CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา - EP.307 ผนึกเทพอัคคี

  1. Home
  2. The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา
  3. EP.307 ผนึกเทพอัคคี
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

EP.307 ผนึกเทพอัคคี

“เหตุใดจึงออกมาข้างนอกดึกดื่นเช่นนี้?” หลินมู่อวี่ถามคำถามอื่นทันทีที่หันกลับ

หญิงสาวนามว่า ‘หงหลัว’ มีน้ำตาไหลอาบหน้า นางกะพริบตามองไปยังหลินมู่อวี่และเอ่ยถาม “เจ้าเป็นใคร เหตุใดข้าต้องบอกเจ้าด้วย?”

“ข้า?”

หลินมู่อวี่ยิ้มอย่างสดใส “โอ้ ข้ามาล่าสัตว์ในภูเขาน่ะ…”

หงหลัวตาแดงก่ำ “เจ้าโกหก ตราบนปกเสื้อบ่งบอกว่าเจ้าเป็นนายพลแห่งจักรพรรดิฉิน อีกทั้งมีดาวหลายดวง เจ้าต้องเป็นขุนนางชั้นสูง จ…เจ้าเป็นใครกันแน่?”

“ข้ากำลังถามเจ้า มิใช่ให้เจ้ามาถามข้า” ดวงตาหลินมู่อวี่เย็นชา “ตอบมา เจ้าออกจากค่ายและวิ่งเข้ามาภูเขานี้เพื่อการใด?”

หงหลัวนิ่งเงียบ น้ำตาไหลอาบแก้มสองข้าม ทว่านางขยับมือไปด้านหลังอย่างเงียบงันราวกับซ่อนบางสิ่ง

หลินมู่อวี่ขยับมือ ทันใดนั้นเถาวัลย์โผล่พ้นดินตวัดขึ้นทำให้สิ่งที่หงหลัวพยายามซ่อนไว้ใต้แขนเสื้อก็ตกลงบนพื้น ‘ปึก’ หลินมู่อวี่หยิบขึ้นมาและพบว่ามีม้วนหนังสือสองม้วนซึ่งมีตัวหนังขนาดใหญ่เขียนอยู่ ‘ผนึกดวงดารา’ ส่วนข้อความที่เหลือหลินมู่อวี่ไม่สามารถอ่านได้ เขาผงะและพูดว่า “นี่คืออะไร?”

หงหลัวน้ำตาไหล “เอาคืนมานะ!”

เสียงของนางดังเกินไป ทันใดนั้นก็มีเสียงเผ่าพันธุ์อสูรดังจากระยะไกล “มีคนอยู่ในป่า! เข้าไปดูเร็ว!”

‘พลั่ก!’ หลินมู่อวี่ใช้ฝ่ามือกระแทกต้นคอทำให้หงหลัวสลบ เขาเก็บม้วนหนังสือนั้นใส่ถุงสรรพสิ่ง ก่อนจะยกร่างหงหลัวขึ้นและใช้ฝีเท้าดาวตกตรงไปยังประตูเมือง ไม่ถึงสิบนาทีหลินมู่อวี่ก็มาถึง จากนั้นเถาวัลย์น้ำเต้าพลันเลื้อยขึ้นตามกำแพง หลินมู่อวี่จึงกระโดดขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

ทหารรักาการณ์หลายคนผงะ ภายใต้แสงจากคบเพลิง เมื่อพวกเขาเห็นหลินมู่อวี่อุ้มจิ้งจอกสาวกลับมาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม “ท่านแม่ทัพหลวง กลับมาจากล่าสัตว์แล้วหรือขอรับ?”

หลินมู่รู้สึกรู้สึกอายเล็กน้อยและไม่รู้ว่าควรจะอธิบายอย่างไร เขาจึงพูดว่า “เฝ้าระวังความเคลื่อนไหวด้านนอกซะ”

“ขอรับท่านแม่ทัพหลวง!”

