The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา - EP.440 ข้อตกลง
EP.440 ข้อตกลง
ซือตู่เซินมองไปยังกลุ่มคนใต้บัญชาพร้อมกล่าว “เข้ามานำเพชรสีขาวทั้งหมดของร้านค้าจื่อยินคืนให้ผู้บัญชาการหลินอย่างครบถ้วน”
“ขอรับ!” พวกเขาประสานหมัดรับพร้อมเข้าไปขนสินค้า
ซือตู่เซินหันกลับและกล่าวว่า “หากท่านหลินไม่รังเกียจ โปรดอยู่ดื่มสุรากับพวกเราสักจอกได้หรือไม่?”
“ตกลง” หลินมู่อวี่ต้องการสร้างมิตรสหายอยู่แล้ว จึงพยักหน้ารับ
“เชิญทางนี้ขอรับ”
ซือตู่เซินนำหน้าหลินมู่อวี่ไปยังโต๊ะด้านในพร้อมนำสุราและเนื้อสัตว์ชั้นดีมาให้ หลินมู่อวี่เลิกคิ้วพร้อมกล่าว “เว่ยโฉว ไปบอกทุกคนให้พักชั่วครู่ แล้วค่อยเข้ามาขนสินค้ากลับ”
“ขอรับผู้บัญชาการ”
เว่ยโฉวหันกลับและเดินออกไป
…
ไม่นานหลังจากหลินมู่อวี่นั่งลง ซือตู่เฉว่เดินเข้ามายกจอกให้ด้วยความเคารพ “เด็กสาวผู้นี้ได้เสียมารยาท หวังว่าผู้บัญชาการหลินจะไม่เคืองโกรธ จอกนี้แสดงความขอโทษจากซือตู่เฉว่เจ้าค่ะ”
“เหตุใดจึงต้องนำไปใส่ใจด้วย” หลินมู่อวี่ยกจอกให้ก่อนจะหันไปทางซือตู่เซินพร้อมกล่าวว่า “ข้าคิดว่าท่านซือตู่เซินมีความสามารถยิ่ง และมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถต่อสู้กับท่านได้ เหตุใดจึงมาอยู่ในสถานที่เช่นนี้?”
“แท้จริงแล้ว…”
ซือตู่เซินกล่าวด้วยท่าทีละอายใจ “เดิมทีข้าเป็นหนึ่งในผู้บัญชาการกองหมื่นของกองทัพเทียนฉง เมื่อสีปีก่อนข้าได้รับบาดเจ็บสาหัสในการต่อสู้กับขอบเขตปราชญ์หยานลี่สาวกของลั่วหลานจนต้องหนีตาย ข้ารู้สึกละอายใจที่จะเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดินี จึงได้ซ่อนตัวในชุมชนเสื่อมโทรมแห่งนี้ ก่อนสังหารอดีตผู้นำกลุ่มเทียนเจว๋และขึ้นมาแทนที่”
“อืม…” หลินมู่อวี่พยักหน้า “เป็นหยานลี่นี่เอง…”
ความเคารพนับถือฉายอยู่บนใบหน้าซือตู่เซินพร้อมกล่าวขึ้น “ไม่นานนี้ข้าน้อยได้ยินมาว่าผู้บัญชาการหลินนำศีรษะผู้บัญชาการฉินเหลยกลับมาจากจักรวรรดิอี้เหอ และได้สังหารแม่ทัพและเหล่านายพลหลายสิบนายรวมถึงหยานลี่ ข้าไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่”
“เรื่องจริง”
หลินมู่อวี่ตบอกพร้อมกล่าว “อาการบาดเจ็บของข้ายังไม่หายดี ซึ่งเป็นบาดแผลที่ได้รับจากการต่อสู้กับหลูจ๋านและหยานลี่”
สิ้นเสียง เขาเลิกคิ้วพร้อมกล่าว “กลยุทธ์พลิกหัวใจที่ท่านซือตู่เซินใช้สามารถใช้ประโยชน์ของพลังฝ่ายตรงข้ามได้ มันดูลึกลับและคุ้นเคยมาก เหมือนเคยได้ยินจากที่ไหนสักแห่ง…”
ร่างกายซือตู่เซินสั่นสะท้าน “ท่านหลิน ขะ…ข้า…”
“มีสิ่งใดที่พูดไม่ได้หรือ?”
