The Bloodline System ศึกแห่งสายเลือด - ตอนที่ 55
ตอนที่ 55: การปรากฏตัวอย่างกะทันหัน
“คุณกำลังทำอะไรกับนักเรียนของฉัน JK!!”
น้ำเสียงของผู้หญิงเจือด้วยความแหลมคม จนทำให้ชายคนนั้นสั่นเล็กน้อย เมื่อได้ยิน
‘เสียงนี้ … ไม่มีทางเป็นเธอไปไม่ได้หรอกน่า?’ ไหล่ของครูJK เริ่มแข็งทื่อ ขณะที่เขาค่อยๆหันกลับมาเพื่อจ้องมองคนที่เพิ่งพูดไปเมื่อกี้
ทันทีที่เขาเห็นเธอ หัวใจของเขาแทบจะพุ่งออกมาจากอก
เธอเป็นหญิงสาวผมยาวสีเทา เธอมีรูปร่างที่สมส่วนและสวยงามด้วยความสูงเกือบ 5’7 ฟุต เธอสวมชุดรัดรูปสั้นสีเขียวและมีเสื้อคลุมสีน้ำตาลพาดไหล่
“ยัย อะ-เอม-มะ-มี่” ชายคนนั้นดูประหลาดใจมากที่เห็นเธอ
ครูเอมมี่เดินเข้ามาหาพวกเขาอย่างแผ่วเบาและสง่างาม ภายใน 2 วินาทีเธอก็ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว
“ฉันบอกว่าคุณว่า คุณกำลัง..ทำอะไรกับนักเรียนของฉัน!!” ครูเอมมี่ถามด้วยน้ำเสียงคุกคาม
“นักเรียนของคุณเหรอ?” ครูJK หันกลับไปมองกุสตาฟที่กำลังจ้องเขาด้วยสายตาดุ ๆ
ครูเอมมี่เดินตามไปดูและสังเกตเห็นไหล่ของกุสตาฟที่อยู่ด้านล่างของครูJK และดูเหมือนมันโค้งค่อนข้างมากในมุมที่บ่งบอกว่ามันหักแล้ว..
ดวงตาของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างดุเดือด
“แกกล้าดียังไง!”
แกว่ง!
จู่ๆครูเอมมี่ก็เหวี่ยงมือซ้ายไปที่ใบหน้าของครู JK
ป๊าปป!
เสียงของการปะทะกันดังเฉกเช่นเสียงฟ้าร้องขนาดเล็ก ซึ่งทำให้เกิดการสั่นสะเทือนเล็กน้อยในอากาศ
ฟัน 20 ซี่พุ่งออกมาจากปากของครู JK พร้อมกับเลือด ขณะที่เขาถูกส่งให้ลอยไปทางด้านข้างหลายฟุต
เขาไถลต่อไปอีกหลายฟุต จนกระทั่งหัวของเขากระแทกเข้ากับผนัง
ปัง
ทุกคนในบริเวณใกล้เคียงต่างอ้าปากค้าง ยกเว้นคนที่รู้จักครูเอมมี่มาก่อนแล้ว
‘เธอเพิ่งระเบิดอารมณ์ใส่ครูเลือดผสมจาก MBO ด้วยการตบเพียงครั้งเดียวหรือเปล่านั่น?’ ทุกคนมีความคิดแบบนี้ในใจ
เอนดริกและแม่ของเขาประหลาดใจมากที่สุดเป็นพิเศษ เพราะรูปลักษณ์บนใบหน้าของพวกเขาบ่งบอกอย่างนั้น
‘ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร?’