…

เมื่อหลินมู่อวี่กลับมายังกระโจมพร้อมหงหลัวในอ้อมแขน เว่ยโฉว เซี้ยโหวซาง และคนอื่นๆ ต่างก็มารุมดูหงหลัวที่นอนอยู่บนฟูกด้วยสายตาเย็นชา

ฉือยิงประสานหมัด “แม่ทัพหลวง นอกจากหญิงรับใช้แล้วก็ไม่มีผู้หญิงอยู่ในค่ายทหารแห่งจักรวรรดิ จะ…จิ้งจอกนี้งดงามยิ่ง ทว่า…แม่ทัพหลวงมิควรทำผิดกฎเช่นนี้”

หลินมู่อวี่อธิบายด้วยความเขินอายเล็กน้อย “นายพลเฒ่าฉือมิได้เป็นเช่นนั้น ข้าเพิ่งแวะไปเยี่ยมค่ายเผ่าพันธุ์อสูรตอนกลางคืน และจับจิ้งจอกสาวผู้นี้กลับมา มิได้มีเหตุผลอื่นใดนอกจากต้องการข้อมูลที่มีประโยชน์จากปากนาง”

“เป็นเช่นนี้เอง…” ฉือยิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ชายเฒ่าผู้นี้กังวลมากเกินไป โปรดอภัยให้ข้าด้วยท่านแม่ทัพหลวง”

“ไม่เป็นไร ปลุกนางซะ”

“ขอรับ!”

เว่ยโฉวก้าวไปด้านหน้า เขาใช้ปลายนิ้วกดหน้าผากนางแผ่วเบา จากนั้นหงหลัวก็ตื่นขึ้นทันทีและจ้องมองผู้คนรอบบริเวณอย่างตื่นตระหนกพร้อมใบหน้าขาวซีด “จะ…เจ้าคนโหดเหี้ยม คืนม้วนหนังสือของข้ามานะ!”

“ม้วนหนังสืออะไร?” เว่ยโฉวตะลึง

หลินมู่อวี่หยิบม้วนหนังสือทั้งสองออกมาและยิ้ม “ข้าไม่ทราบว่ามันเขียนว่าอะไร มาดูสิว่าจะมีวิธีซักถามนางได้อย่างไรบ้าง เนื่องจากนางไม่ยอมบอกข้าถึงวัตถุประสงค์ในการโจมตีเมืองอสูร”

“ง่ายมาก!”

เซี้ยโหวซางเดินไปด้านหน้าด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย “ข้าไม่เคยเล่นสนุกกับเผ่าจิ้งจอกมาก่อน…”

หงหลัวตื่นตะหนกพร้อมน้ำตาไหลอาบแก้มอีกครั้ง นางมองไปยังหลินมู่อวี่ “เจ้ามนุษย์ เจ้าพาข้ามาที่นี่ เจ้าต้องปกป้องข้า จะ…เจ้าห้าม…”

หลินมู่อวี่ถือกระบี่ยาวในมือและกล่าวว่า “ทว่าเจ้าไม่บอกข้าว่าเหตุใดเผ่าอสูรจึงโจมตีเมือง ตราบใดที่เจ้าบอก ข้าจะรับรองความปลอดภัยให้ ตกลงไหม?”

น้ำตาไหลรินบนใบหน้างามของหงหลัว นางหลับตาและขยับมือปลดเสื้อผ้า ลูกบอลสีขาวราวกับหิมะสองลูกถูกห่อหุ้มอยู่ด้วยชุดชั้นในถูกเปิดออกเพียงเสี้ยววิและปิดลง “วีรสตรีกำลังตาย” นางพูดด้วยตาแดงก่ำ “หงหลัวจะไม่มีวันทรยศต่อท่านนักปราชญ์ หากเจ้ามนุษย์ชั่วร้ายต้องการความบริสุทธิ์ของหงหลัว ก็รีบเข้ามาซะ! ข้าไม่กลัวเจ้า!”

เว่ยโฉวตะลึง “ร…เราควรทำอย่างไรดี?”

เซี้ยโหวซางยิ้ม “ดูสิว่า ข้าจะทำอะไรกับเจ้าได้บ้าง…”

หลินมู่อวี่กระแอม “เซี้ยโหวหยุด ช่างเถิด ในเมื่อนางต้องการที่จะตาย ก็ถือว่าเจ้าได้ครอบครองนางแล้ว มิจำเป็นต้องลงมืออีก”

เซี้ยโหวซางพูดอย่างไม่เต็มใจ “ทว่ามันสามารถสร้างขวัญกำลังใจได้ขอรับ!”

