The Black Card - ตอนที่ 412
ตอนที่ 412 – เงื่อนไขที่ไม่สามารถปฏิเสธได้
เว่ยชิงเยว่ยังไม่ฟื้นตัวจากความอบอุ่นที่เหลืออยู่ของสือเหล่ย ใบหน้าของเธอยังคงเป็นสีชมพูและเธอก็สนุกไปกับการยกตัวขึ้นและลงตามลมหายใจของสือเหล่ยในอ้อมแขนของเขา
เมื่อเธอได้ยินคำถามของเขา ในที่สุดเว่ยชิงเยว่ก็ได้สติกลับมาและทุกๆอย่างก็กลับเข้ามาสู่ภายในใจของเธอ
“พี่สามของฉันมีร่างกายที่อ่อนแอมาตั้งแต่เด็กและเขาก็มีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ เขาจะมีทรมาณจากโรคร้ายต่างๆมากมาย พ่อบุญธรรมของฉันเป็นห่วงเขามาก แต่หมอก็ไม่สามารถทำอะไรกับมันได้เลย หลังจากการตรวจสอบไปมากมาย พวกเขาก็รู้แค่ว่าเขามีความไม่สมบูรณ์ทางพันธุกรรมและมีบางอย่างที่ผิดปกติกับเลือดของเขา อืม มันโชคดีที่เขาเกิดมาในตระกูลของพ่อบุญธรรม เขาคงจะตายไปนานแล้วถ้าเกิดในในครอบครัวธรรมดาๆ ตอนพ่อบุญธรรมของฉันตกลงร่วมมือกับพ่อของฉันในครั้งแรก มันก็เป็นเพราะพี่ชายสามนี่แหละ”
สือเหล่ยพยักหน้าและจูบหน้าผากของเว่ยชิงเยว่ก่อนที่จะถาม “แต่หมอเดี๋ยวนี้ก็เก่งขึ้นแล้วไม่ใช่เหรอ พ่อบุญธรรมของเธอก็ทรงอำนาจขึ้นตั้งเยอะ มันเข้าใจได้ว่าเขาไม่สามารถรักษาลูกชายได้ แต่ทำลูกชายของเขาถึงมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ไม่เกินสองปี?”
“เมื่อ 7 – 8 ปีก่อน พี่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว เขามีปัญหาเรื่องเลือดอยู่เสมอและหมอก็เตือนพ่อบุญธรรมมานานแล้ว อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่คิดว่ามันจะถึงขั้นนี้แม้ว่าพวกเขาจะป้องกันทุกๆสิ่งไว้แล้ว?”
“โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว? ลูคีเมีย?”
“ใช่ แต่มันยังมีเฉพาะเจาะจงลงไปอีก ฉันไจำไม่ได้จริงๆเพราะมันมีหลายประเภท อาการของพี่ชายฉันค่อนข้างพิเศษ ถ้าเขาได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่ต้นและได้รับการดูแล อัตราการรักษาจะเป็น 3% และอัตราการตอบสนองจะสูงถึง 70% ผมของพ่อบุญธรรมเปลี่ยนเป็นสีขาวทั้งหมดจากความกังวลและมันไม่ควรจะขาวเลยในช่วงอายของเขา”
สือเหล่ยจำได้ว่าชายชรามีผมสีขาวเมื่อตอนที่เขาปรากฏตัวในข่าว
“พี่ชายของฉันโชคดีมาก เขาพบไขกระดูกที่ตรงกัน แต่แม้ว่าเขาจะเปลี่ยนถ่ายมัน เขาก็ไม่ได้หลุดพ้นจากชะตากรรมที่สวรรค์ได้ลิขิตไว้ให้กับเขาเพราะเขาได้กลับมาสู่สภาพเดิมอีกหลังจากผ่านไปไม่กี่เดือน หมอบอกว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรแม้ว่าพวกเขาจะพบไขกระดูกที่ตรงกันมากยิ่งขึ้นเนื่องจากร่างกายของเขาไม่สามารถทนต่อการผ่าตัดได้แล้ว ถ้าเขาต้องการ มันก็มีโอกาส 90% ที่เขาจะตายระหว่างการผ่าตัด พ่อบุญธรรมไม่สามารถทำอะไรได้ เขายอมแพ้ไปแล้ว พี่ชายของฉันก็ยอมแพ้ เขาใช้ชีวิตไปแบบวันต่อวัน ตามสถานการณ์ปัจจุบันของเขา หมอบอกว่าถ้าพูดในแง่ดี เขาจะไม่อยู่นานไปกว่า 3 ปี ถ้าพูดตามความเป็นจริง เขาจะจากไปใน 2 ปีนี้”
สือเหล่ยจมลงสู่ความคิดของเขา โรคนี้ค่อนข้างซับซ้อน เขาเชื่อว่ายาที่ได้รับมาจากคทาสามารถรักษาได้ทุกโรค แต่มันก็เกินกว่าความเชื่อของเขา
“แต่หมอบอกว่าอาจจะมีปาฏิหาริย์ พี่ชายของฉันมองโลกในแง่ดีและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อติดตามการฟื้นฟู ทุกคนในตระกูลต่างหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น นายถามทำไมเหรอ?”
