The Bloodline System ศึกแห่งสายเลือด - ตอนที่ 20
ตอนที่ 20: การจัดการกับรุ่นน้อง
หมอกควันกำลังปะทุออกมาจากลูกบอลและมือของเขา ขณะที่ไฟดับลง
เขาจ้องมองนักเรียนที่เข้ามาใกล้ด้วยสายตาเย็นชา
นักเรียนที่เล่นอยู่ในสนามกำลังมุ่งหน้ามาหาเขา
มีพวกเขาประมาณเจ็ดคนมุ่งหน้าไปในทิศทางของเขา พวกเขาสี่คนสวมเสื้อกั๊กกีฬาสีเหลืองกับกางเกงขาสั้นสีขาว ส่วนอีก 3 คน สวมเสื้อกีฬาสีเขียวและกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน พวกเขาทั้งหมดมีโครงสร้างขนาดใหญ่ ที่ทำให้พวกเขาดูเหมือนนักเพาะกาย
“เฮ้คุณโอเ- … ” หนึ่งในนั้นกำลังจะถาม แต่เขาจำใบหน้าของคนที่จับบอลได้
“แกนี่นา” นักเรียนที่อยู่ในชุดกีฬาสีเหลืองผมยาวสีน้ำเงินชี้ไปที่กุสตาฟ
“คืนบอลของเรามา” เขาพูดด้วยน้ำเสียงคุกคาม
กุสตาฟจับลูกบอลไว้ข้างหน้าเขา พร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง“ นั่นคือสิ่งที่เรียกว่าขอโทษหรอ?”
กุสตาฟจำได้ว่านักเรียนเหล่านี้มาจากชั้น 2 ซึ่งหมายความว่าพวกนั้นเป็นรุ่นน้องของเขา
พวกนั้นเป็นรุ่นน้องของเขา แต่ดูเหมือนเขาเป็นรุ่นน้องในหมู่รุ่นน้องพวกนี้เนื่องจากขนาดตัวของเขา
โดยปกติแล้วนักเรียนชั้นม. 3 จะไม่ได้มาเล่นอยู่แล้ว เนื่องจากทุกคนกำลังยุ่งอยู่กับการพยายามถ่ายทอดสายเลือดของพวกเขาผ่านจุดที่สี่
“ ขอโทษ?” นักเรียนชายจ้องไปที่กุสตาฟด้วยสายตาที่งุนงง
ฮ่า ๆ ๆ ๆ!
ทันใดนั้นนักเรียนทั้ง 7 คนก็เริ่มหัวเราะอย่างหนัก หลังจากได้ยินสิ่งที่กุสตาฟพูด
“ไอ้ถังขยะนี้กล้าที่จะบอกให้เราขอโทษเหรอวะ! ถังขยะแบบแกคงรู้แต่วิธีใช้ยาเพิ่มประสิทธิภาพเท่านั้น ไม่สมควรได้รับคำขอโทษหรอกเว้ย!” หนึ่งในนั้นตะโกนออกมาจากด้านข้าง
“เอาล่ะ เนื่องจากไม่มีคำขอโทษ ฉันเดาว่าเกมของคุณคงต้องจบลงแล้ว!” ทันทีกุสตาฟพูดคำเหล่านั้น มือของเขาบนลูกบอลก็กำแน่น
ป๊ะ!
เสียงระเบิดดังก้องไปทั่วสถานที่
นิ้วของกุสตาฟแทงทะลุลูกบอล ทำให้มันระเบิดออกมา
ทุกคนถึงกับอ้าปากค้าง!