“ไม่ขอรับ เพียงแค่…”
ซือตู่เซินลังเลที่จะพูด ซือตู่เฉว่เห็นเช่นนั้นจึงกล่าวขึ้น “ท่านหลิน พี่ชายและข้าเดิมทีเป็นทายาทแม่ทัพแห่งจักรพรรดิซือตู่ฉงผู้โด่งดัง แต่พี่ชายข้ามียศตกต่ำมากในกองทัพเทียนฉง แม่ทัพตู้ไห่ไม่ได้ต้องการส่งเสริมพี่ข้านานหลายปีจนเขายอมแพ้ในการต่อสู้ของเมืองหลันเยี่ยน แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาโลภต่อชีวิตและกลัวตาย โปรดอย่าไต่สวนเขาเลย”
หลินมู่อวี่กระซิบ “ไม่สำคัญหรอก ทุกคนต่างหนีตายในการต่อสู้ของเมืองหลันเยี่ยน และไม่มีใครสนใจใครนัก แต่ตอนนี้จักรพรรดินีฉินอินขึ้นครองราชย์ แล้วทหารฝีมือยอดเยี่ยมอย่างท่านซือตู่เซินยังมีชีวิตอยู่เช่นนี้ ท่านไม่คิดว่าเหล่าวีรบุรุษค่อนข้างเปล่าประโยชน์ในชุมชนเสื่อมโทรมหรือ?”
“ข้ารู้ แต่…” ซือตู่เซินลำบากใจ “ข้าเกรงว่าภายในศาลจะเต็มไปด้วยคนทรยศ แล้วคนเช่นข้าก็ค่อนข้างไร้ประโยชน์…”
“จะไม่เป็นเช่นนั้น”
หลินมู่อวี่กล่าวด้วยความมั่นใจ “ตราบใดที่ต้องการ ข้าสามารถแนะนำท่านให้องค์จักรพรรดินี ด้วยความสามารถที่เก่งกล้า ข้าเชื่อว่าท่านสามารถจัดตั้งกองทัพใหม่ได้ อีกทั้งขณะนี้มีเผ่าปีศาจลงมาจากฟากฟ้าพร้อมเข้ายึดครองพื้นที่ทางตะวันออกอย่างมณฑลหลิงตง มณฑลทงเทียน และมณฑลชางหนาน ดังนั้นจักรวรรดิอยู่ในช่วงเวลาที่ต้องการกองกำลังมหาศาล”
ดวงตาซือตู่เซินเปล่งประกายและกล่าวว่า “กระนั้นข้าคงไม่ต้องการดังที่ท่านแนะนำ…”
“เพราะเหตุใด?” หลินมู่อวี่ตกตะลึง
จู่ๆ ซือตู่เซินก็ยกจอกสุราดื่มอึกใหญ่ ก่อนจะกล่าวว่า “แม้ข้าจะไม่ได้อยู่ในตำหนัก แต่ก็ทราบว่าภายในวุ่นวายเพียงใด หลานกงและหยุนกงครอบครองแผ่นดินครึ่งหนึ่ง ขณะที่จักรพรรดินีอยู่ระหว่างกลางความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานนี้ หากข้าจัดตั้งกองทหารแห่งจักรวรรดิ ทหารส่วนใหญ่คงอยู่ภายใต้การควบคุมของกงทั้งสอง ข้าเป็นคนเปิดเผยและซื่อตรง จึงไม่ต้องการใช้ชีวิตเช่นนั้น หากท่านหลินสามารถยอมรับ…ข้ายินดีเกณฑ์เหล่าพี่น้องกลุ่มเทียนเจว๋เข้าร่วมกองทัพมังกรผงาดและติดตามท่านกอบกู้แผ่นดิน...”
“ท่าน...ยินดีจะติดตามข้าจริงหรือ?” หลินมู่อวี่กล่าวด้วยความประหลาดใจ
ซือตู่เซินพยักหน้า “ขอรับ แต่…”
เขาหัวเราะอีกครั้ง “แต่พี่น้องกลุ่มเทียนเจว๋ไม่ใช่ตะเกียงที่ไม่ต้องการน้ำมัน การจะทำให้พวกเราเข้าร่วมกองทัพแห่งจักรวรรดิได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความจริงใจของผู้บัญชาการหลิน เพราะแผ่นดินนี้ไม่มีของที่ได้มาโดยไม่ต้องทำสิ่งใดแลกเปลี่ยน”
ซือตู่เฉว่งึมงำในลำคอ “พี่ชายหยาบคายยิ่งนัก…”
หลินมู่อวี่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะพร้อมกล่าวว่า “เจ้าและพี่ชายสามารถรับการปฏิบัติแบบเดียวกับกองทัพมังกรผงาด และเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม พวกเจ้าทั้งหมดจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพ”
ซือตู่เซินพยักหน้า “นั่นไม่ใช่ปัญหาหากเป็นเรื่องการฆ่าปีศาจหรือจงรักภักดีต่อจักรวรรดิ แต่…เหล่าพี่น้องของข้าส่วนใหญ่เกิดมาในครอบครัวที่ยากจน พวกเขาหลายคนเป็นทาส ซือตู่เซินเพียงต้องการความเท่าเทียมให้พวกเขา และหากท่านขอพระราชโองการอภัยโทษจากจักรพรรดินีให้ครอบครัวทุกคนได้ พวกเราจะติดตามท่านไปจนวันตาย…”
“หืม?”