สือเหล่ยครุ่นคิดและจับเว่ยชิงเยว่ไว้แน่นก่อนที่จะกระซิบใส่หูของเธอ “จำไว้ว่ามีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ความลับนี้ ฉันสามารถรักษาโรคของเขาได้”
เว่ยชิงเยว่ตะลึงงัน เธอผลักสือเหล่ยออกไปและถลึงตาอันงดงามของเธอใส่เขา
“เป็นไปไม่ได้!” เว่ยชิงเยว่ไม่เชื่อมันเลย
สือเหล่ยยักไหล่ “ฉันรู้ว่ามันยากที่จะเชื่อ แต่เธอต้องเชื่อฉันเพราะฉันไม่มีเหตุผลที่จะโกหกเธอ และเธอจะอยู่ในตำแหน่งที่แย่ที่สุดเหมือนกับเมื่อไม่กี่วันก่อน”
เว่ยชิงเยว่มองไปที่สือเหล่ยด้วยความลังเลและพูดด้วยความไม่เชื่อ “จะเป็นไปได้ยังไง? มีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากจากอเมริกาและเยอรมนีที่ตรวจสอบพี่ชายของฉัน แต่ตระกูลของพ่อบุญธรรมก็รู้ว่ามีเพียงปาฏิหาริย์เท่านั้นที่ปลอบโยนพวกเขาได้ แม้กระทั่งในช่วงหลายปีมานี้ โอกาสหายขนาดก็มีแค่ 3% เท่านั้น มันแทบจะไม่ถึง 1% แล้วตอนนี้ อย่าพยายามทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นเลย”
สือเหล่ยจับมือเว่ยชิงเยว่ไว้แน่นๆอีกครั้งและพูดเบาๆว่า “เธอเป็นของฉันแล้ว ฉันจะโกหกเธอได้ยังไง? ถึงอย่างไรก็ตาม ฉันก็สามารถรักษาเขาได้”
“แต่นายไม่ใช่หมอและนายก็ไม่ณู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นโรคอะไรเมื่อ 10 นาทีที่แล้ว”
“เธอไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอต้องเชื่อฉัน เชื่อฉันอย่างไม่มีเงื่อนไข เธอสามารถไปบอกพ่อบุญธรรมของเธอได้ว่าคนที่สามารถรักษาลูกชายของเขาได้มีเงื่อนไขให้เขาช่วยเธอและน้องสาวของเธอ ไม่ว่ายังไง เธอก็ต้องโน้มน้าวเขาให้มาพบฉันให้ได้”
สือเหล่ยคิดว่ามันเป็นการดีที่สุดที่ชายชราจะเชื่อในตัวเขา ถ้าเขาทำไม่ได้ เขาก็ยังมีบัตรลิ้นดอกบัว ถ้าเขาใช้มัน ชายชราก็คงจะเชื่อเขา ในทันทีที่ชายชราเชื่อเขา ผลต่อเนื่องของบัตรก็จะทำให้เขารักษาคำพูดของตัวเอง
เว่วชิงเยว่ยังคงไม่เชื่อ แต่ในขณะเดียวกับเธอก็เชื่อว่าสือเหล่ยจะไม่โกหกเธอ อย่างไรก็ตาม เธอก็กังวลว่าถ้าสือเหล่ยไม่สามารถทำตามสิ่งที่เขาสัญญาไว้ได้ เขาอาจจะทำให้ชายชราโกรธได้ แม้ว่าชายชราจะไม่ใช้วิธีการที่รุนแรง แต่ถ้าเขาเปิดเผยท่าทีของตนเล็กน้อย ชีวิตของสือเหล่ยก็จะยากขึ้นมาก
“นายทำได้จริงๆเหรอ…?”