‘เขาทำอย่างนั้นได้ยังไง? แม้ตอนนี้พลังของฉันจะไม่สามารถทำลายลูกบอลได้เว้น แต่ฉันจะโจมตีมันด้วยพลังเต็มที่ของฉัน! ‘ ชายที่พูดก่อนหน้านี้ มีท่าทางไม่เชื่อ ในขณะที่เขาจ้องไปที่ลูกบอลที่ถูกแบนอย่างสมบูรณ์
ลูกบอลนี้เป็นชนิดพิเศษ ที่ทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อให้แข็งแรงกว่าปกติ ความยืดหยุ่นของมันทำให้แน่ใจว่าพวกมันจะไม่ได้รับบาดเจ็บ เมื่อพวกเขาเตะมัน แต่มันก็มีพลังมากพอที่จะทนต่อการเตะของพวกเขา เมื่อพวกเขาใช้ความสามารถทางสายเลือดของพวกเขาเตะมัน
เมื่อเลือดผสมเล่นฟุตบอล พวกเขาใช้ความสามารถของพวกเขาในเกม ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกบอลถูกเคลือบด้วยเปลวไฟในช่วงก่อนหน้านี้ หนึ่งในนั้นใช้ความสามารถทางสายเลือดของเขาในการเตะ
‘เขาต้องใช้ยาพวกนั้นอีกครั้งแน่’ พวกเขาส่วนใหญ่ได้ข้อสรุป หลังจากคิดถึงเรื่องนั้น
พวกนักเรียนพวกนั้น อยากจะพูดอีกครั้ง แต่ก็เห็นบางอย่างมุ่งตรงมาที่ใบหน้าของเขา
กุสตาฟขว้างอะไรก็ตามที่เหลืออยู่ของลูกบอลไปที่ใบหน้าของนักเรียนที่เพิ่งพูด
พาว!
มันเป็นเพียงการขว้างแบบสบาย ๆ แต่มันก็มีแรงมากพอที่จะผลักเขากลับไป
“อ๊ากกก!” นักเรียนคนนั้นร้องอุทานด้วยความเจ็บปวด หลังจากการที่กุสตาฟโยนมาที่เขาแบบไม่คาดคิด เขาจับจมูกของเขาซึ่งมีหยดเลือดไหลลงมา
“แกมันเลว!” เขาพูดขณะจับจมูก
“อ๊ะ ฉันแย่หรอ … ฉันแค่พยายามคืนของที่มันเป็นของคุณเอง” กุสตาฟพูด ขณะที่เขาขยับไปทางซ้ายเล็กน้อยและเริ่มเดินไปข้างหน้า
กุสตาฟเดินผ่านด้านข้างของพวกเขา ขณะที่เขาเดินไปเรื่อย ๆ และ
6 คนที่เหลือไม่ได้พยายามที่จะหยุดเขา
“ ไอ้ขยะแกคิดจะไปไหนวะ” นักเรียนที่มีเลือดออกจมูก พุ่งเข้าหากุสตาฟจากด้านหลังอย่างรวดเร็ว
เขาเหวี่ยงหมัดออกจากด้านหลัง
กุสตาฟยังคงเดินไปข้างหน้าเหมือนไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำปั้นกำลังมุ่งหน้ามาหาเขาจากด้านหลัง
เขาเดินนำกำปั้นที่ตามมา ซึ่งมันห่างไปเพียงไม่กี่เซนติเมตร และจากการสัมผัสด้านหลังศีรษะของเขา กุสตาฟก็ขยับศีรษะไปทางซ้ายเล็กน้อย
เฟี้ยว!
หมัดผ่านหน้าทางด้านขวาของใบหน้าของกุสตาฟจากด้านหลัง ทำให้ผมของเขาขาด นักเรียนคนนั้นไม่ลดละและยังคงออกหมัดต่อไป แม้ว่าเขาจะล้มเหลวในการออกหมัดครั้งแรกนั่น
ฟึบ! ขยับศรีษะหนี! เฟี้ยว! ขยับศรีษะหนี! เฟี้ยว!
กุสตาฟหลบทุกการโจมตีได้อย่างง่ายดายและลื่นไหล
นักเรียนรุ่นน้องขว้างกำปั้นที่ขยายขนาดใหญ่ออกไป ในขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้า คราวนี้เห็นได้ชัดว่ามันทรงพลังกว่าครั้งก่อนมาก
กุสตาฟที่หลบอยู่ โดยไม่แม้แต่จะหันไปเผชิญหน้ากับนักเรียนกลุ่มนั้น และเขาก็หลบการโจมตีไปทางซ้ายและยื่นเท้าขวาออกไป
‘หืม?’
เนื่องจากร่างกายของเขาเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็วอย่างกะทันหัน เนื่องจากกำปั้นอันหนักหน่วงที่เขาขว้างออกไป เขาจึงไม่สามารถหยุดตัวเองได้ทันเวลา แม้ว่าจะเห็นเท้าติดอยู่ตรงหน้าก็ตาม
ฟึ้บ!
ทันทีที่เท้าซ้ายของเขาชนกับเท้าขวาของกุสตาฟเขาถูกส่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
แบม! แบม! แบม!
