The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 488 What are The Girls Up To?(11)
- Home
- The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต
- ตอนที่ 488 What are The Girls Up To?(11)
มุมมองของนาตาเลีย :
“เห้อออ… ใกล้จะเสร็จแล้ว”
นาตาเลียพูดขณะมองไปยังผลงานชิ้นเอกของตัวเอง เหงื่อไหลลงมาบนผิวสีเทาที่งดงามของเธอ ผมสีเขียวและฟ้าของเธอถูกมัดเป็นหางม้า ในขณะที่ดวงตาทั้งสามของเธอมองไปยังสิ่งของที่เธอสร้างขึ้น
ดวงตาสีดำ 2 ดวงของเธอเปล่งประกายด้วยความพึงพอใจและภาคภูมิใจ ในขณะที่ดวงตาที่สามตรงกลางซึ่งเป็นสีแดงเข้มกับรูม่านตาสีดำส่องแสงด้วยแสงที่น่ากลัว ขณะที่มันค่อยๆ ปิดลงด้วยความเหนื่อยล้าจากสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้
ตอนนี้นาตาเลียอยู่ในห้องสร้างสรรค์ส่วนตัวของเธอในสถาบันการศึกษา หลังจากที่ได้สร้างผลงานชิ้นเอกสำเร็จ เธอสามารถกล่าวได้ว่านี่คือผลงานที่ดีที่สุดที่เธอเคยสร้างมา นาตาเลียได้ทุ่มเทหัวใจทั้งหมดของเธอในการสร้างสิ่งนี้ ร่างกายเปลือยเปล่าที่น่าทึ่งของเธอเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ มีสัญลักษณ์พิเศษบางอย่างที่ไหลลงมาตามร่างกายของเธอขณะที่เธอยืนตรง โชว์ความงดงามของเธอทั้งหมด
หน้าอกเล็กๆ ของเธอชูขึ้นอย่างภาคภูมิพร้อมกับเหงื่อที่ไหลลงมาตามหัวนม เพิ่มเสน่ห์ให้กับรูปร่างของเธอ ใจนถึงด้านล่างริมฝีปากล่างของเธอที่ถูกปกปิดด้วยขนสีเขียวและสีน้ำเงินเล็กๆ ทำให้ก้นของเธอดูน่าดึงดูดยิ่งขึ้น หูที่แหลมเล็กน้อยจากเชื้อสายปีศาจที่สืบทอดมาจากแม่ของเธอกระตุกเล็กน้อยด้วยความภาคภูมิใจและความสุขที่ส่งผ่านเธอ
“ฉันมั่นใจว่านี่จะทำให้เขาหันมาสนใจฉันแน่ๆ”
ตลอดเวลามานี้นาตาเลียได้ใช้เวลาทั้งหมดของเธอในการสร้างสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อออสติน สิ่งที่จะทำให้เขาประทับใจ เธอทุ่มเทความตั้งใจและความรู้สึกทั้งหมดลงในผลงานชิ้นนี้จากความรู้สึกที่สะสมมาตั้งแต่ที่เธอได้พบเขา
ชีวิตของนาตาเลียไม่ได้สมบูรณ์แบบอย่างที่คนทั่วไปคิด แน่นอนว่าเธอฝ่าฝืนกฎทั้งหมดของโลก โดยเข้าถึงระดับการสร้างสรรค์ที่เหนือกว่าระดับพลังที่เพียงพอ เธอยังเป็นเจ้าหญิงที่ได้รับความรักมากที่สุดของเมืองดราเว่นซึ่งได้รับความเคารพจากผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดและการสนับสนุนที่ดีที่สุดที่ใครๆ อาจจินตนาการได้อีกด้วย
