Super God Gene - ตอนที่ 3114 กองพันหมาก
ตอนที่ 3114 กองพันหมาก
ราชครูเทาซันด์ไมล์รีชรู้ว่าหานเซิ่นไม่ใช่คนธรรมดา ยังไงซะเขาก็ฆ่าสตีลซีนภายในวิหารไอซ์สโนว์ก็อดเดส ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหานเชิ้นนั้นเป็นขุนนางเลือดพระเจ้า และเขาก็ต้องมีโลหิตชีพจรกับยีนเรซที่เหนือกว่าของสตีลซีน
แต่แล้วมันจะยังไง? คนที่จะมาเป็นราชครูของอาณาจักรฉินได้นั้นต้องเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุด ไม่อย่างนั้นเขาจะได้รับอนุญาตให้มาเป็นอาจารย์สอนพระราชาได้ยังไง เขานั้นเหนือกว่าสตีลซีนมากนัก
ราชครูเทาซันด์ไมล์รีชต้องการจะเป็นราชครูที่ยอดเยี่ยมเหมือนอย่างเจียงปู้กู่ เขาต้องการจะสั่งสอนองค์รัชทายาทให้กลายเป็นราชาที่ดี แต่จนถึงตอนนี้เขายังไม่ได้ประสบความสําเร็จในการสั่งสอนฉันไปอะไรมากนัก
ราชครูเทาซันด์ไมล์รีชยกเจียงปู้กู่เป็นแบบอย่างมาโดยตลอด ไม่ว่าจะยังไงเขาก็ต้องการจะสั่งสอนฉินไป๋ให้กลายเป็นราชาที่ดี อย่างน้อยเขาต้องการให้สิ้นไปเป็นราชาที่ดีเหมือนอย่างราชาจิงเจิ้น
ราชครูเทาซันด์ไมล์รีชมองไปที่หานเซิ่นและถาม “เจ้าคือหานเซิ่นอย่างนั้นสินะ?”
“ใช่แล้ว” หานเซิ่นยังคงนั่งอยู่กับที่ เขาไม่ได้ลุกขึ้นมา
ราชครูเทาซันด์ไมล์รีชขมวดคิ้ว เขาเป็นถึงราชครูที่มีตําแหน่งสูงส่ง แม้แต่พระราชาก็ยังต้องเคารพเขา แต่ตอนนี้หานเชิ้นยังคงนั่งอยู่กับที่ขณะที่พูดกับเขา เขาคิดว่าอีกฝ่ายนั้นเสียมารยาทมากๆ
ราชครูเทาซันด์ไมล์รีชมองไปยังเกมส์หมากรุกที่อยู่บนโต๊ะ เขานั่งลงบนเก้าอี้ตรงกันข้ามกับหานเซิ่นและพูด “เจ้าจะรังเกียจไหมถ้าข้าจะขอเล่นกับเจ้าสักกระดาน?”
หานเซิ่นมองไปที่ราชครูเทาซันด์ไมล์รีชและถาม “เจ้ารู้จักวิธีเล่นหมากรุกไหม?”
อาณาจักรฉินไป๋ไม่มีเกมส์อย่างหมากรุก หานเซิ่นได้ใช้พลังของเขาเพื่อบีบก้อนหินให้กลายเห็นตัวหมากเพื่อเล่นกับฉันไป
ขณะที่เขาอยู่ที่บ้านในสหพันธ์ หานเซิ่นมักจะเล่นเกมส์กับหลิงเอ๋อหรือไม่ก็เป่าเอ๋อ หานเซิ่นเก่งในเรื่องการสร้างรูปแบบขึ้นมา เขาจึงเล่นเกมส์หมากกระดานได้ทุกประเภท
แม้แต่หมากรุกก็มีเพียงแค่เปาเอ๋อเท่านั้นที่พอจะเป็นคู่แข่งกับเขาได้ น้อยคนนักที่จะเอาชนะเขาได้
ราชครูเทาซันด์ไมล์รีชขมวดคิ้ว หานเซิ่นไม่แม้แต่จะถามชื่อของเขา นั่นถือเป็นอะไรที่เสียมารยาทมากๆ แต่ราชครูเทาซันด์ไมล์รีชไม่มีอารมณ์จะพูดถึงเรื่องนั้น เขาแค่พูดขึ้นว่า
“มันเป็นอะไรง่ายๆ ข้าเห็นองค์รัชทายาทเล่นหมากรุกกับเจ้า ข้ารู้กฎของมัน”
“ถ้าอย่างนั้น ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะเล่นกับเจ้า” หานเซิ่นเมินเฉยต่อสายตาของฉินไป๋และพูดด้วยรอยยิ้ม
