The Bloodline System ศึกแห่งสายเลือด - ตอนที่ 46
ตอนที่ 46: คำเชิญ
‘ดูเหมือนว่าในที่สุดพวกเขาจะเติบโตขึ้นบ้างแล้วนะ‘ กุสตาฟหันกลับมาและเริ่มเดินไปที่ประตู
‘ถึงเวลาเก็บค่าชดเชยแล้ว‘ ตอนนี้เราสามารถเห็นรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของกุสตาฟ ขณะที่เขาไปที่ประตูของ Dojo และกำลังเลื่อนมันไปด้านข้างแล้วหลบด้านหลังประตูนั้น
ทันใดนั้นกุสตาฟก็เลื่อนประตูไม้ออก สิ่งที่ปรากฏในสายตาของเขาคือเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง 4คน พวกเขาดูเหมือนจะเป็นวัยรุ่นเหมือนกับกุสตาฟและเขาก็จำใบหน้าของพวกเขาทั้งสองคนได้ เด็กชายสองคนเป็นหนึ่งในนักเรียนที่เฝ้าดูการต่อสู้ระหว่างเขากับออโรร่า พร้อมกับมาสึบะ และเด็กผู้หญิงอีกสองคนนั้นกุสตาฟไม่รู้จัก
พวกเขาทั้ง 4 คนหยุดเถียงกันทันทีเมื่อเห็นกุสตาฟปรากฏตัว
“ นั่นคือเขาเหรอ” หญิงสาวที่มีผมสีดำและสีม่วงด้านขวาตั้งคำถามกับเด็กผู้ชายคนหนึ่ง
“ใช่เขาเป็นคนเดียวกันกับคนตอนนั้น” เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่มีหน้าตาท้วมตอบ
“อะไรนะ!! เขาดูตัวเล็กและอ่อนแอมากเกินไป!” หญิงสาวคนที่สองที่มีผมสีน้ำตาลพูดด้วยท่าทางเยาะเย้ย
ใบหน้าของเด็กชายทั้งสองซีดลง เมื่อได้ยินเช่นนั้น
“ ฉันคิดว่ามันจะต้องมีใครบางคนต้องการที่จะข่มขู่เรามากกว่า” หญิงสาวผมสีดำและผมสีม่วงพูดอีกครั้ง
“ เขาดูเหมือนเด็กน่ารักๆคนนึง มาสึบะแพ้มนุษย์หน้าขนคนนี้ได้ยังไง” เด็กผู้หญิงผมสีน้ำตาลอีกคนพูดอีกครั้ง
ทั้งสองคนพูดเหมือนว่ากุสตาฟไม่ได้ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา
ใบหน้าของเด็กชายซีดเซียวอีกครั้ง เมื่อได้ยินการสนทนาของเด็กหญิง
พวกเขาจ้องมองไปในทิศทางของกุสตาฟด้วยท่าทางหวาดกลัว น่าแปลกใจที่กุสตาฟไม่ได้ดูใส่ใจ เขาจ้องมองไปที่สาว ๆ เหมือนพวกเธอเป็นตัวตลกที่แสดงในละครสัตว์
“เขาอยู่ที่นี่ พวกเธอรู้ใช่ไหม” เด็กอ้วนท้วนคนนั้นไม่สามารถทนได้อีกต่อไป และในที่สุดก็พูดออกมา เพราะเขากลัวกุสตาฟจะเข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าผิดไป เขาไม่อยากให้กุสตาฟคิดว่าเขาอยู่ในกลุ่มคนที่กำลังดูถูกเขาด้วยเช่นกัน
“ มีอะไรเหรอ นี่พวกนายกลัวเขาเหรอ?” หญิงสาวผมสีน้ำตาลถามด้วยท่าทางรังเกียจ
“ ถ้าพวกนายไม่มีอะไรที่เป็นรูปธรรมมากกว่านี้ที่จะบอกฉันล่ะก็ ฉันจะกลับไปฝึกก่อน ฉันมีสิ่งที่ดีกว่านี้ ที่จะใช้เวลาของฉันมากกว่าการเสียเวลาไปกับการดูละครสัตว์ต่อหน้าฉัน! นายสองคนควรเอาลิงในละครสัตว์ของพวกนายออกไป จากที่นี่จะดีกว่านะ “กุสตาฟพูดกับเด็กชายทั้งสองและหันกลับมาเพื่อเข้าไปใน Dojo อีกครั้ง
“ นี่! เขาพูดถึงเราเหรอ … นี่แกกล้าดียังไง … ?” ผู้หญิงผมสีน้ำตาลโกรธทันทีและเดินเข้ามาใกล้กุสตาฟ แต่หญิงสาวอีกคนก็ลากเธอกลับไป
“จำกฎได้ไหม” หญิงสาวที่มีผมสีม่วงและสีดำถามด้วยน้ำเสียงเตือน
