The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา - EP.05 ดอกสาลี่เหล็ก 1
ฟ้าเริ่มมืด ฉู่เฟิงกลับมาในสภาพเนื้อตัวมอมแมม ตะกร้าไม้ไผ่บนหลังเต็มล้นไปด้วยสมุนไพร
ฉู่เหยาเล่าเรื่องที่หลินมู่อวี่รู้จักสมุนไพรให้ฉู่เฟิงฟังทันที แน่นอนว่าฉู่เฟิงดีใจเป็นอย่างมาก จึงตกลงรับหลินมู่อวี่เป็นศิษย์ตอนนั้นเลย ส่วนหวังหยิ่งจะขัดขวางอย่างไรก็ไร้ประโยชน์
ความจริงหลินมู่อวี่ดูออกว่าหวังหยิ่งผู้นี้ต้องแอบชอบฉู่เหยาอยู่เป็นแน่ เพียงแต่คนแบบนั้นจะคู่ควรกับฉู่เหยาที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาได้อย่างไร
ฉะนั้นจะให้เขาสมหวังไม่ได้
แสงดาวสาดลงมาที่สวนด้านหลัง ดอกจิตสันต์เปล่งประกายสะดุดตายามค่ำคืน นี่เป็นเอกลักษณ์ของดอกจิตสันต์ ที่จะบานและส่งกลิ่นหอมในยามราตรีเท่านั้น ทั่วทั้งสวนตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นของมัน ซึ่งช่วยทำให้จิตใจสงบ
ศิษย์ฝึกหัดกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่ที่ลาน ท่องจำลักษณะเฉพาะของสมุนไพร หลินมู่อวี่และฉู่เหยาก็อยู่ด้วย
จู่ๆ หลัวไคศิษย์ที่มีอายุน้อยก็โพล่งขึ้น “อีกสามวันก็จะถึงวันประลองตำรับโอสถแล้ว ท่านอาจารย์ ร้านโอสถไป่หลิงของเราไม่มียาระดับสูง ก็จะไม่ไปร่วมงานเช่นนั้นหรือ”
ฉู่เฟิงถอนหายใจ “เฮ้อ ไม่ต้องไปหรอก…”
หวังหยิ่งเอ่ยขึ้น “ท่านอาจารย์ ได้ยินว่าศิษย์ของเจ้าสำนักห้างโอสถเสินอวี่ คุณชายฮว๋าหวันบุตรชายท่านเจ้าเมืองสำเร็จวิชาปรุงยาระดับห้าแล้ว ทั้งยังได้เลื่อนเป็นปรมาจารย์โอสถอย่างเป็นทางการอีกด้วย…”
ฉู่เฟิงตกใจ “เร็วขนาดนี้เชียว เด็กคนนั้นเพิ่งจะอายุแค่ยี่สิบสี่ปีเอง เด็กขนาดนี้ก็เป็นปรมาจารย์โอสถแล้วหรือนี่…”
ฉู่เหยาพูดขึ้นไม่ยอมแพ้ “ห้างโอสถเสินอวี่ร่ำรวยล้นฟ้า แถมยังมีจวนเจ้าเมืองหนุนหลัง ถึงจะเป็นสมุนไพรระดับเจ็ด ระดับแปดพวกเขาก็มีพร้อม ร้านโอสถไป่หลิงของเรามีสมุนไพรสูงสุดแค่ระดับห้า แน่นอนว่าเอามาเปรียบกันไม่ได้ มิเช่นนั้นข้า…ข้าก็สามารถ…”
พอพูดไปเรื่อยๆ ฉู่เหยาก็ดูละอายใจไม่กล้าที่จะพูดต่อ แต่ยังคงห่อปาก ท่าทางโมโหอยู่
หลินมู่อวี่เห็นแล้วนึกขัน จึงถามขึ้น “พี่ฉู่เหยา ปรมาจารย์โอสถหมายความว่าอะไรหรือ”
“แม้แต่เรื่องนี้เจ้าก็ไม่รู้?” หวังหยิ่งหัวเราะเยาะหลินมู่อวี่ ราวกับจะบอกว่าคนผู้นี้ไม่คู่ควรที่จะให้อยู่ที่ร้านโอสถต่อ
ฉู่เหยาถลึงตาใส่หวังหยิ่ง ก่อนจะอธิบายอย่างใจเย็น “อาอวี่ ในโลกของการปรุงโอสถมีการแบ่งขั้นระดับ โดยระดับเหล่านี้ถูกควบคุมโดยสมาพันธ์โอสถของจักรวรรดิ แบ่งออกเป็นหกระดับ ได้แก่ศิษย์ฝึกหัด นักปรุงโอสถ ปรมาจารย์โอสถ ปราชญ์โอสถ ราชาโอสถ เทพโอสถ โดยศิษย์ฝึกหัดสามารถปรุงโอสถระดับที่ 1-2 นักปรุงโอสถปรุงโอสถระดับที่ 3-4 ปรมาจารย์โอสถปรุงโอสถระดับที่ 5-6 ปราชญ์โอสถปรุงโอสถระดับที่ 7-8 ราชาโอสถปรุงโอสถระดับที่ 9 ส่วนเทพโอสถปรุงโอสถระดับที่ 10 ได้ เข้าใจรึยัง”
