Super God Gene - ตอนที่ 3122 เทพจันทรา
Super God Gene ตอนที่ 3122 เทพจันทรา
วิชากายหยกที่หานเซิ่นฝึกนั้นมีต้นกําเนิดมาจากวิชาเหมันต์ เขาไม่เคยรู้ว่าผู้ที่คิดค้นวิชาเหมันต์ขึ้นมานั้นเป็นใคร เขาคาดเดาว่ามันเป็นบุคคลที่ถูกเรียกว่าเทพจันทรา ส่วนเรื่องที่ว่าเทพจันทราอยู่ระดับไหนและเป็นเผ่าพันธุ์อะไรนั้นเขาไม่รู้ บางทีเทพจันทราอาจจะเป็นเทพสปิริตก็เป็นได้
การที่ในจักรวาลแห่งนี้มีพลังที่คล้ายคลึงกับวิชากายหยกอยู่ นอกจากวิชาเหมันต์แล้ว หานเซิ่นก็คิดเกี่ยวกับความเป็นไปได้อื่นไม่ได้อีก
พลังของวิชาเหมันต์นั้นแตกต่างไปจากพลังน้ําแข็งล้วนๆ ความหนาวเย็นเป็นเพียงแค่ผิวเผินของมันเท่านั้น แก่นแท้ที่แท้จริงของวิชาเหมันต์คือวิชาจีโนที่จะชําระล้างยืนของร่างกายให้บริสุทธิ์เพื่อทําให้ร่างกายสมบูรณ์แบบถึงระดับที่ไร้ซึ่งข้อบกพร่อง
แต่จักรวาลที่เขากําลังอยู่ในตอนนี้ สาหรับสหพันธ์แล้วมันถูกคํานึงว่าเป็นโลกปฏิสสาร ด้วยเหตุนั้นวิชาเหมันต์ควรจะไม่ทํางานในที่แห่งนี้ แต่ความหนาวเย็นตรงหน้านั้นเป็นพลังของวิชาเหมันต์ และมันไม่ได้ถูกจํากัดโดยกฎของโลกใบนี้
มันทําให้หานเซิ่นอยากรู้ขึ้นมา เขามองไปยังผู้หญิงที่ถูกแช่อยู่ในน้ําแข็ง เขายังเห็นไม่ชัดเจน เนื่องจากความหนาของชั้นน้ําแข็ง แต่จากการคาดเดาจากรูปร่าง หานเซิ่นรู้สึกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่งดงามอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
“ไม่…นี่ไม่ใช่วิชาเหมันต์” หานเซิ่นสัมผัสก้อนน้ําแข็ง เขารู้สึกถึงพลังบนผิวของมันและคิดว่านั่นมันไม่ถูกต้องเท่าไหร่ ถึงแม้มันจะคล้ายคลึงกันมากๆ แต่เขาสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่แตกต่างออกไป
บอลด์กายมองผู้หญิงในก้อนน้ําแข็งและพูดอย่างตื่นเต้น “ข้ากําลังจะรวยแล้ว ที่อยู่ข้างในนี้ต้ องเป็นยีนเรซร่างมนุษย์ไม่ผิดแน่ พวกเจ้าอย่าได้มาแย่งข้า ข้าต้องการยืนเรซร่างมนุษย์ที่งดงามนี้ และข้าจะจ่ายส่วนแบ่งให้กับพวกเจ้า”
หลี่ปิงหยูถามอย่างเย็นชา “เจ้าบ้าไปแล้วหรือยังไง? เจ้าคิดผู้หญิงคนนี้เป็นยีนเรซ อย่างนั้นหรอ?”
