The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา - EP.19 หนึ่งประทีปพิฆาตชีวัน 1
EP.19 หนึ่งประทีปพิฆาตชีวัน 1
ถึงเบื้องหน้าจะมีหมาป่าวายุแค่ตัวเดียว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะรับมือมันได้โดยง่าย
หลินมู่อวี่และฉู่เหยาค่อยๆ ลุกขึ้นมานั่ง พวกเขาเผชิญหน้ากับหมาป่าวายุอยู่ จากนั้นจึงค่อยๆ ลุกขึ้นยืนอย่างเงียบที่สุด ฉู่เหยากระชับมีดสั้นคู่ในมือ หลินมู่อวี่เองก็ค่อยๆ ดึงดาบที่วางอยู่ข้างตัวออก หมาป่าวายุตัวนี้ไม่ได้โจมตีเข้ามาในทันที ซึ่งตรงกับนิสัยของหมาป่า มันกำลังรอจังหวะที่เหมาะสมที่สุด โชคดีที่ฉู่เหยาตื่นแต่เช้า มิเช่นนั้นทั้งสองคนคงไม่รอดพ้นคมเขี้ยวของมันแน่
ฉู่เหยาขยับขึ้นมาด้านหน้าหลินมู่อวี่อย่างช้าๆ นางกำลังปกป้องเขา นางกระชับมีดสั้นในมือ พลังปราณโคจรรอบตัว ในฐานะที่เพิ่งจะได้เป็นวิญญาณสงครามระดับยี่สิบ พลังปราณของฉู่เหยาก่อตัวขึ้นเป็นรูปเกราะขนาดเท่าชามข้าว บินวนรอบตัวนาง นั่นคือทักษะยุทธ์อันเป็นสัญลักษณ์ของวิญญาณสงครามที่เรียกว่า ‘เกราะวิญญาณ’ ผู้ฝึกยุทธ์ระดับวิญญาณสงครามทุกคน สามารถสร้างเกราะวิญญาณเพื่อใช้เพิ่มพลังในการป้องกันได้ วิญญาณสงครามระดับยี่สิบเก้านั้นสามารถสร้างเกราะวิญญาณได้มากสุดห้าชิ้น ซึ่งรู้จักกันในชื่อ ‘วิญญาณสงครามห้าเกราะ’ และฉู่เหยาในตอนนี้ก็คือวิญญาณสงครามหนึ่งเกราะตัวจริงเสียงจริงแล้ว
เมื่อเทียบประสบการณ์ในด้านการต่อสู้ หลินมู่อวี่ยังด้อยกว่าฉู่เหยามาก เขาจึงไม่กล้าที่จะประมาท จับดาบแน่น จ้องไปที่หมาป่าวายุเขม็ง การจะจัดการหมาป่าวายุไม่มีเทคนิคพิเศษอะไร ต้องอาศัยพละกำลังอย่างเดียวเท่านั้น!
ฉู่เหยามองหางของหมาป่าวายุอย่างสงบ นางอดไม่ได้ที่จะบ่นเสียงเบาออกมา “หมาป่าวายุแปดหาง แย่ละสิ…นี่มันหมาป่าวายุอายุแปดร้อยปี…”
“แข็งแรงมากหรือ” หลินมู่อวี่ถาม
ฉู่เหยาตอบ “สัตว์วิญญาณอายุแปดร้อยปีมีพลังเทียบเท่ากับผู้ฝึกยุทธ์ขั้นปรมาจารย์สงครามระดับสี่สิบห้า มันแข็งแรงกว่านัยน์ตาเหยี่ยวมาก อาอวี่ เจ้าต้องระวังไว้ให้ดี เรารอดจากพยัคฆ์กระหายเลือดมาได้ จะมาตายด้วยคมเขี้ยวของหมาป่าวายุอายุแปดร้อยปีตัวนี้ไม่ได้”
“อือ”
หลินมู่อวี่พยักหน้าเงียบๆ ล้วงขวดโอสถผิวศิลาจากอกเสื้อออกมา “พี่ฉู่เหยา ตอนนี้ท่านแข็งแกร่งกว่าข้า มีดสั้นในมือท่านก็น่าจะคมมาก เดี๋ยวข้าจะดึงความสนใจของหมาป่าวายุ ท่านหาจังหวะโจมตี จะฆ่าเดรัจฉานตัวนี้ได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าเราร่วมมือกันได้ดีเพียงใด”
ฉู่เหยาประหลาดใจเล็กน้อย “อาอวี่ เจ้า…เจ้าต้องระวังตัว!”
“ท่านวางใจ” หลินมู่อวี่กระดกโอสถผิวศิลาจนหมดขวด รู้สึกว่าร่างกายตนเองแข็งแกร่งมากขึ้น ผิวหนังปรากฏระลอกคลื่นพลังงานขึ้นมา มันเป็นผลจากการที่พลังการป้องกันเพิ่มขึ้น
จากนั้นเขาเทยาสลบทั้งขวดลงบนปลาลูกธนู เขาจับคันธนูขึ้นและค่อยๆ เดินออกมาจากจุดนั้น ท่วงทาเขาเชื่องช้า ไม่รีบร้อน จนกระทั่งอยู่ห่างจากฉู่เหยาประมาณห้าเมตร จึงยกคันธนูขึ้น เคลื่อนพลังปราณไปที่แขน คันธนูอันแข็งแกร่งถูกเขาง้างสายออกจนโก่งเป็นวงกลมคล้ายพระจันทร์เต็มดวง!
“ฟิ้ว!”
ธนูคมกริบพุ่งเข้าใส่หมาป่าวายุ แต่มันไวกว่ามาก มันแค่คำรามออกมาและกระโจนเข้าใส่หลินมู่อวี่ เร็วเกินไปแล้ว!
