The Black Card - ตอนที่ 384
ตอนที่ 384 – รสชาติอันหนักหน่วง
สือเหล่ยไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับคำถามนี้
เขาจ้องมองซงเมียวเมียวด้วยความตกใจในขณะที่ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าเธอแค่วางขาไว้บนตัวเขาและขยับไปรอบๆเพราะเธอตั้งใจจะหยอกล้อเขาเท่านั้น
แต่ใครจะคิดอะไรแบบนั้นในเวลาเช่นนี้!
สือเหล่ยตระหนักได้ว่าซงเมียวเมียวไม่ใช่แค่บ้าเท่านั้น แต่ความคิดของเธอยังเปลี่ยนไปมาอย่างรวดเร็วอีกด้วย
ซงเมียวเมียวบิดขี้เกียจ “น่าเบื่อ เอาเถอะ นั่นมันก็แค่การวิเคราะห์ หินน้อย ไปกล่อมฉันนอนได้แล้ว!”
สือเหล่ยสูญเสียสีสันบนใบหน้าของเขาในทันทีและเขาได้กดหน้าอกของเขาด้วยมือทั้งสองข้าง “ไม่ใช่ว่าเธอบอกว่าญาติของเธอมาเยี่ยมเธอและเธอก็ไม่สะดวกในวันนี้ไม่ใช่เหรอ?”
ซงเมียวเมียวโน้มตัวลงและคว้าคอสือเหล่ย จากนั้นก็พูดด้วยความดุร้าย “ฉันไม่ได้บอกให้นายทำเรื่องแบบนั้น หยุดไร้สาระได้แล้ว นายต้องทำให้ฉันมีความสุข นั่นคือสิ่งที่นายสัญญา!”
สือเหล่ยสามารถเห็นหน้าอกของเธออยู่ตรงหน้าของเขาได้และได้กลิ่นน้ำหอมจากครีมอาบน้ำของเธอ เขารู้สึกวิงเวียน
“คุณผู้หญิงครับ ขอล่ะ มาคุยกันเถอะ มันยากที่ฉันจะอดทนไว้ได้แบบนี้ ถ้าญาติของเธอมา มันจะแย่เอา…” สือเหล่ยกล้าพูดเพราะเขารู้ว่าวันนี้ซงเมียวเมียวไม่สามารถทำมันได้ มิฉะนั้นเขาคงจะไม่กล้าพูดเลย
ซงเมียวเมียวผลักสือเหล่ยออกไปและตอบอย่างชั่วร้าย “พวกเราไม่สามารถคิดอะไรต่อไปจากคำถามบ้าๆนี้ได้แล้ว ฉันร้อน ถ้านายกล้าถามอีก นายเชื่อไหมว่าฉันจะปล้ำนายให้ได้เลย?”
สือเหล่ยรีบหุบปากและไม่กล้าถาม ซงเมียวเมียวเดินไปทางหน้าต่าง ทอดสายตาออกไปยังวิวยามค่ำคืน และส่ายหัวของเธอ “เมืองเล็กๆช่างเงียบสงบและไม่พลุกพล่านดีจริงๆ ฉันจะนอนแล้ว หินน้อย ไปที่เตียงและบริการฉัน”
จากนั้นซงเมียวเมียวก็ดึงผ้าม่านลงและปลดผ้าเช็ดตัวออกด้วยท่าทางที่น่าหลงใหลเป็นอย่างมากต่อหน้าสือเหล่ย
เธอดึงมันออก…
สือเหล่ยตกตะลึง มีอะไรอยู่ใต้ผ้าเช็ดตัวของเธออยู่… โอ้ เธอใส่อะไรบางอย่างไว้อยู่ อย่างน้อยเธอยังสวมชุดชั้นในไว้อยู่เพราะเธออยู่ในช่วงวันนั้นของเดือน
อย่างไรก็ตาม ส่วนที่เหลือของเธอก็เปลือยเปล่า โชคดีที่เธอหันหลังให้สือเหล่ย แต่ถึงแม้จะเป็นส่วนโค้งเว้าด้านหลังของเธอ มันก็สมบูรณ์แบบมากจนทำให้ผู้คนอยากจะก่ออาชญากรรม
ภายใต้สภาวะนี้ สือเหล่ยเจอปัญหากับการอดทนแม้ว่าซงเมียวเมียวจะมีผมที่สั้นก็ตาม นายบ้ารึเปล่าเนี้ย? นายรู้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ แต่ก็ยัง…
สือเหล่ยอยากจะร้องออกมาแต่เขาก็ทำไม่ได้
