The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา - EP.369 แข็งแกร่งอย่างแท้จริง
EP.369 แข็งแกร่งอย่างแท้จริง
‘สัตว์ประหลาด’ ดวงตาสีแดงเลือดอยู่ทั่วทั้งบริเวณภูเขาและที่ราบ พวกมันมีร่างกายใหญ่โตพร้อมอาวุธขนาดใหญ่ดูน่าเกรงขาม ขณะที่เฝ้ามองกองทัพมนุษย์ออกจากเมือง พวกสัตว์ประหลาดส่งเสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวพร้อมขว้างศีรษะของทหารราบเกราะหนัก
“ยกโล่ขึ้น!”
สิ้นเสียงตู้ไห่ ทหารแนวหน้ายกโล่ขึ้นทันที ทันใดนั้นหัวของทหารตกกระทบโล่จนกระเด้งออกไป แม้จะไม่สร้างความเสียหาย ทว่าเหล่าทหารแห่งจักรวรรดิมองหน้ากันอย่างตื่นจะหนก ศีรษะเหล่านี้ถูกโยนมาหลายร้อยเมตร นี่มันพละกำลังอะไรกัน?
“ทหาร!”
ตู้ไห่ขมวดคิ้ว “แปรทัพหอกและโล่! พลธนูเตรียมพร้อม! ทหารม้าบุกสังหาร!”
ตู้ไห่เคยเป็นผู้บัญชาการกองทัพ แม้ว่าจะไม่มีกองทัพของตนเองแล้ว ทว่าความสามารถในการบัญชาการต่อสู้ยังคงโดดเด่นเสมอ
…
หอกและโล่เคลื่อนตัวเข้าไปใกล้อย่างเชื่องช้า ขณะที่สัตว์อสูรราวห้าพันตัวส่งเสียงคำรามลั่นและรีบลงจากเนินพร้อมถืออาวุธหนีคืบคลานออกจากความมืด
“พลธนู ยิง!” ตู้ไห่ออกคำสั่งเสียงดัง
พลธนูด้านหลังโล่ยกคันศรและยิง จากนั้นลูกธนูพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าก่อนจะตกใส่กลุ่มสัตว์ประหลาด ทว่าทั้งร่างกายของสัตว์ร้ายปกคลุมไปด้วยเกราะแข็ง ทำให้ลูกศรของทหารมนุษย์ไม่สามารถเจาะเข้า พวกมันปรี่เข้ามาอย่างรวดเร็วราวกับลมกรดพร้อมโบกสะบัดอาวุธในมือดูน่าเกรงขาม!
“เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง!”
โล่และทหารลอยกระเด็น พลังของสัตว์ประหลาดเหล่านี้ทรงพลังเกินกว่ามนุษย์จะต่อกรได้
‘โฮก!’
สัตว์ร้ายถือหอกโจมตีทะลวงหน้าอกทหารโล่อย่างรวดเร็ว ก่อนจะกัดคอทหารอีกนายและฉีกออกจนเป็นแผลเหวอะ จากนั้นทหารรอบๆ พลันตวัดคมดาบและหอกใส่ ทว่าน่าเสียดาย…อาวุธของพวกเขาไม่สามารถทะลวงเกราะแข็ง ก่อนจะกระเด็นออกทันที
“บัดซบ!” ตู้ไห่ควบม้าออกไปพร้อมดาบยาวที่ปกคลุมไปด้วยปราณยุทธ์ เขาฟาดดาบเข้าใส่แผ่นหลังสัตว์ประหลาดเต็มแรง ทว่าไม่สามารถฟันมันขาดครึ่ง จากนั้นสัตว์ร้ายหันกลับมาด้วยความเจ็บปวดพร้อมเหวี่ยงขวานอย่างโกรธเกรี้ยว ขณะที่ตู้ไห่โจมตีตะโกนดัง “กองพันโกลาหล!”
“ฟู่….”