ความมั่งคั่ง, ความงามและพื้นฐานพรสวรรค์ที่มหาศาล ทุกอย่างดูเหมือนจะเรียงตัวอย่างลงตัวสำหรับนาตาเลีย แต่เธอไม่เคยรู้สึกว่ามันเป็นพรเลย พรสวรรค์ของเธอเป็นเพียงคำสาปที่เธอเกลียดที่สุดในหัวใจ แต่เธอยังพยายามที่จะไปถึงจุดสูงสุดเพราะสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ของเธอ แม่ที่ไม่สามารถเดินร่วมกับเธอได้อีกต่อไป
เธอยังจำวันอันแสนวิบัตินั้นได้ดี วันที่ความโลภของโลกภายนอกคลืบคลานเข้ามาหาเธอ กลุ่มคนเหล่านั้นซื้อตัวเธอเพราะพรสวรรค์ที่มหาศาลและร่างเด็กวัย 8 ขวบของเธอ แม่ของเธอซึ่งใช้ชีวิตท่ามกลางความเกลียดชังจากชนเผ่าคนแคระจากการที่เธอเป็นปีศาจ ช่วยชีวิตของนาตาเลียด้วยการมอบชีวิตของเธอเป็นการตอบแทน
ตั้งแต่นั้นมานาตาเลียก็เกลียดพรสวรรค์ของตัวเองและมีความรังเกียจและหลีกเลี่ยงอย่างมากต่อผู้ชายมาโดยตลอด เหตุผลเดียวที่เธอพยายามจนมาถถึงจุดนี้ก็เพราะคำพูดสุดท้ายของแม่ของเธอ
“จงมีชีวิตอยู่ต่อไปนะลูกแม่ มีชีวิตตามที่ใจของลูกต้องการ อย่าเกลียดพรสวรรค์ของลูกและแสดงให้คนที่ดูถูกลูกเห็นว่าลูกมีพรสวรรค์มากกว่าพวกเขาแค่ไหน”
การตายของแม่ของเธอทำให้พ่อของเธอรู้สึกผิดอย่างสุดซึ้ง ทำให้เขาต้องทำการแก้แค้นอย่างรุนแรงต่อคนที่สร้างปัญหาให้กับการมีอยู่ของเธอ การตายของแม่ทำให้พ่อของเธอมีแรงขับเคลื่อนในการทำลายล้างความเกลียดชังทั้งหมดที่มีต่อเธอด้วยความรุนแรงและความตาย
นี่ทำให้คนแคระที่ต้องการล้างแค้นเงียบลง และนาตาเลียที่ใช้พรสวรรค์ที่ท่วมท้นของเธอซึ่งเก่งกว่าคนแคระโบราณในเมืองคนแคระตอกกลับกับเขา เธอทำให้พวกเขาทุกคนเงียบด้วยการแสดงพรสวรรค์ของเธอ แม้กระทั่งวันนี้คนที่พูดไม่ดีเกี่ยวกับเธอก็เข้ามาพยายามที่จะเรียนรู้จากเธอ
แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร หลังจากมาถึงจุดที่เธอทำได้ในวัยที่น่าเหลือเชื่อนี้ เธอก็สูญเสียแรงผลักดันทั้งหมดที่มีไป ในอดีตนั้นคือความแค้นและความโกรธที่ขับเคลื่อนเธอ ความแค้นของเธอนั้นถูกเติมเต็มไปแล้วในตอนที่คนที่รับผิดชอบถูกลงโทษ และความโกรธของเธอก็ถูกระงับไปในตอนที่เธอกลายเป็นดีกว่าคนที่เคยดูถูกเธอ
นับแต่นั้นเป็นต้นมานาตาเลียก็เติบโตขึ้นมาด้วยใจที่ปิดสนิท แม้ว่าพ่อและพี่ชายของเธอจะพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่เธอก็เปิดใจให้พวกเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะในที่สุดแล้วพวกเขาก็ยังคงเป็นผู้ชายอยู่ดี ซึ่งในใจที่มีรอยแผลเป็นของเธอ ผู้ชายทุกคนเป็นคนชั่วที่หวังเพียงจะใช้เธอเพื่อสนองความต้องการของพวกเขาเท่านั้น เหตุผลที่ครอบครัวของเธอส่งเธอมาที่นี่ก็เพราะอยากดูว่านาตาเลียจะสามารถหาเพื่อนได้หรือไม่
