The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา - Ep.254 แท่งโลหะ
รูปร่างของดวงดาวปรากฏขึ้นท่ามกลางความว่างเปล่าเข้าโอบล้อมรอบตัวหลินมู่อวี่ เขารวบรวมพลังนั้นไว้ที่ฝ่ามือและปล่อยมันออกไป!
สามประทีปทรกรรมชีวี!
พลังอันมหาศาลระเบิดออก นักฆ่ามองอย่างเย้ยหยันพลางยกดาบยาวที่ผสานพลังแห่งความมืดอันรุนแรงขึ้นก่อนจะหัวเราะ “ข้าไม่คิดว่าโลกนี้จะยังเหลือคนที่มีพลังแปลกประหลาดเช่นนี้อยู่ ถึงจะน่าเสียดายแต่เจ้าต้องตายที่นี่!”
สิ้นเสียงคำรามลั่น นักฆ่าก็ฟาดดาบที่ห่อหุ้มด้วยพลังมืดออกไป หมายจะใช้มันหักล้างกับพลังสามประทีป!
หลินมู่อวี่สั่นเทิ้มไปทั้งร่าง ปราณยุทธ์แผ่ขยายรอบตัวเขาและเพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุด พลังสีขาวที่เปล่งประกายตัดกับพลังแห่งความมืดสีดำของนักฆ่าปริศนา
“เปรี้ยง!”
ผืนดินตลอดจนทั่วทั้งอากาศโดยรอบสั่นสะเทือนจากการปะทะ! ทันใดนั้นพลังสามประทีปของหลินมู่วี่ก็แหลกสลาย ส่งผลให้คลื่นดาบทมิฬแหวกอากาศตรงไปหาหลินมู่อวี่โดยตรง “ตู้ม!” แขนซ้ายของหลินมู่อวี่ที่หลบไม่พ้นโดยแรงกระแทกจนหัก!
โชคยังดีที่หลินมู่อวี่มีปฏิกิริยาที่ว่องไว ใช้ฝีเท้าดาวตกหลบการโจมตีได้ทันมิเช่นนั้นคงไม่ใช่แค่แขนที่เจ็บหนัก
ท่ามกลางก้อนดินก้อนกรวดที่ร่วงหล่นลงมา หลินมู่อวี่ปักกระบี่ไว้กับพื้นเพื่อยันร่างของตนไว้ นักฆ่ามองหลินมู่อวี่ที่ร่างโชกเลือดอย่างประหลาดใจ ไม่คิดว่าเขาจะหลบการโจมตีอันรุนแรงนี้ได้ ก่อนจะเดินไปซัดกระบี่วิญญาณมังกรจนหลุดจากมือเจ้าของ
“พรึ่บ…”
ความเจ็บปวดแล่นผ่านแขนและข้อมือซ้ายของหลินมู่อวี่พร้อมเลือดที่ไหลไม่หยุด อาการบาดเจ็บสาหัสจากกระดูกแขนที่แหลกเริ่มส่งผลมากขึ้นทุกที
หลินมู่อวี่กุมแผลฉกรรจ์ไว้และกระโดดถอยหลังไปโดยไว ฉินอินที่อยู่ไม่ไกลนักรีบเข้ามาประคองหลินมู่อวี่ไว้ด้วยสายตาแห่งความสิ้นหวังและเศร้าโศก “อาวี่…”
หลินมู่อวี่ไม่เอ่ยสิ่งใดตอบนอกจากเก็บกระบี่ที่ตกอยู่ด้วยมือขวาและกระโดดขึ้นไปบนก้อนหินขนาดสูงสองเมตร มองไปยังนักฆ่าอย่างอาฆาต
นักฆ่าปริศนากระชับดาบที่ห้อมล้อมไปด้วยพลังมืดพลางกล่าวกับหลินมู่อวี่ด้วยใบหน้าเย้ยหยัน “เด็กน้อยเอ๋ย ทั้งที่แขนซ้ายเจ้าถูกข้าขยี้ไปแล้ว หากยังไม่คืนแท่งโลหะให้แก่ข้าก็จงตายเสีย!”
“แท่งโลหะที่ว่า…เป็นอุปกรณ์ใช้ทำสิ่งใดกันแน่?” หลินมู่อวี่นึกในใจ
“รูปแบบดับสูญ!”
นักฆ่าปริศนากระโจนเข้าใส่หลินมู่อวี่ด้วยการฟาดดาบกลางอากาศ! การโจมตีที่หลบเลี่ยงไม่ได้ทำให้หลินมู่อวี่ต้องเรียกกำแพงน้ำเต้าออกมาป้องกัน ทว่ากำแพงที่เพิ่งสร้างยังไม่สามารถรวบรวมพลังมากพอให้ใช้กันการโจมตี ทำให้มันบุบสลายในทันใด! หลินมู่อวี่ถูกดาบคมฟันเข้ากลางอกจนไถลไปกับพื้น!