หลินมู่อวี่ขมวดคิ้วและไม่ได้กล่าวสิ่งใด
“ท่านไม่กล้าหรือ?” ซือตู่เซินเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
“เหตุใดจึงไม่กล้า?”
หลินมู่อวี่พยักหน้า “ข้าจะทูลความจริงแก่ฝ่าบาท แต่ท่านต้องทำตามข้อตกลงของข้า นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คนของท่านไม่สามารถทำความชั่ว ข่มเหงผู้อื่น หรือปล้นสะดม หากกองทัพมังกรผงาดจับได้แล้วถูกฆ่า อย่าหาว่าข้าใจดำและไม่ปรานี”
ซือตู่เซินประสานหมัดกล่าว “ไม่ต้องกังวลผู้บัญชาการ โปรดวางใจซือตู่เซิน ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง…”
…
หลินมู่อวี่เงยหน้ามองซือตู่เฉว่ เมื่อนางถูกผู้บัญชาการแห่งจักรวรรดิผู้สง่างามจ้องมอง แก้มนวลพลันแดงก่ำ ก่อนจะกล่าวว่า “ท่านผู้บัญชาการ ไม่ต้องการกลุ่มทหารรับจ้างหลิงเป่ยของข้าเข้าร่วมด้วยหรือ?”
“อืม”
หลินมู่อวี่พยักหน้า “จักรวรรดิอยู่ในช่วงความเป็นความตาย กลุ่มทหารรับจ้างหลิงเป่ยเป็นอันดับหนึ่งในเมืองหลันเยี่ยน เจ้ายังต้องการนั่งอยู่บนยอดเขาเพื่อหวังผลประโยชน์อีกหรือ? ซือตู่เฉว่ข้าจะบอกความจริงให้ หากกำแพงเหล็กในมณฑลชางหนานล่มสลาย เผ่าปีศาจจะบุกเข้ามาในจักรวรรดิจนเกิดการนองเลือดทั่วทุกตารางนิ้ว และไม่ว่ากลุ่มทหารรับจ้างหลิงเป่ยจะซ่อนตัวอยู่บนยอดเขาแห่งใดก็ไม่อาจรอดพ้นจากภัยพิบัตินี้ได้”
“ฮ่าๆ ผู้บัญชาการหลิน อย่าทำให้ข้ากลัว”
ซือตู่เฉว่ลูบหน้าอกแผ่วเบาแสร้งทำเป็นเกรงกลัว ก่อนจะเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง “ท่านหลิน พวกปีศาจแข็งแกร่งดังตำนานเล่าขานจริงหรือ?”
“ใช่ แม้กระทั่งจอมยุทธ์ขอบเขตปราชญ์อย่างตู้ไห่ก็ถูกสังหาร เช่นนั้นคงนึกภาพออกใช่หรือไม่ว่ามันแข็งแกร่งมากเพียงใด” หลินมู่อวี่ตอบ
“ผู้บัญชาการหลินสามารถต่อสู้กับเหล่ยฉงได้หรือไม่?”
“ข้าเคย”
“แล้วผลล่ะ?”
“ไม่มีทางชนะได้เลย” หลินมู่อวี่ตอบตามจริง
“ไม่หรือ?” ซือตู่เฉว่แลบลิ้นพร้อมกล่าว “แม้แต่ผู้บัญชาการหลินยังไม่สามารถต่อสู้กับศัตรูผู้แข็งแกร่งนี้ได้เลยเหรอ?”
“อืม” หลินมู่อวี่ยิ้มพร้อมหันมองนาง “กลับเข้าเรื่องเถิด ขณะนี้ข้าเป็นหนึ่งในแม่ทัพของจักรวรรดิ และมีอำนาจเพียงพอที่จะตัดสินใจเรื่องนี้ แม่นางซือตู่เฉว่กล้าพอที่จะนำทหารรับจ้างหลิงเป่ยทั้งหมดเข้าร่วมกองทัพมังกรผงาดหรือไม่?”
