The Black Card - ตอนที่ 409
ตอนที่ 409 – ตื่น
ตามที่คาดไว้ สือเหล่ยถูกหยุดไว้โดยทหารสองคนที่นอกเขตพิเศษ
พวกเขาค่อนข้างสุภาพและแสดงออกว่าห้ามไม่ให้ใครเข้าไปโดยไม่มีคำสั่ง แม้ว่าเว่ยปู้ถีจะพิสูจน์ว่าเธอเกป็นน้องสาวของเว่ยชิงเยว่ก็ตาม
เว่ยปู้ถีกะไว้แล้วและเธอได้โทรหาลูกสาวคนโตของตระกูล หญิงสาววัยกลางคน เมื่อหญิงสาววัยกลางคนได้ยินว่ามีชายอีกคนมาด้วย เธอก็ลังเลอยู่สักพัก อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังโทรไปที่โรงพยาบาลและทหารสองคนก็ได้รับคำอนุญาตให้ปล่อยพวกเขาเข้าไปอย่างรวดเร็ว
เว่ยปู้ถียังคงคุยกับทหารอยู่ แต่สือเหล่ยไม่คิดที่จะอยู่ต่ออีกในขณะที่เขาพุ่งเข้าไปยังแผนกพิเศษ
เขาถามพยาบาลและผลักประตูเข้าไปในห้องของเว่ยชิงเยว่
ห้องพักไม่ได้ตกแต่งในสไตล์โรงพยาบาลชั้นเยี่ยม มันเป็นเหมือนกับห้องมาตรฐานของโรงแรม อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีทางการแพทย์และของต่างๆข้างเตียงก็พิสูจน์ให้เห็นว่ามันยังเป็นห้องของโรงพยาบาล แน่นอนว่ามันมีกลิ่นยาฆ่าเชื้อเตะจมูกด้วย
เว่ยชิงเยว่นอนอยู่บนเตียงอย่างเงียบสงบและสง่างามตามปกติ คิ้วและมุมตาของเธอสะอาดเป็นพิเศษ แต่สือเหล่ยก็รู้ว่าในทันทีที่เธอตื่นขึ้นมา ทุกๆรอยยิ้มและการแสดงออกของเธอจะตรงกันข้ามกับหน้าตาที่ดูไร้เดียงสาของเธอเนื่องจากเธอกลับคืนสู่สภาพอันน่าหลงใหลและทรงเสน่ห์ของเธอ
ริมฝีปากบางเฉียบของเธอปิดแน่นโดยไม่มีสีแดงเลย ทำให้เธอดูซีดเซียวไร้สุขภาพ
นอกเหนือจากนั้น สือเหล่ยไม่สามารถเห็นได้ว่าเว่ยชิงเยว่กำลังทุกข์ทรมาณจากใบหน้าของเธอ เธอดูเหมือนกำลังนอนหลับอย่างสงบมากกว่า
สือเหล่ยนั่งลงข้างเตีนงและจับมือของเธอเบาๆ
ด้านหลังมือของเธอซีดและเส้นเลือดก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม เธอก็ดูผอมลงกว่าเดิม
เว่ยปู้ถีไม่ได้เข้ามาแต่เลือกที่จะยืนอยู่นอกประตู เธอไม่ต้องการที่จะไปขัดขวางเวลาส่วนตัวของพี่สาวกับสือเหล่ยถึงแม้ว่าเธอจะยังไม่ได้สติก็ตาม
เว่ยปู้ถีเรียกพยาบาลเข้ามาและเริ่มถามเกี่ยวกับอาการของเว่ยชิงเยว่
ใบหน้าของสือเหล่ยเต็มไปด้วยน้ำตาในขณะที่เขาพึมพำ “ยัยผู้หญิงบ้า ทำไมเธอถึงบ้าขนาดนี้ไม่ว่าจะทำอะไร? เธอบอกฉันหน่อยไม่ได้เหรอ? เธอไปที่ห้องของฉันในวันนั้นและแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอคิดว่ามันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราได้เจอกันงั้นเหรอ? เธอไม่เห็นต้องปิดโทรศัพท์เลย เธอกลัวว่าฉันจะหาเธอเจอและเข้ามาเกี่ยวด้วยเหรอ เธอคิดว่าฉันเป็นผู้ชายไร้ประโยชน์ที่ไม่สามารถช่วยเธอได้งั้นเหรอ? รีบตื่นขึ้นมาเร็วเข้ายัยผู้หญิงบ้า! ถ้าเเธอไม่ตื่น ฉันจะมีอะไรกับเธอได้ยังไง? บัดซบ เธอไม่อยากนอนกับฉันเหรอ? ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้และฉันจะไปโรงแรมกับเธอทันที!”