โชคดีที่ซงเมียวเมียวหยุดอยู่ตรงนั้น เธอหันกลับมา มองไปที่สือเหล่ยที่นั่งอยู่บนโซฟาราวกับรูปปั้น และเผยให้เห็นรอยยิ้มในขณะที่เธอแกล้งสือเหล่ยได้สำเร็จ
เธอนั่งลงบนเตียง เลิกผ้าห่มขึ้น ซุกตัวเข้าไป และจากนั้นก็เอาผ้าห่มคลุมกาย
ในระหว่างกระบวนการทั้งหมด สือเหล่ยเห็นเพียงแต่แผ่นหลังของเธอเกือบตลอดเวลา
สือเหล่ยพยายามข่มอารมณ์สุดขีด โดยไม่รู้ว่าเขาทำถูกหรือผิดกันแน่
เขาลุกขึ้น “นอนเถอะ ฉันกลับล่ะ”
ซงเมียวเมียวหันมาในทันทีและไม่ได้เผชิญหน้ากับสือเหล่ยด้วยแผ่นหลังของเธออีก “นายคิดว่ามันเป็นการล้อเล่นเหรอที่ฉันบอกให้นายบริการฉันในคืนนี้? หุบปากซะ รีบมาที่นี่เร็ว” เธอเหยียดแขนที่เปลือยเปล่าของเธอออกมาและตบลงที่ข้างๆตัว
สือเหล่ยตื่นตระหนกขึ้นมาในทันใด “เธอบ้าไปแล้วเหรอ? ฉันจะนอนแบบนั้นได้ยังไง?”
“ฉันไม่สนใจ! นี่คือราคาที่นายต้องจ่าย!” ซงเมียวเมียวดูมีเหตุมีผลและเธอได้ผุดลุกขึ้น เผยให้เห็นรอยแยกของเธอ
สือเหล่ยรู้สึกเหมือนท้องฟ้ากำลังหมุนในขณะที่เขาก้าวไปทางประตูอย่างมั่นคง
เสียงของซงเมียวเมียวดังมาจากด้านหลังของเขา “ไม่ใช่ว่ามันแย่ไปหน่อยเหรอที่นายจะไม่รักษาคำพูด? นายคิดเหรอว่าฉันจะหันหน้าเข้าใส่นายทั้งแบบนี้?”
สือเหล่ยถอนหายใจอย่างเย็นชาและหยุดเดินในทันที เขาหันกลับมาแล้วยิ้มอย่างขื่นขม “พี่สาว มันไม่ค่อยเหมาะเท่าไรมั้ง ถ้า ฉันกำลังจะบอกว่าถ้า ถ้าเธอไม่สะดวก งั้นฉัน แต่เธอต้องการชีวิตของฉันหรืออะไรแทนไหม?”
ซงเมียวเมียวพอใจและหัวเราะ “งั้นนายก็ยอมรับว่าฉันดึงดูดสำหรับนายสิ?”
“ก็ใช่หน่ะสิ อย่างไรก็ตาม นิสัยของเธอมันเหมือนกับผู้ชาย และฉันก็ไม่ถือว่าเธอเหมือนผู้หญิง ถ้าเธอปิดไฟ ฉันจะทำมันให้เธอเป็นเหมือนกับหมูตัวเมียเลย… ช่างเถอะ ฉันไม่ได้วิปริตแบบนั้น เอ่อ ไม่สิ ฉันยังไม่วิปริตมากพอ อืม ฉันหมายความว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะนอนข้างๆเธอแบบนี้” สือเหล่ยทำท่าทางอย่างเที่ยงธรรมและดูเหมือนว่าเขาจะยอมถูกฆ่าตายดีกว่าจะเสียเกียรติ
ซงเมียวเมียวหัวเราะและตระหนักได้ว่าเธอมีความสุขมากๆเมื่อได้อยู่กับสือเหล่ย
เธอเลียริมฝีปากของเธอ “นายแน่ใจนะว่านายจะไม่มา? นายจะได้รางวัลถ้าทำให้ฉันมีความสุข”
“รางวัลน้องสาวเธอสิ!” สือเหล่ยตะโกนออกมา
“ไม่ได้ๆ แค่ฉันถวายตัวเองให้กับนายก็พอแล้ว ฉันไม่ยกน้องสาวของฉันให้กับนายหรอกนะ”
สือเหล่ยพูดไม่ออกแม้แต่น้อย เขากลัวว่าซงเมียวเมียวจะกระโจนออกมาจากผ้าห่มและวิ่งมาตรงหน้าของเขาจริงๆ ถ้าเธอทำแบบนั้น สือเหล่ยก็ไม่มั่นใจว่าเขาจะอดทนอดกลั้นต่อไปได้อีกไหม
ครั้งแรกของเขา… มันเป็นรสชาติที่หนักหน่วงเกินไปแล้ว!
