็นชา เขาโบกมือและออกคําสั่ง “เข้าไปค้นข้างในอย่างละเอียด
เฟิงเฟยเฟยขมวดคิ้วและพูด “เดี๋ยวก่อนผู้บัญชาการลู่ เจ้าจะบุกรุกเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของคนอื่นแบบนี้ไม่ได้ มันไม่ถูกต้อง”
“อะไร? นี่เจ้าคิดจะต่อต้านทหารองครักษ์อย่างนั้นหรอ?” ใบหน้าของลู่ซานจียังคงดูเย็นชาไม่เปลี่ยนแปลง
“แน่นอนว่าข้าไม่กล้า” เฟิงเฟยเฟยรู้ว่าเธอไม่ควรต่อต้านทหารองครักษ์ เพราะมันไม่ต่างอะไรจากการก่อกบฏ มันเป็นความผิดที่จะนําไปสู่โทษประหาร
“ถ้าเจ้าไม่กล้า เจ้าก็ถอยไปซะ” ลู่ซานจีออกคําสั่งให้พวกทหารเข้าไปค้นในปราสาท
เฟิงเฟยเฟยจําเป็นต้องเรียกคนของเธอออกมาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับธันเดอร์ไลอ้อนไรเดอร์ ไม่อย่างนั้นถึงแม้เธอจะไม่ผิด เธอก็จะได้รับโทษอยู่ดี เพราะมันจะหมายความว่าเธอขัดขืนกฎหมายของอาณาจักรฉิน
เฟิงเฟยเฟยรู้ว่าลู่ซานจีนั้นไม่ได้มาดี แต่เธอก็ไม่สามารถทําอะไรได้ ถึงเธอจะมีชื่อเสียง และเป็นหนึ่งสามนักร้องที่โด่งดังที่สุด แต่ไม่ว่ายังไง เธอก็เป็นแค่นักร้องคนหนึ่งเท่านั้น
โดยปกติแล้วเหล่าขุนนางจะให้เกียรติเธอ และเหล่าทหารองครักษ์ก็จะไม่มาล่วงเกินเธอแบบ
แต่ตอนนี้มันแตกต่างออกไป ถ้าลู่ซานจีได้รับคําสั่งมาจากสตีลซีน นอกซะจากว่ามันจะมีขุนนางที่ใหญ่โตอีกคนปรากฏตัว ไม่อย่างนั้นเธอก็ไม่สามารถทําอะไรได้ อีกอย่างเฟิงเฟยเฟยก็ได้ปฏิเสธความช่วยเหลือของเหล่าขุนนาง จึงไม่น่าจะมีขุนนางใหญ่คนไหนยื่นมือเข้ามาช่วยเธอในตอนนี้
ลู่ซานจีไม่ได้เข้าไปค้นด้วยตัวเอง เขาแค่นั่งอยู่บนหลังสิงโตและรอคอยให้คนของเขาเสร็จสิ้นการค้นหา
หานเซิ่นเดินเข้ามาข้างๆเฟิงเฟยเฟยและถาม “เกิดอะไรขึ้น?”
“ผู้บัญชาการสู่บอกว่าบ้านของข้ามีของผิดกฎหมายอยู่” เชิงเฟยเฟยพูด
หานเซิ่นมองไปที่เฟิงเฟยเฟย แต่เขาไม่ได้พูดอะไร เฟิงเฟยเฟยรู้ว่าหานเซิ่นพยายามจะบอกอะไร เธอมองไปที่หานเซิ่นและพูดขึ้นว่า
“บ้านของข้าจะไปมีของผิดกฎหมายอยู่ได้ยังไง? ข้าคิดว่าสตีลชีนนั้นต้องการให้พวกเรากลัวเท่านั้น”
“ข้าไม่ได้คิดว่าเขาแค่ต้องการจะขู่ให้พวกเรากลัว” หานเซิ่นพูดกลับ
เฟิงเฟยเฟยต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงของทหารของธันเดอร์ไลอ้อนไรเดอร์ที่มาคุกเข่าตรงหน้าลู่ซานจี
“รายงานท่านผู้บัญชาการ พวกเราพบแซครไฟซ์คอปเปอร์จํานวนมากในชั้นใต้ดิน”
สีหน้าของเฟิงเฟยเฟยเปลี่ยนไปขณะที่เธอตะโกนขึ้นว่า “เป็นไปไม่ได้”
“ข้าจะไปดูด้วยตัวเองว่าเรื่องนี้เป็นความจริงหรือไม่” ลู่ซานจีพูดพร้อมกับบอกให้คนของเขาจับตัวเฟิงเฟยเฟย หลังจากนั้นเขาก็พาเธอไปที่ชั้นใต้ดิน
หานเซิ่นตามเฟิงเฟยเฟยไป เธอเดินไปถึงชั้นใต้ดินอย่างรวดเร็วและเมื่อมองเข้าไปข้างใน เธอก็เห็นวัตถุทองแดงที่มีรูปร่างคล้ายกับอิฐกองรวมกันอยู่
วัตถุทองแดงนี้ดูค่อนข้างแปลก มันไม่ใช่ทองแดงทั่วๆไป มันไม่ใช่ทองแดงสีเหลืองหรือทอง แดงสีม่วงเช่นกัน มันมีสีฟ้าที่ประหลาด มันดูเหมือนกับอิฐทองแดงสีฟ้า
“เฟิงเฟยเฟย นี่เจ้ากล้าดียังไงเอาแซคริไฟซ์คอปเปอร์มาซ่อนไว้ที่นี่ เจ้ารู้ไหมว่ามันเป็นความผิดที่ร้ายแรงขนาดไหน?”” ลู่ซานจีพูดกับเฟิงเฟยเฟย
“ข้าถูกใส่ร้าย! แซครไฟซ์คอปเปอร์พวกนี้ไม่ใช่ของข้า”
เฟิงเฟยเฟยดูย่ําแย่ เธอจ้องมองไปที่ลู่ซานจี เธอไม่รู้ว่าเป็นพวกลู่ซานจีที่เอาแซคริไฟซ์คอปเปอร์มาซ่อนเอาไว้ที่นี่หรือว่าในบ้านของเธอนั้นมีคนทรยศอยู่
“เจ้าไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว” ลู่ซานจีพูดและออกคําสังกับคนของเขา
“พาตัวนางไปที่กองบัญชาทหารองครักษ์ ข้าจะต้องตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด ขนแซคริไฟซ์คอปเปอร์ไปให้หมด!”