เลือดสาดกระเซ็นพร้อมสัตว์ประหลาดถูกผ่าออกเป็นสองส่วน ก่อนที่ร่างของมันจะกระตุกอยู่บนพื้น แต่พวกมันไม่ตายในทันที
ตู้ไห่เงยหน้าขึ้นและพบว่ากองทหารของตนกำลังถูกสัตว์ประหลาดกว่าห้าพันตัวเข่นฆ่า พวกมันไม่ได้เพียงแค่เป็นอมตะ ทว่าทรงพลังมาก! อีกทั้งเข่นฆ่าผู้คนด้วยอาวุธทื่อได้อย่างง่ายดาย ตู้ไห่รู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย เขาจะสามารถสังหารสัตว์ประหลาดนี้ได้สักกี่ตัว…การฆ่าหนึ่งตัวต้องใช้ปราณยุทธ์ไปเกือบสิบเปอร์เซ็นต์ หากต้องฆ่ามากกว่านี้ ตนเองคงต้องตายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“จะทำเช่นไรดี…”
ตู้ไห่เงยหน้าขึ้น ก่อนจะเห็นกองกำลังศักดิ์สิทธิ์บุกเข้ามาเสริมจากทางด้านหลัง
…
“เปลี่ยนไปใช้ศรเศวตรมณี และยิงอีกครั้ง!” หลินมู่อวี่ออกคำสั่งเสียงดัง
ทหารจากกองกำลังศักดิ์สิทธิ์ต่างเป็นผู้ชำนาญการด้านธนูและการขี่ม้า พวกเขาจึงเป็นทหารม้าที่เก่งกล้า จากนั้นศรเศวตรมณีนับไม่ถ้วนถูกยิงออก “ฟิ้ว” ทันใดนั้น! เลือดสาดกระเซ็นทั่วบริเวณพร้อมสัตว์ร้ายราวแปดตัวถูกยิงตาย ทว่าพวกเขาไม่ยอมหยุดเพียงเท่านั้น ก่อนจะหยิบลูกศรขึ้นมายิงอย่างต่อเนื่อง
“บุกฆ่ามันซะ!” เฉินฮั่นชักกระบี่และตะโกนดังลั่น
หลินมู่อวี่รีบรุดไปด้านหน้ากองทหาร ทวนดอกหลีฮวาพุ่งทะลุหัวใจสัตว์ประหลาดอย่างเยือกเย็น ก่อนจะระเบิดจนหัวใจแหลกทันที
ใบมีดของทวนดอกหลีฮวาชุบด้วยเพชรสีขาวจึงมีความคมมาก!
เถาวัลย์น้ำเต้าสีทองส่องแสงพร้อมพันธนาการสัตว์อสูรหลายตัวบริเวณใกล้เคียง ขณะที่พวกฉินเหยียนเข้ามาตัดหัวสัตว์ร้ายสะบั้น ทว่าพวกมันมีจำนวนมากเกินไป…และกองทหารไม่ได้มีพลังยุทธ์มากมายเช่นหลินมู่อวี่ ฉินเหยียน หรือตู้ไห่ เมื่อสัตว์ประหลาดนับร้อยบุกเข้าโจมตีจัตุรัสของค่าย จึงเกิดการนองเลือดอีกครั้ง
หลินมู่อวี่มองดูกองกำลังศักดิ์สิทธิ์ถูกสัตว์ประหลาดกัดหัวจนสมองกระจาย ขณะที่ทหารผู้อ่อนแอหลายคนถูกหอกแหลมแทงทะลุร่าง สิ่งที่หลินมู่อวี่ทำได้มีเพียงกวัดแกว่งทวนดอกหลีฮวาสังหารสัตว์อสูรทีละตัว ปราณยุทธ์ถูกใช้ไปอย่างมหาศาลเนื่องจากต้องระเบิดพลังเจาะเกราะแข็ง มิเช่นนั้นแม้แต่ทวนเคลือบเพชรขาวก็ไม่สามารถทะลวงได้
ทหารฝ่ายมนุษย์กรีดร้องโหยหวนพร้อมล้มตายอย่างรวดเร็ว!
หลินมู่อวี่ชักกระบี่วิญญาณมังกรตัดหัวสัตว์ร้ายพร้อมเลือดสาดกระเซ็นอาบใบหน้า เขารีบเช็ดมันออกและกล่าวเสียงดัง “แม่ทัพตู้ไห่ ถอยไป! ไม่อย่างนั้นพวกท่านจะตายกันหมด!”
ตู้ไห่ดูหมดหนทาง “เซินเว่ยโหวยังไม่ตีกลองส่งสัญญาณให้ถอย แล้วข้าจะทำเช่นไร?”
หลินมู่อวี่รีบหันมองไปทิศของเมือง มีการปะทะที่ด้านใต้ ทว่ากลับไม่มีความเคลื่อนไหวจากตัวเมือง หัวใจหลินมู่อวี่พลันเย็นเฉียบ หรือว่าหมินยวี่หลินกำลังวางแผนปล่อยให้ตู้ไห่และตัวเขาตายอยู่นอกเมืองแห่งนี้?
