The Black Card - ตอนที่ 405
ตอนที่ 405 – ชายชราที่คล้ายดั่งต้นสน
ชายชราคนหนึ่งเดินลงมาจากบันไดอย่างช้าๆ ใบหน้าอันใจดีของเขาขึ้นสีแดงที่บ่งบอกถึงสุขภาพอันดี แม้ว่าเขาจะไม่สูงมาก แต่เขาก็มีกลิ่นอายของการดูแคลนทุกๆสิ่ง
เว่ยชิงเยว่รีบหันหน้าไปหาชายชราและทักทายเขาอย่างสุภาพพร้อมกับก้มหัวของเธอลง “คุณปู่ สวัสดีปีใหม่ค่ะ! เว่ยชิงเยว่มาเพื่อทักทาย”
ชายชราพยักหน้าและยิ้มเล็กน้อย “เมื่อเธอยังเล็ก ฉันยังอยู่ที่หวูตง พ่อของเธอจะจูงมือเธอมาเพื่อทักทายฉัน หลังจากเธอโตขึ้น ฉันมาที่นี่ เธอก็มาด้วยตัวเอง ทุกๆเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ เทศกาลเรือมังกร เทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง วันเกิดของฉัน และวันเกิดแม่บุญธรรมของเธอ… เธอไม่เคยพลาดเลย แม้ว่าพวกเราจะไม่อยู่บ้าน เธอก็จะรั้งอยู่ที่นี่จนเจอพวกเรา ฉันเฝ้าดูสิ่งที่เธอทำตลอดหลายปีมานี้”
“ในฐานะลูกสาว หนูไม่กล้าลืมหรอกค่ะ” เว่ยชิงเยว่พูดอย่างสุภาพมากยิ่งขึ้น
ชายชราโบกมือ “นั่งสิ” จากนั้นเขาก็เดินไปที่ห้องอาหาร นั่งลงบนเก้าอี้ที่เป็นที่นั่งของเขา
เว่ยชิงเยว่นั่งอยู่ที่ปลายสุดของโต๊ะโดยไม่พูดอะไร
“เธอไม่ได้นั่งใกล้ฉันเหมือนเมื่อเธอยังเด็ก ฉันเห็นได้ว่าเธอกำลังรั้งตัวเองไว้อยู่” ชายชรามองไปที่เว่ยชิงเยว่และโบกมือของเขา “มานั่งข้างๆฉันนี่ ให้ฉันมองเธอชัดๆหน่อย ปีนี้ฉันยุ่งมากและเกือบจะลืมหน้าหลานสาวของฉันไปแล้ว”
เว่ยชิงเยว่ลุกขึ้นและเดินเข้าไปหาชายชรา และนั่งลงข้างๆเขา
ชายชราไม่ได้พูดอะไรและมองไปที่เว่ยชิงเยว่ด้วยท่าทางเมตตา
เขาไม่ได้พูดอะไรอยู่นาน “ชิงเยว่ พ่อของเธอเป็นชายผู้มีความทะเยอทะยานและโดดเด่น อย่างไรก็ตาม ในยุคสมัยแบบนี้ มันก็ไม่ได้รับอนุญาต เมื่อฉันอยู่ในเจียงดง ฉันต้องการความสำเร็จในด้านการเมืองและเขาต้องการเดินไปในทางที่ถูกต้อง เราช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และก้าวหน้าไปด้วยกัน ฉันได้ในสิ่งที่ฉันต้องการ เขาก็เหมือนกัน หลังจากที่ฉันจากเจียงดงมา เขาก็ได้รับการเรียกขานอย่างสุภาพว่านายท่านเว่ย สิบปีผ่านไปในชั่วพริบตา และเขาก็มีความสุขกับสิบปีอันสงบสุขและราบรื่น ตอนนี้ จุดจบได้มาถึงแล้ว เพราะฉะนั้น มันไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากจะช่วยเขา แต่มันเป็นเพราะเขาต้องจ่ายให้กับหลายๆสิ่ง มันเป็นพรจากสวรรค์แล้วที่มอบเวลาแห่งความสงบสุขให้กับเขาถึงสิบปี”
เว่ยชิงเยว่มองไปยังใบหน้าที่เหี่ยวย่นของชายชราและพยายามที่จะพูดออกมา “แต่คุณปู่ พ่อของหนูแค่ต้องการที่จะใช้ชีวิตที่เหลืออย่างสงบสุข เขาต้องการเพียงแค่พวกเราสามคนพี่น้องให้มีชีวิตรอดอยู่เท่านั้น”
