The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา - EP.429 ความเป็นความตาย
EP.429 ความเป็นความตาย
เลือดสีแดงไหลทะลักออกจากช่องท้องจนกลายเป็นสีแดงเข้ม เพียงเวลาไม่กี่นาทีหลินมู่อวี่ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง ด้านนอกมีกลุ่มพลธนูฝีมือดีของจักรวรรดิอี้เหอยกคันศรเล็งมาที่เขา ทันใดนั้นผู้บัญชาการตะโกนออกคำสั่ง “ยิงได้!”
วิญญาณยุทธ์น้ำเต้าได้รับความเสียหายหนัก จึงไม่สามารถก่อตัวเป็นกำแพงน้ำเต้าได้ในเวลาอันสั้น หลินมู่อวี่กัดฟันวิ่งไปด้านหน้าพร้อมควบแน่นเกราะปราณยุทธ์ต้านรับศรแหลมคมของศัตรู
“เคร้ง เคร้ง เคร้ง!”
ลูกศรกระเด้งออกจากเกราะ ก่อนที่หลินมู่อวี่จะชักกระบี่ฟาดฟันใส่พลธนูออกเป็นชิ้นๆ จากนั้นเขายกมือซ้ายขึ้นปลดปล่อยพลังเจ็ดประทีปบนกำปั้นอย่างรวดเร็ว
หนึ่งประทีปพิฆาตชีวัน!
พลังเอ่อล้นมหาศาลพวยพุ่งฉีกร่างพลธนูหลายสิบคนในพริบตา ขณะเดียวกันสายลมร้อนพัดผ่านด้านหลัง ซึ่งมาจากหลูจ๋านที่พุ่งตรงพร้อมพลังเขตแดนสวรรค์ซึ่งรับมือได้ยากยิ่ง
เมื่อฌานสัมผัสตรวจจับตำแหน่งศัตรู หลินมู่จึงหยุดวิ่งไปด้านหน้าฉับพลันพร้อมหันหลังกลับ
“พรึ่บ!”
หลูจ๋านกระโดดขึ้นกลางอากาศ ฝ่ามือของเขาเต็มไปด้วยเปลวเพลิงน่าเกรงขามพร้อมวิญญาณยุทธ์เขี้ยวอัคคีพันรอบกาย ขณะที่กำลังจะส่งฝ่ามือลงมา ดวงตาหลูจ๋านพลันเหลือบเห็นดวงตาเย็นชาของหลินมู่อวี่แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด
การโจมตีจิตวิญญาณด้วยทักษะชีพจรวิญญาณ!
“วิ้ง!”
เสียงแหลมเสียดหูดังขึ้นพร้อมทำให้หลูจ๋านขยับร่างกายไม่ได้ ทันใดนั้น! ฝ่ามือหลินมู่อวี่เต็มไปด้วยแสงดวงดาวลึกลับพุ่งขึ้นกระแทกช่องท้องอีกฝ่ายอย่างรุนแรง
กลยุทธ์ดวงดาราขั้นที่สาม…ปัญจสวรรค์!
“ตูม!”
ท่ามกลางเสียงระเบิดดังก้อง หลูจ๋านกระอักเลือดและถูกกระแทกลอยออกไป กระนั้นฝ่ามือเปลวเพลิงของเขาตกลงจากท้องฟ้ากลืนกินร่างหลินมู่อวี่ทันทีและยากจะรับมือ
เหล่าทหารถืออาวุธวิ่งออกไปอย่างโกลาหล แต่ต้องตกตะลึงเมื่อเห็นทะเลเพลิงตรงหน้า ติงซี่กัดฟันแน่นพร้อมกล่าวว่า “ขะ…เขาตายแล้วหรือ? ไปปกป้องท่านหลูจ๋าน!”
“ไป!” นายพลจักรวรรดิอี้เหอชักดาบพร้อมตะโกนเสียงทุ้มต่ำ “เหล่านักรบจักรวรรดิอี้เหออย่าไปเกรงกลัวเจ้าหลินมู่อวี่นั่น ออกไปสังหารมันซะ!”
ทว่าเปลวเพลิงจากฝ่ามือหลูจ๋านยังคงโหมกระหน่ำ ทหารหลายพันนายเข้าล้อมรอบบริเวณในพริบตาพร้อมศาสตราวุธต่างๆ มากมายชี้ไปทางหลินมู่อวี่ในเปลวเพลิง พวกเขาไม่แน่ใจว่าหลินมู่อวี่ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
“โฮก!” ทันใดนั้น! มีเสียงคำรามก้องดังขึ้น
“ตูม!”