เมื่อหญิงสาวผมสีน้ำตาลได้ยินแบบนั้นเธอก็สงบลง กฎข้อ 1 ห้ามไม่ให้มีการต่อสู้ภายในสถานที่ของDojo การต่อสู้จะได้รับอนุญาตผ่านการดวลเท่านั้นและการไม่ปฏิบัติตามจะส่งผลให้ถูกแบนถาวร
“ ไม่ต้องห่วง รุ่นพี่ยูฮิโกะจะดูแลแกแทนพวกเราเอง” หญิงสาวผมสีม่วงกระซิบข้างหูของหญิงสาวอีกคนขณะที่เธอยิ้ม
หูของกุสตาฟจับสิ่งที่พวกเขาพูดได้ แม้ว่าเขากำลังจะปิดประตูแล้วก็ตาม การรับรู้นั้นได้เพิ่มความรู้สึกทั้งห้าของเขา ดังนั้นเขาจึงจะได้ยินแม้แต่เสียงกระซิบที่เบาที่สุด ตราบเท่าที่พวกเขาอยู่ในระยะที่ตรวจจับได้
“รอก่อนสิ” เด็กสาวพวกนั้นกำลังร้องเรียกกุสตาฟ ก่อนที่เขาจะปิดประตูไป
“มีอะไรอีก?” กุสตาฟถามขณะหันหัวไปด้านข้าง
“มาสึบะ อยากจะเชิญคุณไปดูการดวลกับยูฮิโกะที่ชั้น 2 น่ะครับ” เด็กอ้วนท้วนตอบ
“ยูฮิโกะก็อยากจะเชิญแกมาดูการดวลเหมือนกัน” หญิงสาวผมสีม่วงและสีดำพูด
“ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกคุณถึงมาที่นี่น่ะเหรอ?” กุสตาฟถาม
“ใช่” กลุ่มคนทั้งสี่พยักหน้า
“ ฉันไม่สนใจ” กุสตาฟหันกลับมา หลังจากตอบแล้ว
“อะไรนะ?” เด็กสาวทั้งสองรู้สึกประหลาดใจที่กุสตาฟปฏิเสธพวกเธอ แม้ว่าจะได้ยินชื่อของคนที่เชิญเขาก็ตาม ไม่มีใครใน Dojo ที่สามารถอ้างสิทธิ์ของตนได้ ถ้าพูดถึงชื่อของยูฮิโกะ พวกเธอคิดว่ากุสตาฟไม่เคยได้ยินเรื่องหญิงสาวที่สวยและทรงพลังที่สุดในDojo
ส่วนผู้ชายอีก 2 คนรู้สึกไม่แปลกใจเพราะพวกเขาคุ้นเคยกับทัศนคติที่เย็นชานี้แล้ว เนื่องจากกุสตาฟเคยปฏิเสธมิตรภาพของพวกเขาหลายต่อหลายครั้งแล้ว
“ได้โปรด คุณกุสตาฟ มาสึบะยินดีที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้คุณเข้าร่วม” เด็กผู้ชายอีกคนที่สวมแว่นพูด
“โอ้” กุสตาฟมองอย่างสนใจ หลังจากได้ยินเช่นนั้น “อย่างนั้นเหรอ” เขาออกมาจาก Dojo อีกครั้ง ในขณะที่เขาตั้งคำถาม
เด็กชายพยักหน้ายืนยัน
“นั่นเป็นเรื่องดี แต่ก่อนที่ฉันจะตัดสินใจไปกับคุณ พวกผู้หญิงที่แสนหยาบคายเหล่านี้ต้องขอโทษฉันก่อน” กุสตาฟเรียกร้อง
“อะไรนะ ฉันไม่ขอโทษกับแค่เรื่องนี้หรอกนะ … ” ก่อนที่หญิงสาวที่มีผมสีน้ำตาลจะพูดจบ กุสตาฟก็ขัดจังหวะเธอ
“ เอาล่ะ เข้าใจแล้ว” กุสตาฟหันกลับมาอีกครั้งเพื่อมุ่งหน้าเข้าDojo
“อา …โปรดรอสักครู่” เด็กชายร้องเรียกเขา แต่เขาไม่ตอบ พลางเดินเข้าไปแล้วปิดประตูดังปัง
หลังจากที่เขาเข้าไปหญิงสาวหัวสีน้ำตาลก็ตระหนักถึงความผิดพลาดของเธอ
“ เธอก็รู้ว่าท่านยูฮิโกะจะเอามันไปด้วย เมื่อเธอได้ยินเหตุผลที่พวกเราไม่สามารถพามันมากับพวกเราได้ท่านต้องโกรธแน่ๆ” หญิงสาวผมสีม่วงพูดพร้อมกับถอนหายใจ
แม้แต่เด็กผู้ชายก็ตกตะลึงเพราะพวกเขารู้ดีว่า มาสึบะน่าจะลงโทษพวกเขา หากพวกเขาทำไม่สำเร็จ
หญิงสาวผมสีน้ำตาลมีท่าทีตกใจก่อนจะพูด “เรียกเขาออกไปกันเถอะ ฉันจะได้ขอโทษ … ฉันคิดว่าตอนนี้เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว“
