CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา - EP.370 อสูรปีก

  1. Home
  2. The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา
  3. EP.370 อสูรปีก
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

EP.370 อสูรปีก

ฉินเหยียนและเฉินฮั่นออกมาต้อนรับเมื่อหลินมู่อวี่มาถึงใต้เมือง ทุกคนเข้าไปด้านในก่อนที่ประตูจะปิดลง ดูเหมือนว่าหมินยวี่หลินตัดสินใจละทิ้งกองทหารแห่งจักรวรรดิไว้กับกลุ่ม ‘สัตว์ประหลาด’ ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และล้อมรอบกองทหารของตู้ไห่ ดูเหมือนว่าตู้ไห่และกองทหารคงไม่สามารถกลับออกมาได้อีก…

…

หลินมู่อวี่เลือดไหลกบปากพร้อมความเจ็บปวดที่แล่นผ่านทั่วร่างกาย ฉินเหยียนช่วยพยุงหลินมู่อวี่เข้ามาถึงประตูเมืองด้านใน ขณะที่เหล่านายพลรอบบริเวณมองมาด้วยสายตาเฉยเมย

“ท่านหลินมู่อวี่บาดเจ็บหรือไม่?” หมินจ้านผู้บัญชาการกองทัพเทียนฉงเดินเข้ามาเอ่ยถาม

“ไม่เป็นไรขอรับ ขอบคุณท่านแม่ทัพที่เป็นกังวล”

ใบหน้าหลินมู่อวี่หม่นหมองขณะเดินมาหาหมินยวี่หลิน “ท่านเซินเว่ยโหว พวกเราพ่ายแพ้…”

ใบหน้าหมินยวี่หลินซีดเผือดและพยักหน้ารับ “ข้ารู้…ท่านผิดข้าก็ผิดเช่นเดียวกัน…ขอบคุณแม่ทัพหลินที่พยายามอย่างหนัก”

หมินยวี่หลินขมวดคิ้วและกล่าวอย่างเจ็บปวด “เจ้าพวก…สัตว์อสูร แข็งแกร่งถึงเพียงนั้นเลยรึ?”

“ขอรับ”

หลินมู่อวี่นั่งลงพร้อมประสานหมัด “สัตว์ประหลาดทั่วไปมีพลังยุทธ์เทียบเท่ากับขอบเขตปฐพี พวกมันมีหนังหนาและหยาบกร้าน ซึ่งดาบธรรมดาไม่สามารถเจาะได้ ส่วนจ่าฝูง…มีพลังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า อาจเทียบเท่ากับจอมยุทธ์ขอบเขตนภาชั้นที่สามจนถึงขอบเขตปราชญ์ และบางทีอาจใกล้เคียงกับเทพเจ้า…”

“ใกล้เคียงกับเทพเจ้า…” หมินยวี่หลินตะลึง “พวกมันมาจากที่แห่งใด?”

“ข้าไม่ทราบขอรับ”

เมื่อหลินมู่อวี่มองไปทางประตูเมือง เขารู้สึกปวดร้าวดั่งลูกศรนับหมื่นแทงทะลุหัวใจ “แม่ทัพตู้ไห่…เสียชีวิตแล้ว แม่ทัพเทพอันดับหนึ่งแห่งจักรวรรดิจากไปแล้ว…”

“อาจไม่เป็นเช่นนั้น”

หมินจ้านกล่าว “แม่ทัพตู้ไห่มีพลังขอบเขตปราชญ์ บางทีเขาอาจฝ่าวงล้อมออกมาได้…”

“ไม่ขอรับ”

หลินมู่อวี่ยืนขึ้นพร้อมวางมือเปื้อนเลือดบนกำแพง เมื่อมองออกไปนอกเมือง…พบว่าการต่อสู้ใกล้สิ้นสุดลงแล้ว กองทหารหยางเว่ยทั้งสองหมื่นนายถูกกองทัพสัตว์อสูรกวาดล้างจนสิ้น ทว่าฝ่ายศัตรูกลับสูญเสียไปเพียงสองพันตัวเท่านั้น

เสียงกลองสงครามค่อยๆ หยุดลง สัตว์อสูรบางตนกำลังกัดกินซากทหาร ขณะที่บางตนยึดชุดเกราะและอาวุธ

หนึ่งในสัตว์ประหลาดเดินเข้าอย่างเชื่องช้า มันคือตัวจ่าฝูงที่ถือหัวชุ่มเลือดในมือ สัตว์ร้ายพลันยกหัวนั้นขึ้นเมื่อมาถึงใต้เมือง…นั่นคือหัวของตู้ไห่!