สือเหล่ยดูเหมือนจะสูญเสียการควบคุมอารมณ์ของเขา น้ำตารินไหลลงมาจากใบหน้าของเขาและเขาได้เงยหน้าขึ้นในขณะที่เขาหยิบยาออกมา ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าบัตรสีดำเอามาไว้กับเขาได้ยังไง
“สิ่งนี้สามารถช่วยชีวิตเธอและน้องสาวของเธอได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าฉันทำให้เธอกินมันตอนนี้ เธอก็จะตื่นขึ้นมาทันที เว่ยชิงเยว่ เลือกมา!” สือเหล่ยร้องไห้สะอึกสะอื้นและเว่ยชิงเยว่ก็ดูเหมือนจะพร่ามัวต่อหน้าเขา
อย่างไรก็ตาม เว่ยชิงเยว่ก็ไม่ได้ขยับแม้แต่นิ้วเพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะได้ยินเขา
สือเหล่ยสูญเสียการควบคุมและตะโกนออกมา “ยัยผู้หญิงบ้า รีบตื่นขึ้นมานะ! ฉันกำลังสั่งเธอในฐานะแฟนของเธอ! หมอบอกว่าเธอไม่เป็นอะไร หยุดเสแสร้งได้แล้ว!”
พยาบาลสะดุ้งด้วยความกลัวเมื่อได้ยินเสียงตะโกนของสือเหล่ย เธอผลักประตูและกำลังจะเข้าไปข้างในเพื่อหยุดเขา
อย่างไรก็ตาม เว่ยปู้ถีก็หยุดเธอไว้และส่ายหัว “อย่าไปขัดจังหวะเขา คนที่กำลังนอนอยู่คือพี่สาวของฉันและเขาก็เป็นผู้ชายที่พี่ของฉันรักมากที่สุด ถ้าเขาไม่สามารถปลุกพี่ได้ มันก็ไม่มีใครสามารถทำได้แล้ว”
“แต่คุณคะ นี่เป็นแผนกผู้ป่วยและเขากำลังตะโกน…” พยาบาลตื่นตระหนก “ทุกคนที่อยู่ที่นี่…”
เว่ยปู้ถีแทรก “ไม่ใช่ว่ามันเป็นช่วงมื้อเย็นเหรอ? เขาไม่เสียงดังนานหรอก ฉันจะรับผิดชอบปัญหาต่างๆเอง”
ในที่สุดพยาบาลก็พยักหน้า เธอไม่รู้ว่าเว่ยปู้ถีเป็นใคร แต่ก็ไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆที่จะมาอยู่ที่นี่ได้ ส่วนใหญ่ต่างก็เป็นลูกหรือญาติพี่น้องของเหล่าเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจเว่ยปู้ถีมีเสน่ห์ที่ล้นเหลือและไม่น่าจะมีปัญหาอะไรถ้าเธอสัญญาว่าจะรับผิดชอบ
“งั้นให้เวลาสักพักละกันค่ะ ห้ามเขาเป็นแบบนี้นานนะคะ”
“มั่นใจได้เลย ไม่กี่นาทีเท่านั้นแหละ”
……
สือเหล่ยยังคงตะโกนด้วยความฉุนเฉียวอยู่ภายในห้อง “ยัยผู้หญิงบ้า รีบลุกขึ้นมา! เธอไม่ใช่คนที่กลัวเรื่องอะไรแบบนี้ มันมีอะไรที่ต้องกลัวกัน? ทำไมเธอถึงกลัวว่าฉันจะมาอยู่ที่นี่กับเธอ? เธอคิดว่ามันมีประโยชน์เหรอที่จะหมดสติไปในเวลาแบบนี้? ฉันจะบอกให้ว่าพี่ชายของเธอติดคุกแล้ว เขาจะถูกพิพากษาในไม่ช้าและไม่สามารถหลบหนีจากโทษประหารชีวิตได้ พ่อของเธอไม่สามารถช่วยเขาได้และเขาจะตาย ถ้าเธอตื่นขึ้นมา เธอก็จะสามารถคิดหาวิธีที่จะช่วยชีวิตตัวเธอเองและน้องสาวของเธอได้”
เว่ยชิงเยว่ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ แต่น้ำตาของสือเหล่ยกลับไหลบ่า