“ชิงเยว่ ฉันรู้จักพ่อของเธอดี เขาไม่ได้พยายามที่จะดูว่าฉันมีท่าทีแบบไหนด้วยการส่งเธอมา เขาน่าจะรู้ว่าฉันไม่สามารถช่วยเขาได้ เธอยืนอยู่หน้าบ้านของฉันมาตลอดสิบกว่าวันที่ผ่านมา มันทำให้เกิดเรื่องพูดคุยในหมู่คนที่อยู่ที่นี่ และนั่นก็คือจุดประสงค์ของพ่อของเธอ เว่ยชางฉิงผู้นั้น ไม่ว่าเขาจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหน และไม่ว่าเขาจะฝึกฝนตัวเองมามากเพียงใด เขาก็ยังจะทำในสิ่งต่างๆอยู่สุดทางแม้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น เขาไม่เคยเดินบนเส้นทางที่ถูกต้อง เขากำลังพยายามปิดหูของผู้อื่น และทำให้การได้ยินและการมองเห็นสับสน เขาต้องการให้ฉันเอาด้วยกับเขาไม่ว่ายังไงก็ตาม…”
“คุณปู่ นั่นไม่ใช่สิ่งที่พ่อของหนูหมายความถึง…” เว่ยชิงเยว่ตื่นตระหนกเนื่องจากเธอได้ยินถึงความไม่พอใจอันรุนแรงที่มีต่อพ่อของเธอในน้ำเสียงของชายชรา
ชายชราโบกมือของเขา “ฉันไม่กล้ากล่าวอ้างว่าฉันใจดี แต่ฉันก็ซื่อสัตย์และใจดีได้เท่าที่ฉันสามารถทำได้ ถ้าคนอื่นนั่งอยู่ในตำแหน่งของฉัน สิ่งแรกที่พวกเขาจะทำในเวลานี้คืออะไร? คนๆนั้นคงจะส่งพ่อของเธอเข้าคุกด้วยมือของเขาเอง นั่นเป็นวิธีการเดียวที่จะล้างทุกสิ่งออกไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ฉันไม่ทำ เธอรู้ไหมว่าทำไม? เพราะเขามีลูกสาวอย่างเธอและเธอคือหลานสาวของฉัน อย่างไรก็ตาม ชะตากรรมของเว่ยชางฉิงก็ถูกตัดสินไว้นานแล้ว แม้ว่าตระกูลหยูจะไม่แตะต้องเขาในตอนนี้ มันก็ยังมีตระกูลจ้าวในปีหน้า ตระกูลเฉียนในอีกปีหลังจากนั้น และยังมีตระกูลซุนกับตระกูลหลี่อีก เขาจะหลบรอดไปได้กี่ครั้ง? ฉันจะช่วยเขาได้กี่ครั้ง? ทั้งหมดที่ฉันสามารถทำได้ก็คือการทำให้เธอ ผู้บริสุทธิ์เพียงคนเดียว ปลอดภัยเท่านั้น แต่ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องแก้ตัว ลูกสามของฉันชอบเธอมาหลายปีแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดมัน แต่ในฐานะพ่อ ฉันก็รู้ อย่างไรก็ตาม ถ้ามันไม่ใช่เพราะแพทย์ผู้เก่งกาจที่รักษาชีวิตของเขาไว้ในสภาพนั้น เขาก็คงจะตายไปนานแล้ว ดังนั้น ฉันจึงไม่เคยพูดถึงมันกับเธอ แต่เมื่อเธอมาที่นี่ในวันแรก ฉันก็ได้บอกให้ใครบางคนส่งข้อความไปหาเธอแล้ว นี่เป็นวิธีเดียวเท่านั้น เธอแต่งเข้าตระกูลของฉันและกลายเป็นลูกสะใภ้ ฉันจะทำให้เธอปลอดภัยไปตลอดชีวิตที่เหลือ”
เว่ยชิงเยว่เงียบและก้มหน้าลง
แน่นอนว่าเธอเข้าใจว่าเธอใกล้ชิดกับชายชราในฐานะปู่และหลาน เธอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกชายและลูกสาวของชายชรา พวกเขาทุกคนถือว่าเธอเป็นน้องสาวจริงๆของพวกเขา แต่มันก็เป็นแบบส่วนตัวเท่านั้น