หมินยวี่หลินอดไม่ได้ที่จะหลับตาและเบือนหน้าหนี ขณะที่ร่างกายสั่นเทิ้ม

“ไอ้ปีศาจพวกนี้…”

ฉินเหยียนกัดฟันแน่น “พวกมันสังหารท่านแม่ทัพตู้ไห่…ไอ้สารเลว…”

ขณะเดียวกันทหารนายหนึ่งรีบวิ่งเข้ามารายงาน “ท่านเซินเว่ยโหว พวกสัตว์อสูรปรากฏตัวทางทิศใต้ ตะวันออก และตะวันตกของเมือง พวกเราถูกปิดล้อมแล้วขอรับ!”

หมินยวี่หลินตัวสั่นเล็กน้อยและเอ่ยถาม “พวกมันมีจำนวนเท่าใด…”

“มากกว่าห้าหมื่นตัวขอรับ”

“อืม รอดูท่าทีมันก่อน”

“ขอรับ!”

…

หมินยวี่หลินหน้าตามัวหมองและดูแก่ขึ้นไปหลายปี เขามองทุกคนด้วยสายตาขุ่นมัว “ท่านแม่ทัพทั้งหลาย มาหารือกันเถิด ขณะนี้เราควรทำสิ่งใด?”

ใบหน้าซูเหวินเทียนแปรเปลี่ยนเป็นสีเทา “กองกำลังของเราเหลือเพียงครึ่งเดียว ข้าเกรงว่าอาจไม่สามารถต่อกรกับศัตรูได้อีกต่อไป ดังนั้นคงทำได้เพียงขอกำลังเสริม ข้าหวังว่าหลานกงและหยุนกงจะสามารถส่งกองทัพมาได้ หากมีทหารแห่งจักรวรรดิสามแสนนาย พวกเราคงสามารถเอาชนะสัตว์ประหลาดห้าหมื่นตัวนี้ได้อย่างแน่นอน!”

หลินมู่อวี่เหลือบมองและกล่าวว่า “จักรวรรดิไม่มีกองกำลังมากมายอีกต่อไป มีเพียงทหารเกณฑ์เท่านั้น หากต้องต่อสู้กับสัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง คงเท่ากับการส่งพวกเขาไปสู่ความตาย”

“เช่นนั้นเราจะทำสิ่งใดได้อีก เพียงรอความตายรึ?” ซูเหวินเทียนกัดฟัน

หลินมู่อวี่ไม่ต้องการโต้เถียงกับเขา

ขณะนี้แม้แต่นายพลอย่างหวังซีและฉือยิงก็ทำสิ่งใดไม่ถูก สัตว์ประหลาดเหล่านี้แข็งแกร่งมากราวกับเป็นสัตว์จากสรวงสวรรค์

ทันใดนั้นทหารนายหนึ่งเข้ามารายงาน “ท่านเซินเว่ยโหว พวกมันส่งทูตมาที่นี่ขอรับ”

“โอ้?”

หมินยวี่หลินกล่าว “ให้มันเข้ามา”

“ขอรับ!”

คันศรถูกง้างเล็งไปยังประตู ด้านใต้เมืองมี ‘มนุษย์’ ขี่ม้าศึกพร้อมมี ‘อสูร’ สองตนติดตามมา คนผู้นั้นถอดผ้าคลุมมองกลุ่มทหารมนุษย์บนกำแพงเมืองตงฉวง ก่อนจะควบม้าผ่านประตูเข้าไปขณะที่ริมฝีปากยกขึ้นราวกับเหยียดหยาม

กลุ่มนายพลของจักรวรรดิมองสัตว์ประหลาดอย่างใกล้ชิด พวกเขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเมื่อได้กลิ่นเหม็นลอยมาแตะจมูก พวกมันกลิ่นเหมือนแมลงสาบอย่างแท้จริง!