“แล้วจะมีประโยชน์อะไรกับการสร้างขวัญกำลังใจให้เจ้าผู้เดียว? จำไว้ว่าเจ้าเป็นทหารแห่งจักรวรรดิ ไม่มีผู้ใดในใต้บังคับบัญชาของข้าสามารถขัดขืนคำสั่ง เข้าใจหรือไม่?”

“ขอรับท่านแม่ทัพ!”

หลินมู่อวี่เหลือบมองหงหลัวด้วยสายตาเย็นชาและกล่าวว่า “เจ้าถูกกักตัวไว้ที่ค่ายนี้ชั่วคราว ข้าจะตัดสินใจเรื่องการจัดการเจ้าภายหลังเมื่อสงครามสิ้นสุด”

หงหลัวมองหลินมู่อวี่ด้วยสายตาว่างเปล่าและมิได้พูดสิ่งใด

…

ในวันรุ่งขึ้นตามดังคาด เผ่าพันธุ์งูเกือบสี่หมื่นตัวเข้าโจมตีเมือง ทุกคนต่อสู้กันอย่างดุเดือดตลอดช่วงเช้า และได้รับความเสียหายทั้งสองฝ่าย ทว่าหลินมู่อวี่มองอีกฝ่ายอย่างทะลุปรุโปร่ง ตราบใดที่ทหารแห่งจักรวรรดิไม่ออกจากเมือง เผ่าพันธุ์อสูรก็ไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้ ในแง่ของความสามารถในการล้อมเมือง…เผ่าพันธุ์อสูรนั้นด้อยกว่ามาก พวกมันไม่มีแม้แต่บันได และต้องอาศัยสัญชาตญาณสัตว์ร้ายในการโจมตีเมืองเท่านั้น เมื่อหลินมู่อวี่โจมตีด้วยไฟ พวกมันก็แตกกระเจิงและเต็มไปด้วยหวาดกลัวทันที กองทัพเช่นนี้สามารถทำลายได้อย่างง่ายดาย เป็นเรื่องแปลกที่เมืองหน้าด่านกลับพ่ายแพ้…

ในช่วงบ่ายมีเสียงแตรสงครามดังขึ้น จากนั้นกองทัพเผ่างูก็ถอยกลับราวกับกระแสน้ำ

ประมาณครึ่งชั่วโมงถัดมา มีชายถือธงขาวขี่ม้าเข้ามาจากระยะไกล ชายผู้นั้นมาจากเผ่าพันธุ์จิ้งจอก เขามีหูและหางจิ้งจอก ทว่ามีเพียงสองหางเท่านั้น จิ้งจอกสวมชุดเกราะตนนั้นตะโกนดัง “ข้าเป็นทูตจิ้งจอกและมาเพื่อเจรจา!”

หลินมู่อวี่ยืนขึ้นพร้อมผ้าคลุมปลิวไสวอย่างสง่างาม “ข้าเป็นองครักษ์หลินมู่อวี่ ว่ามา!”

จิ้งจอกหนุ่มเงยหน้ามองหลินมู่อวี่และพูดว่า “เมื่อคืนท่านลักพาตัวจิ้งจอกสาวจากเผ่าพันธุ์ของเราใช่หรือไม่?”

“ใช่…แล้วทำไม?”

จิ้งจอกหนุ่มกัดฟัน “หลินมู่อวี่ กองทัพของพวกเราตัดสินใจสงบศึก ท่านยินดีหรือไม่?”

“หากท่านต้องการ ท่านก็สงบศึกไปฝ่ายเดียว? เช่นนั้นเกี่ยวอะไรกับจักรวรรดิฉิน?” หลินมู่อวี่เลิกคิ้วถาม

“แล้วเจ้าต้องการสิ่งใด?!”

“ข้าต้องการพบปราชญ์จิ้งจอกของท่านเพื่อเจรจาการสงบศึกด้วยตนเอง”

“ตกลง!” จิ้งจอกหนุ่มตอบโดยไม่คิด “หลังจากนี้หนึ่งชั่วโมง จงออกไปนอกประตูเมืองระยะหนึ่งไมล์ ท่านนักปราชญ์จะรออยู่ที่นั่น อยู่ที่เจ้าแล้วว่าจะกล้ามาหรือไม่ และจงพาหงหลัวมาด้วย”

“อืม ข้าจะไป”

หลินมู่อวี่หันกลับและกระโดดลงจากป้อมปราการ ก่อนจะปัดเศษดินออกจากหัวเข่า

เว่ยโฉวกล่าวเสียงนิ่ง “ท่านแม่ทัพ มิใช่ว่ามันอันตรายเกินไปที่จะออกไปเจรจาสงบศึกคนเดียวหรือขอรับ?”

