The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา - EP.428 ชำระแค้น
EP.428 ชำระแค้น
แม้จวนของลู่จ่าวอาจไม่ได้ใหญ่โตมโหฬารเท่าตำหนักซีหยาง หากแต่ก็ตระการตามิใช่น้อย ทันทีที่ย่างกรายเข้าไปในจวน หลินมู่อวี่มองเห็นรูปปั้นสัตว์ประหลาดสีทองแดงขนาดมหึมาซึ่งคุ้นตาเสียเหลือเกิน เขาจ้องอยู่เช่นนั้นจนติงซี่ต้องยกยิ้มพลางกล่าวอธิบาย “เซี่ยจื้อทองแดงนี้เป็นสมบัติในตำหนักเจ๋อเทียนพ่ะย่ะค่ะ หลังจากการล่มสลายของเมืองหลันเยี่ยนแม่ทัพลู่จ่าวนำมันกลับมาที่เมืองสายัณห์อย่างยากลำบาก”
หลินมู่อวี่รู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก
ขณะนั้นชายรูปร่างอ้วนท้วนเดินเข้าทักทายพวกเขาอย่างเป็นมิตร “ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาทและคารวะท่านแม่ทัพติงซี่ กระหม่อมเป็นข้ารับใช้ในจวนแห่งนี้ งานเลี้ยงกำลังจะเริ่ม เข้าไปกันเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
“รบกวนด้วย”
ภายในห้องโถงทั้งสองข้างทางเดินเต็มไปด้วยหินรูปร่างแปลกตา รูปวาดทิวทัศน์ และสมบัติล้ำค่าหายาก หยกมากมายถูกแขวนประดับราวบันไดพร้อมกับริ้วผ้าไหมห้อยระย้าตลอดทาง ความหรูหราของจวนแห่งนี้ไม่ธรรมดาเสียเลย
ในขณะนั้น ทักษะชีพจรวิญญาณของหลินมู่อวี่ตรวจพบการคุ้มกันอย่างแน่นหนาของนักรบหลายร้อยคนซึ่งประจำการอยู่หลังกำแพงหิน อีกทั้งสองข้างทางยังเต็มไปด้วยนักรบยอดฝีมือที่คอยเฝ้ารักษาการณ์ แม้ลู่จ่าวจะกล้าตั้งตัวเป็นศัตรูกับจักรวรรดิ หากแต่เขาก็หวาดกลัวความตายและความสูญเสียนัก พลังยุทธ์ของเขาอ่อนด้อยมากซึ่งทำให้ความกลัวตายของเขายิ่งทวีคูณ
“ราชาแห่งขุนเขาและแม่ทัพติงซี่อยู่ที่นี่แล้ว!”
ผู้คนทั้งสองฝากฝั่งต่างตะโกนทำความเคารพหลินมู่อวี่และติงซี่เสียงดังลั่นเมื่อพวกเขามาถึงงานเลี้ยง
ลู่จ่าวในชุดเกราะที่ถูกตกแต่งไปด้วยริ้วผ้าไหมเดินมาต้อนรับพวกเขาอย่างเป็นมิตร “ช่างเป็นโอกาสดีนักที่ได้พบฝ่าบาทและแม่ทัพติงซี่ จวนเล็กๆ แห่งนี้สวยงามขึ้นทันตาเพราะพวกท่าน เชิญทางนี้พ่ะย่ะค่ะ งานเลี้ยงเนื้อมังกรกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว”
“ขอบใจมาก” หลินมู่อวี่กล่าวพร้อมประสานหมัด
ท่ามกลางวงล้อมของขุนนางหลายร้อยคนในโถงงานเลี้ยง มังกรนภาถูกถอดเกล็ดจนหมดสิ้นและย่างอยู่บนเตาไฟ เนื้อของมันส่งกลิ่นหอมคละคลุ้งไปทั่ว อีกทั้งยังมีเนื้อของมังกรเกล็ดทองคำอยู่ในหม้อต้มของเหล่าขุนนาง หลินมู่อวี่ไม่รู้ว่าสัตว์ร้ายตนนี้มีอายุเท่าใด หากแต่คงไม่เกินหมื่นปี มิเช่นนั้นลู่จ่าวคงถูกกินไปแล้ว ความสามารถของเขาไม่สามารถฆ่ามังกรสายเลือดบริสุทธิ์อายุหมื่นปีได้แน่