“อืม ขอบใจพี่ฉู่เหยา” หลินมู่อวี่พยักหน้า แล้วหันไปถามฉู่เฟิง “แล้วท่านปู่อยู่ระดับใดหรือ”
ฉู่เฟิงรู้สึกกระอ่วนใจก่อนจะตอบ “ข้าเกิดมาในครอบครัวยากจน ตอนนี้จึงเป็นแค่ปรมาจารย์โอสถเท่านั้น”
ฉู่เหยาพูดขึ้น “ในร้านโอสถไป่หลิง ท่านปู่เป็นปรมาจารย์โอสถ สามารถปรุงโอสถระดับสูงสุดคือระดับ 5 ส่วนข้ากับศิษย์พี่หวังหยิ่งเป็นนักปรุงโอสถ ส่วนที่เหลือต่างเป็นแค่ศิษย์ฝึกหัด”
หวังหยิ่งฝืนยิ้ม “บางคนแม้แต่การปรุงโอสถระดับที่ 1 ก็ไม่สามารถ เกรงว่าแม้แต่ศิษย์ฝึกหัดก็เป็นไม่ได้ด้วยซ้ำ”
ฉู่เหยาถลึงตาใส่หวังหยิ่ง ก่อนจะย่นปากแล้วเอ่ยขึ้นด้วยความโมโห “อาอวี่ เจ้าไปห้องเก็บยากับข้า ข้าจะสอนเจ้าเดี๋ยวนี้เลย”
ฉู่เฟิงรีบถามอย่างเป็นห่วงว่า “อาเหยา เจ้าไหวหรือ”
ฉู่เหยาหันขวับ ยืดอกอย่างภูมิใจ ภายใต้แสงจันทราสาดส่อง ผิวกายอันขาวนวลดั่งหิมะของนางช่างงดงามยิ่งนัก “ไม่ไหวได้ยังไงเล่า!”
ห้องเก็บสมุนไพรเต็มไปด้วยสมุนไพรนานาชนิด
ฉู่เหยาเอ่ยด้วยเสียงน่าฟัง “สิ่งที่สำคัญที่สุดของการปรุงโอสถก็คือการสกัดเอาส่วนที่บริสุทธิ์ของสมุนไพรนั้นออกมา ตัวอย่างเช่น หญ้าด้ายเงินหนึ่งต้นมีส่วนบริสุทธิ์น้อยมากแค่ไม่กี่เค่อ (กรัม) บรรดานักปรุงโอสถเรียกสิ่งนี้ว่า ‘แก่นโอสถ’ สิ่งแรกที่เราต้องทำก็คือสกัดแก่นโอสถ ระดับของสมุนไพรยิ่งสูง แก่นโอสถก็จะยิ่งสกัดได้ยากขึ้น และต้องใช้ผู้ปรุงโอสถที่มีระดับสูงขึ้นตามไปด้วย”
ฉู่เหยายื่นฝ่ามือขาวเนียนพร้อมเปล่งเสียงออกมา แสงสีเขียวอ่อนส่องประกายรอบฝ่ามือนาง
นางเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา “ฝ่ามือบริสุทธิ์ คือการรวมพลังปราณในร่างไปไว้ที่จุดเดียว เพื่อสกัดแก่นโอสถจากสมุนไพร นี่คือขั้นตอนแรกที่เจ้าต้องเรียนรู้”
ฝ่ามือบริสุทธิ์นั้นเป็นขั้นตอนพื้นฐานที่สุดในวิชาปรุงยา หลินมู่อวี่ไม่เข้าใจ แต่เขารู้ว่าตัวเองรู้จักวิธีอื่นที่ต่างออกไป นั่นก็คือฝ่ามือพิสุทธิ์ ซึ่งเขาได้รับเป็นของรางวัลเมื่อครั้งบรรลุเป็นยอดปรมาจารย์ปรุงโอสถ ฝ่ามือพิสุทธิ์นั้นสามารถดูดซับความบริสุทธิ์ของสมุนไพรได้หมดจด ขจัดสิ่งเจือปนได้ดีกว่า ทำให้ยาที่ได้มีคุณภาพสูงขึ้น
ฉู่เหยาเห็นท่าทางหลินมู่อวี่ที่ดูเหมือนจะไม่เข้าใจ นางจึงส่ายหัวแล้วเอ่ยขึ้น “งั้นดูศิษย์พี่คนนี้ว่าทำยังไงก่อนก็แล้วกัน!”
ฉู่เหยาแบมือออก นางเปล่งเสียงเบาๆ หญ้าด้ายเงินเริ่มสั่น ด้วยวิชาฝ่ามือบริสุทธิ์ ใบและรากของหญ้าด้ายเงินค่อยๆ เริ่มลอกออก แก่นโอสถสีเขียวที่แทบจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าค่อยๆ ลอยออกมา และถูกฉู่เหยาดูดซับไว้ สองสามนาทีต่อมา ผงสีเขียวปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือของฉู่เหยา นั่นก็คือแก่นโอสถของหญ้าด้ายเงิน
ฉู่เหยาหันกลับมา ยิ้มบางๆ “อาจจะยากไปสักหน่อย แต่ขอเพียงเจ้ามีสมาธิ รวบรวมพลังปราณไปไว้ที่ฝ่ามือ จากนั้นจงตั้งใจสัมผัสกับธาตุในสมุนไพรนั้น จังหวะที่เจ้าจับแกนโอสถได้ ก็คือเวลาที่เจ้าจะลงมือ!”