Super God Gene - ตอนที่ 3112 ฉินไปเป็นพยาน
ตอนที่ 3112 ฉินไปเป็นพยาน
ข่าวเรื่องที่สตีลซีนถูกฆ่าภายในวิหารไอซ์สโนว์ก็อดเดส ขณะที่กงซูจื่อ ซิตูย่าและลู่ซานจีถูกฆ่า ในคฤหาสน์ตระกูลสตีลนั้นแพร่สะพัดไปทั่วเมืองกําแพงหยกอย่างรวดเร็ว
นายพลของทหารองครักษ์เป็นบุคคลที่มีฐานะสูงส่งและมีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองกําแพงหยก เขารับผิดชอบความปลอดภัยของเมือง แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับถูกฆ่าตายภายในถิ่นของตัวเอง มันผ่านมานานกว่าศตวรรษแล้วที่มีเรื่องร้ายแบบนี้เกิดขึ้นภายในเมืองกําแพงหยก
การที่เจ้าหน้าที่ของอาณาจักรฉินถูกลอบสังหารโดยนักฆ่าจากอาณาจักรอื่นนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่การที่หานเพิ่นฆ่าขุนนางเลือดพระเจ้าอย่างสตีลซีนภายในวิหารพระเจ้านั้นเป็นบางสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ผลกระทบที่ตามมาจากเหตุการณ์นี้คงจะเป็นอะไรที่เลวร้ายมากๆ
ขุนนางชั้นสูงมากมายต่างก็รู้ถึงเรื่องที่กงซูจือหนีไปพึ่งสตีลซีน พวกเขาคิดว่าเฟิงเฟยเฟยและ หานเซิ่นนั้นคงจะไม่รอด แต่หานเซิ่นกลับไม่เป็นอะไร ไม่เพียงแค่นั้นเขายังไปที่คฤหาสน์ของตระกูลสตีลและฆ่าสตีลซีน ในตอนที่พวกเขาได้ยินข่าว พวกเขาก็ตกใจจนแทบพูดอะไรไม่ออก
ผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอะไรที่ใหญ่โตเกินไป หลิวเซียงเซียงและคนอื่นๆรีบกลับไปรายงานและรวบรวมเหล่าทหารองครักษ์เพื่อไปที่ปราสาทของเฟิงเฟยเฟย
ทหารองครักษ์นั้นประกอบไปด้วยสิบสี่กองทหาร สตีลขึ้นเป็นผู้นําของกองทหารองครักษ์ทั้งหมด แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ทหารองครักษ์ กองกําลังที่แท้จริงของทหารองครักษ์คือกองทหารดราก้อนของจ้าวหลงและกองทหารฟีนิกซ์ของหลิวเซียงเซียง
พวกเขาทั้งสองคือกองกําลังที่แท้จริงของทหารองครักษ์ โดยเฉพาะจ้าวหลง เขาคือคนที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นทหารองครักษ์ที่เก่งกาจที่สุด
แต่ถึงพวกเขาจะแข็งแกร่งกว่าสตีลซีน แต่พวกเขาก็ยังคงอยู่ใต้บังคับบัญชาของสตีลซีน นั่นก็เพราะว่าภูมิหลังของพวกเขานั้นธรรมดา พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา
ทั้งสองกองทหารนั้นรับเป็นชอบพื้นที่ที่อยู่ใกล้ๆกับพระราชวังมากที่สุด กองกําลังของทั้งสองหน่วยนั้นเหนือกว่ากองทหารองครักษอื่นๆในบรรดากองทหารทั้งสิบสี่
ตอนนี้เมื่อสตีลชั่นถูกฆ่าตาย ทั้งสิบสี่กองทหารก็เริ่มเคลื่อนไหว จ้าวหลงและหลิวเซียงเซียงนํากองทหารไปที่ปราสาทของเฟิงเฟยเฟย
ในตอนแรกพวกเขาไม่ได้มีความหวังอะไรมากนัก ยังไงซะมันก็มีโอกาสน้อยที่คนที่ก่อความผิดที่ใหญ่หลวงจะกลับไปยังสถานที่ที่โจ่งแจ้งแบบนั้น
แต่ในตอนที่พวกเขาไปถึงปราสาทของเฟิงเฟยเฟย พวกเขาก็ต้องตกใจเมื่อได้รู้ว่าหานเซิ่นอยู่ภายในปราสาท เขาทําเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขากําลังเล่นหมากรุกกับองค์รัชทายาทฉินไป๋อย่างผ่อนคลาย
“หานเซิ่น วิธีการเล่นหมากรุกของเจ้าน่าสนใจมากๆ พวกเราต้องเล่นกันอีก” ในตอนที่จ้าวหลงและหลิวเซียงเซียงมาถึง พวกเขาก็ได้ยินองค์รัชทายาทฉินไป๋พูดกับหานเซิ่นอย่างร่าเริง
“องค์รัชทายาท” จ้าวหลงกับหลิวเซียงเซียงและทหารคนอื่นๆโค้งคํานับให้กับฉินไป๋
จ้าวหลงพูด “หานเซิ่นบุกไปที่คฤหาสน์ของตระกูลสตีลและฆ่านายพลของทหารองครักษ์สตีลซีน พร้อมกับผู้บัญชาการธันเดอร์ไลอ้อนไรเดอร์ลู่ซานจี กงซูจื่อและซิตูย่า พวกเราจะจับตัวเขาไปเพื่อรับการตัดสิน”
ฉันไปมองหานเซิ่นด้วยความตกใจ “จริงอย่างนั้นหรอ? เรื่องนั้นมันเกิดขึ้นเมื่อไหร่กัน?”