‘ทำไมเธอถึงบอกว่าเธอเป็นครูของกุสตาฟ’
เอนดริกไม่คุ้นเคยกับครูเอมมี่ ตั้งแต่ยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้น ในขณะที่แม่ของพวกเขา ไม่เคยเข้าร่วมการประชุมครูผู้ปกครอง และเมื่อใดก็ตามที่มีการประชุมในโรงเรียนมัธยม เธอก็ไม่เคยไป ดังนั้นเธอจึงไม่เคยรู้จักครูคนไหนของกุสตาฟเลย ทั้งสองคนจึงจำเธอไม่ได้แม้แต่น้อย
“เธอสบายดีหรือเปล่า?” ครูเอมมี่หันไปจ้องกุสตาฟขณะถาม
กุสตาฟพยักหน้ายืนยัน แม้ว่าไหล่ของเขาจะได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการจับกดที่รุนแรง แต่มันก็หายกลับมา เนื่องจากความสามารถในการฟื้นฟูของเขา
“ JK!” ครูเอมมี่ร้องเรียกอีกครั้ง
ครูJK ยังคงนอนอยู่บนพื้นพร้อมกับคายเศษฟันและเลือดออกมามากขึ้น
*ถึงผู้อ่าน ขออนุญาตใช้คำว่า JK แทน เจเค เนื่องจากอ่านง่ายและจะไม่ปนกับคำที่ต่อจากคำนี้*
เมื่อเขาได้ยินเสียงครูเอมมี่ร้องเรียกเขาอีกครั้ง เขาก็คลานเข้าหาเธอด้วยใบหน้าที่หวาดกลัว
“คะ-คุณ อะ-เอม-มี่ ผม-ข-ขอ-โท-ด” ครู JK จับเท้าของครูเอมมี่ ขณะขอร้อง
ทุกคนที่นี่ไม่เข้าใจเหตุผลของพฤติกรรมสุดโต่งเช่นนี้ เนื่องจากความภาคภูมิใจที่เขาแสดงออกมาก่อนหน้านี้
พวกเขามีทฤษฎีที่แตกต่างกันผุดขึ้นมาในหัว เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่จาก MBO คุกเข่าให้พลเมือง
มันเป็นภาพที่ไม่น่าเชื่อ แต่พวกเขาก็รู้ด้วยว่าครูเอมมี่ไม่สามารถเป็นคนธรรมดาได้ ที่จะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
ครูเอมมี่จ้องไปที่ครู JK ด้านล่างด้วยสายตาที่มืดมน
ครู JK สั่นสะท้านในตำแหน่งของเขา เมื่อเขาเห็นเธอหมอบลงเล็กน้อยและจ้องเข้าไปในดวงตาของเขาด้วยความรุนแรงมากขึ้น
แตะ! แตะ!
เธอตบหลังศีรษะของเขาเบา ๆ 2 ครั้งและพูด
“ฉันไม่ใช่คนที่แกควรขอโทษ”
ครู JK ได้ยินอย่างนั้น ก็หันไปจ้องกุสตาฟ ก่อนจะหันหน้ากลับไปจ้องครูเอมมี่อีกครั้ง
เขารู้ดีว่าหากเขาทำตามคำเรียกร้องของเธอ มันจะส่งผลให้เขาอับอาย แต่ถ้าเขาไม่ทำ … มี แต่เขาเท่านั้นที่รู้ถึงความน่าสะพรึงกลัวที่รอคอย
‘เขาจะทำไหม?’ ทุกคนมีความรู้สึกว่าพวกเขากำลังจะได้เห็นบางสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิตของพวกเขา
ครู JK กลืนน้ำลายและปล่อยขาของครูเอมมี่ก่อนที่จะคลานไปหากุสตาฟ
“ฉะ-ฉัน ขอ ทะ-โทษ” เขาพูดด้วยสายตาอ้อนวอน
กุสตาฟมองเห็นความกลัวที่เขียนขึ้นทั่วใบหน้าของครู JK ซึ่งทำให้เขาสงสัยว่า ‘ทำไมเขาถึงกลัวครูเอมมี่มากขนาดนี้’ มันน่าแปลกใจที่เห็นความกลัวบนใบหน้าของคน ๆ หนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นกุสตาฟก็ยังรู้สึกเหมือนอยากจะหัวเราะ เมื่อเห็นปากของครูJKที่ฟันหลุดออกมาเกือบทั้งหมด
‘ดีมาก เรามาถึงจุดนี้แล้ว … ‘ กุสตาฟยกเท้าขึ้นและวางมันลงบนใบหน้าของครู JK
บั๊ก!
ทุกคนกำลังอ้าปากค้าง!