จู่ๆ เสียงแตรประหลาดดังขึ้นจากเนินเขา ก่อนที่สัตว์ประหลาดนับหมื่นจะกรูกันออกมา!
“แย่แล้ว!” หลินมู่อวี่ตื่นตระหนก ในระยะไม่ถึงยี่สิบนาที ค่ายกองกำลังศักดิ์สิทธิ์สูญเสียทหารไปกว่าครึ่ง หากเป็นเช่นนี้ต่อไป อาจโดนกวาดล้างจนสิ้น!
ขณะเดียวกันสัตว์อสูรตัวหนึ่งปรี่เข้ามาหา มันแตกต่างจากตัวอื่นเนื่องจากขี่หมาป่าสงครามที่ดุร้าย หมาป่าตัวนั้นตาบอดหนึ่งข้าง ขณะที่สัตว์อสูรบนหลังถือค้อนศึกขนาดใหญ่พร้อมจิตสังหารที่แผ่ออกมา มันพุ่งตรงไปทุบศีรษะทหารจนเละ ก่อนจะคำรามลั่นและตรงมาทางหลินมู่อวี่อย่างรวดเร็ว
“วิ้ง!”
กำแพงน้ำเต้าปรากฏขึ้นด้านหน้าหลินมู่อวี่ พร้อมกระดองเต่าทมิฬและปราการเกล็ดมังกร หลินมู่อวี่รวบรวมปราณสิบเปอร์เซ็นต์เพื่อป้องกัน ขณะที่ทักษะชีพจรวิญญาณตรวจจับได้ถึงความแข็งแกร่งที่พวยพุ่งจากศัตรู
“เปรี้ยง!”
ค้อนศึกปะทะรุนแรงจนกำแพงน้ำเต้าก็พังทลายทันที หลินมู่อวี่และม้าถูกพลังกระแทกลอยออกไป พร้อมมีเลือดไหลอาบหน้าอก ขณะที่ปราณยุทธ์เหือดหายเกือบทั้งหมด เขาต้องเผชิญหน้าสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งเช่นนี้…แล้วจะสามารถเอาชนะได้อย่างไร?
จากนั้นฉินเหยียนตะโกนดังพร้อมฟาดหอกใส่สัตว์ร้าย ทว่ากลับถูกตบกระเด็นไปอีกทางอย่างรวดเร็ว
หลินมู่อวี่รีบหันกลับและใช้กระบี่พยุงตัวขึ้น “อาเหยียน ทิ้งคำสั่งของเซินเว่ยโหวและพาทุกคนหนีออกไป พวกเราจะตายที่นี่ทั้งหมดไม่ได้!”
“ขอรับ!”
ฉินเหยียนและเฉินฮั่นพากองกำลังศักดิ์สิทธิ์ถอยกลับทันที
หลินมู่อวี่รวบรวมปราณยุทธ์จนถึงขั้นสูงสุด เขากัดฟันแน่นขณะที่กระบี่ปกคลุมไปด้วยแสงน้ำเต้าทอง พร้อมกันนั้นพลังโซ่เทวะพลุ่งพล่านอยู่ภายใน ก่อนที่หลินมู่อวี่จะฟาดกระบี่ออกไปกลางอากาศรุนแรง!
ห้าประทีปทะลายแปดทิศ!
“โฮก!”
จ่าฝูงสัตว์ร้ายคำรามลั่นพร้อมเหวี่ยงค้อนศึกที่มีหนามแหลมปะทะกระบี่วิญญาณมังกร ศึกครานี้เริ่มจะยากขึ้นเรื่อยๆ…
“เปรี้ยง!”
อากาศรอบบริเวณผันผวนพร้อมแสงสีทองทะยานขึ้นสู่ท้องนภา พลังกระบี่ของหลินมู่อวี่ไม่เคยเป็นรองใคร ทว่าศัตรูครานี้ดูเหมือนจะแข็งแกร่งยิ่งกว่า ขณะที่กำลังปะทะกัน แรงกดทับพวยพุ่งออกมาจนทำให้แขนและกระบี่ของหลินมู่อวี่สะบัดออก จ่าฝูงขี่หมาป่าสงครามพุ่งเข้ามาและจับจ้องด้วยสายตาอาฆาต ก่อนจะเอื้อมมือคว้าลำตัวหลินมู่อวี่ทันที นี่มันต้องการจับเขาไปทั้งเป็นอย่างนั้นรึ?!
