The Bloodline System ศึกแห่งสายเลือด - ตอนที่ 61
ตอนที่ 61: งูซาวารินเนียเลือดผสม
บึ้ม!
มันระเบิดด้วยพลังที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้ ซึ่งมีคลื่นพลังงานทำลายล้าง ซึ่งแผ่กระจายไปทั่วบริเวณโดยรอบ
บริเวณใกล้เคียงทั้งหมดถูกทำลายเป็นผุยผงรวมทั้งผนังกระจก
พวกเขาควรจะรักษาตัวเองทุกครั้งที่ได้รับความเสียหาย แต่พวกมันถูกทำลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ก่อนที่พลังงานจะสัมผัสได้
พลังงานโหมกระหน่ำไปทั่วบริเวณใกล้เคียง อีก 2-3 วินาทีก่อนที่สถานที่นั้นจะสงบลงอีกครั้ง
หมอกเล็ก ๆ เริ่มสลายไปอย่างช้าๆ
แต่ถึงแม้ทุกที่จะสงบลง แต่สภาพแวดล้อมก็เต็มไปด้วยการทำลายล้าง
ทุกอย่างอยู่ในความโกลาหล
ชิ้นส่วนอุปกรณ์แตกกระจายเป็นชิ้น ๆ เช่นเดียวกับ AI ปืนใหญ่ที่ยิงพลังงานก็ได้ถูกหลอมละลายจนเหลือเพียงครึ่งขา ส่วนบนที่เป็นปืนใหญ่นั้นไม่สามารถพบได้ที่ไหนเลย
ในขณะที่หมอกกระจายไปทั่วซากศพที่มีส่วนของร่างกายที่ไม่สมบูรณ์นั้น เราสามารถมองเห็นได้ว่ามันกระจัดกระจายไปทั่วทุกสถานที่
แขนขาที่ขาดและส่วนต่างๆของร่างกายแผ่กิ่งก้านสาขาไปทั่วสถานที่
เลือดสีดำกระเซ็นไปทั่วผนัง เห็นได้ชัดว่าเลือดถูกเผาไหม้ เนื่องจากรังสีมหาศาลจากการระเบิดของพลังงาน
หลังคาถูกระเบิดจนเกือบเปิดหมด
น่าแปลกใจที่ชายในชุดสูทสีน้ำเงินยืนอยู่ตรงข้ามกับจุดที่เกิดระเบิด
ไม่มีคราบเลือดหรือคราบสกปรกแม้แต่ชิ้นเดียวบนชุดสูทของเขา เขาเป็นคนเรียบร้อยเหมือนเดิมรูปลักษณ์ของเขาตรงกันข้ามกับสภาพแวดล้อม
นี่ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากยังและใบหน้าของเขายังคงเจือด้วยความเย็นชาและห่างเหิน แม้จะเห็นการทำลายล้างรอบตัวเขาก็ตาม
“ มันยังไม่แตกไปเลยใช่มั้ย” ยังจ้องมองไปที่หินสีเขียวที่ตั้งอยู่ในสถานที่
เช่นเดียวกับก้อนหินก้อนนั้นที่ไม่มีรอยขีดข่วนแม้แต่ที่เดียวหลังจากการระเบิดครั้งใหญ่
“ แจ็คพวกเราจะต้องย้ายไปยังสถานที่ต่อไป” ยังกล่าว ขณะที่เขาหันกลับไป
นักวิทยาศาสตร์ที่สวมแว่นตาอยู่ข้างหลังเขา นอกจากนี้เขายังไม่มีรอยขีดข่วนบนร่างกายเลยแม้แต่ครั้งเดียวเช่นกัน
“ได้ครับคุณยัง” เขาตอบพร้อมกับถอนหายใจหลังจากมองไปรอบ ๆ
ไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนใดที่รอดชีวิต พวกเขาทั้งหมดถูกฉีกออกจากกันด้วยพลังงาน
‘สมองดีๆที่ไร้ประโยชน์’ เขาถอนหายใจภายในใจอีกครั้ง
เฮงซวย!