ทุกคนจ้องมองที่เกิดเหตุด้วยสายตาตกตะลึง พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่ากุสตาฟจะกล้าทำเช่นนั้น
กุสตาฟถูพื้นรองเท้าของเขาบนใบหน้าของครูJKซ้ำ ๆ ก่อนที่จะนำมันออก
‘ตอนนี้เราถึงจุดนั้นแล้ว’ กุสตาฟพูดอย่างเข้าข้างตัวเองภายในใจและเดินหน้าต่อไป
“ไปกันเถอะ ครูเอมมี่” กุสตาฟโบกมือให้ครูเอมมี่แล้วเดินไปที่ลิฟต์
ทุกคนจ้องมองไปที่กุสตาฟด้วยความประหลาดใจ
ในขณะนี้เขาส่องแสงเหมือนดวงดาวนับล้านดวงในกาแลคซี ซึ่งดึงดูดสายตาของคนที่อยู่แถวนั้น
ครูเอมมี่พยักหน้าให้เขา พร้อมกับยิ้มเยาะ ‘เด็กดี เธอไม่ได้รังเกียจฉันสินะ ฮิฮิ’ ครูเอมมี่พูดและหันกลับไป
เธอก้าวไปข้างหน้าเพียง 2 ก้าวก่อนที่จะหยุดชั่วคราวและหันกลับมาเพื่อจ้องไปที่เอนดริกและแม่ของเขา
“ขอบคุณที่ปล่อยลูกชายที่ยอดเยี่ยมแบบนี้มาให้ฉัน ฉันจะดูแลเขาให้ดี … ไม่เหมือนเธอ” เธอพูดแบบนี้และหันหลังจะจากไป
แม่ของกุสตาฟมีสีหน้าไร้ชีวิตชีวาผสมกับความสับสน เธอไม่สามารถตอบกลับคำพูดนั้นได้ เนื่องจากทุกอย่างยังคงดูเหมือนความฝันสำหรับเธอ
นัยน์ตาเอนดริกยังคงเบิกกว้าง ในขณะที่เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเกิดอะไรขึ้น เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับกุสตาฟและกุสตาฟมีความกล้าที่จะก้าวผ่านอะไรที่บ้าคลั่งเช่นนั้นได้ยังไง
ครู JK มองใบหน้าของเขาด้วยความอัปยศอดสู ขณะที่เขายังคงอยู่ในท่านั้นเป็นเวลาหลายวินาที
ตอนที่กุสตาฟกระทืบหน้าเขาก่อนหน้านี้ เขาไม่รู้สึกเจ็บเลยเพราะกุสตาฟอ่อนแอเกินไป แต่ความอัปยศอดสูที่เขารู้สึกได้นั้นทวีคูณด้วยซ้ำ
เขาต้องดูคนที่อ่อนแอกว่าและต่ำกว่าเขาในสถานะนั้น เหยียบหน้าเขาโดยไม่สามารถสู้กลับได้
เขาไม่เคยรู้สึกต่ำต้อยขนาดนี้มาก่อนในชีวิตทั้งหมดของเขา
‘ใครจะรู้ว่าเธอจะรับศิษย์? ฉันต้องอยู่ห่างจากที่นี่ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป’ ครู JK พูดภายในใจ ขณะที่เขาขบเหงือกเข้าด้วยกันทำให้เขาเจ็บปวด
เขาลืมไปว่าเมื่อครู่เขาแทบไม่มีฟันเลยด้วยซ้ำ
–
กุสตาฟมาถึงหน้าอาคารอพาร์ตเมนต์ของเขาในไม่กี่นาที เขาเดินเข้าไปในอาคารด้วยความรู้สึกสดชื่นและมีชีวิตชีวา พร้อมกับใบหน้าที่เปล่งประกายขึ้น
เขาขอบคุณดวงดาวของเขาที่ส่งครูเอมมี่มา ถ้าไม่งั้นเขาก็ต้องเจอกับความอัปยศอดสูอีกรอบ
เขาอาจจะรับได้เป็นปกติ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าครอบครัวที่เขาทิ้งเขาก็ไม่เต็มใจที่จะยอมรับมัน
เขาเดินผ่านทางเดินและมาถึงหน้าอพาร์ตเมนต์ของเขา
แทนที่จะมุ่งหน้าไปที่อพาร์ตเมนต์ของเขา กุสตาฟหันกลับและมุ่งหน้าไปยังอพาร์ตเมนต์ของแองจี้
กึก! กึก!
เขาเคาะสองครั้ง
แอ๊ดด!
ประตูเปิดออกและใบหน้าของแองจี้ก็ปรากฏขึ้นในสายตาของเขา
“เฮ้ แองจี้” กุสตาฟทักทายด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
“เฮ้กุส -” แองจี้กำลังจะตอบกลับ เมื่อเธอสังเกตเห็นบางอย่าง
‘เขายิ้ม?’ ดวงตาของเธอเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยด้วยความสับสน
‘มีเสน่ห์มากด้วย’ เมื่อเห็นริมฝีปากของกุสตาฟโค้งที่ขอบทั้งสองข้าง เขาดูราวกับเทวดามากสำหรับเธอ โดยที่เธอไม่สังเกตเห็นพวกเขายังคงยืนอยู่ที่ประตู
“อืม…มีอะไรอยู่บนหน้าฉันเหรอ?” กุสตาฟถามหลังจากสังเกตเห็นการจ้องมองของแองจี้
“เอ๋? ไม่ๆใบหน้าของนายปกติดี” แองจี้ตอบด้วยรอยยิ้มเบี้ยว ‘ดีเกินไปด้วย’ แก้มของเธอแดงขึ้นเล็กน้อย
“ฉันมาที่นี่เพื่อดูพ่อของเธอ เขาอยู่หรือเปล่า” กุสตาฟกล่าว
“อืมพ่อของฉัน ใช่เขาอยู่” แองจี้พูดและเดินเข้าไปในอพาร์ตเมนต์
“เข้ามาข้างในสิกุสตาฟ” เสียงผู้ชายดังมาจากภายในอพาร์ตเมนต์
————————————————————–