The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา - EP.394 กำจัดเฉียนเฟิง
EP.394 กำจัดเฉียนเฟิง
“ระบำดาบ!”
ดาบยาวหมุนวนกลางอากาศอย่างรวดเร็วพร้อมปิดกั้นรัศมีดาบของเฉียนเฟิง ร่างกายเฟิงจี้สิงปกคลุมไปด้วยปราณเพลิงวายุขณะที่เสื้อคลุมด้านหลังปลิวไสวเสมือนเทพเจ้า แต่ใบหน้าของเขากลับซีดเผือดและสายตาเริ่มพร่ามัว เขาสูญเสียปราณยุทธ์มากเกินไป อีกทั้งยังได้รับบาดเจ็บจนเลือดไหลอาบแขน
ดาบยาวในมือเฉียนเฟิงเปรียบดั่งยมทูตพร้อมเพลิงลุกโชติช่วงต่อเนื่อง มันสร้างบาดแผลบนไหล่ของเซี่ยงอวี้อย่างรุนแรง หากไม่ได้เกราะปราณยุทธ์ช่วย ร่างกายเซี่ยงอวี้อาจถูกทำลายไปแล้ว…
“ตายซะ!”
ดาบยาวของเฉียนเฟิงแปรเปลี่ยนเป็นพายุพุ่งตรงไปยังเซี่ยงอวี้
เซี่ยงอวี้เป็นแม่ทัพผู้มีชื่อนางและเป็นที่รู้จักในนนามชายผู้หยิ่งยโสแห่งจักรวรรดิ ร่องรอยความหวาดกลัวปรากฏขึ้นบนดวงตา แต่พริบตาเดียวก็เปลี่ยนเป็นความโกรธเกรี้ยว ปราณยุทธ์ในร่างกายพวยพุ่งถึงจุดสูงสุด ทันใดนั้น! ราวกับมิติโดยรอบบิดเบี้ยว อักขระโบราณลอยวนรอบกายอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะคำรามเสียงดังพร้อมส่งทวนนองเลือดทะยานขึ้นสู่ท้องนภา “กระบวนท่าที่เจ็ด สวรรค์พลิกกลับ!”
“ตูม!”
ใจกลางแม่น้ำเกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงจนทำให้ผิวน้ำสาดกระจาย ฉินอินและคนอื่นๆ บนฝั่งมองดูด้วยความตกตะลึง แม้จะเป็นศึกของมนุษย์แต่กลับรุนแรงราวกับเป็นการต่อสู้ของเทพเจ้าและปีศาจ อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำกลุ่มอสูรเกราะจ้องมองการต่อสู้พร้อมส่งเสียงร้องยาวให้กำลังใจจอมพลเฉียนเฟิง
แม้ว่าเซี่ยงอวี้จะได้รับกระบวนท่าที่เจ็ดของเก้าโกลาหล แต่ก็ยังไม่สามารถต้านทานพลังของเฉียนเฟิงได้ เขาถูกกระแทกลงสู่ก้นแม่น้ำอย่างรวดเร็ว เฉียนเฟิงไม่รีรอก่อนจะตวัดดาบยาวไปยังศีรษะของอีกฝ่าย
“เปรี้ยง!”
คมดาบกระแทกกับด้ามทวนนองเลือด ขณะเดียวกันพลังปราชญ์แห่งปีศาจพุ่งทะยานอย่างบ้าคลั่งแหวกแม่น้ำออกจากกันพร้อมส่งเซี่ยงอวี้กระแทกลงโคลนที่ก้นแม่น้ำ
“ไอ้สารเลว! บังอาจสังหารองค์ชาย ข้าจะเป็นคนฆ่าเจ้าเอง!”
เฉียนเฟิงเผยสีหน้าอาฆาตแค้น ขณะที่กำลังตวัดดาบสังหารเซี่ยงอวี้ ทันใดนั้น! รัศมีพลังดาบพุ่งตรงมาที่ด้านหลัง ซึ่งมาจากดาบของเฟิงจี้สิง เขาใช้ดาบที่ได้รับมาเมื่อสองปีก่อนครั้งที่หมู่บ้านแบดเจอร์ไฟถูกแผดเผา…ดาบสวรรค์ชิงชัง!
ในพริบตาดาบสวรรค์ชิงชังแปรเปลี่ยนเจตจำนงเป็นความโกรธเกรี้ยว การโจมตีครั้งนี้เดิมพันด้วยพลังยุทธ์ของเขาทั้งชีวิต หากไม่สามารถเอาชนะเฉียนเฟิงได้ เกรงว่าจักรวรรดิอาจจะต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในศึกครานี้
“หือ?”