“เฮ้ย! ยัยผู้หญิงบ้า รีบตื่นขึ้นมานะ เธอรู้ไหมว่าฉันเป็นห่วงเธอ เธอต้องการให้ฉันโทรหาคนส่งน้ำมาที่นี่และจูบเธอเพื่อทำให้เธอตื่นขึ้นมาเหรอ เว่ยชิงเยว่! เธอ… ถ้าเธอตื่นขึ้นมาตอนนี้ ฉันจะพาเธอไป ฉันจะพาเธอไปที่ห้องของฉัน ตกลงไหม? เธอสามารถอยู่ที่นั่นได้นานเท่าที่เธอต้องการ ฉันจะเช่าห้องข้างๆและบอกเหยาเอ้อให้เอาไวน์ที่เธอชอบมาเติมให้เต็มเลย ฉันจะดื่มกับเธอทุกวันและมีอะไรกับเธอหลังจากนั้น เธอจะมีความสุขไหมถ้าฉันทำแบบนั้น? รีบตื่นขึ้นมาได้แล้ว…”
สือเหล่ยตะโกนจนเสียงแหบแห้ง เสียงของเขารบกวนทหารสองคนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่
พวกเขาสบตากันและครุ่นคิดว่าควรจะไปเตือนเขาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ถ้ามีคำสั่งให้ให้ปล่อยพวกเขาเข้าไป ดูเหมือนว่าพวกเขาก็ไม่ต้องทำอะไรเว้นเสียแต่ว่าจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น
ไม่เป็นไร พวกเขาจะทำอะไรบางอย่างถ้าห้องอื่นบ่น
พยาบาลทุกคนก็มีความคิดเช่นเดียวกัน
สือเหล่ยเหนื่อยจากการตะโกน เขานั่งลงบนขอบเตียงและเขย่าไหล่ของเว่ยชิงเยว่อย่างรุนแรง น้ำตาในดวงตาของเขาตกลงมาอย่างต่อเนื่องบนหน้าอก คอ และใบหน้าอันงดงามของเว่ยชิงเยว่…
หยดน้ำตาตกลงบนเปลือกตาของเว่ยชิงเยว่อย่างเงียบๆ น้ำตาร้อนขึ้นและเว่ยชิงเยว่ดูเหมือนจะขยับเล็กน้อยจากความร้อนและเปลือกตาของเธอดูเหมือนจะขยับ อย่างไรก็ตาม สายตาของสือเหล่ยก็พร่ามัวจากน้ำตาและเขาก็ไม่ได้สังเกตเห็น
เขาหยุดตะโกน แต่ยังคงพูดออกมา “ยัยผู้หญิงบ้า ฉันตอบกลับข้อความ WeChat ของเธอในวันปีใหญ่ ทำไมเธอถึงไม่ตอบ? สวัสดีปีใหม่อะไรกัน? เธอไม่ติดต่อฉันและฉันก็ไม่รู้ว่าเธอปลอดภัยไหม แบบนี้ฉันจะมีความสุขได้ยังไง?”
สือเหล่ยเช็ดน้ำตาบนใบหน้าด้วยแขนเสื้อของเขา จากนั้นเขาก็ก้มหัวลงอีกครั้งและพูดต่อ แต่ก็น่าแปลก เขาเห็นน้ำตาหยดหนึ่งที่มุมของดวงตาของเธอ
สือเหล่ยอึ้งไป เขาแทบจะสะดุ้งและเรียกหมอ แต่ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่ามันอาจจะเป็นน้ำตาของตัวเองที่เพิ่งหยดลงไป เขารีบเช็ดออก… อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่สามารถเช็ดมันให้แห้งได้ หลังจากที่นิ้วของเขาแตะมัน ดวงตาของเธอก็เปียกอีกครั้ง สือเหล่ยเช็ดน้ำตาที่ไหล่ออกมาจากดวงตาของเว่ยชิงเยว่มากขึ้นเรื่อยๆ เปลือกตาของเธอขยับอีกครั้งและในที่สุดเธอก็ลืมตาขึ้น
“เธอตื่นอยู่ใช่ไหม? เธอตื่นแล้วใช่ไหม? เว่ยชิงเยว่ ยัยผู้หญิงบ้า คุยกับฉัน!” สือเหล่ยเช็ดน้ำตาบนใบหน้าอย่างรุนแรงเพราะเขากลัวว่ามันจะเป็นแค่ภาพลวงตา
ดวงตาของเว่ยชิงเยว่เปิดออกและพวกมันก็แดงก่ำ เธอมองมายังสือเหล่ยอย่างอ่อนแรงด้วยริมฝีปากที่แยกออกจากกันเล็กน้อย
สือเหล่ยลุกขึ้นในทันทีและตะโกนออกมา “หมอ! หมอ! เธอตื่นแล้ว…”
แต่เว่ยชิงเยว่ก็เอี้ยวตัวขึ้นมาและคว้าสือเหล่ยไว้ เธอยิ้มอย่างอ่อนแรงแต่ก็สดใส “ฉันได้ยินทุกอย่างแล้ว นายบอกว่านายจะนอนกับฉัน…”