“งั้นก็หาอะไรมาใส่ซะหน่อยเถอะ… ขอล่ะ ฉันกราบเธอล่ะ ฉันไม่สามารถทำได้จริงๆถ้าเธอยังใส่อะไรแบบนี้อยู่!” เสียงของสือเหล่ยฟังดูเกือบจะเหมือนว่าเขากำลังร้องไห้
ซงเมียวเมียวกลั้นหัวเราะและส่ายหัว “สหาย มันถึงเวลาที่จะทดสอบตบะของนายแล้ว… แน่นอนว่านายต้องทนมันให้ได้เพราะฉันทำไม่ได้จริงๆ มานอนข้างๆพี่สาวคนนี้ซะดีๆ ฉันจะดูแลนายเอง”
“คุณผู้หญิง ปล่อยผมไปเถอะครับ ผมมีแม่อายุแปดสิบและมีลูกอายุสามขวบ…” สือเหล่ยอยากจะร้องไห้แต่น้ำตาก็ไม่ยอมไหลออกมา
ซงเมียวเมียวยืนกราน “นายไม่อยากรู้เหรอว่ารางวัลคืออะไร?”
สือเหล่ยคิด บางทีอาจจะเป็นมือ? บางที…? ทันใดนั้นห้องก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนเป็นอาบอบนวดในทันที
ซงเมียวเมียวหยุดความคิดผิดๆของเขาในทันที “อย่าคิดมากนัก ฉันแค่จะบอกว่าถ้านายทำให้ฉันมีความสุข ฉันจะพิจารณาเรื่องการขอคุณปู่ของฉันให้บอกห้ามพ่อของฉันจากการเข้าร่วมกับตระกูลหยู”
“จริงเหรอ?”
“ฉันบอกว่าฉันจะคิดดู”
“เธอไม่สามารถแค่คิดดูได้!” สือเหล่ยสวน
ซงเมียวเมียวซ่อนตัวอยู่ภายใต้ผ้าห่ม “เอาล่ะ ฉันจะคุยกับปู่ให้ แต่ฉันไม่สามารถสัญญาได้ว่าจะสำเร็จไหม”
“เธอต้องมีแผนบางอย่างแน่ๆใช่ไหม?” สือเหล่ยถามและไม่เต็มใจจะยอมแพ้ เขาเชื่อว่าตั้งแต่ที่ซงเมียวเมียวพูดแบบนี้ เธอจะต้องมีเหตุผลของเธอและเธอคงจะไม่ได้ล้อเขาเล่นแน่ๆ
ซงเมียวเมียวบิดขี้เกียจและตอบอย่างช้าๆ “มาบริการฉันก่อน”
สือเหล่ยลังเล ก่อนที่จะเดินเข้าไปและคิด ‘สือเหล่ย อ่า สือเหล่ย มันเป็นเวลาที่จะทดสอบตบะของนายจริงๆ อืม ฉันจะนอนทั้งเสื้อผ้าแบบนี้แหละ’
จากนั้นสือเหล่ยก็ปีนขึ้นไปบนเตียงด้วยอาการสั่นงกๆและนอนอยู่ให้ใกล้กับขอบเตียงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้เหลือที่ว่างระหว่างเขาและซงเมียวเมียวไว้
ซงเมียวเมียวหัวเราะและปิดไฟ ในความมืดมิด หัวใจของสือเหล่ยเต้นระรัวและในห้วงความคิดของเขาก็เต็มไปด้วยผู้หญิงที่เกือบจะเปลือยกายยืนหันหลังให้เขาอยู่ เขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้จริงๆ แต่เขาก็สามารถทำมันได้ใน…
โชคดีที่สือเหล่ยเหนื่อยมากจริงๆและเขาได้ดื่มมามาก แม้ว่าจิตใจของเขาจะว้าวุ่น แต่เขาก็มีสติมากพอ
ภายใต้ความทุกข์ทรมาน สือเหล่ยได้ผล็อยหลับไป
เมื่อเขาตื่นขึ้นมา มันก็มีสิ่งที่อ่อนนุ่มอยู่ในมือของเขา เขาบีบมันโดยไม่รู้ตัวและได้รับเสียงครวญครางเป็นการตอบแทน