ดวงตาเฉียนเฟิงเปลี่ยนเป็นเย็นชาขณะที่หัวใจสั่นสะท้าน เขายอมแพ้ที่จะฆ่าเซี่ยงอวี้ ก่อนจะรีบหันกลับไปยังเฟิงจี้สิง และหัวเราะเสียงดัง “หากวันนี้ข้าสามารถเอาชนะจอมยุทธ์ระดับสูงของมนุษย์ได้ มันคงเป็นผลงานชั้นยอดทีเดียว แม้เจ้าจะแข็งแกร่ง กระนั้นก็เตรียมตัวรับความพ่ายแพ้ซะเถิด!”
สิ้นเสียง เขาคำรามก้องพร้อมปลดปล่อยพลังปราชญ์แห่งปีศาจ ทันใดนั้น! กระแสน้ำวนค่อยๆ ก่อตัวเป็นพายุน้ำขนาดใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยพลังปราชญ์แห่งปีศาจดูน่าหวาดผวา
“ตูม!”
ดาบสวรรค์ชิงชังปะทะกับพลังของเฉียนเฟิงรุนแรงราวกับโลกดับสูญ มันทรงพลังมากจนทำให้เฟิงจี้สิงกระอักเลือดพร้อมร่วงหล่นจากกลางอากาศและหมดสภาพที่จะต่อสู้
“ถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว!”
เฉียนเฟิงก้มตัวลงเล็กน้อย ก่อนจะขว้างดาบยาวออกไปหวังสังหารเฟิงจี้สิง
พายุน้ำขนาดใหญ่กลายเป็นฝนร่วงหล่นจากท้องฟ้า พลังของเฟิงจี้สิงแทบไม่มีเหลือพอที่จะใช้หลบหนี เขาทำได้เพียงมองดูดาบที่พุ่งตรงมายังตำแหน่งของหัวใจตนเอง
ทันใดนั้นรอยแยกมิติเปิดออกพร้อมแสงสีทองที่บินตรงมา มันคือกระบี่วิญญาณมังกร!
“เปรี้ยง!”
คมดาบสองเล่มปะทะกันกลางอากาศพร้อมกระแทกดาบของเฉียนเฟิงกระเด็นออกไป เฟิงจี้สิงพลันถอนหายใจโล่งอก “เกือบไปแล้ว โชคดีที่มีอาอวี่…พระเจ้า เฉียนเฟิงแข็งแกร่งเกินไปจริงๆ…”
หลินมู่อวี่ก้าวลงบนผิวน้ำพร้อมวิ่งตรงไปหาเฉียนเฟิง เขายกมือขวาขึ้น ทันใดนั้น! แม่น้ำรอบบริเวณลอยขึ้นและแปรเปลี่ยนเป็นกระบี่แหลมคม ซึ่งเป็นทักษะจิตกระบี่ธาตุน้ำ
เฉียนเฟิงหัวเราะเยาะก่อนจะผายฝ่ามือปลดปล่อยพลังปราชญ์แห่งปีศาจพร้อมตะโกนเสียงทุ้มต่ำ “เข้ามาเลยหลินมู่อวี่ ขอดูหน่อยเถิดว่าเจ้ามีความสามารถมากเพียงใดจึงสามารถหลบหนีค้อนศึกของเหล่ยฉงและสังหารแม่ทัพขวาของข้า”
หลินมู่อวี่ยกฝ่ามือขึ้น ทันใดนั้นกระบี่น้ำนับหมื่นพุ่งเข้าใส่เฉียนเฟิงอย่างรวดเร็ว
พลังปราชญ์แห่งปีศาจแผ่ขยายราวกับม่านฟ้า ทำให้กระบี่น้ำไม่สามารถทะลวงผ่านได้ แต่ทันใดนั้นมีน้ำกระเด็นเข้าตาเฉียนเฟิง พริบตาเดียวคมดาบหนึ่งพุ่งทะลุพลังปราชญ์แห่งปีศาจเข้ามาในระดับสายตา
“ดี!”
เฉียนเฟิงตะโกนพร้อมยกแขนขึ้น พายุปราณสีเลือดโอบล้อมกระบี่วิญญาณมังกรราวกับผ้าฝ้าย และบิดอย่างรุนแรง ทันใดนั้นราวกับกระบี่วิญญาณมังกรสูญเสียการควบคุม ก่อนจะพุ่งปะทะร่างกายหลินมู่อวี่
แสงดวงดาวสีฟ้าพุ่งขึ้นสู่ท้องนภา ทันทีที่หลินมู่อวี่ปล่อยด้ามกระบี่ พลังปัญจสวรรค์ในมือซ้ายพลันระเบิดใส่หน้าเฉียนเฟิงเต็มแรง
“ตายซะ!”