“มั่นใจได้เลย ฉันทำได้ ฉันจะพูดอีกครั้ง เธอต้องเชื่อฉันอย่างไม่มีเงื่อนไข”
เว่ยชิงเยว่ยอมรับมันโดยไม่มีทางเลือก แต่ก็มีข้อสงสัยอยู่ในใจ หลังจากทำมันเป็นครั้งที่สองกับสือเหล่ยหลังจากเพิ่งพื้นตัวมา เธอก็หมดแรง เธอนอนอยู่ในอ้อมแขนของสือเหล่ยและหลับไป
หลังจากที่เธอตื่นขึ้นมา สือเหล่ยก็ได้ซื้ออาหารเช้ามาแล้วและเว่ยชิงเยว่ก็มีความสุขกับมันอยู่บนเตียง และกินทุกๆอย่างที่สือเหล่ยซื้อมา
“อืมม รสชาติแห่งความสุข แต่ก้อนหิน นายทำได้จริงๆเหรอ…?”
“ฉันบอกว่าได้! ไม่ใช่ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ต้องเชื่อทุกๆสิ่งที่ผู้ชายของเขาพูดงั้นเหรอ?”
เว่ยชิงเยว่เบ้ปาก “ฉันแค่กังวลว่านายจะทำไม่ได้และพ่อบุญธรรมจะพาลเอามาลงที่นาย”
“อย่างแรกนะ ฉันทำได้ อย่างที่สอง ฉันไม่เชื่อว่าผู้อาวุโสแบบนั้นจะพาลมาลงที่คนอื่นๆง่ายๆ สำหรับเขา มันก็เป็นแค่ความพยายามเท่านั้น มันไม่สามารถเลวร้ายลงได้ใช่ไหมล่ะ?”
เว่ยชิงเยว่คิดและพยักหน้า “มันก็จริง”
“ลุกไปอาบน้ำแต่งตัวดีๆเพื่อไปเจอพ่อบุญธรรมของเธอได้แล้ว ไม่ว่าจะยังไง ทำให้ฉันได้มีโอกาสไปเจอกับเขา” สือเหล่ยเลิกผ้าปูที่นอนขึ้นและตบไปที่ก้นของเว่ยชิงเยว่อย่างหนักหน่วง
เว่ยชิงเยว่ร้องออกมาและเตะสือเหล่ยกลับไปโดยไม่รู้ตัว “นายชักจะเอาใหญ่แล้วนะ? นายกล้าตีฉันเหรอ!”
ตามที่คาดไว้ เว่ยชิงเยว่ยังเป็นคุณผู้หญิงที่ไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเธอได้
สือเหล่ยยิ้มในขณะที่เขาหลบลูกเตะและแตะของของเว่ยชิงเยว่ จากนั้นเขาก็ดึงเธอเข้ามาและจูบไปที่ริมฝีปากของเธอเบาๆ
จากนั้นสักพัก สือเหล่ยก็ไม่ยอมปล่อยเธอจนกระทั่งเธอเกือบหมดสติไป
“ไปอาบน้ำและทำในสิ่งที่ฉันบอกกับเธอ”
เว่ยชิงเยว่ปีนลงจากเตียง อาบน้ำ เปลี่ยนชุด และสือเหล่ยก็ดูเธอออกไป
เมื่อยืนอยู่ที่ประตู เว่ยชิงเยว่ก็ยังมองมาที่สือเหล่ยด้วยความเป็นกังวล “มันจะได้ผลจริงๆเหรอ?”
สือเหล่ยตีก้นอวบอั๋นของเว่ยชิงเยว่อีกครั้งและดึงใบหน้าของเธอลงมา “ฉันบอกหลายครั้งแล้วนะ!”
เว่ยชิงเยว่กรอกตาของเธอและในที่สุดก็ตกลง “ก็ได้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับนาย ฉันจะตายไปพร้อมกับนาย!” เธอกอดคอของสือเหล่ยและจูบเขาด้วยอารมณ์
มันยังเป็น Buick GL8 คันเดิม คนขับรู้สึกดีใจมากที่ได้เห็นเว่ยชิงเยว่
“คุณเว่ย ดีจริงๆที่ได้เห็นความคุณไม่เป็นอะไร ผมมีความสุขมากที่ได้รับสายคุณ ผมรอสายตั้งแต่วันนั้น แต่คุณก็ไม่โทรมา ดังนั้นผมจึงไปที่บ้านของเขาและถาม ยามที่ประตูบอกผมว่าคุณถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาล ฉันไม่สามารถติดต่อคุณได้และรู้สึกเป็นห่วงมาก”
เว่ยชิงเยว่ยิ้ม “ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงนะ ไปที่เดิมกันเถอะ”