…
ที่นั่งของหลินมู่อวี่ถูกจัดไว้ระหว่างติงซี่และหม่านหนิง เมื่อเห็นอาหารที่อยู่ตรงหน้า เขารีบนั่งลงก่อนตักเนื้อมังกรเกล็ดทองคำเข้าปาก รสชาติของมันหวานกลมกล่อมจนเขาไม่อาจพูดคุยกับใครได้ในตอนนี้
ลู่จ่าวผู้เป็นเจ้าภาพประสานหมัดพลางกล่าวเปิดงาน ซึ่งก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการเทศนาว่าอาณาจักรอี้เหอนั้นเกรียงไกรและเหล่าทหารม้าของพวกเขาเก่งกาจเพียงใด หลินมู่อวี่ได้แต่แอบหัวเราะเยาะกับคำพูดไร้สาระเหล่านั้น หากทหารม้าของพวกเขาแข็งแกร่งอย่างที่ว่า เหตุใดจึงถูกเหล่าปีศาจตีแตกพ่ายจนต้องล่าถอย? แม้แต่หลิงเซียนหลินก็ยังพ่ายแพ้ ไม่มีผู้ใดในจักรวรรดิอี้เหอที่สามารถต้านทานพวกปีศาจได้เลย หากไม่มีกำแพงเหล็กคอยคุ้มกัน ทั้งสี่เมืองหลักของมณฑลหลิงหนานคงถูกพวกปีศาจกวาดล้างจนหมดสิ้นแล้ว!
เมื่อลู่จ่าวนั่งลง งานเลี้ยงก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
เหล่าสาวใช้เดินออกมารินสุราและตักเนื้อให้แก่เหล่าขุนนางทีละคน ไม่นานหลังจากนั้น กุ่ยทองคำของหลินมู่อวี่ก็เต็มไปด้วยเนื้อของนกและสัตว์หายากหลากชนิด กุ่ยทองคำถือเป็นภาชนะใส่อาหารสำหรับราชวงศ์ ส่วนกุ่ยเงินสำหรับเหล่าขุนนาง ส่วนคนทั่วไปสามารถใช้เพียงกุ่ยทองแดงเท่านั้น ฉับพลันนักดนตรีด้านข้างเริ่มบรรเลงบทเพลงแผ่วเบาให้ความรู้สึกถึงชีวิตอันหรูหราของเหล่าขุนนาง
หลินมู่อวี่รู้สึกว่าชีวิตของผู้คนในจักรวรรดิอี้เหอหลังการปล้นสะดมในเมืองหลันเยี่ยนช่างสุขสบายนัก แต่จะเสวยสุขไปได้อีกกี่น้ำหากเหล่าปีศาจยังกระหน่ำโจมตีเช่นนี้!
“เนื้อกวางเพคะฝ่าบาท”
สาวใช้หยิบชิ้นเนื้อวางลงบนจานของหลินมู่อวี่อย่างนอบน้อม นางไม่กล้าแม้แต่จะเหลือบมองราชาแห่งขุนเขาที่นั่งอยู่ตรงหน้า ในสายตาสาวใช้ผู้นี้หลินมู่อวี่เปรียบดั่งผู้สูงศักดิ์ แม้เขาจะไม่มีอำนาจทางทหารหรือการเมืองแม้แต่น้อย แต่ก็ถือเป็นเกียรติแก่นางยิ่งที่ได้รับใช้ราชาองค์เดียวของจักรวรรดิอี้เหอ
“ข้าอิ่มแล้ว ขอบใจมาก” หลินมู่อวี่ยังคงไว้ซึ่งนิสัยจากสังคมสมัยใหม่ เขาให้เกียรติทุกคนเสมอแม้แต่ผู้น้อยใต้บังคับบัญชา
สาวใช้กล่าวคำออกพร้อมใบหน้าแดงก่ำ “ท่านแม่ทัพกล่าวว่าพระองค์สามารถพากระหม่อมกลับตำหนักได้หากพระองค์ทรงโปรดเพคะ”
ใบหน้าของสาวใช้ซีดเซียวทันใดเมื่อหลินมู่อวี่ขมวดคิ้ว
“ขอบใจสำหรับความเอื้ออารีของแม่ทัพลู่จ่าว แต่ไม่เป็นไร ”
“เช่นนั้น…ขอบพระทัยเพคะฝ่าบาท” ใบหน้าของสาวใช้พลันวิตก หากทำภารกิจไม่สำเร็จเช่นนี้ ลู่จ่าวจะฆ่านางหรือไม่?