เมื่อไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกๆคนก็จะเก็บตัวตนของเธอในฐานะหลานสาวของเขาเอาไปพิจารณา
แต่ก่อนที่พายุจะปะทุขึ้นและเกิดการเปลี่ยนแปลงอันรุนแรง ผู้มีส่วนร่วมทุกคนในเกมๆนี้ต่างเป็นตระกูลที่อยู่ในระดับเดียวกันกับชายชรา ตัวตนในฐานะหลานสาวของเขาไม่สามารถใช้เป็นเครื่องรางป้องกันตัวเองได้อีก
ชายชราไม่ผิด เธอต้องการเหตุผลอันสมควรและการแต่งงานกับพี่สามก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ประการแรก เขารักเธออย่างเงียบๆอยู่เสมอ และสอง ร่างกายของเขาก็ไม่ค่อยดีนัก และเขาก็ไม่สามารถทำอะไรกับเธอได้ ในบันทึกของเธอ เธอจะแต่งงานและหม้าย ชีวิตของเธอจะถูกหยุดไปชั่วคราวอยู่สองหรือสามปีเป็นอย่างน้อย และกลับคืนสู่ปกติหลังจากนั้น
แม้ว่าเว่ยชิงเยว่จะแต่งงานอีกครั้งหลังจากนั้น เธอก็จะยังเป็นลูกสะใภ้ของชายชราและไม่มีใครกล้าแตะต้องเธอ แม้ว่าตระกูลหยูจะไปถึงตำแหน่งนั้นแล้ว พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะทำ
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่สิ่งที่เว่ยชิงเยว่ต้องการ เธอต้องการให้ครอบครัวได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและปลอดภัย
เว่ยชิงเยว่คิดถึงเรื่องนี้และลุกขึ้น เธอคุกเข่าลงตรงหน้าชายชราและร้องขอออกมา “คุณปู่ หนูไม่มีปัญหาที่จะแต่งกับพี่สาม แต่ได้โปรด ได้โปรดช่วยพ่อและพี่น้องของหนูด้วย”
“พ่อ ชิงเยว่…” ผู้หญิงวัยกลางคนไม่อาจทนเห็นมันได้อีกและกระซิบ
ชายชราโบกมือของเขา “ปล่อยให้เธอทำตามใจไป” จากนั้นเขาก็ก้าวไปยังประตูหน้าก้าวใหญ่
ในฐานะหนึ่งในผู้นำของประเทศ ชายชรายุ่งมากแม้จะเป็นช่วงตรุษจีน
เมื่อเว่ยชิงเยว่ได้ยินเสียงประตูปิด เธอก็ไม่สามารถทนต่อไปได้อีก ด้วยความหยิ่งผยองในฐานะเว่ยชิงเยว่ เธอล้มลงกับพื้นและหมดสติไป
หญิงวัยกลางคนตกใจและรีบเรียกคนอื่นในขณะที่เธอวิ่งไปทางประตู และตะโกนไปยังรถที่กำลังเคลื่อนออกไป “พ่อ ชิงเยว่เป็นลม!”
ชายชราหยุดรถและคนขับก็หมุนหน้าต่างลงเนื่องจากเขาไม่สามารถทนเห็นมันได้
ในที่สุดชายชราก็ถอนหายใจออกมา “ส่งเธอไปโรงพยาบาลก่อนและปล่อยให้เธอตื่นขึ้นมา หลังจากปีใหม่ บังคับให้เธอแต่งกับลูกสาม ในอนาคตเธอจะเข้าใจว่าฉันกำลังทำเพื่อเธอ”
คำพูดของชายชราเป็นการกักขังเว่ยชิงเยว่ไว้ ไม่ว่าเธอจะตื่นขึ้นมาเร็วแค่ไหน เธอก็ไม่สามารถก้าวออกไปจากที่นี่ได้แม้แต่ครึ่งก้าว
ในที่สุดหญิงวัยกลางคนก็กลับมา พี่เลี้ยงและยามได้แบกเว่ยชิงเยว่ไปบนเตียงและติดต่อไปหาพยาบาล
พยาบาลตรวจสอบคร่าวๆ “มันไม่มีอะไรร้ายแรง เธอแค่ตื่นตกใจ และเธอก็ไม่ได้พักผ่อนและกินอาหารอย่างเพียงพอ คุณควรจะให้หมอมาเช็คอาการดูด้วย”