หลังจากลูกธนูพลาดเป้า หมาป่าวายุก็ตะปบอยู่บนร่างของหลินมู่อวี่แล้ว กระโจนครั้งเดียวไกลถึงสิบเมตร สมกับเป็นสัตว์วิญญาณอายุแปดร้อยปี ใกล้จะฝึกตบะจนกลายเป็นปีศาจแล้วสินะ!
เห็นหมาป่าวายุอ้าปากกำลังจะขย้ำ อย่าให้มันขย้ำคอได้เด็ดขาด มิฉะนั้น ต้องตายแน่ๆ
หลินมู่อวี่รีบยกแขนซ้ายขึ้นมากัน เสียง “กร๊อบ” ดังขึ้น ความเจ็บปวดแล่นเข้ามาที่แขน เขี้ยวของหมาป่าวายุกัดลงบนแขนที่ผิวหนังแข็งดั่งศิลาของหลินมู่อวี่ ทว่ากลับทิ้งรอยเขี้ยวไว้บนแขน แรงกัดนี่มันต้องรุนแรงขนาดไหนกันนะ ถ้าไม่ได้กินโอสถผิวศิลาเกรดหนึ่งไปก่อนละก็ เกรงว่าแค่ขย้ำเดียว แขนของเขาต้องขาดเป็นสองท่อนแน่!
หมาป่าวายุสะบัดหัวอย่างแรงเพื่อกระชากแขนหลินมู่อวี่ ด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส หลินมู่อวี่ยื่นมือออกไปคว้าดาบ ใช้มันแทงเข้าไปที่น่องของหมาป่าวายุเต็มแรง แต่ว่าปลิดชีวิตมันไม่ได้ เขาจึงรีบดึงดาบออกจากตัวมัน และแทงเข้าไปอีกครั้งหนึ่งอย่างรวดเร็ว ฉู่เหยาวิ่งตามเข้ามาทางด้านหลังหมาป่า สะบัดมีดสั้นของนางไปที่หมาป่า
“ฉัวะ!”
ด้วยความแหลมคมเกินจินตนาการ มีดสั้นสองเล่มนั้นเฉือนเนื้อตรงสะโพกของหมาป่าออกมาสองชิ้นใหญ่ๆ อย่างคาดไม่ถึง!
“โฮกกก”
หมาป่าวายุโหยหวนด้วยความเจ็บปวด และรีบปล่อยแขนของหลินมู่อวี่ที่มันกัดอยู่ทันที มันถอยหลังไปสองสามก้าว ก่อนจะเงยหน้าหอนขึ้นไปบนท้องฟ้า พายุหมุนรุนแรงก่อตัวขึ้นบนพื้นอย่างรวดเร็ว ฉู่เหยารีบตะโกนเสียงดัง “อาอวี่ ระวัง นั่นใบมีดสายลม เป็นความสามารถพิเศษของหมาป่าวายุ!”
ก่อนที่นางจะพูดจบ ใบมีดสายลมจำนวนมากก็พัดเข้าใส่ “ฉัวะ ฉัวะ” เสื้อผ้าของหลินมู่อวี่ขาดรุ่งริ่ง แต่ฉู่เหยามีความว่องไวกว่า นางจับมีดสั้นและถอยหลังไปหลายก้าว หลบการโจมตีของใบมีดสายลมได้
“โฮกกก!”
หมาป่าวายุคำรามด้วยความโกรธ มันฉลาด จึงรู้ว่าฉู่เหยาเป็นอันตรายต่อมันมากกว่า หลังจากเสียงคำรามเพียงครั้งเดียว มันก็พุ่งเข้าใส่ฉู่เหยา ฉู่เหยาไม่ได้ใช้โอสถผิวศิลา ไหนเลยจะทานการโจมตีได้ ดังนั้นนางจึงรีบแบบมือออก แล้วส่งเสียงเรียก “เสียวจื่อ!”
สิ่งที่ตามมาหลังจากเสียงแสบแก้วหูก็คือเตียวสีม่วง เป็นสัตว์เลี้ยงลักษณะคล้ายเพียงพอน สัตว์นั้นโผล่ออกมาจากร่างกายของฉู่เหยา มันคือวิญญาณยุทธ์สัตว์ของฉู่เหยา!
“จิ๊ดจิ๊ด!”
เจ้าเตียวตัวเล็กสีม่วงกระโจนเข้าใส่คู่ต่อสู้ แต่วิญญาณยุทธ์ของวิญญาณสงครามระดับยี่สิบหรือจะแข็งแรง เตียวน้อยจึงโดนตบปลิวไปที่พุ่มไม้ ฉู่เหยาล้มลงกับพื้นพร้อมเสียงหวีดร้อง นางยกมีดสั้นคู่นั้นขึ้นมาป้องกันที่คอตามสัญชาตญาณ หมาป่าวายุอ้าปากและขย้ำลงไปทันที
“เกร้ง”
จังหวะที่เขี้ยวของหมาป่าวายุกัดลงบนมีดสั้น จู่ๆ มีดสั้นก็สั่นและเกิดเสียง พลันเงาของหมาป่ากระโจนออกมาจากมีดสั้น คำรามและพุ่งเข้าใส่หมาป่าวายุ
“ฉัวะ” เสียงดังสนั่น หมาป่าวายุถอยหลัง ฉู่เหยามองมีดสั้นด้วยอาการตกตะลึง หลังจากการปะทะครั้งนี้ประกาของมีดสั้นลดลงไปมากเหมือนกัน นางไม่อยากจะเชื่อเลยว่า วิญญาณสัตว์ร้ายในมีดสั้นจะช่วยชีวิตนางตนเองไว้