ทันใดนั้นภาพเงาสีดำก็พุ่งเข้ามาหาพวกเขาจากอีกด้านหนึ่งของห้องและมาถึงตรงหน้าของ ยัง
ชายที่ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขามีหนังสัตว์และมีหน้ากากสีเขียวครึ่งใบปิดใบหน้าของเขา
“ นายน้อยยัง ฉันพบที่อยู่ของเขาแล้ว” ชายคนนั้นพูด
สีหน้าของยังเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อได้ยินเช่นนั้น
“แกรู้นี่ว่าต้องทำอะไร! ต้องทำมันทันที ก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะได้รับการแจ้งเตือน” ยังตอบด้วยท่าทางระมัดระวัง
ชายคนนั้นพยักหน้าและหันหลังจะออกไป
“เอดัน” ก่อนที่เขาจะออกจากยังก็เรียกเขาไว้
“ ถ้าผู้หญิงคนนั้นจับแกได้ … แกจะต้องตายแน่ๆ!” ยังกล่าวด้วยสีหน้าหนักใจ
“แกต้องทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้าแกต้องการที่จะอยู่รอด เพราะแม้ว่าฉันจะอยู่ แต่ฉันก็ช่วยแกไม่ได้ ถ้าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องนี้ … และนอกจากนี้ ถ้าแกล้มเหลวแกก็ไม่จำเป็นต้องมีชีวิตอยู่ แกควรจะตายไปเลยดีกว่า!” ยัง กล่าวขณะที่เดินไปข้างหน้า
แม้จะมีหน้ากากบนใบหน้าของเขา แต่ก็เห็นได้ชัดว่าคำพูดของ ยัง ทำให้ความกลัวเข้าสู่หัวใจของเขา
เขาพยักหน้าและเดินออกไปจากห้องโดยทิ้งเงาไว้เบื้องหลังภาพนั้น
“แจ็ค รับหินนั้นไว้ เราจะออกไปตอนนี้!” ยังออกคำสั่ง ขณะที่เขาเดินไปข้างหน้า
***
ปัจจุบันกุสตาฟยืนอยู่ด้านหลังอาคารหลังสุดท้ายที่นำไปสู่พื้นที่ป่า
เขาจ้องมองไปที่ผนังด้านหลังอาคารด้วยรอยยิ้มที่แขวนอยู่บนใบหน้าของเขา
“ แกทำให้ฉันรอนานเกินไปแล้ว … ในที่สุด”
กุสตาฟพึมพำด้วยท่าทางตื่นเต้น
ร่างสีดำที่ดูเหมือนงูกำลังคลานอยู่บนผนัง
ความแตกต่างระหว่างงูชนิดนี้กับงูธรรมดาคือขนาดและความแตกต่างของร่างกายอื่น ๆ
ความยาวประมาณ 7 เมตรและความกว้างเทียบได้กับชายร่างท้วม 20 คนที่รวมกลุ่มกัน
หัวของมันมีเส้นสีแดงตัดขวางและหางของมันก็เหมือนกับแมงป่อง
ปลายหางแหลมและเป็นสีม่วงเข้ม
‘งูสายพันธุ์ผสมซาวารินเนียระดับ 3 … เกล็ดป้องกันของมันที่สามารถกระเด็นออกไปได้ 90 เปอร์เซ็นต์ของพลังทางกายภาพที่มันขว้างใส่และยังมีพิษร้ายแรงที่หางของมันด้วย’ กุสตาฟวิเคราะห์สายพันธุ์ผสมของสัตว์ชนิดนั้น
เขาได้ค้นคว้าเกี่ยวกับสายพันธุ์ผสมมามากพอ ที่จะจดจำสิ่งนี้ได้ในแว๊บแรก
สัตว์เลือดผสมที่สังเกตเห็นกุสตาฟตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาปรากฏตัวที่นี่ และในที่สุดมันก็กระโดดออกมา
ปึ้ก!
กุสตาฟยังคงอยู่บนพื้น ดังนั้นงูจึงกระโจนลงไปข้างล่าง
ความเร็วของสายพันธุ์เลือดผสมมันจะเลื้อยไปมาและคดเคี้ยวด้วยความเร็วพอที่จะทำให้มันข้ามไปได้ไกลกว่า 70 ฟุตในวินาทีเดียว
กุสตาฟเปิดใช้งานโหมดความเร็วแล้ววิ่งไปทางซ้าย
สวู่!
ในขณะที่เขาหลบร่างของงูเลือดผสม เขาก็ได้แปลงร่างเป็นวัวกลายพันธุ์ทันที
ตึ้ง ๆ ๆ ๆ !
หลังจากงูตัวนั้นเลื่อนไปข้างหน้าเล็กน้อย งูเลือดผสมตัวนั้นก็หยุดและบิดคอไปทางด้านข้างเพื่อจ้องมองกุสตาฟ
มันจ้องมองไปที่กุสตาฟด้วยความสงสัยว่าทำไมมันถึงไม่ได้มองเห็นมนุษย์คนเดิมอีกต่อไป
กุสตาฟไม่ให้โอกาสมันได้คิดนานเกินไป ก่อนที่เขาจะพุ่งไปข้างหน้าอีกครั้ง
ความเร็วของเขายังคงมากกว่างูเลือดผสม และเขาก็มาถึงตรงหน้ามันพร้อมกับเหวี่ยงหมัดไปทางหัวของมันแล้ว
ส๊วบบบ!