“ไข่ยืนของงูน้ําแข็งยังใช้น้ําแข็งเป็นเปลือกไข่ของมันเลย บางทียนเรซร่างมนุษย์นี้ก็คงจะใช้น้ําแข็งเป็นเปลือกไข่เช่นเดียวกัน” บอลด์กายน้ําลายไหลขณะที่มองไปที่ผู้หญิงในก้อนน้ําแข็ง
มันไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นผู้หญิงที่งดงามมาก่อน เพียงแต่ว่ายีนเรซร่างมนุษย์นั้นเป็นอะไรที่หาได้ยากมากๆ
หลี่ปิงหยูพูด “ถ้าเป็นข้า ข้าจะไม่มองโลกในแง่ดีแบบนั้น”
บอลด์กายต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ทันใดนั้นเขาก็เห็นว่าก้อนน้ําแข็งเริ่มจะละลาย เนื่องจากถูกแสงสว่าง ไออันหนาวเย็นลอยจากน้ําแข็งที่ละลายและก่อตัวเป็นหมอกขาว
“ระวัง” หลี่ปิงหยูพูดขณะที่ถอยออกไป ดูเหมือนเธอจะหวาดกลัวไออันหนาวเย็นนั้น
หานเซิ่นเองก็ถอยออกไปเช่นกัน เขาดึงบอลด์กายไปกับเขาด้วย เขารู้ว่าวิชาเหมันต์นั้นทรงพลังแค่ไหน พลังของมันไม่ใช่แค่ความหนาวเย็นเท่านั้น
บอลด์กายถอยออกมาช้ากว่าคนอื่นๆ ไออันหนาวเย็นนั้นสัมผัสแขนเสื้อของเขาซึ่งถูกแช่ แข็งในทันที บอลด์กายรีบฉีกแขนเสื้อออก ขณะที่แขนเสื้อถูกฉีกออกไป มันก็ถูกแช่แข็งจนกลายเป็นเหมือนกับคริสตัลก่อนที่จะแตกกระจายเมื่อร่วงลงกับพื้น
บอลด์กายตกตะลึง เขาไม่ลังเลอีกและรีบถอยออกจากบริเวณนั้น เขาเห็นรากของต้นไม้ปลดปล่อยหมอกสีขาวอันหนาวเย็นออกมาปกคลุมทั้งต้นพลัม ภายใต้การสะท้อนของแสงที่อยู่รอบๆ มันดูเหมือนจะเรื่องด้วยสีรุ้ง
ในตอนที่ไอเย็นลอยขึ้นมา ดอกพลัมบนต้นไม้ก็เริ่มจะตาย ดอกพลัมสีชมพูมากมายปลิวไสวในไอเย็น มันเป็นภาพที่งดงามอย่างน่าประหลาด มันเหมือนกับฝนดอกไม้ที่กลับตาลปัตร
ท่ามกลางฝนดอกไม้ เสียงของผู้หญิงดังขึ้นมาให้ได้ยินจากภายในไอเย็น
“ข้ามคืนนับพันเต็มไปด้วยความรู้สึกว่างเปล่าและเกลียดชัง ข้าอยากที่จะมัวเมาและไม่ตื่นขึ้นมา”
“ผู้หญิงคนนั้นมีชีวิต…” ดวงตาของบอลด์กายเบิกกว้างขณะที่เขาจ้องมองไปที่หมอก เขาเห็นเงาสีขาวกําลังเดินเข้ามา
ในตอนที่หลี่ปิงหยูได้ยินเสียงของผู้หญิงคนนั้น สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป
“โอ้ไม่นะ! นางคือไนท์ก็อดโนมูนของอาณาจักรฉิน พวกเราควรรีบหนีไปจากที่นี่!”
หานเซิ่นและบอลด์กายตกใจ ถึงพวกเขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับไนท์ก็อดโนมูนมาก่อน แต่เสียงตะโกนของหลี่ปิงหยูก็บ่งบอกถึงอันตรายที่พวกเขากําลังเผชิญ พวกเขาจึงรีบตามเธอหนีไป แต่ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงผู้หญิงพูดขึ้นอีกครั้ง
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะยังมีคนจําชื่อของข้าได้”
มีผู้หญิงชุดขาวคนหนึ่งเดินออกมาจากหมอกอันหนาวเย็น มันเป็นผู้หญิงคนเดียวกันกับที่ถูกแช่อยู่ในก้อนน้ําแข็ง เท้าเปล่าของเธอสัมผัสกับพื้นเบาๆ หลังจากนั้นแสงอันหนาวเย็นที่น่ากลัว ก็แว็บขึ้นมาและเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆกลายเป็นน้ําแข็ง
หลี่ปิงหยูฉีกมิติของอวกาศเพื่อจะหนีไป แต่เธอถูกแช่แข็งกลางอากาศ ปากของบอลด์กาย เปิดกว้างเช่นเดียวกับดวงตาของเขา ขณะที่เขาถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นรูปปั้นน้ําแข็งร่างกายของหานเซิ่นแว็บด้วยแสงสีทอง แต่เขาถูกจํากัดการเคลื่อนไหวโดยแสงอันหนาวเย็นนั่น เขาไม่สามารถหนีไปได้ ไอเย็นปกคลุมรอบตัวของเขา โชคดีที่ร่างกายของเขาต้านทานต่อความหนาวเย็น เนื่องจากเขาเคยฝึกวิชากายหยก ไม่อย่างนั้นล่ะก็เขาก็คงจะถูกเปลี่ยนเป็นก้อนน้ําแข็ง ถึงแม้เขาจะรวมร่างกับราชานกยูงปีกทองอยู่ก็ตาม
“เจ้าฝึกวิชาเหมันต์อย่างนั้นหรอ?” ผู้หญิงชุดขาวถามขณะที่เธอมองไปที่หานเซิ่นด้วยความแปลกใจ เธอสังเกตเขาอย่างละเอียด
หานเซิ่นมองไปที่ผู้หญิงชุดขาวและถาม “เจ้าฝึกวิชาเหมันต์เหมือนกันอย่างนั้นหรอ? นี่ เจ้าเป็นใครกัน?”