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะเป็นผู้บัญชาการกองทัพมนุษย์” ผู้มาเยือนกล่าวด้วยรอยยิ้ม

หมินยวี่หลินพยักหน้าและกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ข้าคือหมินยวี่หลิน เซินเว่ยโหวแห่งจักรวรรดิฉิน และผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพในเมืองตงฉวง แล้วเจ้าเป็นใคร?”

ชายผู้นั้นประสานหมัดกล่าวด้วยความสุภาพ “ข้ามีนามว่าเชินเซี่ยง ข้ามาพบท่านเซินเว่ยโหวในนามของเผ่าเทพ”

“เผ่าเทพ?”

หมินยวี่หลินขมวดคิ้ว “สิ่งมีชีวิตน่าเกลียดเหล่านี้สมควรเรียกว่าเผ่าเทพรึ?”

เชินเซี่ยงมองไปยังสัตว์ประหลาดทั้งสองและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พวกเขา…ข้าจะไม่ปิดบัง พวกเขาเป็นเพียงเผ่าพันธุ์ที่ด้อยที่สุดและเป็นนักรบในเผ่าเทพซึ่งมีชื่อว่า ‘อสูรเกราะ’ ข้าคิดว่าท่านเซินเว่ยโหวคงได้เห็นแล้ว แม่ทัพอสูรเกราะด้านใต้เมืองมีนามว่าเหล่ยฉง เขาเป็นจอมพลของกองทัพเผ่าเทพ”

เชินเซี่ยงหันมองหลินมู่อวี่และประสานหมัดเคารพ “แม่ทัพผู้นี้ จอมพลเหล่ยฉงยกย่องวิทยายุทธ์ที่ยอดเยี่ยมของท่านมาก…แต่เขาฝากมาบอกว่าจะปลิดหัวท่านในเร็ววัน”

หลินมู่อวี่ขมวดคิ้ว “เจ้าไม่คู่ควรกับชื่อเรียกเผ่าเทพ”

“ถูกต้อง”

เชินเซี่ยงยิ้มและตอบกลับ “เมื่อคราที่เราปกครองแผ่นดินนี้ มนุษย์เช่นท่านเรียกเราว่าเผ่าปีศาจ”

“เผ่าปีศาจ…” หมินยวี่หลินตัวสั่นเทิ้มพึมพำ “มิใช่ว่าเผ่าปีศาจถูกสังหารและผนึกไปแล้วหรือ?”

“จะเป็นไปได้รึ?” เชินเซี่ยงยิ้มและกล่าวว่า “เป็นเวลาหลายหมื่นปีที่เผ่าปีศาจอยู่อย่างหลบซ่อน สิ่งที่พวกเรารอคอยมาตลอดคือวันนี้ ถึงเวลาแล้วที่พวกมนุษย์จะคืนผืนแผ่นดินกลับให้พวกเรา”

“สิ่งใดคือจุดประสงค์ของเจ้า?” หมินยวี่หลินเอ่ยถามเสียงแผ่วเบา

เชินเซี่ยงตอบ “ขอให้ท่านเซินเว่ยโหวยอมจำนนต่อเผ่าเทพ และหากพวกท่านยอมเป็นทาส เราจักไว้ชีวิตให้”

“แล้วหากข้าไม่ยินยอมล่ะ?”

“เช่นนั้นก็รอกลายเป็นเถ้าถ่านได้เลย!” เชินเซี่ยงพูดด้วยรอยยิ้ม

“บังอาจ!” หมินจ้านตะโกนดัง “จัดการมันซะ!”