“อยู่นี่เอง!”
นักฆ่าเดินมาหยุดอยู่บนหัวหลินมู่อวี่ก่อนจะเอื้อมมือหยิบเอาแท่งโลหะที่อยู่ด้านหลังของตนไป
“นี่เป็นจุดประสงค์ที่แท้จริงของเจ้าอย่างนั้นรึ?”
หลินมู่อวี่เอ่ยถามพลางขบฟันข่มความเจ็บปวดก่อนจะใช้ฝีเท้าดาวตกกระโดดขึ้น แสงจากปลายเท้าเคลื่อนผ่านไปมายามที่หลินมู่อวี่ม้วนตัวหลบการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามกลางอากาศ เขาใช้แรงม้วนตัวช่วยเพิ่มแรงขาเตะเข้าที่แขนของนักฆ่าจนอีกฝ่ายไถลไปหลายเมตร ต้องหาโอกาสแย่งชิงไม้บรรทัดกลับมาให้ได้!
เพราะแขนซ้ายที่ถูกขยี้แหลก ทำให้หลินมู่อวี่แทบไม่มีแรงเหลือจะสู้ต่อ ความเจ็บปวดทวีคูณจนแทบล้มทั้งยืน ทว่าเขาไม่มีเวลามาอ่อนแอ…หากยอมแพ้ก็เท่ากับตาย
ฉะนั้นเพื่อความอยู่รอดต้องฮึดสู้เท่านั้น!
…
“ฝีมือเจ้านั้นยอดเยี่ยมข้าขอชมเชย แต่อย่างที่บอก…อย่างไรเสียเจ้าก็ต้องตายที่นี่!”
นักฆ่าเดินเข้าหาหลินมู่อวี่ทีละก้าวพลันคำรามลั่น ดาบยาวลอยควงกลางอากาศด้วยความเร็วกระทั่งพุ่งเสียบทะลุไหล่หลินมุ่อวี่อย่างไม่ทันตั้งตัว “ฉึก!” เลือดสดสาดกระเซ็น ยังไม่ทันจะได้ขยับร่างนักฆ่าผู้เหี้ยมโหดก็เข้าประชิดตัวและกดดาบซ้ำเข้าไป ร่างของหลินมู่อวี่สั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวดอย่างมหาศาล มือหนาของศัตรูเอื้อมไปด้านหลังของตน
ต้องไม่ให้มันได้ไม้บรรทัดไป!
หลินมู่อวี่กลั้นความทรมานจากบาดแผล ใช้มือขวาจับกระบี่วิญญาณมังกรตวัดใส่นักฆ่าด้วยพลังสีแดงเลือด…สี่ประทีปเทพมารโศกา!
บรรยากาศโดยรอบบิดเบี้ยวทันใด วิญญาณและดวงดาราปรากฏขึ้น พลังอันมหาศาลของสี่ประทีปถูกซัดเข้าหน้าท้องของนักฆ่าขณะที่กำลังหยิบแท่งโลหะ!
“เปรี้ยง!”
พลังแห่งความมืดที่ห่อหุ้มร่างของนักฆ่าแตกสลายโดยพลัน ในที่สุดการโจมตีก็ได้ผล! ศัตรูถูกซัดกระเด็นจนกระอักเลือดโดยที่ยังไม่ได้ไม้บรรทัดไป
“ไอ้สัตว์เดรัจฉาน กล้าทำให้ข้าเจ็บอย่างนั้นรึ?”
นักฆ่าเอ่ยพลางเช็ดเลือดที่มุมปากก่อนจะหยิบดาบขึ้นมาและหัวเราะ “เจ้าจะต้องตายชดใช้สิ่งที่เจ้าทำลงไป!”
หลินมู่อวี่กัดฟันกรอด ชายผู้นี้แข็งแกร่งยิ่งนัก ทั้งที่โดนพลังสี่ประทีปโดยตรงยังทำให้บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเองรึ? ยิ่งไปกว่านั้น หลินมู่อวี่ยังไม่เคยเห็นชายผู้นี้ใช้วิญญาณยุทธ์เลยสักครั้งตั้งแต่เริ่มสู้มา เขาเกิดมาโดยไร้วิญญาณยุทธ์อย่างนั้นหรือ? อีกทั้งยังพลังลึกลับอันยากจะคาดเดานั่นอีก!
“ฟึบ!”
ดาบยาวถูกเหวี่ยงเข้าโจมตี หลินมู่อวี่เมื่อเห็นดังนั้นจึงรีบยกกระบี่ของตนขึ้นป้องกัน ทว่าความเร็วของศัตรูเหนือกว่ามาก! กระบี่วิญญาณมังกรถูกคมดาบของอีกฝ่ายปัดออก ทำให้มีช่องโหว่โดนเข่าแทงที่หน้าท้องอย่างรุนแรง!