คนของเฟิงเฟยเฟยต่างก็เรียกยืนเรซของพวกเขาออกมาเพื่อเผชิญหน้ากับธันเดอร์ไลอ้อนไรเดอร์ สีหน้าของพวกเขาทุกคนดูดุร้าย
เป็นที่รู้กันว่าคนที่ถูกพาตัวไปที่กองบัญชาการทหารองครักษ์นั้นจะถูกทรมาน คนที่มีชีวิตรอดกลับมาได้นั้นถือว่าเป็นอะไรที่โชคดีมากๆ คนที่โชคร้ายจะไม่มีวันได้กลับออกมา ด้วยเหตุนั้นจึงไม่มีใครต้องการถูกพาตัวไปที่นั่น
เฟิงเฟยเฟยไม่รู้ว่าจะทํายังไงดี มันไม่สําคัญว่าเธอจะทรงพลังหรือมีชื่อเสียงแค่ไหน ยังไงเธอก็ไม่สามารถต่อต้านกองกําลังทหารของอาณาจักรได้ นอกซะจากว่าชื่อเสียงของเธอจะโด่งดังเหมือนอย่างนักร้องจงกี่ชิง
เห็นได้ชัดว่าเฟิงเฟยเฟยยังไม่ถึงระดับนั้น เธอไม่ได้คาดคิดว่าสตีลซีนจะใช้วิธีการแบบนี้ เมื่อพวกเธอถูกพาตัวไปที่กองบัญชาการทหารองครักษ์แล้ว มันก็ไม่มีโอกาสที่พวกเธอจะรอดชีวิตกลับออกมา
แต่ถ้าพวกเธอขัดขึ้น มันก็ถือเป็นการกบฏ ถึงแม้พวกเธอจะหนี จากธันเดอร์ไลอ้อนไรเดอร์ของลู่ซานจีไปได้ พวกเธอก็ไม่สามารถอยู่ที่เมืองกําแพงหยกได้อีก
เมื่อถึงขั้นนั้นมันไม่ใช่แค่ธันเดอร์ไลอ้อนไรเดอร์เท่านั้น ทหารของทั้งอาณาจักร จะกลายเป็นศัตรูของพวกเธอ
เฟิงเฟยเฟยไม่สามารถทําอะไรกับสถานการณ์นี้ได้ เธอทําได้แค่มองไปที่หานเซิ่น
หานเซิ่นมองไปที่ลู่ซานจีและถาม “ผู้บัญชาการลู่ เจ้าแน่ใจหรือว่าต้องการพาตัวพวกเรากลับไป?”
“เจ้าคือหานเซิ่นสินะ?” ลู่ซานจีมองไปที่หานเซิ่นด้วยสายตาเย็นชา
“ดูเหมือนเจ้าจะรู้ว่าข้าคือใคร” หานเซิ่นพูดอย่างเย็นชา
“เจ้าเป็นคนที่ก่อเรื่องวุ่นวายในงานวันเกิดของเฟิงเฟยเฟยสินะ? จากการสันนิษฐานของข้า ข้าคิดว่าเจ้าเป็นคนที่ใส่ร้ายเฟิงเฟยเฟยและเอาแซครไฟซ์คอปเปอร์มาซ่อนไว้ที่นี่” ลู่ซานจีพูด
เมื่อเห็นว่าลู่ซานจีพยายามจะตัดความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเฟิงเฟยเฟย หานเซิ่นก็แน่ใจว่านี่จะต้องเป็นแผนการของสตีลขึ้น
ก่อนที่หานเซิ่นจะได้พูดอะไร ลู่ซานจีก็ตะโกนออกคําสั่ง “พวกเจ้ารออะไรกันอยู่? จับตัวคน ร้ายคนนี้ไป!”
ทหารของธันเดอร์ไลอ้อนไรเดอร์ตอบรับคําสั่งและเตรียมตัวที่จะจับตัวหานเซิ่น
ลู่ซานจีนั่งดูอยู่บนหลังของสิงโตอย่างใจเย็น เขาจ้องมองไปที่หานเซิ่นด้วยสายตาดูถูก เหมือน กับว่าเขากําลังมองไปยังคนที่กําลังจะตาย แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนดังมาจากด้านนอก
“หานเซิ่น! เจ้าอยู่ที่ไหน?” ทุกคนมองไปที่ด้านนอกประตูและเห็นเด็กอายุสิบสามปีตะโกนเข้ามา ใบหน้าที่อวดดีของเขาไม่แม้แต่จะเหลียวมองเหล่าทหารองครักษ์ เขาเดินเข้ามาข้างในราวกับว่าเขาไม่เกรงกลัวใครทั้งนั้น