และเธอก็ทำได้ เธอมีเพื่อนที่ดี 3 คนที่ทำให้เธอเปิดใจมากกว่าครอบครัวของเธอในที่สุด จากนั้นเธอก็เริ่มเพลิดเพลินกับชีวิตของตัวเองได้บ้างแล้ว เธอใช้ชีวิตโดยลืมคำพูดสุดท้ายของแม่ของตัวเองไป แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อเธอได้พบกับพี่ชายของเพื่อนเธอ
ย้อนกลับไปตอนนั้นเธอก็กังวลมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เธอหลีกเลี่ยงการติดต่อกับผู้ชายอย่างถึงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และเหตุผลเดียวที่เธอยืนอยู่ที่นั่นเพื่อรับออสตินก็เนื่องมาจากมิตรภาพของเธอกับเอลด้า ขอบคุณเทพเจ้าทั้งหมดที่เธอทำเช่นนั้นเพราะเธอเข้าใจคำพูดสุดท้ายของแม่หลังจากที่ได้พบออสติน
ตอนที่นาตาเลียพบออสตินครั้งแรก มันเหมือนกับมีสายฟ้าผ่าลงในหัวใจของเธอ เลือดของเธอร้อนขึ้นเร็วกว่าที่เธอจะจินตนาการได้ หัวใจของเธอเริ่มทำงานผิดปกติด้วยการเต้นอย่างไม่เป็นจังหวะ ร่างกายของเธออ่อนแรงลง ในขณะที่ออสตินเข้ามาในห้อง มันเหมือนกับทุกอย่างอื่นๆ จางหายไป มีเพียงออสตินเท่านั้นที่มีอยู่ในโลกของเธอในตอนนั้น
เธอไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร เธอเพียงแค่รู้ว่าพันธุกรรมของเธอส่งเสียงร้องออกมาและบางสิ่งในจิตวิญญาณของเธอกำลังกรีดร้องว่าคนตรงหน้าคือคนที่เธอถูกกำหนดมาเพื่อเธอ ความหวาดระแวงและความกลัวทั้งหมดของเธอหายไปเหมือนหิมะในวันที่แดดออก สมองของเธอเปลี่ยนจากฉลาดเป็นโง่เขลาขณะที่เธอมองดูการปรากฏตัวของเขาอย่างเพ้อฝัน
เธอพยายามต่อสู้กับความรู้สึกนั้นแล้ว แต่ก็ไม่สามารถทำได้ สิ่งที่เธอทำได้คือเพียงล้มลงในความฝันที่เขาวาดให้ ทุกอย่างเปลี่ยนไปจากการพบกันครั้งแรก เมื่อเวลาผ่านไปหัวใจของเธอก็ต้องการเขา เลือดของเธอเรียกร้องให้ใกล้ชิดกับเขาและไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน เธอก็ไม่สามารถเลิกความรู้สึกนั้นได้ มันมีแต่จะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
ดังนั้นนาตาเลียจึงเริ่มค้นหาว่าความรู้สึกใหม่นี้หมายถึงอะไร ทำไมร่างกายของเธอถึงทำงานแบบนี้? นั่นทำให้เธอใช้เวลาอยู่กับออสตินมากขึ้น พยายามใกล้ชิดกับเขาให้มากที่สุด และทุกอย่างก็เปลี่ยนไปในวันที่เขาลูบหัวของเธอ ความรู้สึกที่คุ้นเคยพรั่งพรูขึ้นมาในหัวใจของเธอในวันนั้น ทำให้เธอนึกถึงความรักที่แม่ของเธอมอบให้ทุกวันก่อนที่เธอจะเสียชีวิต
มันเหมือนกับว่าเธอกลับไปยังสถานที่ที่เธอคิดว่าปลอดภัยที่สุดในทุกมิติสำหรับเธอ และวันนั้นเธอก็เข้าใจคำพูดสุดท้ายของแม่ที่เธอเก็บซ่อนมาตลอด