“ไม่เป็นไร เจ้าเพียงนำทหารหนึ่งร้อยนายตามข้าไกลๆ”

“ขอรับ!”

…

หลินมู่อวี่ขี่ม้าออกจากประตูเมืองอย่างเชื่องช้าพร้อมถือกระบี่วิญญาณมังกร ขณะเดียวกันก็จูงม้าที่มัดหงหลัวไว้บนนั้น ทันทีที่หลินมู่อวี่ออกมา เขาก็ได้กลิ่นเหม็นคาวตลบอบอวล การต่อสู้ผ่านมาสิบวันแล้ว ศพที่นอนตายเกลื่อนกลาดด้านใต้ของเมืองเป็นจุดสะสมของแมลงวันที่มาตอมและวางไข่ในฤดูใบไม้ผลิ จึงทำให้ศพเหล่านี้เน่าเหม็นเร็วขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากไม่สามารถฝังพวกเขาได้ทันเวลาอาจส่งผลให้เกิดโรคระบาดตามมา

เว่ยโฉว เซี้ยโหวซาง และคนอื่นๆ นำทหารม้าหนักอวี้หลินจำนวนหนึ่งร้อยนายตามหลังไป ขณะเดียวกันก็ให้ทหารผ่านศึกฉือยิงอยู่เฝ้าเมือง เมื่อมองไปยังเด็กหนุ่มเหล่านี้ เขาก็ลูบเคราขาวและกล่าวว่า “เด็กหนุ่มพวกนี้กล้าหาญยิ่งนัก! ไม่ธรรมดาอย่างแท้จริง”

…

ห่างออกไปหนึ่งไมล์นอกตัวเมือง เมื่อหลินมู่อวี่นำหงหลัวลงจากม้า ก็มีกลุ่มคนเดินมาจากระยะไกล จากนั้นหญิงสาวในชุดคลุมสีแดงเพลิงก็ลงจากม้าแล้วเดินมาด้วยตนเอง รูปลักษณ์ภายนอกนั้นงดงามและบริสุทธิ์ นางเป็นคนจากเผ่าพันธุ์จิ้งจอกที่มีหางเพลิงสามหางกวัดแกว่งอยู่ด้านหลัง ซึ่งทำให้หลินมู่อวี่อดไม่ได้ที่จะคิดถึงถังเสี่ยวซี ทว่าถังเสี่ยวซีเป็นอสูรจิ้งจอกเก้าหางที่ดูสง่างามและทรงพลังมากกว่าปราชญ์ตนนี้

“ท่านนักปราชญ์ โปรดลงโทษหงหลัวที่ทำให้ทุกสิ่งแย่ลง!” หงหลัวร้องไห้ฟูมฟายจากระยะไกล

“เจ้าเป็นอะไรหรือไม่หงหลัว?” นักปราชญ์เอ่ยถามอย่างกังวล

“ข้าไม่เป็นไร ทว่าม้วนหนังสือ…ถูกมนุษย์ผู้นี้ขโมยไป”

“อะไรนะ?! ม้วนหนังสือถูกขโมยไป?” นักปราชญสาวกัดฟันแน่น

หลินมู่อวี่ปล่อยหงหลัวไป ก่อนจะวางกระบี่วิญญาณมังกรลงพื้น และยกมือทั้งสองขึ้น “ท่านคือนักปราชญ์แห่งเผ่าเทพอัคคีสินะ เช่นนั้นบอกข้ามา เหตุใดเผ่าพันธุ์อสูรจึงโจมตีเมือง ทั้งสองเผ่าพันธุ์อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขมาตลอดมิใช่หรือ?”

“หือ?”

ดวงตานักปราชญ์ฉายแววอาฆาต “เจ้าส่งกองทัพมาตามล่าท่านเทพธิดาจิ้งจอกเก้าหาง เช่นนี้เรียกว่าสงบสุขหรือ?”

“เทพธิดาจิ้งจอกเก้าหาง?”

หลินมู่อวี่กล่าว “มันเป็นจิ้งจอกเก้าหาง แม้พวกเราเหล่ามนุษย์จะไล่ล่ามัน แล้วสิ่งนั้นเกี่ยวอะไรกับเจ้า?”