ฉินไป๋มองหานเซิ่นด้วยความกังวล ราชครูเทาซันด์ไมล์รีชเล่นหมากรุกเก่งมากๆ เขามีชื่อเสียงขนาดที่พระราชายังเรียกเขาว่าราชาแห่งหมากรุก
ฉินไป๋ไม่ได้กังวลว่าถ้าหานเซิ่นแพ้แล้วเขาจะถูกพาตัวกลับไป แต่เขากังวลว่าหานเซิ่นอาจจะต้องยอมรับเงื่อนไขบางอย่างจากราชครูเทาซันด์ไมล์รีช
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นทําให้ฉันไปประหลาดใจ ราชครูเทาซันด์ไมล์รีชไม่ได้ตั้งเงื่อนไขอะไร เขาแค่จัดวางหมากบนกระดานและเริ่มเล่นกับหานเซิ่น
ราชครูเทาซันด์ไมล์รีชคิดว่าตัวเองนั้นเล่นหมากรุกเก่งมากๆ แต่เขาไม่มีแผนที่จะใช้วิชาการเล่นหมากรุกเพื่อโน้มน้าวหานเซิ่น
“เชิญเจ้าเริ่มก่อน” ราชครูเทาซันด์ไมล์รีชพูด
หานเซิ่นไม่รังเกียจ เขาหยิบหมากขึ้นมาและเริ่มเดินหมากตาแรกของเขา
ในตอนที่ถึงตาของราชครูเทาซันด์ไมล์รีช เขาก็ใช้นิ้วหยิบตัวหมากขึ้นมาและค่อยวางหมากลงบนกระดาน
ในตอนที่ตัวหมากถูกวางลงไป มันเหมือนกับว่ามีพลังที่มองไม่เห็นอยู่ในจุดศูนย์กลางของหมากตัวนั้น จู่ๆมันก็แพร่กระจายออกและบิดเบือนมิติอวกาศรอบๆ
ขณะที่หานเซิ่นกําลังนั่นอยู่ตรงหน้ากระดานหิน จู่ๆเขาก็รู้สึกว่ามิติรอบๆตัวเขาบิดเบี้ยว หลังจากนั้นเขาก็พบว่าตัวเองมายืนอยู่บนกระดานหมากรุก มันเป็นกระดานเดียวกับที่เขากําลังเล่นอยู่ ตอนนี้มันใหญ่มหึมา แม้แต่ตัวหมากก็มีขนาดใหญ่ยิ่งกว่าตัวคน เขายืนอยู่ในตําแหน่งที่เขาเดินตัวหมากลงไปก่อนหน้านี้
อีกด้านหนึ่งของกระดาน ราชครูเทาซันด์ไมล์รีชก็นั่งอยู่ที่เดิมขณะที่เขาวางหมากลงบนกระดาน นอกจากกระดานหมากและพวกเขาทั้งสองคนแล้ว สภาพแวดล้อมนั้นถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีดํา มันเหมือนกับว่าโลกบนกระดา
หานเซิ่นมองไปที่ราชครูเทาซันด์ไมล์รีชขณะที่พูด “นั่นเป็นการเดินหมากที่ดี”
ราชครูเทาซันด์ไมล์รีชเป็นเหมือนกับเทพที่ลอยอยู่เหนือกระดานหมากรุก เขามองลงมาที่หานเซิ่นจากที่สูงและพูด
“วิถีหมากรุกคือวิถีนภา การเล่นหมากรุกคือการเดิมพันชีวิต ข้ามีโลหิตชีพจรเทพสปิริตหมากรุกขั้นดิแซสเตอร์และยื่นเรซธาตุหมากรุกร่างสุดยอด ถ้าเจ้ารอดไปจากพลังโลกหมากรุกของข้าได้ ฉันจะยอมให้องค์รัชทายาทอยู่กับเจ้าต่อ”
ขณะที่พูด ราชครูเทาซันด์ไมล์รีชก็ชี้ไปที่หานเซิ่น ตัวหมากขนาดยักษ์ลอยขึ้นมาจากบนกระดานและพุ่งลงมาใส่หานเซ็นราวกับอุกกาบาต
ร่างกายของหานเซิ่นระเบิดด้วยลมปราณมังกรสีม่วง ขณะเดียวกันมีเกล็ดสีม่วงประหลาดปรากฏขึ้นบนร่างกายของเขา เขาเปิดใช้โลหิตชีพจรเทพสปิริตและพลังของเทพมังกรโลหิต
Boom!