เชินเซี่ยงหัวเราะเสียงดัง ทันใดนั้นปราณยุทธ์สีดำพวยพุ่งปกคลุมร่างกาย ก่อนจะกระโดดขึ้นกำแพงพร้อมชักดาบสกัดกั้นลูกศรที่ยิงตามหลังมา และหนีหายไป

ด้านในเมือง อสูรเกราะสองตนถูกหลินมู่อวี่ ฉินเหยียน และคนอื่นๆ จัดการจนเลือดสาดเต็มพื้น

…

“ตอนนี้เราควรทำสิ่งใดต่อ?” หวังซีกล่าวด้วยสายหวาดหวั่น

หมินยวี่หลินมองไปทางฝูงชน “เหล่าท่านแม่ทัพคิดว่าพวกเราควรทำอย่างไร?”

ฉือยิงประสานหมัด “ตามประสบการณ์ของข้าน้อย สถานที่แห่งนี้ห่างจากเมืองหลันเยี่ยนหลายพันไมล์ และมีภูมิศาสตร์ที่โหดร้าย รวมทั้งสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน ข้าเกรงว่าคงยากเกินกว่าจะใช้นกส่งสารกลับไปยังเมืองหลวง จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรอกำลังเสริม ทางเดียวที่จะรอดคือรีบถอยทัพ ทหารราบตายกันหมด ส่วนทหารม้าอาจเหลือรอด”

“ทหารราบตาย ทหารม้ารอด…” หมินยวี่หลินหลับตาด้วยความเจ็บปวด “ข้าไม่คาดคิดเลยว่าชีวิตของหมินยวี่หลินที่มีผลงานโดดเด่นมาทั้งชีวิต สุดท้ายต้องจบลงเช่นนี้…”

ซูเหวินเทียนกล่าว “เราได้ปล่อยนกพิราบส่งสารออกไปกว่าร้อยตัว ข้าเชื่อว่ามณฑลชางหนานและมณฑลเทียนชู่จะได้รับมัน…ท่านเซินเว่ยโหว สิ่งที่เราต้องทำตอนนี้คือการรอ”

หมินยวี่หลินมิได้กล่าวสิ่งใด เขาพลันถอนหายใจและกล่าวว่า “นำชามสองใบพร้อมก้อนหิน จากนั้นให้ผู้บัญชาการกองพันขึ้นไปลงคะแนนเสียงว่าจะบุกโจมตีหรือปกป้องเมืองและรอคอยความช่วยเหลือ”

หลังจากนั้นไม่นาน ชามทั้งสองเต็มไปด้วยหิน แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการอยู่ปกป้องเมือง ทุกคนต่างเห็นพลังต่อสู้ของเผ่าปีศาจแล้ว การบุกทะลวงเข้าไปเป็นเพียงการฆ่าตัวตายเท่านั้น!

เมื่อสองวันก่อนทุกคนเพิ่งเฉลิมฉลองความสำเร็จที่ได้รับชัยชนะจากจักรวรรดิอี้เหอ ทว่าวันนี้ทั้งเมืองตงฉวงกลับตกอยู่ในความเงียบสงัด…

…

ลมหนาวกลางดึกพัดผ่านเมือง ขณะที่แสงคบเพลิงสั่นไหว หมินยวี่หลินเข้าไปในค่ายทหารส่งเสบียงพร้อมทหารคนสนิท เมื่อเฉินฮั่นผู้ที่กำลังลาดตระเวนเห็น ก็รีบเข้ามาทักทาย “คารวะท่านเซินเว่ยโหว!”

“ท่านผู้นำวิหารอยู่ไหน?”

“พักผ่อนอยู่ขอรับ”

“พาข้าไป”

“ขอรับ!”

ขณะที่หมินยวี่หลินกำลังเดินเข้าไป หลินมู่อวี่พลันเดินสวนออกมาพร้อมผ้าพันแผลรอบแขนและใบหน้าซีดเซียว เขากล่าวทักทายอย่างเคารพ “ข้าไม่ทราบว่าท่านเซินเว่ยโหวจะมา เช่นนั้นข้าจะออกไปต้อนรับ”

“ไม่ต้องมากพิธีไป”

หมินยวี่หลินเอ่ยถาม “ไม่ทราบว่ากองทัพจะเหลือเสบียงใช้อีกนานเพียงใด?”