จ้าวหลงตอบ “เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน”
ฉันไปส่ายหัว “พวกเจ้าต้องเข้าใจอะไรผิดแล้ว หานเซิ่นเล่นหมากรุกกับข้าตลอดทั้งวัน เขาไม่ได้จากไปไหนเลยแม้แต่นาทีเดียว เขาจะไปฆ่าคนอื่นได้ยังไงกัน?”
สีหน้าของจ้าวหลงและคนอื่นๆเปลี่ยนไป ถ้านั่นเป็นสิ่งที่ถูกพูดโดยคนอื่น พวกเขาก็คงจะไม่สนใจอะไร แต่นี่คือฉันไปองค์รัชทายาทของอาณาจักรฉิน พวกเขาไม่สามารถทําอะไรได้
“องค์รัชทายาทแน่ใจหรือว่าองค์รัชทายาทอยู่กับเขาตลอดทั้งวัน? เขาไม่ได้ละสายตาองค์รัชทายาทไปเลยแม้แต่นิดเดียวอย่างนั้นหรอ?” จ้าวหลงถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ข้าแน่ใจ เขาเล่นหมากรุกกับข้าตลอดทั้งวัน” ฉินไป๋พูด
“เขาไม่ได้ละสายตาข้าไปไหนเลยแม้แต่นิดเดียว ข้าคิดว่ามันคงเป็นคนอื่นที่ปลอมตัวเป็นหานเซิ่น พวกเจ้าควรไปสืบอย่างละเอียด อย่าปล่อยให้ฆาตกรตัวจริงลอยนวลไปได้ ไม่อย่างนั้นสตีลซีนจะต้องตายเปล่า”
เห็นได้ชัดว่าฉินไป๋ต้องการให้พวกเขารีบไปซะ
จ้าวหลงไม่เชื่อคําพูดขององค์รัชทายาทผู้เอาแต่เอาใจ แต่ฐานะของอีกฝ่ายนั้นสูงเกินไป เขาจึงได้แต่กัดฟันและพูดไปว่า
“เรียนองค์รัชทายาท ทหารและสมาชิกในครอบครัวตระกูลสตีลกว่าพันคนเป็นพยานเห็นเหตุการณ์ว่าหานเช่นฆ่าสตีลชนและคนอื่นๆ ถ้านี่เป็นการใส่ร้ายของใครบางคนจริงๆ เขาก็จําเป็นต้องมาช่วยพวกเราสืบสวน แบบนั้นพวกเราจะได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขา”
ฉินไป๋ชี้ไปที่จ้าวหลงและคนอื่นๆ พร้อมกับขึ้นเสียง
“นี่พวกเจ้าทหารองครักษ์ทํางานกันยังไง? ทหารองครักษ์มีหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอาณาจักรสตีลซีนเป็นถึงนายพลของทหารองครักษ์ แต่เขากลับถูกฆ่าในถิ่นของตัวเอง ถ้าพวกเจ้าแม้แต่จะปกป้องตัวเองยังไม่ได้ แบบนั้นพวกเจ้าจะปกป้องความปลอดภัยของอาณาจักรฉินได้ยังไง? ข้ากลัวว่าถ้ามีใครบุกเข้าไปในพระราชวังและตัดหัวข้ากับเสด็จพ่อ พวกเจ้าทั้งหมดก็คงจะไม่รู้เรื่องอะไร”
“ขออภัยด้วย” จ้าวหลงและคนอื่นๆคุกเข่าเพื่อขออภัยโทษ นายพลของทหารองครักษ์ถูกฆ่าตาย นี่ถือเป็นความอัปยศที่ทหารองครักษ์ไม่เคยประสบมาก่อน
“ไสหัวไป!” ฉินไป๋ขึ้นเสียงด้วยความโมโห
“หานเซิ่นอยู่กับข้าตลอดทั้งวัน เขาไม่มีทางเป็นฆาตกรไปได้ รีบไปหาฆาตกรตัวจริง ไอ้พวกไร้ประโยชน์!”