หานเซิ่นปลดปล่อยหมัดที่ห่อหุ้มด้วยพลังของมังกรโลหิตบินสู่ท้องฟ้า มังกรสีม่วงคํารามและพุ่งเข้าปะทะกับตัวหมาก ลมปราณสีม่วงและเศษหินจากตัวหมากกระจัดกระจายไปทุกหนทุกแห่ง แรงที่เกิดจากการปะทะกันนั้นทําให้หานเซิ่นเสียการทรงตัวและโซเซถอยไปด้านหลัง
ราชครูเทาซันด์ไมล์รีชพูด “โลหิตชีพจรเทพสปิริตขั้นเดสทรัคชั่นรวมกับยืนเรซเอ็กซ์คลูซีฟระดับเทพเจ้า… น่าเสียดายที่มันยังเป็นแค่ร่างเยาว์ ถ้ามันเป็นร่างสุดยอดล่ะก็ บางทีมันอาจจะทนได้นานกว่านี้”
หานเซิ่นคิด “นี่ราชครูของอาณาจักรฉินมีพลังมากขนาดนี้เลยหรอเนี่ย? จักรวาลนี้มียอดฝีมือซ่อนตัวอยู่มากกว่าที่คาดคิดเอาไว้ แถมนั่นเป็นเพียงแคโลหิตชีพจรเทพสปิริตขั้นดิแซสเตอร์รวมกับยืนเรซระดับเทพเจ้า ถ้ามันเป็นเทพสปิริตขั้นแอนนิฮิเลชั่นหรือรีบูท รวมกับยืนเรซร่างสุดยอดล่ะ มันจะแข็งแกร่งถึงขนาดไหนกัน? นี้อาณาจักรฉินมีคนแบบนั้นอยู่ในหมู่พวกเขาไหมนะ?”
หานเซิ่นรู้สึกลังเลขณะที่มองไปที่ราชครูเทาซันด์ไมล์รีช ถ้าเขาพึ่งพาเพียงแค่พลังจากยีนเรซ และโลหิตชีพจรเทพสปิริต พลังของเขาก็ด้อยกว่าราชครูเทาซันด์ไมล์รีชมาก
แต่ถ้าเขาทําลายกฎของโลกใบนี้เพื่อจะเอาชนะราชครูเทาซันด์ไมล์รีช มันก็จะทําให้ยอดฝีมือที่ซ่อนตัวอยู่ภายในเมืองกําแพงหยกรู้ตัว แม้แต่เทพสปิริตก็อาจจะมาหาเขา
ถึงแม้เทพสปิริตหลายคนดูเหมือนจะหวาดกลัวเขา แต่เหตุผลที่เป็นแบบนั้นยังคงเป็นปริศนา หานเซิ่นไม่สามารถอธิบายพฤติกรรมของเหล่าเทพสปิริตได้ แต่เขาไม่เชื่อว่าเหล่าเทพสปิริตจะหวาดกลัวเขาโดยที่ไม่มีเหตุผล และมันไม่มีอะไรยืนยันว่าเทพสปิริตขั้นสูงจะเกรงกลัวเขา
แถมการทําลายกฎของโลกใบนี้ก็เป็นอะไรที่ทําให้เขาสูญเสียพละกําลังมากเกินไป ทําให้เขาต่อสู้เป็นเวลานานๆไม่ได้
“ถ้าเราเอาชนะโดยใช้กําลังไม่ได้ เราก็ต้องพึ่งพาสติปัญญา”
หานเซิ่นมองไปที่ราชครูเทาซันด์ไมล์รีช สีหน้าของเขาดูจริงจังขึ้นมา
“เจ้ายังไม่คิดจะยอมแพ้อย่างนั้นหรอ?” ในตอนที่ราชครูเทาซันด์ไมล์รีชพูดแบบนั้น มือของเขาก็ถูกยกขึ้น หมากทุกตัวบนกระดานลอยขึ้นมา พวกมันดูเหมือนกับลูกระเบิดขนาดยักษ์ที่ลอยตัวอยู่บนอากาศ พวกมันใช้วิถีการบินที่ประหลาดต่างๆเพื่อจู่โจมหานเซิ่น