“ไม่เกินแปดวันขอรับ”

“น้อยยิ่งนัก”

“เนื่องจากธัญพืชและหญ้าตามมาไม่ทัน ข้าได้ส่งคนเข้าเมืองแลกเหรียญทองเป็นอาหารสำหรับผู้คนแล้ว ทว่าจำนวนประชากรในเมืองตงฉวงมีไม่ถึงหนึ่งหมื่นคน พื้นดินที่นี่ค่อนข้างแห้งแล้ง อีกทั้งเพิ่งผ่านพ้นฤดูหนาว ทำให้พืชผลเติบโตไม่ทัน มีผู้คนอดตายทุกวัน พวกเขาไม่เหลืออาหารแบ่งปันให้เรา”

หมินยวี่หลินพยักหน้า “เริ่มตั้งแต่วันนี้ ปันส่วนของทุกคนจะถูกหักครึ่งหนึ่ง ขอให้ทุกคนอดทนรอ มิเช่นนั้นเราอาจไม่รอดกระทั่งกำลังเสริมมาถึง”

“ขอรับ!”

…

สามวันผันผ่านในพริบตา แม้ทุกคนจะไม่พอใจที่ปันส่วนหายไปครึ่งหนึ่ง ทว่าโชคดีที่ไม่มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น

กลางดึกขณะที่หลินมู่อวี่หลับตาฝึกฝนยุทธ์ เขากินเล่าปิ่งเพียงหนึ่งแผ่นในตอนเย็น ทำให้ท้องร้องเสียงดังด้วยความหิวโหย ฉินเหยียนเปิดประตูกระโจมและกล่าวอย่างเร่งรีบ “พี่ใหญ่ เกิดเรื่องขึ้นแล้ว มีไฟไหม้ในค่าย!”

“ไฟ?”

หลินมู่อวี่สั่นสะท้าน “สั่งทุกคนช่วยกันดับไฟเร็ว!”

“ขอรับ!”

เมื่อมาถึงก็พบว่าทั้งค่ายตกอยู่ในกองเพลิง เฉินฮั่นและคนอื่นๆ ช่วยกันสาดน้ำ ทว่าจะดับไฟที่โหมกระหน่ำเช่นนี้ได้อย่างไร…

เมื่อเห็นธัญพืชในยุ้งฉางกลายเป็นเถ้าถ่าน หลินมู่อวี่รู้สึกเย็นยะเยือกในใจ “เหตุใดจึงเกิดไฟไหม้?”

“มีไฟตกจากท้องฟ้าขอรับ”

“ท้องฟ้า?”

หลินมู่อวี่มองขึ้นไปและพบเปลวไฟขนาดเล็กตกลงจากฟ้า มีกลุ่มคนอยู่บนอากาศ ขณะที่ทหารแห่งจักรวรรดิพยายามยิงธนูจากพื้นดิน ทว่าลูกศรไม่สามารถขึ้นไปสูงกว่าร้อยเมตรและไม่สามารถทำร้ายกลุ่มคนบนฟ้าได้เลย

“บัดซบ…”

หลินมู่อวี่พุ่งตัวไปด้านหน้าเพื่อคว้าหอก ก่อนจะหมุนตัวส่งแรงและขว้างออกไปอย่างรวดเร็ว!

“ฟิ้ว!”

หอกพุ่งทะยานขึ้นท้องนภา ทันใดนั้น! เสียงคำรามแผ่วเบาดังจากระยะไกล ก่อนที่เงาสีดำจะตกลงมายังสระน้ำด้านใต้ของเมือง เหล่าทหารรีบถือคบเพลิงเข้าไปดูและพบว่ามันคือสิ่งมีชีวิตสองปีก ซึ่งคงไม่ใช่มนุษย์ อีกทั้งมีรูปร่างน่าเกลียดคล้ายกับอสูรเกราะ

“เผ่าปีศาจ…”

ฉินเหยียนกัดฟันแน่นและกล่าวว่า “เผ่าปีศาจมีปีกและบินได้…ไอ้พวกสารเลวตั้งใจทำให้พวกเราอดตายชัดๆ!”

………………………………….

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "EP.370 อสูรปีก"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์