เฉียนเฟิงรีบถอยหนีพร้อมยกมือขึ้นคว้าหมัดของหลินมู่อวี่ เขาปลดปล่อยพลังปราชญ์แห่งปีศาจอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง
“เปรี้ยง!”
ก้อนหินและดวงดาราแตกออกทันทีจนทำให้เฉียนเฟิงตื่นตกใจ ขณะที่หลินมู่อวี่ถอยหลังไปหลายก้าว แต่หลังจากโจมตี เส้นเลือดที่แขนซ้ายของหลินมู่อวี่แตกออกทำให้เลือดไหลลงบนผิวน้ำอย่างรวดเร็ว
พลังปราชญ์แห่งปีศาจนั้นแข็งแกร่งมาก แม้แต่กลยุทธ์ดวงดาราของหลินมู่อวี่ก็ไม่สามารถสู้ได้ ไม่แปลกใจว่าเหตุใดเซี่ยงอวี้และเฟิงจี้สิงผู้อยู่ขอบเขตปราชญ์จึงพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวช
อย่างไรก็ตามเฉียนเฟิงก็ไม่ได้มีสภาพที่ดูดีไปกว่ากัน ใบหน้าของเขาซีดเผือดราวกับไม่มีเลือด เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มเมื่อมองแขนซ้ายหลินมู่อวี่ที่บาดเจ็บ “หากเจ้าเป็นเผ่าปีศาจ เราคงได้กลายเป็นสหายกัน”
หลินมู่อวี่กล่าวด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าไม่คู่ควร”
“เช่นนั้นข้าคงต้องส่งเจ้าไปตายเท่านั้น”
เฉียนเฟิงหัวเราะพร้อมลดมือลง พลังปราชญ์แห่งปีศาจพวยพุ่งออกจากฝ่ามือและกล่าวว่า “กระบวนท่านี้ไร้ประโยชน์มานานแล้ว แต่เจ้ากลับบังคับข้าให้ต้องใช้มัน”
พริบตาเดียวราวกับเวลาหยุดนิ่ง พายุขนาดใหญ่โหมกระหน่ำทะยานขึ้นจากเบื้องหลังเฉียนเฟิง
พลังคนคนหนึ่งสามารถพิชิตสรวงสวรรค์ได้หรือไม่?
หลายคนคงตอบว่าไม่ แต่เฉียนเฟิงขณะนี้ดูเหมือนจะทำได้ เขาควบคุมพายุขนาดใหญ่ซึ่งก่อเกิดจากพลังงานบริสุทธิ์ อีกทั้งยังสามารถมองเห็นจิตวิญญาณแห่งอสูรควบแน่นอยู่ภายในพายุ หากมันระเบิดขึ้น เกรงว่าไม่เพียงแค่หลินมู่อวี่ที่อยู่ใกล้ แต่ฉินอิน เฟิงจี้สิง และคนอื่นๆ ด้านหลังอาจได้รับแรงผลกระทบไปด้วย
“บ้าไปแล้วรึ!?”
หลินมู่อวี่คำราม “นี่เป็นการต่อสู้ระหว่างเรา เหตุใดจึงคิดลากผู้อื่นไปตายด้วย?”
เฉียนเฟิงยิ้ม “พวกมันไม่ใช่เผ่าของข้า เหตุใดจึงฆ่าไม่ได้? เดิมทีกองทัพทั้งสองกำลังทำศึกสงครามกันอยู่แล้ว แม้ว่าข้าจะสังหารเจ้าพร้อมกองทัพมนุษย์บนฝั่ง ก็ไม่ใช่สิ่งผิดแปลกอะไร”
“หึ! ดี…”
หลินมู่อวี่กัดฟันด้วยความโกรธ คราแรกเขาไม่ต้องการใช้พลังที่ต้องเสี่ยงชีวิต แต่ตอนนี้จำเป็นต้องใช้แล้ว เขาพลันเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่กำลังมืดลงแม้จะเป็นเวลาเที่ยงวัน ทันใดนั้นแสงดวงดาวนับพันจากแดนสวรรค์โอบล้อมรอบกาย ก่อนที่พลังกลยุทธ์ดวงดาราพวยพุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง
กลยุทธ์ดวงดารานำพาพลังของดวงดาวนับพันแปรเปลี่ยนเป็นพลังเจ็ดประทีป ซึ่งเป็นทักษะที่ราชาเจ็ดประทีปภาคภูมิใจมากที่สุด…เจ็ดประทีปพลิกดารา
หลินมู่อวี่ยืนอยู่บนผิวน้ำขณะที่ผายฝ่ามืออย่างเชื่องช้า แสงดวงดาวจากฟากฟ้าตกลงมาพร้อมควบแน่นดาราจักรบนฝ่ามือ เฉียนเฟิงมองดูด้วยความตะลึงงัน ทันใดนั้นหลินมู่อวี่ก็โบกมือส่งพลังออกไปอย่างรวดเร็ว
เจ็ดประทีปพลิกดารา!
