The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา - EP.28 วิชาเข็มเงิน 2
EP.28 วิชาเข็มเงิน 2
อานุภาพจากการโจมตีของฮว๋าหวันรุนแรง ถึงขนาดที่ฝีเท้าดาวตกก็หลบไม่พ้น แต่หลินมู่อวี่ไม่คิดจะหลบแต่แรกอยู่แล้ว ด้วยเอาแต่หลบก็ไม่มีทางชนะ ดังนั้นเขาจึงรวมพลังไปที่ขา ก่อนจะกระโดดแล้วใช้กิ่งดอกสาลี่เหล็กรับการโจมตีของอีกฝ่าย
เสียงดังกึกก้อง เสื้อผ้าของชายหนุ่มขาดวิ่น เลือดไหลออกมาจากบาดแผลที่ยังปิดไม่สนิทของหลินมู่อวี่ การโจมตีด้วยวิญญาณยุทธ์ของฮว๋าหวันทำให้หลินมู่อวี่กระเด็นถอยหลังไปกองอยู่กับพื้น
ทว่าฮว๋าหวันยังไม่ทันได้ยินดี จู่ๆ แก้มด้านซ้ายก็รู้สึกแสบร้อน!
“ผัวะ!”
ในจังหวะที่หลินมู่อวี่จะกระเด็นถอยหลัง เขาหมุนตัวฟาดฮว๋าหวันไปครั้งหนึ่ง หากในมือของเขาไม่ใช่กิ่งดอกสาลี่เหล็ก แต่เป็นดาบเหล็กละก็ เกรงว่าเวลานี้ฮว๋าหวันคงจากโลกนี้ไปแล้ว
“แม่ง ไอ้เจ้าเศษสวะ! ข้าจะฆ่าเจ้าทิ้งซะ!”
ฮว๋าหวันพุ่งเข้าไปข้างหน้าอย่างเกรี้ยวกราด พร้อมกับเงื้อค้อนอัสนีขึ้น หมายจะโจมตี
“หยุดนะ!”
ในตอนนี้เอง ในที่สุดชวีฉู่ก็เดินออกมา ตวาดเสียงดังแล้วมายืนอยู่หน้าหลินมู่อวี่
แต่ฮว๋าหวันเป็นคนแบบไหนกันเล่า ถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก เคยอับอายแบบนี้เมื่อไหร่กัน ตอนนี้ต่อให้ใครมาขวางเขาก็ไม่สน ถึงจะเป็นองค์จักรพรรดิมาเขาก็จะฆ่าหลินมู่อวี่ให้จงได้!
“ฮึ!”
มีแววโกรธเกรี้ยวในตาของชวีฉู่ เขาไม่ขยับตัว ทันใดนั้นเกิดกระแสลมขึ้น แถมยังเป็นลมร้อนจากเปลวเพลิง วินาทีถัดมาติ่งอัคคีโปร่งแสงใบยักษ์ก็ลอยขึ้นมาจากพื้นดินห่อหุ้มร่างกายของชายชรา นี่ก็คือวิญญาณยุทธ์ของเขา ตำนานติ่งอัคคีชวีฉู่มีที่มาแบบนี้นี่เอง
“เปรี้ยง!”