แม้จะทานอาหารไปโดยไม่ได้คิดอะไรแต่หลินมู่อวี่ก็ไม่กล้าดื่มสุรามากนัก เรื่องทุกอย่างคาดเดายากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดหลายวันที่เขาอยู่ในจักรวรรดิอี้เหอ ลู่จ่าวและหม่านหนิงจัดให้คนเฝ้าดูเขาตลอดเวลาเยี่ยงนักโทษ ทุกคำพูดและทุกการกระทำของเขาอยู่ในสายตาของผู้อื่นอยู่ตลอด ช่างน่าเจ็บใจนักแต่ก็ทำสิ่งใดไม่ได้
คำกล่าวที่ว่า ‘มนุษย์ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียม’ ของจักรวรรดิอี้เหอเป็นเรื่องจริงหรือ แล้วเหตุใดสาวใช้ตรงหน้าจึงเลือกชะตาชีวิตของตนไม่ได้ เหตุใดนางจึงไม่ได้อยู่กับคนที่ตนรักและหวาดกลัวว่าคำพูดเพียงไม่กี่คำจะทำให้นางต้องถูกพรากชีวิตด้วยดาบนับพันเล่ม ช่างน่าขันนักหากจะกล่าวว่าทุกชีวิตในจักรวรรดิแห่งนี้เท่าเทียมกัน
หลังจากดื่มไปสักพัก ทุกคนก็เริ่มเมาเล็กน้อย ขุนนางหลายคนต่างพากันโอบกอดสาวใช้อย่างเพลิดเพลิน
ลู่จ่าวลุกขึ้นพลางยกแก้วของตนพร้อมกล่าวคำออก “ข้าหวังว่าทุกท่านจะสนุกสนานกับงานเลี้ยงเล็กๆ ในคืนนี้ หลังจากดื่มสุราแก้วนี้ร่วมกัน ข้าจะพาทุกท่านไปเที่ยวชมสมบัติและถ้วยรางวัลที่นำกลับมาจากมณฑลหลิงเป่ย!”
ทุกคนดื่มสุราในแก้วของพวกเขาจนหมดทีละคน จากนั้นจึงพากันไปยังโถงด้านในจวนของลู่จ่าว
ทั้งสองข้างทางเดินอันกว้างขวางเต็มไปด้วยทหารรักษาการณ์ชุดเกราะเต็มยศ หลินมู่อวี่และติงซี่เดินเคียงข้างกันโดยมีหลูจ๋านและหยานลี่ผู้อยู่ขอบเขตปราชญ์ชั้นที่สองขนาบข้าง ทั้งสองแข็งแกร่งเกินกว่าที่หลินมู่อวี่ต่อกรได้ ส่วนหม่านหนิงก็ปรือตาเยี่ยงคนเมา แต่จะรู้ได้อย่างไรว่าเขามิได้แกล้งทำ?