คลื่นเสียงระเบิดขึ้นจากทะเลเพลิงทันที ซึ่งมีพลังทำลายล้างมหาศาลสังหารทหารในระยะสิบเมตรกลายเป็นกองเนื้ออย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันมังกรศักดิ์สิทธิ์สีแดงปรากฏท่ามกลางเปลวเพลิง ก้อนเมฆสีขาวลอยล่องรอบกายพร้อมร่างคนผู้หนึ่งบนหลัง จากนั้นมังกรได้ทะยานขึ้นสู่ท้องนภา
“นั่นมันมังกร!” ติงซี่ตกตะลึง
ภายใต้การคุ้มกันของกลุ่มทหารรักษาการณ์ใบหน้าหม่านหนิงบิดเบี้ยวพร้อมตะโกนเสียงดัง “หลินมู่อวี่ลอบสังหารแม่ทัพลู่จ่าว อย่าปล่อยให้มันหนีออกจากเมืองสายัณห์ไปได้ เอามันลงมาให้ข้าเดี๋ยวนี้!”
“ท่านซีหยางโหวโปรดวางใจ”
ผู้พูดคือหลูจ๋าน เขาเป็นจอมยุทธ์ขอบเขตปราชญ์ผู้แข็งแกร่ง จึงเพียงได้รับบาดเจ็บไม่ถึงแก่ชีวิต เขาเช็ดเลือดมุมปากพร้อมลุกขึ้นยืนและยกมือ ทันใดนั้น! แรงกดดันของเขตแดนพลังตกลงมาจากท้องฟ้า ขณะเดียวกันดวงตาหลูจ๋านจับจ้องไปที่มังกรผลึกโลหิตอายุห้าพันปีและกล่าวว่า “เจ้ามังกรชั่วร้าย คิดหรือว่าจะช่วยมันได้”
มังกรผลึกโลหิตระเบิดโทสะพร้อมอ้าปากปลดปล่อยลมหายใจเพลิงแผดเผา
“ตูม!”
หลูจ๋านขยับมือเพียงเล็กน้อยปัดเป่าลมหายใจมังกร ก่อนจะประสานมือเข้าด้วยกัน ทันใดนั้น! “พัวะ!” พลังที่แข็งแกร่งกระแทกหัวมังกรน้อยจนกะโหลกแตกพร้อมเลือดไหลทะลัก กระนั้นก็ไม่สามารถสังหารมังกรผลึกโลหิตได้ มันส่ายหัวอย่างมึนงงและสูญเสียความสามารถในการบินเนื่องจากได้รับบาดเจ็บสาหัส
“ยิงมัน!”
สิ้นเสียงตะโกน ลูกศรจากทุกทิศทางพุ่งเข้าใส่มังกรผลึกโลหิตจนเลือดสาดกระเซ็น
“โฮก!”
เสียงร้องโหยหวนปลุกหลินมู่อวี่จากการสลบไสลและพบว่ามังกรน้อยกำลังถูกโจมตีจากลูกศรทั่วทุกทิศ แต่เขากลับไม่สามารถช่วยอะไรได้ ความรู้สึกที่เชื่อมกันทำให้เขารับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดแสนสาหัสราวกับร่างกายกับจะฉีกออกจากกัน ขณะเดียวกันหลูจ๋านใช้พลังเขตแดนสวรรค์ทรงตัวอยู่กลางอากาศ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะโจมตีเขาได้
“ฆ่ามัน!”
ทหารจักรวรรดิอี้เหอกลุ่มหนึ่งพุ่งออกไปพร้อมหอกแหลม
หลินมู่อวี่รีบหลบคมหอกไปด้านหลังมังกรน้อย ก่อนจะชักกระบี่ออกมาปัดป้องพร้อมส่งหนึ่งประทีปพิฆาตชีวันออกไปอีกครั้ง!
“ตูม!”
ทหารหลายสิบนายถูกกระแทกถอยออกไปจนกระอักเลือด แต่กลับไม่มีผู้ใดตาย ดูเหมือนว่าหลินมู่อวี่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถใช้พลังได้เท่าเดิมอีกแล้ว
“ลิ้มรสคมดาบข้าหน่อย!”
ปราณยุทธ์พวยพุ่งเหนือศีรษะหลินมู่อวี่ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบว่าเขาเป็นแม่ทัพจักรวรรดิอี้เหออายุราวห้าสิบปี ดาบในมือเต็มไปด้วยปราณยุทธ์ที่เย็นยะเยือก เนื่องจากหลินมู่อวี่เป็นผู้สังหารลู่จ่าวกับมือ ทำให้เหล่าแม่ทัพแห่งจักรวรรดิอี้เหอต้องการปลิดชีพเขาเพื่อสร้างผลงาน
“ฟิ้ว!”
หลินมู่อวี่โบกมือพร้อมคมมีดไร้ลักษณ์พุ่งออกจากเอวตัดหัวแม่ทัพที่อยู่กลางอากาศทันที มันคือมีดเสียงปีศาจนั่นเอง
“ตายซะ!”