“ตูม ตูม ตูม!!”
เสียงระเบิดดังก้องทั่วทั้งปฐพี ดวงดาวสว่างไสวพุ่งทะลวงพายุหมุนกระแทกกับพลังปราชญ์แห่งปีศาจของเฉียนเฟิง ก่อนจะทะลุผ่านพร้อมระเบิดใส่กลุ่มอสูรเกราะที่อยู่อีกฝั่ง ทางด้านหลินมู่อวี่เขาถูกพายุพัดเข้าใส่ราวกับดาบแหลมคม จนกระอักเลือดไหลออกจากมุมปาก อีกทั้งเกราะที่สวมใส่แตกสลายในพริบตา
“ตูม!”
เจ็ดประทีปพลิกดาราทำลายชายฝั่งอย่างสมบูรณ์ เมื่อผนวกพลังโซ่เทวะ ทำให้ชายฝั่งของฝ่ายตรงข้ามกลายเป็นแอ่งน้ำรัศมีเกือบหนึ่งร้อยเมตร เผ่าปีศาจ ต้นไม้ หรือแม้แต่ผืนดินก็หายวับไปทันที
…
“อึก…”
เฉียนเฟิงพยายามต้านทานพลังเจ็ดประทีป แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขากระอักเลือดพร้อมถูกกระแทกลอยออกไปราวกับว่าว และพ่ายแพ้ในที่สุด
ร่างกายหลินมู่อวี่โซเซและค่อยๆ จมลงน้ำอย่างต่อเนื่อง ผลกระทบการใช้เจ็ดประทีปพลิกดาราส่งผลให้เขารู้สึกปวดร้าวเจียนตาย
บนชายฝั่ง ดวงตาคู่งามของฉินอินมัวหมอง นางชักกระบี่จื่อยินพร้อมกล่าวว่า “ออกไปช่วยเร็ว!”
เว่ยโฉว ฉินเหยียน และคนอื่นๆ รีบลงไปในแม่น้ำพร้อมฉินอินเพื่อช่วยชีวิตผู้คน
เฟิงจี้สิงมาถึงชายฝั่งด้วยใบหน้าซีดเซียว เขานั่งอยู่ในโคลนพร้อมรอยยิ้ม “ศึกครานี้…ช่างน่าปีติยิ่ง…”
ใบหน้าถังหลานซีดเซียว “เร็วเข้า รีบไปช่วยแม่ทัพเซี่ยงอวี้ขึ้นจากก้นแม่น้ำ”
“ขอรับ!”
ทหารตระกูลถังรีบว่ายลงไปยังก้นแม่น้ำพร้อมคว้าเสื้อเซี่ยงอวี้เพื่อดึงเขาออกจากโคลน โชคดีที่เซี่ยงอวี้มีพละกำลังของขอบเขตปราชญ์ เขาจึงสามารถกลั้นหายใจได้นานกว่าคนทั่วไป
…
ฉินเหยียนพยุงร่างของหลินมู่อวี่ขึ้นจากน้ำ ขณะที่ฉินอินยืนด้านข้างด้วยสีหน้าหวาดหวั่น นางกุมฝ่ามือที่บาดเจ็บของหลินมู่อวี่และเขย่าแผ่วเบา “พี่อาอวี่เป็นอะไรไหม? ลืมตาแล้วมองมาที่ข้าสิ…พี่อาอวี่…”
ด้วยแรงเขย่าของนาง หลินมู่อวี่ค่อยๆ ลืมตาขึ้นพร้อมความเจ็บปวดทั่วร่างกาย เขายิ้มเล็กน้อยและตอบว่า “เสี่ยวอิน ข้าสบายดี อย่าได้กังวล…”
“อืม” ฉินอินพยักหน้ารับ
หลินมู่อวี่เงยหน้ามองคนที่โอบเขาและอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “อาเหยียน เจ้ากำลังกอดข้าอยู่…ปล่อยข้าเถิด…เราเป็นผู้ชายทั้งคู่ ไม่ควรจะ…”
ฉินเหยียนที่กำลังกังวลพร้อมดวงตาแดงก่ำ “พี่ใหญ่อย่าเพิ่งล้อเล่นกับข้าเช่นนี้!”
เมื่อเห็นหลินมู่อวี่ยังคงสามารถล้อเล่นเช่นนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เป็นอะไรมากจริงๆ ฉินอินหัวเราะคิกคักอยู่ด้านข้าง เผยใบหน้างดงามดูน่าเสน่หาจนทำให้เหล่าข้าราชบริพารต่างตกตะลึง
………………………………….