…
ท่ามกลางโถงอันกว้างขวางที่เต็มไปด้วยอาวุธ หยกและของสะสมแปลกตามากมาย สิ่งที่เตะตาของหลินมู่อวี่คือขวดขนาดใหญ่ที่บรรจุหัวของมนุษย์ไว้กลางห้อง รูปลักษณ์ของฉินเหลยยังคงเหมือนเมื่อสามปีก่อน ดวงตาของเขาเบิกกว้างบ่งบอกถึงความอาฆาตและไม่เต็มใจก่อนเสียชีวิต
“เอ่อ…”
หลินมู่อวี่ยกมือขึ้นกุมหัวใจที่เจ็บปวดราวกับถูกใบมีดทิ่มแทง หยาดน้ำใสเอ่อล้นในดวงตา ติงซี่เห็นดังนั้นจึงรีบบังตัวอีกฝ่ายไว้เพื่อไม่ให้ผู้อื่นเห็นท่าทีที่แปลกไปของหลินมู่อวี่
ขณะนั้น ลู่จ่าวกล่าวถึงชัยชนะของเขาในเมืองหลันเยี่ยนอย่างโผงผาง “เหอะ! กองทัพจักรวรรดิประสาอะไรจึงถูกสังหารได้อย่างง่ายดายเช่นนี้”
“หากฉินอินไม่หนีหัวซุกหัวซุนไปก่อน หัวของนางคงตั้งอยู่ที่นี่และทุกอย่างคงจบตั้งแต่ตอนนั้น!”
“หากไม่ใช่เพราะถูกสั่งห้ามแต่แรก ข้าคงตัดหัวฉินจิ้นมาไว้ที่นี่แล้ว เหอะ! พวกตระกูลฉินยึดครองแผ่นดินนี้มานานเกินไปแล้ว ต้องมีสักวันที่พวกมันถูกกำจัดเสียที!”
ลู่จ่าวเดินไปหาหลินมู่อวี่พร้อมรอยยิ้มยั่วโทสะขณะกล่าว “ฝ่าบาท พระองค์ทรงประสงค์เข้ามาดูหัวของฉินเหลยผู้บัญชาการกองทัพจักรวรรดิใกล้ๆ หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ หัวมันเหมือนหมาที่ตายแล้วก็มิปาน ฮ่าๆๆ”
หลินมู่อวี่ก้าวไปข้างหน้า ขณะที่ลู่จ่าวเมาเสียสติจนไม่ได้สังเกตท่าทางหลินมู่อวี่แม้แต่น้อย
“ฝ่าบาท!”
หม่านหนิงตะโกนลั่นจากด้านหลัง “พระองค์จะทำอะไรพ่ะย่ะค่ะ?”
หลินมู่อวี่ยิ้ม “ไปดูหัวของฉินเหลยไงล่ะ”
เขากล่าวตอบพลางจ้องมองหัวของฉินเหลยในขวดและไม่สนใจผู้ใดอีก หัวใจปวดร้าวดั่งถูกลูกศรนับหมื่นทิ่มแทง ฉับพลันปราณยุทธ์วนเวียนรอบกายพร้อมฝ่ามือที่ดึงกระบี่วิญญาณมังกรออกจากฝัก “ฉึก!” ปลายกระบี่แทงทะลุหัวใจของลู่จ่าวก่อนที่ทุกคนจะรู้ตัว หลินมู่อวี่ตะโกนใส่ลู่จ่าวผู้ยังไม่สิ้นลมหายใจดังลั่น “เจ้ากล้าดีอย่างไรมาตัดหัวพี่ชายข้า หากไม่ได้ฆ่าเจ้าด้วยน้ำมือตนเองคงเสียชาติเกิดนัก! ก่อนตายจงจำใส่หัวไว้ว่าข้าหลินมู่อวี่เป็นผู้บัญชาการแห่งจักรวรรดิฉิน หาใช่ฝ่าบาทของเจ้าไม่!”
แรงอาฆาตพยาบาทบนปลายกระบี่ผนวกกับพละกำลังอันแข็งแกร่งชำแหละหัวใจและร่างกายท่อนบนของลู่จ่าวจนแหลกเป็นชิ้นเนื้อ!
“หลินมู่อวี่ รนหาที่ตายนัก!” เสียงตะโกนของหลูจ๋านด้านหลังดังลั่น “ตายซะ!”
สิ้นคำพูดนั้นพลังยุทธ์อันแกร่งกล้าของขอบเขตปราชญ์พลันปกคลุม เขตแดนสวรรค์แผ่ไปทั่วบริเวณ หลินมู่อวี่ไม่สามารถขยับได้ไปชั่วขณะ ฉับพลันพลังยุทธ์อันแข็งแกร่งระเบิดออกมาจากร่างกายของเขา “ห้าประทีปทะลายแปดทิศ!”