ประกายไฟปลิวว่อน วิญญาณยุทธ์ของฮว๋าหวันสลายไปทันทีที่สัมผัสถูกติ่งอัคคี ความต่างชั้นของพลังมากเกินไป ขณะเดียวกันร่างของเขาก็ปลิวกระเด็นออกไปด้วยแรงกระแทกราวกับว่าวที่สายป่านขาด
ฮว๋าหวันร่วงกระแทกพื้นอย่างแรง กระอักเลือดสดๆ ออกมา ก่อนจะแหงนหน้ามองชวีฉู่ “ผู้อาวุโสชวี ทำไมท่านจึงช่วยเจ้าเด็กบ้านั่น นี่หมายความว่ายังไงกัน”
ชวีฉู่พูดเสียงเรียบ “หลินมู่อวี่เป็นลูกศิษย์ของเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ข้าฉู่เฟิง ข้าคงไม่ปล่อยให้ท่านฆ่าเขาแบบนี้หรอก ท่านเจ้าเมืองน้อย ทำอะไรควรจะเหลือทางถอยไว้บ้าง ถ้าท่านต้องการจะฆ่าหลินมู่อวี่ให้ได้จริงๆ เช่นนั้นก็ข้ามข้าให้ได้ก่อน แต่ถ้า…ท่านเจ้าเมืองฮว๋าเทียนพ่อของท่านไม่อยากเป็นเจ้าเมืองนี้แล้วละก็ ข้าพูดแค่ประโยคเดียว องค์จักรพรรดิกำจัดเจ้าเมืองของเมืองเล็กๆ อย่างหยินชานก็คงไม่ต่างอะไรกับการบี้มดตัวหนึ่ง”
ฮว๋าหวันเพิ่งเข้าใจความหมาย และเห็นเงาที่งดงามของถังเสี่ยวซีเดินออกมาจากห้องรับแขก เขาหน้าซีดเผือดทันที และลุกขึ้นยืนด้วยความช่วยเหลือจากองครักษ์ ก่อนจะประสานมือคารวะ “ข้าต้องขอโทษผู้อาวุโสชวีด้วย เมื่อครู่ตอนประลองกับหลินมู่อวี่ ข้าตื่นเต้นจนลืมยั้งมือ หวังว่าผู้อาวุโสชวีจะยกโทษให้”
ชวีฉู่ยิ้มเช่นกัน “คนหนุ่มชอบประลองเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าท่านเจ้าเมืองน้อยอยากจะประลองกับหลินมู่อวี่จริง ไม่สู้รออีกสามวันเล่า ถึงตอนนั้นถ้าท่านอยากจะฆ่าเขาจริง ข้าก็จะไม่ห้ามเลย ถ้าท่านฆ่าเขาได้นะ!”
ฮว๋าหวันพาพวกองครักษ์จวนเจ้าเมืองกลับไปด้วยความเจ็บใจ
หลินมู่อวี่ลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเลแล้วถามว่า “ผู้อาวุโสชวี ท่านบอกให้รออีกสามวัน หมายความว่าอย่างไรหรือ”
ชวีฉู่ยิ้มน้อยๆ “องค์หญิงซีอยู่ระดับวิญญาณสงครามระดับยี่สิบเก้าแล้ว ข้าตั้งใจว่าจะพานางไปฝึกเพิ่มเติมในป่าสัตตะดารา ล่าสัตว์วิญญาณที่เหมาะสมเพื่อให้นางบรรลุระดับสามสิบ หากเจ้าไม่รังเกียจ ข้าจะพาเจ้าไปด้วย และอาจจะช่วยชี้แนะเรื่องการฝึกวรยุทธ์ให้ด้วย เจ้าคิดว่าอย่างไร”
ฉู่เฟิงตอบด้วยความยินดีอย่างรวดเร็ว “อาอวี่ ทำไมยังไม่รีบพยักหน้าอีกเล่า”
หลินมู่อวี่หยักหน้าให้ชวีฉู่ “ขอบคุณผู้อาวุโสชวี!”