สัตว์เลือดผสมคดเคี้ยวพลางโยนหางไปข้างหน้าเพื่อตอบสนองกุสตาฟ
กุสตาฟสังเกตเห็นหางกำลังขยับมาหาและเขาก็หักหลบไปทางซ้ายก่อนเพื่อหลบไปในขณะที่ยังคงเคลื่อนไปข้างหน้า
เขามาถึงทางด้านซ้ายของงูแล้วและเหวี่ยงหมัดไปที่บริเวณคอของมัน
บั้ก
กำปั้นของกุสตาฟฟาดลงบนร่างของมัน แต่เขาเป็นคนที่ถูกเหวี่ยงไปข้างหลังแทน
“ฮึ!” กุสตาฟร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เมื่อร่างกายของเขาถูกถอยออกไปหลายฟุต
‘ดูเหมือนว่าฉันจะค้นคว้ามาไม่ถูกต้อง … 90% ของกำลังที่โจมตีถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังผู้ที่เริ่มโจมตี’ กุสตาฟรู้เรื่องนี้ หลังจากได้รับการโจมตีอย่างเต็มที่
ความเจ็บปวดยังคงแล่นผ่านร่างกายของเขา ในขณะที่เขาสงสัยว่าหมัดของเขาเจ็บปวดมากแค่ไหน
สัตว์เลือดผสมที่กำลังคดเคี้ยวไปมาไม่รอให้กุสตาฟทรงตัว ก่อนที่มันจะแกว่งหางเข้าหาเขาอีกครั้ง
ความเร็วของหางนั้นเร็วกว่าการเคลื่อนไหวของร่างกายของมันโดยรวม
ร่างกายของกุสตาฟยังคงเคลื่อนไหวถอยหลังไปเรื่อยๆจากแรงของการโจมตีครั้งแรก
ก่อนที่เขาจะทรงตัวตัวเองได้ หางก็อยู่ห่างจากการสัมผัสใบหน้าของเขาเพียงไม่กี่นิ้ว
สวี้!
กุสตาฟใช้การตอบสนองอย่างรวดเร็วของเขาจับหางจากทั้งสองข้างและใช้มันเพื่อดันตัวเองไปข้างหลัง
ตึ้ง ๆ ๆ ๆ !
เท้าของเขาไถลไปบนพื้น ขณะที่หางนั้นก็ผลักเขาไปข้างหลัง
[พิษได้แทรกซึมระบบของโฮสต์]
[ภูมิคุ้มกันของสารพิษถูกเปิดใช้งานแล้ว]
กุสตาฟเห็นการแจ้งเตือนปรากฏขึ้นในสายตาของเขา เช่นเดียวกับที่เขาปล่อยหางงูเลือดผสมที่กำลังเลื้อยไปมา
‘ดูเหมือนแม้แต่การแตะหางของมันก็อันตราย … แต่มันไม่ใช่สำหรับฉัน’ กุสตาฟแอบขอบคุณดวงดาวที่เข้าข้างเขาสำหรับการให้ภูมิคุ้มกันพิษนั้นมา
สัตว์เลือดผสมแทงหางไปข้างหน้าอีกครั้งและพยายามแทงกุสตาฟ แต่คราวนี้กุสตาฟกระโดดถอยหลัง เพื่อหลบระยะการแทงนั้น
สึสึสึสึสึสึสึสึ!
เขาไถลถอยหลังไป 2-3 ฟุตหลังจากถอยหลังออกห่างไป
เขาห่างออกจากงูเลือดผสมประมาณ 600 ฟุตในตอนนี้ ซึ่งซื้อเวลาให้เขาประมาณ 2 วินาทีในการคิดวิธีเอาชนะมัน
‘การโจมตีทางกายภาพปกติจะไร้ผล ดังนั้นฉันต้องผสมกับสิ่งนั้น’
[0 วินาที]
ทันทีที่โหมดความเร็วสิ้นสุด และกุสตาฟก็วิ่งประเข้าหางูตัวนั้นที่กำลังเลื้อยหาเขาอยู่อีกครั้ง
งูตัวนั้นที่กำลังสงสัยว่าทำไมมนุษย์คนนี้ถึงยังไม่ตายจากการสัมผัสหางของมัน มันจึงได้เหวี่ยงหางออกมาอีกครั้ง
หางนั้นกวาดไปทางกุสตาฟจากทางซ้าย
ปึ้ง!
กุสตาฟกระโดดขึ้นสูงและร่อนลงบนหางขนาดใหญ่
‘การแตกตัวของอะตอม’ มือของกุสตาฟเคลือบด้วยแสงสีขาว ขณะที่เขาวิ่งไปทั่วร่างของงูเลือดผสมที่กำลังเลื้อยไปมาอยู่