The Black Card - ตอนที่ 368
ตอนที่ 368 – ตอนจบของละคร
เนื่องจากสือเหล่ยออกปากแล้ว เจียงหยวนเชาจึงไม่อยากวุ่นวายต่อ
เขาเหลือบไปมองหวังเพิงและถาม “ค่าซ่อมรถเท่าไร?”
หวังเพิงมองไปยัง BMW 730 ที่พังยับด้วยใบหน้าหวาดกลัว และไม่สามารถแสดงความขมขื่นของเขาออกมาได้ ขอให้เจียงหยวนเชาชดใช้ให้เหรอ? งั้นเขาก็คงจะสร้างความเกลียดชังที่ไม่อาจลงรอยกันได้ขึ้นมา แต่ถ้าเขาไม่ทำล่ะ? เขาก็ไม่รู้ว่าเขาจะต้องเสียค่าซ่อมเท่าไร เงินเป็นเรื่องรอง เรื่องหลักคือนี่เป็นรถที่เขายืมมา ถ้าพวกเขาคืนมันในสภาพนี้ เจ้าของรถคงจะต้องไม่พอใจแน่ๆ
แต่เขาต้องให้เจียงหยวนเชาจ่ายค่าซ่อมให้กับมันจริงๆเหรอ?
หวังเพิงกัดฟันและตัดสินใจกล้ำกลืนความขมขื่นลงไป ถ้าเขาขอให้เจียงหยวนเชาชดใช้ให้จริงๆ เห็นได้ชัดว่าเจียงหยวนเชาไม่ได้สนใจเรื่องเงินนี้เลยและเขาจะต้องคิดถึงผลที่ตามมาเพื่อเขาพังรถคันนี้แล้วด้วย แต่ถ้าเจียงหยวนไปรายงานมันต่อเบื้องบน งานของหวังเพิงก็จะต้องหายไปอย่างแน่นอน
“ผมจะให้นายน้อยเจียงมาจ่ายได้ยังไง? เหตุการณ์วันนี้เป็นความผิดของครอบครัวผมทั้งหมด ผมหวังว่านายน้อยเจียงจะใจกว้างพอที่จะไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้นะครับ”
“ฉันต้องชดเชยให้สำหรับการพังรถของนาย บอกตัวเลขมา” เจียงหยวนเชาไม่รับข้อเสนอ
เจียงหยวนเชาไม่ยอมให้เกิดเสียงซุบซิบด้วยเรื่องเล็กๆแบบนี้เป็นแน่ มันจะทำให้เขาเสียหน้าถ้าเขาจริงจังเกินไปกับอุบัติเหตุเล็กๆแบบนี้
แต่พวกเขาก็ผิดเพราะหวังเซียวหยูได้ผลักและชกเจียงหยวนเชา หน้าผากของเขายังคงเจ็บจากการกระแทกรถและโหนกแก้มของเขาก็ยังปวดจากการโดนต่อยด้วย เจียงหยวนเชาจะปล่อยมันไปได้ยังไง? ดังนั้นเขา นายน้อยเจียง จะยอมให้คนแบบนี้มาทุบตีได้ยังไง?
หวังเพิงเองก็เข้าใจว่าถ้าเจียงหยวนเชาไม่ได้ถูกถึงเรื่องการชดใช้ งั้นเรื่องนี้ก็คงจะจบลงไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ถ้าเจียงหยวนเชายืนยันที่จะชดใช้ มันก็หมายความว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยมันไปง่ายๆ
“นายน้อยเจียง ปล่อยผมไปเถอะครับ ผมรู้ว่าผมผิด ผมเป็นแค่คนขับรถตัวเล็กๆและผมต้องเลี้ยงดูครอบครัว ลูกชายของผม…” หวังเพิงอ้อนวอนในขณะที่เขาลากหวังเซียวหยูเข้ามาและก่นด่า “ไอ้สารนี่ รีบคุกเข่าขอโทษนายน้อยเจียงซะ แกกล้าใช้ความรุนแรงกับนายน้อยเจียงได้ยังไง? ตบตัวเองซะ…”
หวังเซียวหยูตะลึงงันแต่ก็เข้าใจได้คร่าวๆว่าฝ่ายตรงข้ามย่อมไม่ใช่คนที่เขาสามารถรุกรานได้อย่างแน่นอน แม้แต่พ่อของเขายังต้องอ้อนวอน เขาเป็นใครกัน?
แต่กว่าจะรู้ตัวก็สายเกินไปแล้ว เขาต่อยเจียงหยวนเชาไปเต็มรักและเขาจะทำอะไรได้อีก? เขาต้องคุกเข่าและมอบกราบจริงๆเหรอ?
เจียงหยวนเชาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะเอาเรื่องต่อ เขาโบกมือ “เอาอย่างนี้เป็นไง? ไปเอาเงินค่าซ่อมรถจากผู้จัดการ ซ่อมเท่าไรก็เอาไปเท่านั้นและฉันจะไม่เอาเงินให้พวกนายสักเหรียญเดียว ถ้าพวกนายไม่มีอะไรแล้วก็รีบไปซะ อย่าทำให้วันสำคัญของพวกเขาช้า!” เจียงหยวนเชาหันกลับไปและเดินไปทาง Passat
หวังเพิงตื่นตระหนกขึ้นมาในทันใดและตะโกนออกมา “คุณไม่ต้องชดเชยเลยจริงๆครับ! ทั้งหมดมันเป็นความผิดของพวกเรา นายน้อยเจียง…”
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
เรื่องนี้ควรจะจบลงได้แล้วแต่ก็มีฝูงชนเริ่มตะโกนออกมาจากระยะไกล “นายน้อยหวัง นายน้อยหวัง เกิดอะไรขึ้น? ไอ้บ้าที่ไหนตาบอดพอที่จะชนรถของคุณ? ผมจะทำให้มันพิการเอง…”
สือเหล่ยและเจียงหยวนเชากำลังจะกลับไปแล้วแต่พวกเขาก็หันกลับไปยังต้นเสียง พวกเขาเห็นชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่ง ทุกคนมีอายุประมาณ 20 ปี กำลังวิ่งมาจากทางตัวเมือง ใบหน้าของหวังเพิงและหวังเซียวหยูเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก
หวังเพิงรู้ว่าลูกชายของเขาเรียกคนพวกนี้มา นี่มันบ้าไปแล้ว ถ้าพวกเขาแตะต้องเจียงหยวนเชา สือเหล่ย หรือใครอื่น มันคงเป็นความผิดพลาดที่ไม่อาจแก้ไขได้
“สารเลว แกติดต่อกับพวกนี้งั้นเหรอ? รีบบอกให้พวกมันกลับไปซะ!” หวังเพิงตะโกนออกมา
หวังเซียวหยูตะลึงงันและนึกถึงข้อความ WeChat ที่เขาเพิ่งส่งไป คนพวกนี้มาได้เวลาเลย ทำไมพวกนายมาเร็วขนาดนี้? มาให้ช้าหน่อยเส้!
เขารีบตะโกนออกมา “อย่าทำแบบนั้น…” แต่กลุ่มชายฉกรรจ์ก็ได้วิ่งผ่านไปแล้ว
สือเหล่ยเตรียมตัวไว้อยู่แล้ว เขาพึมพำ “คลิกบัตรศิลปะการต่อสู้โบราณ” และเขาก็ถูกล้อมรอบด้วยคนพวกนั้น
“นายน้อยหวัง ไม่ต้องกลัว พี่น้องของคุณอยู่ที่นี่แล้วและพวกเขาจะทำให้พวกเขาได้เห็นดี…” คนกลุ่มนี้ไม่รู้เรื่องอะไรและหัวหน้ากลุ่มได้ปลอบหวังเซียวหยูในขณะที่เขาพูดและคว้าเสื้อของเจียงหยวนเชา
แต่ก่อนที่เขาจะทันได้พูดจนจบ พวกเขาก็ได้ยินเสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์ดังมาจากระยะไกล ในพริบตา พวกเขาก็เห็นรถหรูขับเข้ามาในสายตาของพวกเขาทีละคัน
เชี่ย เบนซ์ เอสคลาส, ปอร์เช่ เคย์แมน, BMW X6, ฮัมเมอร์ ,แลนด์โรเวอร์ แะเทสล่า ทุกๆคนมีราคาอย่างน้อย 700,000 – 800,000 หยวน ไปจนเกือบถึงหลักล้าน นอกจากนี้ยังมี 3 – 4 คนที่มีราคาเกินหนึ่งล้านหยวน
เทสล่าคือรถนำขบวน มันเป็นรถไฟฟ้าและมันไม่ได้ก่อให้เกิดเสียงดัง มันมุ่งตรงมายังประตูหน้ามาทางที่ที่เจียงหยวนเชาและสือเหล่ยถูกล้อมไว้
กลุ่มคนวิ่งหนีไปด้วยความหวาดกลัวและในที่สุดคนที่ขับเทสล่าก็เหยียบเบรกเบาๆ ประตูรถเปิดออกมาและหูเซียวหัวได้กระโดดลงมาจากรถ