นักปราชญ์พลันสะบัดแขนเสื้อของนาง ทันใดนั้นเปลวเพลิงก็ลุกโชนทั่วร่างกาย พร้อมหางทั้งสามชูขึ้นอย่างรวดเร็ว ท่าทางของนางช่างน่าเกรงขาม ปราชญ์จิ้งจอกกล่าวเสียงดัง “เทพธิดาจิ้งจอกเก้าหางเป็นท่านเทพที่พวกเราเผ่าพันธุ์อสูรนับถือ เจ้าพูดเช่นนั้นออกมาได้อย่างไร?!”

“ช้าก่อน”

หลินมู่อวี่ยกมือขึ้น “อย่ารีบร้อนไป ข้าไม่ใช่ผู้ที่ไล่ล่าและสังหารเทพธิดาจิ้งจอกเก้าหาง ตรงกันข้าม…ข้าเป็นผู้ที่ปกป้องนาง อีกทั้งถังเสี่ยวซีเป็นสหายรักของข้า เช่นนั้นข้าจะสังหารนางได้อย่างไร?”

“จ…เจ้ารู้จักกับท่านเทพธิดาจิ้งจอกเก้าหางหรือ?”

“ไร้สาระ นางชื่อถังเสี่ยวซี เป็นหนึ่งในผู้สืบทอดตระกูลถังแห่งเมืองชีไห่…ช่างหุนหันพลันแล่นยิ่งนักที่โจมตีเมืองอสูรโดยไม่รู้ความจริงแม้แต่น้อย!”

“ร…เรา…”

นักปราชญ์แสดงท่าทีละอายใจและกล่าวว่า “ท่านทหาร…หากท่านรู้จักท่านเทพธิดาจิ้งจอกเก้าหางจริง ให้ข้าได้พบนางได้หรือไม่?”

“หมายความว่าอย่างไร?” หลินมู่อวี่เอ่ยถาม

“นั่นเพราะ…” นักปราชญ์อธิบาย “เผ่าพันธุ์อสูรรอคอยท่านเทพธิดาจิ้งจอกเก้าหางลงมาจุติกว่าหมื่นปี ภารกิจเดียวของพวกเราคือช่วยท่านเทพธิดาจิ้งจอกเก้าหางขึ้นสู่สรวงสวรรค์ หากท่านรู้จักนางจริง ได้โปรดช่วยให้ข้าได้พบนางด้วยเถิด แล้วข้าจะมอบม้วนตำราผนึกเทพอัคคี”

“ม้วนตำราผนึกเทพอัคคี?” หลินมู่อวี่ผงะ

“ใช่ สิ่งที่ท่านนำไปคือผนึกดวงดาราชั้นที่สิบ ข้ามีอีกสองชิ้นซึ่งเป็นผนึกแห่งเทพชั้นที่สิบเอ็ด และผนึกเทพจิ้งจอกชั้นที่สิบสอง ท่านทหารรู้จักผนึกเทพอัคคีใช่หรือไม่?”

หลินมู่อวี่ตะลึงงันไปสามวินาทีและกล่าวว่า “ในแผ่นดินมนุษย์ ผนึกเทพอัคคีมีอีกชื่อเรียกว่าผนึกจิ้งจอกอัคนี…มันเป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวของตระกูลถังแห่งเมืองชีไห่…”

นักปราชญ์นิ่งเงียบ “…”

ทุกคนต่างคิดว่าผนึกจิ้งจอกอัคนีมีเพียงเก้าชั้น ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะยังมีอีกสามชั้น ซึ่งรวมทั้งสิ้นเป็นสิบสองชั้น! แทบจินตนาการไม่ได้เลยว่าถังเสี่ยวซีจะแข็งแกร่งมากเพียงใดหากได้เรียนรู้ผนึกเทพอัคคีทั้งสิบสองชั้น?

เมื่อคิดได้เช่นนี้หลินมู่อวี่ก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย จิ้งจอกเก้าหางไม่ใช่อสูร ทว่าเป็นเทพเจ้า โชคดีที่ถังเสี่ยวซีมิได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นอสูร ทว่าถูกเปลี่ยนให้เป็นอมตะ!

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "EP.307 ผนึกเทพอัคคี"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์