พวกเขาเริ่มเคาะประตูหลังจากนั้น
หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีกุสตาฟก็ออกมาตอบคำถามพวกเขาอีกครั้ง คราวนี้ใบหน้าของเขาดูกำลังรำคาญ ในขณะที่เขาเรียกร้องให้สาว ๆ ขอโทษและคุกเข่าด้วยในครั้งนี้
“ทำไมแกถึงได้…?” หญิงสาวผมสีน้ำตาลกำลังจะพูดอีกครั้ง เมื่อกุสตาฟเข้ามาขัดจังหวะพอดี
“ ฉันจะกลับแล้วนะ” เขาหันกลับไปเพื่อจากไปอีกครั้ง แต่คราวนี้เด็กผู้หญิงผมสีม่วงตอบสนองอย่างรวดเร็วด้วยการคุกเข่าและลากคนที่มีผมสีน้ำตาลลงไปพร้อมกับเธอ ขณะที่พวกเขาขอร้องให้ให้อภัย แม้ว่าจะดูไม่เต็มใจที่แสดงออกมาทั่วใบหน้าของพวกเธอก็ตาม
กุสตาฟกำลังยิ้มอยู่ภายในใจ หลังจากเห็นสิ่งนี้ แต่การแสดงออกภายนอกของเขายังคงเหมือนเดิม
“ ไปกันเถอะ”
–
บนชั้น 2 ถึงชั้นสุดท้ายที่มีเวทีเล็ก ๆ ที่คล้ายกับตอนที่กุสตาฟและออโรร่ามีการดวลกันครั้งแรกอยู่ที่มุมตะวันตกเฉียงเหนือของชั้นนี้
ตอนนี้สามารถเห็นกลุ่มเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงมารวมตัวกันที่เวทีนี้ ซึ่งมีทั้งหมดประมาณ 20 คนได้และดูเหมือนว่าพวกเขากำลังรออะไรบางอย่างหรือในกรณีนี้คือจะมีใครบางคนกำลังมา
สองคนตรงกลางเวทีคือ มาสึบะ และ ยูฮิโกะ
อตนนี้มาสึบะอยู่ทางด้านซ้ายของเวที ในขณะที่ยูฮิโกะอยู่ทางขวา
ผู้ตรวจการคนเดียวกันกับที่เคยรับบทบาทเป็นผู้ตัดสินการต่อสู้ของกุสตาฟและออโรร่าก็มาร่วมแสดงตัวในตอนนี้ด้วยและพวกเขาต่างก็รอคนคนเดียวกันก่อนที่การดวลจะเริ่มขึ้น
ยูฮิโกะมองมาด้วยความรำคาญบนใบหน้าของเธอ ‘นานขนาดนี้ ฉันทนไม่ได้ที่จะต้องมารอคนงี่เง่าจ้องมองมาที่ฉันแบบนี้นะ! ฉันอยากจะกระทืบหน้าเขาให้เร็วที่สุดแล้ว! ‘ เธอคิดในใจขณะที่เธอจ้องมองมาสึบะที่กำลังแลกเปลี่ยนสายตากับเธอ มาสึบะจ้องมองไปที่ยูฮิโกะด้วยสายตาที่โหยหา เขาจ้องมองเธอราวกับว่าเธอเป็นสิ่งมีชีวิตศักดิ์สิทธิ์หรือเทพที่ไม่ควรมีอยู่บนโลกและเมื่อมองไปที่ยูฮิโกะเธอก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เธอสวยอย่างไม่สมจริงนั่นแหละคือความหมาย
‘แค่มองไปที่คนงี่เง่าคนนี้ เขาก็มีน้ำลายไหลออกมาที่ด้านข้างของปากแล้ว …. ไม่ต่างจากที่ผู้ชายคนนั้นเคยมองฉันเลย …หืม!’ มีภาพนึงผุดเข้ามาในหัวของเธอ แต่เธอดูค่อนข้างกระวนกระวายใจ เมื่อมีอีกภาพหนึ่งที่สอดประสานกับภาพแรกที่เธอจำได้
‘นั่นมันคืออะไร … ?’ เธอไม่ได้คิดอะไรให้สมบูรณ์มากนัก เมื่อได้ยินเสียงดังในบริเวณใกล้เคียง
– “เขาอยู่ที่นี่“
– “นั่นเขาเหรอ?”
– “ว้าว เขาดูอ่อนแอมากเลย“
– “มาสึบะแพ้เขาได้ยังไง“
– “แต่เขาก็ดูสวยเหมือนกันนะฮิฮิฮิ“
ทุกคนหันกลับไปจ้องกลุ่มคน 5 คนที่เพิ่งมาถึง
บุคคลที่อยู่ตรงกลางคือบุคคลที่พวกเขาอ้างถึง
ยูฮิโกะจ้องมองไปที่กลุ่มที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมกับความตกใจที่มองเห็นได้บนใบหน้าของเธอ
“ นั่นสินะ … เขาเป็นคนแบบนั้นได้ยังไง?”
————————————————————–