ผู้หญิงชุดขาวไม่ตอบ เท้าของเธอดูเบาหวิวเหมือนกับแฟรี่จากเทพนิยาย และเธอก็มาปรากฏตัวตรงหน้าหานเซิ่นในพริบตา เธอยกนิ้วขึ้นมาชี้ไปที่หว่างคิ้วของเขา ท่าทางการเคลื่อนไหวของเธอนั้นดูสง่างาม แต่มันก็ยังคงทําให้หานเซิ่นรู้สึกขนลุก
เขากระพือปีกทองเพื่อสร้างแสงสีทองขึ้นมา แสงสีทองเหล่านั้นก่อตัวเป็นขนนกด้านหลังของหานเซิ่น พลังขนนกเต็มนภาพุ่งออกไปในทิศทางของผู้หญิงชุดขาว
ขนนกยูงสีทองบินที่ไปสัมผัสกับไอเย็นนั้นถูกแช่แข็งกลางอากาศ หานเซิ่นพยายามบินหนีไปด้วยความเร็วสูงสุด แต่เนื่องจากแสงอันหนาวเย็นนั้นแช่แข็งปีกบนหลังของเขา ความเร็วในการบินของเขาจึงลดลงไปอย่างมาก
ร่างกายของผู้หญิงชุดขาวไม่มีความเปลี่ยนแปลง นิ้วหยกของเธอยังคงชี้มาที่หว่างคิ้วของหานเซิ่นเช่นเดิม ขณะที่เธอเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
สีหน้าของหานเพิ่นดูมืดมน วิชาเหมันต์ของผู้หญิงคนนี้น่าสะพรึงกลัวมากๆ มันทรงพลังกว่าที่หานเซิ่นจะหยั่งถึง แม้แต่ราชานกยูงปีกทองร่างสุดยอดก็ไม่อาจจะต่อกรมันได้
Boom!
วินาทีต่อมา หานเซิ่นก็ทําลายแรงกดดันจากกฎของโลกแห่งนี้โดยใช้กําลัง พลังที่น่ากลัวระเบิดจากภายในตัวของเขา ขณะเดียวกันเขาก็ใช้วิชากายหยกและชี้นิ้วออกไปปะทะกับนิ้วของผู้หญิงชุดขาว
นิ้วของทั้งสองคนประจบกันกลางอากาศ พลังที่น่ากลัวทั้งสองปะทะซึ่งกันและกัน แต่ทว่ามันไม่ได้เกิดเป็นแรงระเบิดขึ้นมา มันไม่แม้แต่จะเกิดเป็นคลื่นเสียง มันเหมือนกับว่าพลังทั้งสอง นั้นหลอมรวมเข้าด้วยกันและสลายไป
“เจ้ามาจากอีกโลกหนึ่ง” ผู้หญิงชุดขาวพูดกับหานเซิ่นด้วยความแปลกใจ
“เจ้าเป็นใครกัน?” ดวงตาของหานเซิ่นเป็นเหมือนกับใบมีดขณะที่มองไปที่ผู้หญิงตรงหน้าพลังโจมตีเต็มแบบเต็มกําลังของเขาทําได้เพียงแค่เสมอกับเธอ นั่นแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นคนที่แข็งแกร่งอย่างน่าสะพรึงกลัว
หลังจากที่ได้ปะทะพลังกัน หานเซิ่นก็รู้แล้วว่าทําไมวิชาเหมันต์ของผู้หญิงชุดขาวถึงให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป พลังของเธอนั้นไม่สามารถนับว่าเป็นพลังของวิชาเหมันต์อีกต่อไปแล้ว พลังของเธอเหมือนกับคัมภีร์นภาอําพัน มันเป็นวิชาเหมันต์ที่กลับตาลปัตร
ด้วยเหตุนั้นในตอนที่มันปะทะกับพลังจากวิชากายหยกของเขา พลังทั้งสองจึงหักล้างกันและสลายไป
“ในเมื่อเจ้าฝึกวิชาเหมันต์ เจ้าก็ควรจะรู้เกี่ยวกับเผ่าวิทซ์และเทพจันทรา” ผู้หญิงชุดขาวพูด