หลินมู่อวี่จุกจนแทบหายใจไม่ออก ทั้งร่างไร้เรี่ยวแรงจนสู้ต่อไม่ไหว ด้วยแขนขวาที่รู้สึกเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส สัมผัสแห่งความทรมานแผ่ซ่านไปจนถึงขั้วหัวใจในทันใด เขาจะสู้ต่อได้อย่างไรในเมื่อแขนเดียวที่เหลืออยู่ถูกหัก!
แม้แต่จะจับกระบี่ยังทำไม่ได้…ความสิ้นหวังเริ่มเกาะกุมภายในจิตใจของหลินมู่อวี่
…
“เจ้าราชาเจ็ดประทีป เจ้าดูข้าอยู่หรือไม่?!” หลินมู่อวี่ตะโกนขึ้นในทะเลจิต “ข้ากำลังจะตาย ต่อไปนี้เจ้าก็ไม่มีที่สิงสถิตอีกแล้ว อยากรู้นักว่าเจ้าจะทำอย่างไร!”
ราชาเจ็ดประทีปที่สถิตอยู่ภายในทะเลจิตของหลินมู่อวี่หัวเราะขึ้นก่อนจะเอ่ย “เจ้ามันอ่อนแอ แต่ไม่ต้องกังวลไป ต่อเมื่อเจ้าตายข้าจะออกจากร่างเจ้าทันทีและย้ายไปสิงสู่ชายเบื้องหน้า บอกตามตรง…ว่าเขาแข็งแกร่งกว่าเจ้ามาก ร่างกายนั้นน่าอยู่ยิ่งกว่าของเจ้าเสียอีก!”
ดูเหมือนราชาเจ็ดประทีปจะไม่ออกมาช่วยในศึกนี้ และหายกลับเข้าไปในทะเลจิต
“เสร็จข้า!”
นักฆ่าปริศนากระชากแท่งโลหะที่เสียบอยู่ด้านหลังหลินมู่อวี่ออกมา
“ฮ่าๆๆ ในที่สุดชัยชนะก็ตกเป็นของกองทัพมาร เฉียนยุ่นผู้นี้คือเสนาธิการที่แข็งแกร่งที่สุดในวัดแห่งนี้!”
นักฆ่าปริศนาระเบิดเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งก่อนจะก้มมองหลินมู่อวี่อย่างดูหมิ่น เขาชูแท่งโลหะขึ้น ทันใดนั้นมันก็เปล่งแสงประกายไปทั่วบริเวณ “เป็นเพราะเจ้าหาอาวุธของนักปราชญ์พบ ข้าจะมอบความตายอย่างไม่ทรมานแก่เจ้าเป็นการตอบแทน!”
หลินมู่อวี่พยายามยกแขนอันไร้เรี่ยวแรง ใช้ฝ่ามือควบคุมกระบี่วิญญาณมังกรด้วยปราณยุทธ์เพลิง เขาคงทำอะไรไม่ได้มากเพราะเหลือพลังเพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้น หลินมู่อวี่ผงกหัวขึ้น เลือดหยดย้อยจากหน้าผากพาดผ่านดวงตาแห่งความเคียดแค้น พลันเอ่ยขึ้นด้วยเสียงอันแหบแห้ง “เข้ามา!”
“บังอาจท้าทายข้ารึ?!” ขณะนักฆ่าปริศนาแค่นเสียงเหยียด แท่งโลหะที่ลอยอยู่ก็ร่วงลงมา!
ทันใดนั้นแสงสีทองของวิญญาณยุทธ์น้ำเต้าเจ็ดชั้นก็เปล่งประกายขึ้นเหนือร่างหลินมู่อวี่!
แสงสว่างเจิดจ้าราวกับแสงอาทิตย์ ส่งผลให้ดวงตาของนักฆ่าปริศนาแสบร้อนอย่างรุนแรง เขารีบหลับตาโดยพลันและคำรามลั่น “ไอ้สารเลว ข้าจะฆ่าเจ้า!”
แท่งโลหะล่องลอยไปทั่วขณะนักฆ่าเสียการควบคุม หลินมู่อวี่เรียกกระบี่เข้าฝัก พยายามชันตัวลุกขึ้นและเดินไปหาฉินอิน “เสี่ยวอินขึ้นมาบนหลังข้า!”
แขนข้างหนึ่งของฉินอินแทบใช้การไม่ได้แล้ว นางยกแขนข้างที่เหลืออยู่เกาะหลินมู่อวี่ไว้
ฝีเท้าดาวตกเต็มกำลัง!