“อืม…”
ซือตู่เฉว่กล่าว “ข้าไม่สามารถตัดสินใจได้ทันที อีกทั้งหากต้องการเข้าร่วมทั้งหมดคงเป็นเรื่องยาก สิ่งแรกคือ…จะต้องมีเงินเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่าย”
“เจ้าต้องการพูดสิ่งใด?”
“ทหารรับจ้างของเราแตกต่างจากทหารของท่าน เราสามารถอยู่บนยอดเขาเท่านั้น และไม่มีแม้แต่บ้าน พี่น้องหลายคนไม่ได้แต่งงานกับภรรยา ดังนั้นเราต้องการอย่างน้อยสองร้อยเหรียญทองต่อคน เพื่อสร้างครอบครัวและตั้งถิ่นฐานรอบเมืองหลันเยี่ยน ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่สามารถเลิกเป็นทหารรับจ้างและกลายเป็นทหารแห่งจักรวรรดิได้”
“แล้ว…กลุ่มทหารรับจ้างหลิงเป่ยมีกี่คน?”
“มากกว่าหนึ่งหมื่นห้าพันคน”
“อืม”
หลินมู่อวี่มองซือตู่เฉว่พร้อมกล่าว “เรามาทำข้อตกลงกัน ข้าจะนำตั๋วทองสามล้านเหรียญทองมาให้ จากนั้นเจ้าต้องนำทหารรับจ้างหลิงเป่ยเข้าร่วมกับกองทัพมังกรผงาด”
“ตกลง” ซือตู่เฉว่เอื้อมมือออกไปจับมือหลินมู่อวี่พร้อมกล่าว “คำพูดแทนสัญญาใจ…”
จากนั้นใบหน้านางแดงก่ำอีกครั้ง
หลินมู่อวี่อดไม่ได้ที่จะมองไปยังซือตู่เซินพร้อมเอ่ยถาม “น้องสาวของท่านกลายเป็นผู้นำกลุ่มทหารรับจ้างหลิงเป่ยได้อย่างไร?”
“ไม่ง่ายนัก” ซือตู่เซินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “นางเริ่มต้นจากการเป็นทหารรับจ้างธรรมดา ก่อนจะเริ่มระดับความท้าทายอย่างต่อเนื่อง ท้ายที่สุดนางสามารถเอาชนะผู้นำอาวุโสด้วยมีดคู่ จากนั้นจึงได้ขึ้นเป็นผู้นำแทน”
“เป็นเช่นนี้เอง…”
…
เมื่อถึงเวลาใกล้ค่ำ หลินมู่อวี่กับพี่น้องซือตู่เซินและซือตู่เฉว่ก็ได้เจรจาข้อตกลงทั้งหมด แม้ซือตู่เซินจะค่อนข้างตรงไปตรงมา แต่เขามีเงื่อนไขมากมาย ขณะที่ซือตู่เฉว่ค่อนข้างเรียบง่าย นางเพียงต้องการเงินในการเข้าร่วมกองทัพมังกรผงาด นอกจากนั้นมีเพียงการระบุไว้ล่วงหน้าว่านางและพี่ชายจะต้องได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการกองหมื่น ซึ่งหลินมู่อวี่สามารถมอบตราได้ด้วยตนเอง
พระอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้า ขณะที่หลินมู่อวี่ เว่ยโฉว เฝิงสี่ และคนอื่นๆ เดินทางออกจากชุมชน
“ท่านผู้บัญชาการไว้วางใจซือตู่เซินจริงหรือ?” เว่ยโฉวเอ่ยถามอย่างกังวล
“อืม” หลินมู่อวี่พยักหน้าพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “แม้ว่าเขาจะต้องการบางสิ่งตอบแทน แต่ด้วยพลังยุทธ์และความสามารถเหล่านั้นจะต้องมีประโยชน์เป็นแน่ ไม่ว่าอย่างไรกองทัพมังกรผงาดของเราก็ต้องการกำลังพลเพิ่ม”
“ซือตู่เฉว่เป็นผู้นำกลุ่มทหารรับจ้างหลิงเป่ย ท่านตัดสินใจจะจ้างพวกเขาด้วยหรือไม่?”
“ใช่”
“แล้วเรากำลังจะทำสิ่งใดต่อขอรับ?”
“เข้าเฝ้าฝ่าบาทเพื่อทูลขอพระราชโองการอภัยโทษแก่สองพี่น้องซือตู่เซินและซือตู่เฉว่ พร้อมทั้งขอขยายกองทัพมังกรผงาดและสร้างค่ายอีกแห่งในพื้นที่ทุรกันดารนอกเมือง เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่คนมากมายเช่นนี้จะอาศัยอยู่ในเมืองหลวง”
“ข้าน้อยเข้าใจแล้วขอรับ”