หลินมู่อวี่สะบัดตัวเตะข้อมืออีกฝ่าย ก่อนตกลงมาบนพื้น เขายกมือขึ้นเรียกเปลวไฟลุกโชนทั่วใบดาบขณะที่วิ่งเข้าปะทะจ่าฝูงอีกครั้ง “เปรี้ยง!” กระบี่วิญญาณมังกรทะลวงเกราะปราณยุทธ์สีดำ ทว่าสร้างบาดแผลให้ศัตรูได้เพียงเล็กน้อย ก่อนจะถูกหมัดของอีกฝ่ายกระแทกลอยออกไป
“โฮก!”
จ่าฝูงสัตว์ประหลาดมองแขนที่บาดเจ็บด้วยดวงตาสีแดงก่ำ มันแสดงท่าทางโหดเหี้ยมยิ่งขึ้น ดูเหมือนว่าสัตว์ร้ายจะรู้วิธีใช้ปราณยุทธ์ ซึ่งปราณของมันเป็นสีดำแตกต่างจากมนุษย์ สัตว์อสูรพลันกำค้อนสงครามในมือแน่นพร้อมจ้องมองหลินมู่อวี่ด้วยสายตาอาฆาตแค้น
ส่วนหลินมู่อวี่เหนื่อยหอบขณะที่โคจรปราณยุทธ์ เขาหันมองดูทหารแห่งจักรวรรดิระยะไกลก่อนจะตะโกนดัง “ท่านตู้ไห่ เหตุใดจึงยังไม่หนีไป อยากจะตายทั้งคู่รึ!?”
ตู้ไห่ชักกระบี่ยาวพุ่งตรงมาและตะโกนเสียงดัง “เจ้าไปก่อน ข้าจะคุ้มกันให้!”
“ตูม!”
จ่าฝูงโจมตีเพียงครั้งเดียว ทว่ากลับทำให้ทั้งโลกดูมืดมิดในฉับพลัน ค้อนสงครามแหวกอากาศรุนแรงพร้อมเสียงดังราวกับฟ้าผ่า
หลินมู่อวี่แอบคำรามลั่นในใจรวบรวมพลังเจ็ดประทีปไว้ที่ใบดาบ ก่อนจะยกมือซ้ายที่มีริ้วไหมหลากสีควบแน่น นี่คือแสงจากกลยุทธ์ดวงดาราขั้นที่สอง ‘โซ่ดวงดาว’ ทันใดนั้น! โซ่ดวงดาวแปรเปลี่ยนเป็นดาวนับพันพวยพุ่งออกไปพร้อมหลินมู่อวี่ที่ฟาดกระบี่วิญญาณมังกรใส่ศัตรู…หกประทีปชิงโลกา!
“ตูม!!”
พลังทั้งสองปะทะกันรุนแรงก่อเกิดเป็นพายุหมุนขนาดใหญ่จนทำให้มนุษย์และสัตว์อสูรรอบบริเวณถอยหนี
“อึก…”
เลือดไหลทะลักออกปากขณะที่หลินมู่อวี่ถูกกระแทกลอยไปไกลและตกลงในโคลน เกราะสีขาวของวิหารถูกย้อมเป็นสีโคลนอย่างรวดเร็ว ด้านจ่าฝูงสัตว์ประหลาดไม่ได้อยู่ในสภาพดีนัก มันถอยหลังไปหลายสิบเมตรพร้อมหมาป่าสงคราม ฝ่ามือที่ถือค้อนศึกมีเลือดไหลอาบหยดลงพื้น
ขณะเดียวกัน ตู้ไห่พุ่งมาฟันคอจ่าฝูงอย่างรุนแรงจากด้านหลังพร้อมตะโกนดัง “หลินมู่อวี่! เจ้ายังไม่ไปอีก!? รีบไปซะ เจ้าเป็นราชบุตรบุญธรรมของจักรพรรดิพระองค์แรก ซึ่งชีวิตมีคุณค่ายิ่งกว่าคนแก่เช่นตู้ไห่ รีบไป!”
หลินมู่อวี่ยืนขึ้นด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะรีบขึ้นม้าและควบกลับเมือง เมื่อหันมองกลับไป…ก็พบว่าตู้ไห่และทหารกว่าหนึ่งหมื่นนายส่งเสียงร้องโหยหวนอย่างน่าเวทนาในสนามรบ…
………………………………….