หลินมู่อวี่กลับหลังหนีไปโดยไม่คิดหันหลังกลับ แม้แขนจะถูกบดขยี้ก็ยังเหลือขาที่ใช้การได้ ไม่นานนักก็มาถึงจุดที่หมาป่าวาโยสีทองของฉินอินนอนอยู่ มันสั่นเทิ้มไปทั้งร่างด้วยสัญชาตญาณแห่งกลัวตั้งแต่การต่อสู้กับนักฆ่าปริศนาเริ่มขึ้น
ไม่นานนักศัตรูก็ไล่ตามหลังหลินมู่อวี่มาอย่างรวดเร็ว ด้วยปราณยุทธ์ที่ถูกใช้จนไม่เหลือทั้งยังต้องแบกฉินอินทำให้ความเร็วของฝีเท้าดาวตกลดลงกว่าครึ่งจนเกือบถูกไล่ทัน
“ท่านพี่…”
ฉินอินน้ำตาคลอ “ข้าไม่อยากเป็นตัวถ่วงท่านพี่อีกต่อไป…โปรดบอกให้เสด็จพ่อได้รับรู้ว่าข้ารักท่านมากเพียงใด”
“หาใช่เวลามาพูดเรื่องไร้สาระไม่ยายโง่!” หลินมู่อวี่เอ็ด “อยู่นิ่งๆ และเกาะข้าให้แน่น!”
ฉินอินซบหน้าลงกับหลังหลินมู่อวี่ร้องไห้อย่างหนัก พลางเอ่ยขึ้นก่อนจะปล่อยมือ “อาอวี่…เจ้าต้องรอดชีวิตกลับไปให้ได้ ข้าฝากดูแลเสด็จพ่อด้วย และหากฉินเหลยหรือฉินเหยียนยังไม่พร้อมขึ้นบัลลังก์ เจ้าจงบอกเสด็จพ่อแต่งตั้งเจ้าเป็นผู้สืบทอดแทนพวกเขาเสีย…”
“ยายเด็กโง่!”
หลินมู่อวี่ตัดสินใจหยุดหนีและหันไปหานักฆ่าที่กำลังพุ่งตรงมาด้วยความเร็วปานสายฟ้า ขณะที่ดาบยาวกำลังจะทะลวงหัวใจ หลินมู่อวี่รวบรวมปราณยุทธ์และระเบิดมันออกในทันที “คลื่นกระแทกวิญญาณ!”
“นั่นมัน…”
นักฆ่าปริศนาหยุดนิ่งไปทันทีที่โดนคลื่นกระแทก หลินมู่อวี่ใช้โอกาสอันน้อยนิดที่สร้างขึ้น เหวี่ยงขาเคลือบแก่นเพลิงมังกรเตะใส่ศัตรูโดยตรงหมายจะทำลายทะเลจิต ต่อให้ไม่รู้ว่าชายผู้นี้แข็งแกร่งมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร สิ่งหนึ่งที่เขารู้แน่ชัดคือพลังแห่งความมืดนั้นต้องมาจากทะเลจิต!
“ตู้ม!”
ลูกเตะอันทรงพลังซัดเข้าเต็มแรง ทว่าเกราะรบของมันแข็งแกร่งมากจนทำลายไม่ได้!
หลินมู่อวี่จึงทำได้เพียงถอยหนีพลางสั่งฉินอิน “เสี่ยวอินเกาะข้าให้แน่น อย่าได้ยอมแพ้จนนาทีสุดท้าย!”
…
“เทพอสูรอาฆาต!”
นักฆ่าได้สติจากการถูกคลื่นกระแทกวิญญาณจนนิ่งไปถึงสามวินาที ตั้งแต่เกิดมานี่เป็นการโจมตีที่ทำให้เขารู้สึกอัปยศที่สุด ด้วยแท่งเหล็กที่มีอยู่จะต้องฆ่าเจ้านั่นให้ได้!
หลินมู่อวี่ไม่หันหลังกลับ ทว่าใช้ทักษะชีพจรวิญญาณเล็งเป้าหมายไว้ ทันใดนั้นมีดเสียงปีศาจก็บินออกมาและล่องหนหายไปในอากาศ
“นั่นอะไร…”
นักฆ่ามองไปในอากาศด้วยความสงสัย ก่อนจะถูกบางสิ่งกรีดเนื้อขาลึกจนเห็นกระดูก หากหลินมู่อวี่มีพลังมากกว่านี้อีกสักเล็กน้อยคงตัดขาจนขาดได้!
“ไอ้เด็กเมื่อวานซืน!”
นักฆ่าปริศนาปลดปล่อยอารมณ์โมโหถึงขีดสุด เขวี้ยงแท่งเหล็กออกไปอย่างรุนแรง!
……………………