เขากลิ้งข้ามถนนซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนจะหยุดลง
“อ๊ะ ขาฉันลื่น นายน่าจะดูด้วยนะ เวลาจะเดินไปที่ไหน” กุสตาฟพูด ขณะที่เดินไปข้างหน้า
นักเรียนคนนั้นกัดฟันด้วยความโกรธ ในขณะที่ยังคงนอนอยู่บนถนนและหันกลับไปมองเพื่อนที่เหลือ
“ พวกแกจะยืนดูอยู่ตรงนั้นอีกนานไหม?” เขาตะโกนออกไปด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ
พวกเขาทั้ง 7 สะดุ้ง
“มันใช้ยาพวกนั้นมากขึ้นสินะ และฉันก็ไม่อยากจะลงเอยเหมือนฮังโจด้วย!” หนึ่งในนั้นเปล่งความคิดของคนอื่น ๆ ออกมา
“พวกแกเป็นคนขี้ขลาดเหรอ มันไม่สามารถทำอะไรพวกเราได้ในตอนนี้หรอก! ถ้ามันต่อสู้ มันจะถูกไล่ออก!” นักเรียนคนนั้นที่นอนบนพื้นบอก
‘โอ้ เป็นอย่างนั้นเหรอ?’
เมื่อพวกเขาเข้าใจแล้วพวกเขาก็เริ่มเดินไปข้างหน้า
พวกเขารู้สึกว่า แม้ว่ากุสตาฟจะใช้ยาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ แต่เขาก็ไม่สามารถหลบหลีก พวกเขาทุกคนได้ในเวลาเดียวกัน
กุสตาฟหันไปจ้องมองทั้ง 6 คนที่วิ่งมาหาเขา ในขณะที่กำลังรวบรวมสายเลือดของพวกเขาไปด้วย
หนึ่งในนั้นมีตาแหลมสีเข้มยื่นออกมาจากดวงตาของเขา ซึ่งเขาลากออกมาและถือเหมือนอาวุธก่อนที่จะวิ่งไปหากุสตาฟ
อีกคนร่ายเวทมนตร์ไปรอบ ๆกำปั้น และขาของเขา ขณะที่เขาวิ่งไปหากุสตาฟ ลูกบอลโลหะขนาดเล็กลูกหนึ่ง ปรากฏขึ้นจากอากาศเบาบาง เขาวางมันลงในฝ่ามือและใช้นิ้วกลางเริ่มสะบัดออกทีละอัน
ความเร็วของลูกบอลขนาดเล็ก เหมือนกระสุนจากปืน ขณะที่พวกเขายิงไปยังกุสตาฟ
ซ๊วฟ ๆ !
กุสตาฟขยับไปทางซ้ายทันที เพื่อหลบกระสุนปืนลูกแรก
หลบ! หลบ! หลบ! หลบ!
กุสตาฟหลบกระสุนอย่างหมดจดอีกครั้ง และคนอื่น ๆ มาถึงตรงหน้าเขาแล้ว พร้อมกับการโจมตีของพวกเขา เมื่อเขาหลบเสร็จ
“ เฮ้!” “ ไฮย่า!”
พวกเขาทั้งหมดตะโกนออกมา ขณะที่พวกเขาโจมตีกุสตาฟในเวลาเดียวกัน
หลบ! หลบ! หลบ! หลบ!
ราวกับว่ากุสตาฟมีสายตาที่ด้านหลังศีรษะ ขณะที่เขาหลบการโจมตีจากทุกมุม
เปลวไฟหมัดและอื่น ๆ ทุกการโจมตีไม่สามารถสัมผัสเขาได้
เช่นเดียวกับที่พวกเขากล่าวว่ากุสตาฟไม่สามารถโจมตีพวกเขาได้ ในตอนนี้ เนื่องจากถูกลงโทษ และเนื่องจากเขาไม่ต้องการถูกไล่ออกจากโรงเรียน แต่เขาได้คิดหาวิธีจัดการกับพวกเขาแล้ว โดยไม่ต้องออกหมัดใดๆ
สิ่งที่กุสตาฟใช้อยู่ในขณะนี้คือโหมดการรับรู้และความเร็วที่สูงขึ้นของเขาควบคู่ไปกับความว่องไว ดังนั้นเขาจึงสามารถเร่งความเร็วและชะลอตัวลงในเวลาใดก็ได้อย่างง่ายดาย
การรับรู้ของเขาทำให้เขารู้สึกได้ถึงทุกสิ่งภายในรัศมี 20 เมตร นี่คือสาเหตุที่การโจมตีของพวกเขาไม่สามารถโจมตีเขาได้ แม้กระทั่งตรงจุดบอดของเขา
กุสตาฟหลบในลักษณะซิกแซกราวกับว่าเขากำลังเต้นรำอยู่
“ไอ้นี่มันจะอยู่แค่ที่ที่เดียว!” นักเรียนคนหนึ่งเปล่งเสียงออกมาอย่างงี่เง่าด้วยท่าทางหงุดหงิด
หลังจากหลบไปอีกไม่กี่วินาทีกุสตาฟก็เร่งถอยหลังทันที
ฟู้ว!