หลังจากนั้นทุกอย่างในละแวกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง พลังเจ็ดประทีปพุ่งทะลุเขตแดนสวรรค์ที่ปกคลุมอยู่ หลินมู่อวี่หมุนตัวปล่อยพลังห้าประทีปทะลายแปดทิศไปยังกลางอกของหลูจ๋าน!
“ตู้ม!” หลูจ๋านถอยเซไปหลายก้าว เลือดไหลออกจากปากทว่าก็ไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก
หลินมู่อวี่อาศัยจังนี้ทุบขวดด้วยฝ่ามือก่อนห่อหัวของฉินเหลยด้วยผ้าสีดำที่เตรียมไว้ แสงหมุนวนบนฝ่ามือก่อนแปรเปลี่ยนเป็นน้ำแข็งครอบหัวของฉินเหลยอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงพันผ้าสีดำไว้รอบเอว
“ฆ่ามัน!”
ผู้คนรอบข้างต่างคำรามอย่างเดือดดาล
“วิ้ง!”
กำแพงน้ำเต้าทองปรากฏอย่างรวดเร็วพร้อมดูดซับปราณยุทธ์ของศัตรูจนหมดสิ้น หลินมู่อวี่พุ่งตัวหนี ทว่าปราณยุทธ์ด้านบนศีรษะหมุนวนสกัดกั้นเขาอย่างว่องไวเกินคาด มันคือการโจมตีอีกอย่างหนึ่งของขอบเขตปราชญ์…พลังยุทธ์ของหยานลี่!
“ตู้ม!”
ฝ่ามือที่เต็มไปด้วยเปลวไฟฟาดกำแพงน้ำเต้าแตกออกเป็นเสี่ยงๆ กฎแห่งเปลวพลิงของหยานลี่ช่างแข็งแกร่งนัก
ทว่าหลินมู่อวี่กลับไม่ได้หลบการโจมตีอย่างที่คาดไว้ เขายกมือขึ้นพลางบิดไปมาแผ่วเบา ฉับพลันริ้วเส้นไหมหลากสีเกี่ยวพันพลังโซ่ดวงดาวของหยานลี่!
“ลงมา!”
หลินมู่อวี่ตะโกนเสียงดังลั่นพลางดึงตัวอีกฝ่ายลงมา หยานลี่ผู้ไม่สามารถต้านทานพลังกลยุทธ์ดวงดาราได้จึงตกลงมาอย่างรวดเร็ว พลังโซ่เทวะทั้งแปดผนวกกับปัญจสวรรค์ก่อนควบแน่นบนปลายกระบี่ในมือของหลินมู่อวี่
“ตู้ม!”
ศีรษะของหยานลี่แหลกเป็นชิ้นเนื้อพร้อมที่เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ
จอมยุทธ์ขอบเขตปราชญ์ถูกกำจัดในชั่วพริบตา!
ทันใดนั้นหลินมู่อวี่รู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลัง เขาสบถในใจ…บ้าเอ้ย!
“ตู้ม!”
เลือดพุ่งกระฉูดไปทั่วสารทิศ ฝ่ามืออันทรงพลังของหลูจ๋านฟาดลงบนชุดเกราะของหลินมู่อวี่จนแตกออก ฉับพลันเขารู้สึกถึงความเจ็บปวดอย่างบ้าคลั่งที่กระดูกส่วนหลัง
“ฉึก ฉึก ฉึก!”
ดาบยาวสามเล่มของผู้บัญชาการกองหมื่นสามนายแทงเข้าที่ท้องของเขาพร้อมความเจ็บปวดรุนแรงอย่างหาที่เปรียบมิได้
ดวงตาของหลินมู่อวี่แดงก่ำ ปราณเพลิงวายุพลันส่องแสงพร้อมดวงดาราปรากฏ ทันใดนั้นหัวทั้งสามขาดสะบั้นออกจากบ่า เขาอาศัยจังหวะนี้หนีออกมานอกจวนจนสำเร็จ ทว่ากลับพบทหารกลุ่มหนึ่งง้างคันศรเล็งมาที่เขา!