“ยังไม่เสร็จอีกเหรอ? หยวนเชา ช้าจังนะ!” หูเซียวหัวยิ้มในขณะที่เขากระโดดลงมา จากนั้นเขาก็พยักหน้าทักทายสือเหล่ย
สือเหล่ยโล่งใจแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรศิลปะการต่อสู้อีกเนื่องจากฝ่ายตรงข้ามน่าจะเข้าใจได้ว่าไม่อาจรุกรานคนที่ขับรถเหล่านี้
เจียงหยวนเชามองไปที่หวังเพิงด้วยความเดือดดาล เขามองไปที่หวังเซียวหยูอีกครั้งและพยักหน้าด้วยความโกรธ “ฉันเกือบลืมไปเลย ฉันจะจ่ายเงินให้กับรถของนายไม่ว่ามันจะมีราคาเท่าไร อย่างไรก็ตาม นายขับรถในทิศทางที่ไม่ถูกต้องและชนรถคันอื่น ตามกฎหมาย นายจะต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่ นายมีปัญหาอะไรกับเรื่องนี้ไหม? อย่าลืมชดเชยให้กับเรื่องพวกนั้นด้วย และคนมากมายที่มานี่มันอะไรกัน พวกนายต้องการอะไร? ฉันพร้อมอยู่นะ”
แต่ก่อนที่เจียงหยวนเชาจะทันได้พูดจบ ฝูงชนต่างพากันโบกมือของพวกเขาให้กับหวังเซียวหยู “หัวหน้าหวัง พวกเราขอตัวก่อน…”
“หัวหน้าหวัง จู่ๆผมก็นึกขึ้นมาได้ว่าผมมีธุระ งั้นผมขอไม่ไปงานแต่งนะ”
“หัวหน้าหวัง ครอบครัวของผมโทรมา ฮะ ว่าไง อะไรนะ…” ชายคนนี้จากไปพร้อมด้วยโทรศัพท์ในมือ
คนอื่นๆก็ไม่สนใจแม้แต่จะพูดอะไรออกมา พวกเขาม้วนตัวจากไปราวกับว่าพวกเขาไม่เคยมาที่นี่
พวกเขาเดินออกไปพร้อมกับรู้สึกดีใจที่ยังไม่ได้ทำอะไร อย่างไรก็ตาม มันก็มีคนหนึ่งที่คว้าคอของเจียงหยวนเชา แต่เขาก็คิดว่าลูกคนรวยเหล่านี้คงจะไม่รู้จักเขา ดังนั้นเขาก็น่าจะไม่เป็นอะไรหลังจากกลับไปแล้ว
หวังเพิงและหวังเซียวหยูหน้าซีดเผือด พวกเขาไม่สามารถรุกรานเจียงหยวนเชาได้เลย นับประสาอะไรกับลูกคนรวยกลุ่มนี้อีก ขบวนรถของพวกเขาก็น่าจะมีราคารวมกันเกินกว่า 10 ล้านหยวนแล้ว
“พวกเราจะชดใช้ให้อย่างแน่นอน พวกเขากำลังจะไปขอโทษครอบครัวหลินเดี๋ยวนี้เลย วันนี้ทุกอย่างเป็นความผิดของเรา” หวังเพิงไม่สนใจเกี่ยวกับชื่อเสียงของเขาอีก เขาทำได้เพียงแค่อ้อนวอนเพื่อลดความโกรธของเจียงหยวนเชาลง
สือเหล่ยถอนหายใจ “เอาเถอะ ตามนั้นแหละ” จากนั้นเขาก็หมุนตัวและเดินออกไปข้างนอก
เจียงหยวนเชาเองก็เข้าไปในรถอีแก่ของเขา จากนั้นสือเหล่ยก็ขับมาเซราติผ่านทางเข้าและรถคันอื่นๆได้ขับตามไปในทันที ดวงตาของหวังเพิงและหวังเซียวหยูเบิกกว้าง เห็นได้ชัดว่ารถของสือเหล่ยเป็นรถที่มีราคาแพงที่สุด มันเป็นการยืนยันว่าญาติของตระกูลหลินเป็นคนที่รวยที่สุดในบรรดาลูกเศรษฐีเหล่านี้
หวังเพิงรับรู้ได้ถึงความหวังอันริบหรี่ ไม่ว่าเจียงหยวนเชาจะปล่อยเขาไปหรือไม่ ทั้งหมดนี้ได้ขึ้นอยู่กับชายหนุ่มที่ขับมาเซราติคันนั้น หวังเพิงเตะหวังเซียวหยูด้วยความฉุนเฉียวอีกครั้งและก่นด่า “มัวทำบ้าอะไรอยู่! รีบไปขอโทษพวกเขา! ทำให้ครอบครัวหลินให้อภัยให้ได้ไม่ว่ายังไงก็ตาม!”