สีหน้าของจ้าวหลงและคนอื่นๆดูแย่ พวกเขารู้ว่าไม่มีทางพาตัวหานเซิ่นไปได้ ฐานะของฉินไป๋ นั้นเป็นอะไรที่พิเศษ ถ้าเขาเป็นพยานให้หานเซิ่น มันก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะตัดสินว่ามันเป็นความจริงหรือไม่ จ้าวหลงและหลิวเซียงเซียงได้แต่มองหน้ากัน ก่อนที่จะโค้งคํานับและออกไปจากปราสาทของตระกูลเฟิง
ถ้านี่เป็นอาณาจักรอื่น เรื่องอาจจะจบลงเพียงแค่นี้ เนื่องจากเขาเป็นทายาทของราชาและจะขึ้นเป็นราชาของอาณาจักรในอนาคต มันก็มีโอกาสสูงที่เหตุการณ์ครั้งนี้จะถูกปล่อยไป
แต่อาณาจักรนนั้นแตกต่างออกไป ถึงฉินไป๋จะมีฐานะสูง แต่อาณาจักรฉินนั้นเคารพกฏหมายเป็นที่สุด แม้แต่องค์รัชทายาทก็ทําอะไรตามใจชอบไม่ได้
มันอาจจะดูเหมือนว่าจ้าวหลงและคนอื่นยอมจากไปแต่โดยดี แต่จริงๆแล้วพวกเขายังคงล้อมปราสาทเอาไว้พร้อมกับส่งคนไปรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นและรอคําตอบจากเบื้องบน ก่อนที่คําตัดสินจะมาถึง พวกเขาจะไม่ปล่อยให้หานเชิ้นหนีไปไหนได้
ข่าวแพร่กระจายไปทั่วทั้งอาณาจักรอย่างรวดเร็ว ข้าราชการมากมายต่างคิดว่า ฉินไป๋เป็นองค์รัชทายาทที่แย่และเอาแต่ใจตัวเอง
ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นในอาณาจักรอื่น สถานการณ์จะแตกต่างออกไป ไม่สําคัญว่าคนในราชวงศ์จะทําความผิดมากน้อยแค่ไหน มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ข้าราชการจะนํามาพูดได้ การดูหมิ่นราชวงศ์นั้นถือเป็นความผิดร้ายแรง
แต่อาณาจักรฉินไม่เหมือนกับอาณาจักรอื่น ถึงทุกคนจะรู้ว่ากฎหมายของอาณาจักรฉินไม่ยุติธรรม แต่ข้าราชการของอาณาจักรฉินทุกคนก็เคารพในกฎหมายและกล้าจะพูดออกมาเมื่อมีคนทําผิด ถึงแม้คนที่ทําผิดกฎหมายจะเป็นคนของราชวงศ์ ข้าราชการก็จะพร้อมกับใจกันพูดออกมา ราชาจะต้องกัดฟันและฟังคําร้องของพวกเขา ไม่อย่างนั้นมันก็จะขัดต่อความต้องการของทุกคน พวกเขาไม่ต้องการจะถูกตราหน้าว่าเป็นทรราชและเป็นราชาที่ไม่ดี
ข้าราชการของอาณาจักรฉินภาคภูมิใจในเรื่องนี้ ซึ่งรวมกับการที่ราชาองค์ปัจจุบันเป็นคนที่เมตตา พวกเขาจึงกล้าพูดออกมาโดยที่ไม่ต้องเกรงกลัวอะไร
อาณาจักรฉินนั้นคลั่งไคล้ในกฎหมายจนถึงขั้นวิกลจริต กฎหมายที่เคร่งครัดนี้ทั้งเป็นสิ่งที่สร้างอาณาจักรฉินและเป็นสิ่งที่จํากัดมัน
เรื่องที่สตีลซีนถูกฆ่าเป็นประเด็นร้อนของอาณาจักรฉิน การกระทําของฉันไปทําให้ข้าราชการมากมายไม่พอใจ ข้าราชการต่างพากันเขียนรายงานที่บอกว่าถ้าราชาไม่ฆ่าหานเซิ่น พวกเขาก็จะฆ่าตัวตาย