จู่ๆ ความหนาวเย็นแผ่จากทางด้านหลัง หลินมู่อวี่ไม่สามารถหลบการโจมตีนี้ได้ จึงทำได้เพียงควบแน่นปราณเพื่อสร้างเกราะปราณยุทธ์รับการโจมตีตามสัญชาตญาณ ความเจ็บปวดแล่นผ่านทันทีที่ศัตรูคมดาบใส่เกราะหลัง กระนั้นเขาไม่เห็นว่าผู้โจมตีเป็นใครเนื่องจากความมืดมิดรอบด้าน ขณะเดียวกันทหารนับสิบนายส่งคมหอกเข้าทิ่มแทงจากด้านหน้า
หลินมู่อวี่รวบรวมปราณยุทธ์ปล่อยพลังหนึ่งประทีปพิฆาตชีวันอีกครั้ง
“ตูม!”
พลังอันแข็งแกร่งกระแทกเหล่าทหารจักรวรรดิอี้เหอกระเด็นออกไป แต่ไม่สามารถสังหารผู้ใดได้
หลินมู่อวี่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหม่นหมองในใจ ขณะเดียวกันเขาหันมองไปทางด้านขวา ห่างกำแพงออกไปเล็กน้อยคือถนนของเมืองสายัณห์ ตราบใดที่สามารถหนีไปถนนนั้นได้ ทหารแห่งจักรวรรดิอี้เหออาจไม่สามารถจับกุมเขา
กระนั้นลูกศรยังคงพุ่งมาจากทั่วทุกทิศ
“ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ!”
หลังถูกลูกธนูยิงใส่ไหล่ แขน และขา ทำให้เกราะปราณยุทธ์อ่อนแอลงมาก หลูจ๋านที่ลอยอยู่เหนือศีรษะยิ่งดูน่าเกรงขาม พลังเขตแดนสวรรค์แข็งแกร่งมาก เมื่อใดที่อีกฝ่ายเริ่มโจมตี หลินมู่อวี่แทบไม่มีโอกาสหลบหนี
ขณะเดียวกันมังกรผลึกโลหิตเงยหน้าขึ้นส่งเสียงร้องคร่ำครวญ เกล็ดของมันถูกนายกองคนหนึ่งแทงทะลุจนเลือดไหลอาบ
“โฮก!”
มังกรน้อยโกรธเกรี้ยวพร้อมดึงหอกออกด้วยกรงเล็บแหลมคม ก่อนจะอ้าปากขย้ำหัวนายกองผู้นั้นจนเลือดเต็มปาก มันหันกลับและใช้ร่างกายโอบร่างหลินมู่อวี่ไว้เพื่อเป็นเกราะป้องกันลูกศร ทันใดนั้น! เกล็ดด้านหลังตั้งชันขึ้นแล้วกลิ้งออกไป
“อ๊าก!!!”
เสียงกรีดร้องดังโหยหวนของทหารหลายสิบนายถูกบดขยี้กลายเป็นก้อนเนื้อ ขณะที่มังกรน้อยคำรามก้องพร้อมกลิ้งตรงไปยังกำแพงพร้อมหลินมู่อวี่
“คิดจะหนีรึ!?”
หลูจ๋านกระโดดขึ้นกลางอากาศพร้อมส่งฝ่ามือทรงพลังออกไป ทันใดนั้น! มังกรผลึกโลหิตส่งเสียงร้องคร่ำครวญอีกครั้งพร้อมเลือดสาดกระเซ็น มันได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ยังคงโอบร่างหลินมู่อวี่และพยายามหลบหนีออกไป
“ไล่ตามไป!”
หม่านหนิงกล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยว “ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต หลินมู่อวี่เจ้าคนทรยศลอบสังหารแม่ทัพลู่จ่าว มันต้องตาย!”
จากนั้นทหารจักรวรรดิอี้เหอจำนวนมากไล่ล่าตามไป
หม่านหนิงกล่าวต่อ “ส่งคำสั่งออกไปให้ปิดเมือง ไม่มีผู้ใดสามารถเข้าหรือออกได้ หลินมู่อวี่ได้รับบาดเจ็บสาหัส มันคงหนีไปได้ไม่ไกล พลิกเมืองหามันให้เจอ ข้าต้องการเห็นหัวของมันเสียบอยู่ที่ปลายหอก!”
ติงซี่ตกตะลึง
หม่านหนิงกล่าวอย่างเคืองโกรธ “แม่ทัพติงซี่เป็นผู้พาหลินมู่อวี่เข้ามาในเมืองสายัณห์ หากท่านจับมันไม่ได้ ก็อย่าคิดให้อภัยตัวเองไปตลอดชีวิต!”