การเคลื่อนไหวและความเร็วอย่างกะทันหันของเขาเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิด เนื่องจากเขาเคลื่อนไหวด้วยความเร็วมากตั้งแต่เริ่มต้น
‘ห้ะ?’
นักเรียนที่กำปั้นของเขาเคลือบด้วยไฟได้เหวี่ยงหมัดออกไปแล้วและมันก็มุ่งไปที่ใบหน้าของเพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งของเขา แต่เมื่อเขาสังเกตเห็นเขาก็ไม่สามารถหยุดตัวเองได้
คนที่ถือเหล็กแหลมยาวสีเข้มกำลังเหวี่ยงมันไปที่คอของนักเรียนที่กำปั้นของเขาเคลือบด้วยไฟ ขณะที่ลูกบอลโลหะขนาดเล็กพุ่งไปที่ตาซ้ายของเขา
แบม! แบม! แบม!
มันสายเกินไปที่จะถอนการโจมตีของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงลงเอยด้วยการโจมตีกันเอง
“เอื้อ!” “อ๊าก!” “อ๊อก!”
เสียงร้องแห่งความเจ็บปวดดังขึ้น เมื่อพวกเขาสี่คนล้มลงกับพื้น ขณะที่จับส่วนต่างๆของร่างกาย
อีกสามคนที่เหลือพร้อมกับคนแรกที่โจมตีหยุดก้าวของพวกเขาชั่วคราวและจ้องมองไปที่กุสตาฟ
การจดจำความเร็วที่เขาแสดงในวินาทีสุดท้าย ทำให้พวกเขารู้สึกลังเลที่จะกลับมาโจมตีอีกครั้ง
‘เราแตะต้องเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ!’
‘เขาใช้ยาเพิ่มประสิทธิภาพระดับไหน!’
ความคิดเหล่านี้วิ่งพล่านในจิตใจของพวกเขา
“ในฐานะรุ่นพี่ของคุณ ฉันคิดว่าวันนี้ฉันได้สอนบทเรียนที่มีค่าแก่คุณไปแล้ว 7 บทเรียน … เข้ามาใกล้ฉันและจงได้รับแต่ความอัปยศอดสูนั่นไปซะ!” กุสตาฟพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ขณะที่เขาหันกลับไปเพื่อเดินต่อไปอีกครั้ง
พวกเขาสงสัยว่ากุสตาฟหมายถึงอะไร ความอัปยศอดสูยังไง แต่เมื่อมองไปรอบ ๆ และสังเกตว่าพวกเขารายล้อมไปด้วยนักเรียนที่มาดูสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาให้ความสำคัญกับการจัดการกับกุสตาฟมาก จนไม่ได้สังเกตว่าพวกเขาถูกนักเรียนรายล้อมอยู่แล้ว
พวกเขารู้สึกถึงความอัปยศอดสูอย่างแท้จริงในทันที ประเภทที่ซึมลึกเข้าไปในกระดูกของพวกเขา เมื่อพวกเขาเห็นการจ้องมองที่ผิดหวังของนักเรียนที่อยู่รอบ ๆ พวกเขา
– “พวกเขาจัดการกับถังขยะไม่ได้แม้แต่นิดเดียว!”
– “พวกมันทั้งหมดไร้ประโยชน์!”
– “พวกเขาจบลงด้วยการตีกันเองโดยที่เขาไม่แตะต้องพวกนั้นลย!”
เสียงเยาะเย้ยของนักเรียนดังขึ้น ทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนจมลงไปในดิน
ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่ารู้สึกอย่างไร เมื่อกุสตาฟถูกเยาะเย้ยและอับอายทั้งวัน
“ ฉันจะจัดการกับเขาเอง!”
ได้ยินเสียงดังมาจากทางซ้าย
ทุกคนหันไปด้านข้างเพื่อจ้องมองคนที่เพิ่งเข้ามา
————————————————————————————————————————————-