ฉู่เหยากลับมองเด็กสาวที่ยืนถัดจากนาง เด็กคนนี้เพิ่งจะอายุสิบเก้าปี อ่อนกว่านางหกปี แต่กลับฝึกจนถึงระดับยี่สิบเก้าแล้ว อีกหกปีจะยิ่งขนาดไหน แถมนางยังหน้าตางดงามถึงเพียงนี้ อายุเพียงเท่านี้ก็มี…หน้าอกที่อุดมสมบูรณ์ เอวคอดเล็ก มีเด็กสาวแบบนี้อยู่บนโลก นางไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ซะแล้วสิ
ถังเสี่ยวซีกลับมองหลินมู่อวี่ด้วยความดีใจ พร้อมกับคิดว่า ถ้าเจ้าหนุ่มซื่อบื้อคนนี้ร่วมเดินทางไปป่าสัตตะดารากับนาง อย่างน้อยการเดินทางคงจะไม่น่าเบื่อเท่าไหร่ ติ่งอัคคีชวีฉู่เป็นพวกเงียบขรึม วันๆ แทบไม่พูดอะไร เอาแต่วุ่นวายกับนาง มีหลินมู่อวี่ร่วมเดินทางไปด้วย บางทีอาจให้เขาปรุงโอสถมาให้นางเล่นระหว่างทางบ้างก็ได้ แน่นอนว่าสาวน้อยใจดำผู้นี้ไม่มีทางพูดออกมาดังๆ หรอก
ความคิดของชวีฉู่เรียบง่าย หลินมู่อวี่มีศักยภาพที่ยังไม่ได้ถูกขัดเกลาอยู่ ทั้งนิสัยและบุคลิกเป็นที่ถูกใจของชวีฉู่ แถมเจ้าเด็กนี่ยังมีวิชาปรุงโอสถในแบบของตนเองไม่เหมือนใครอีกด้วย ส่วนตัวเขาเองที่เป็น “มือสมัครเล่น” ที่สนใจวิธีปรุงโอสถอย่างมาก สามวันที่พาเจ้าเด็กนี่ไปฝึกด้วยอาจจะได้ความรู้ด้านการปรุงยาติดไม้ติดมือมาบ้าง
ความคิดของหลินมู่อวี่ยิ่งเรียบง่ายเข้าไปใหญ่ ติ่งอัคคีของชวีฉู่เอาชนะฮว๋าหวันได้ด้วยการโจมตีภายในครั้งเดียว ฝีมือของชายชราผู้นี้ไม่ธรรมดาแน่นอน การตามชวีฉู่ไปฝึกมีแต่ข้อดีไม่มีข้อเสีย ข้าอยากแข็งแกร่งขึ้น! แข็งแกร่งให้มากกว่านี้! กลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก! มีแต่ข้าที่รังแกผู้อื่นได้ คนอื่นไม่มีสิทธิ์มารังแกข้า! นับจากวันนี้ไปจะเป็นวันรังแกคนอย่างฮว๋าหวัน นี่สิถึงจะเรียกว่าชีวิตที่อิสระเสรี!
ยามค่ำหลังจากกินอาหารเสร็จ ฉู่เหยาเก็บข้าวของให้หลินมู่อวี่ ง่ายมาก แค่เสื้อผ้าหนึ่งชุดกับอาหารแห้งอีกนิดหน่อย นอกจากนั้นนางยังเตรียมดาบเหล็กกล้าและคันธนูไว้ให้หลินมู่อวี่ด้วย เพราะป่าสัตตะดาราเป็นสถานที่ไร้มนุษยธรรม เตรียมอาวุธไว้ย่อมดีกว่า
ก่อนไป ชวีฉู่ให้คำชี้แนะแก่ฉู่เหยาเล็กน้อย นอกจากนั้นยังให้ชุดเข็มเงิน ตำราผังชีพจรมนุษย์และตำราโอสถแก่นางด้วย
ฉู่เหยามองชุดเข็มด้วยสีหน้าฉงนแล้วถามว่า “ท่านปู่ชวี เข็มพวกนี้เอาไว้เย็บผ้าอย่างนั้นหรือ”
ชวีฉู่ส่ายหน้า “ไม่ใช่ เข็มเงินใช้สำหรับฝังจุดชีพจรเพื่อช่วยชีวิตต่างหาก แน่นอนว่าหากเจ้าฝึกการใช้เข็มพวกนั้นจนถึงระดับสุดยอด เข็มพวกนี้ยังสามารถเป็นอาวุธลับที่ใช้ฆ่าคนได้ คืนนี้ข้าจะถ่ายทอดวิชาการปาเข็มให้เจ้า เจ้าตั้งใจฝึกมันให้ดี ควบคู่กับศึกษาแผนภาพร่างกายและตำราโอสถ มันช่วยชีวิตคนได้ และคร่าชีวิตคนได้เช่นกัน เจ้าจะใช้มันอย่างไรก็แล้วแต่เจ้าเถอะ”
“ขอบคุณท่านปู่!” ฉู่เหยาดีใจอย่างยิ่ง