ติงซี่รีบประสานหมัดรับ “โปรดสงบสติอารมณ์เถิดขอรับ ข้าน้อยจะสั่งคนออกไปค้นหาทันที”
หลูจ๋านบนท้องฟ้าขมวดคิ้วพร้อมกล่าวว่า “ปะ…ปราณของมันหายไปแล้ว…”
…
แสงดาวส่องประกายทั่วท้องนภาเหนือเมืองสายัณห์ เมืองที่เคยสงบสุขในอดีตตกอยู่ในความโกลาหลทั่วทุกหนแห่ง บนท้องถนนและตรอกเต็มไปด้วยกองทหารวิ่งไปหาเพื่อไล่ล่าคนคนเดียว
ด้านใต้ทางเท้าหินในเมือง เสียงร้องแผ่วเบาอย่างเจ็บปวดดังขึ้นจากความมืด
ท่อน้ำทิ้งของเมืองเป็นท่อระบายน้ำธรรมดาที่มีเพียงกลิ่นเน่าเหม็น แมลงสาบ หนู และงูเท่านั้น หลินมู่อวี่นั่งขดตัวอยู่ในความมืดภายในท่อระบายน้ำพร้อมหอบหายใจ วิญญาณยุทธ์น้ำเต้าปรากฏขึ้นบนร่างกาย ขณะที่ดูดซับพลังแห่งสวรรค์และผืนดินรอบบริเวณเพื่อฟื้นฟูปราณยุทธ์
“พรึ่บ!”
หลินมู่อวี่กัดฟันดึงลูกธนูออกจากแขนของตนด้วยความเจ็บปวด เขาวางมันลงพื้นก่อนจะดึงลูกธนูดอกอื่นต่อ ในพริบตาลูกธนูนับสิบถูกวางไว้ด้านข้างตัว หลินมู่อวี่เอื้อมมือสัมผัสผ้าที่ผูกอยู่รอบเอวเขาพร้อมกล่าวพึมพำ “พี่ใหญ่ฉินเหลย อาอวี่จะได้พาท่านกลับบ้านแล้ว”
มังกรน้อยกลับไปต่างมิติแล้ว มันต้องการเวลาฟื้นฟูพลังก่อนจะกลับมาช่วยอีกครั้ง
หลินมู่อวี่เงยหน้ามองพื้นผิวมืดมิดพร้อมปลดปล่อยทักษะชีพจรวิญญาณเพื่อสังเกตการณ์บนพื้นดิน ทหารม้าเมืองสายัณห์จำนวนมหาศาลกำลังพยายามค้นหาเขาทั่วเมือง อีกไม่นานเมืองนี้คงภายภายใต้กฎอัยการศึก เขาจึงจำเป็นต้องออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด มิเช่นนั้นคงถูกฆ่าตายอยู่ในเมือง อีกทั้งเลือดของเขาไหลหยดลงท่อระบายน้ำทิ้ง ซึ่งหลูจ๋านคงค้นพบไม่ช้าก็เร็ว
มีโอสถเหลืออีกไม่มากในถุงสรรพสิ่ง เขาใช้ยาสมานแผลไปจนหมดและเพียงพอที่จะหยุดเลือดเท่านั้น
เวลาผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมงกระทั่งเป็นเวลาเที่ยงคืน เสียงบนพื้นดินเริ่มเงียบลง หลินมู่อวี่ตรวจสอบทะเลจิตและพบว่าปราณยุทธ์กว่าครึ่งถูกฟื้นฟูแล้ว เขาค่อยๆ เก็บกระบี่เข้าฝักอย่างเงียบงัน ก่อนจะเดินตามท่อระบายน้ำเพื่อไปยังทางออก
เมื่อหลินมู่อวี่โผล่หัวออกไปก็ไม่พบผู้ใดรอบบริเวณ
“ฮึ้บ”
เขาค่อยๆ เคลื่อนตัวขึ้นบนพื้น แต่ด้วยอาการบาดเจ็บทำให้เขาสะดุดล้มทันที เขาพยุงตัวเองเดินโซเซออกไป ก่อนจะเอนไหล่พิงกำแพงหิน ร่างกายของเขาเจ็บปวดเกินกว่าจะขยับตัว
จู่ๆ ก็มีเสียงแผ่วเบาดังขึ้นจากด้านหลัง “ท่านหลิน”
“นั่นใคร?!”
หลินมู่อวี่รีบยกมือจับด้ามกระบี่
“อย่ากังวล ข้าเอง”
ภายใต้แสงดาว ชายผู้นั้นยกเสื้อคลุมศีรษะออก ขณะที่ดาวสีทองสามดวงส่องประกายอยู่บนหน้าอก เขาคือเฉินหยางผู้ยอมจำนนต่อจักรวรรดิอี้เหอ!