“จงมีชีวิตอยู่ต่อนะลูกรัก มีชีวิตตามที่ใจของลูกต้องการ อย่าเกลียดพรสวรรค์ของลูกเลย จงแสดงให้คนที่ดูถูกลูกเห็นว่าลูกมีพรสวรรค์มากกว่าพวกเขาแค่ไหน และหาคนที่ทำให้ลูกรู้สึกเหมือนแม่ได้ คนที่ทำให้ลูกรู้สึกปลอดภัยและรักลูก”
ตั้งแต่วันนั้นนาตาเลียไม่พยายามระงับความรู้สึกของตัวเองอีกต่อไป มันยังทำให้เธอใช้เวลาอยู่กับออสตินมากขึ้นอีกด้วย อยู่ใกล้ชิดกับเขาตลอดเวลา ไม่นานการอยู่ใกล้เขาก็ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยที่สุด และด้วยผลกระทบของพันธุกรรมที่เธอไม่รู้ตัวทำให้เขาได้ครอบครองใจคนแคระผู้บริสุทธิ์ผู้เกลียดชังได้อย่างสมบูรณ์
และเพื่อระลึกถึงความปรารถนาของตัวเอง เธอจึงได้สร้างสิ่งนี้ขึ้น สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เธอเคยสร้างมา และนาตาเลียรู้อยู่ในใจว่านี่จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เธอเคยสร้างมา
‘ฮิฮิฮิ… อดใจรอที่จะมอบสิ่งนี้ให้เขาไม่ไหวแล้วสิ’
นาตาเลียคิดขณะที่ดวงตาของเธอส่องแสงด้วยความปรารถนาอันดำมืด ในวัฒนธรรมของคนแคระ การที่ผู้หญิงใช้ทุกอย่างของเธอในการสร้างสิ่งของขึ้นมาทุกอย่างตั้งแต่หัวใจ, ความรู้สึก, ความปรารถนา, ร่างกายที่เปลือยเปล่าและเลือดของเธอเพื่อมอบให้ชายคนนั้น หมายถึงการตัดสินใจขั้นสุดท้ายในความสัมพันธ์ของพวกเธอ และถ้าชายคนนั้นยอมรับนั่นคือการหมั้นหมาย
นาตาเลียที่ขี้อายซึ่งไม่เคยมีความคิดเกี่ยวกับความรักเลย ไม่เคยคิดถึงการถูกปฏิเสธ ในใจของเธอ ครอบครัวที่มีความสุขได้ก่อตัวขึ้นแล้ว
‘สงสัยจังว่าเราจะมีลูกกันกี่คนนะ?’
นาตาเลียคิดด้วยความเขินอาย ขณะที่ยังคงกอดสิ่งที่เธอสร้างขึ้นเพื่อออสติน
…..
มุมมองของลูน่า :
‘อีกนิดเดียว’
หมาป่าแสนสวยคิดขณะนอนอยู่บนพื้น หมาป่าตัวเล็กน่ารักที่เคยเล็กพอที่จะอยู่ในมือของออสติน ตอนนี้เติบโตขึ้นจนมีขนาดเท่าภูเขาที่ใหญ่ที่สุด ขนสีดำเข้มดั่งกลางคืนของเธอเป็นประกายสวยงาม ดวงตาสีแดงของเธอเปล่งประกายราวกับใบมีด ขณะที่ความคิดที่จะได้กลับมาพบกับเจ้านายของเธอและความรักปรากฏขึ้นอยู่ในใจของเธอ
ตอนนี้เฟนเรียร์ที่ถูกเรียกว่าลูน่าได้คืนความทรงจำทั้งหมดของเธอแล้ว สิ่งที่เธออยากทำตอนนี้คือการวิ่งกลับไปหาออสตินและอยู่ในอ้อมกอดของเขาที่เธอคิดถึงอย่างสุดซึ้ง
‘นี่คือสิ่งที่ท่านหมายถึงในการใช้ชีวิตด้วยความรู้สึกสินะ…’
ลูน่าคิดขณะที่ความคิดของเธอหวนนึกกลับไปยังอดีตในยุคสงคราม, ความวุ่นวาย, ความอดอยากและความตาย ยุคที่คุณอาจไม่รู้ว่าจะได้เห็นวันถัดไปหรือไม่ และในช่วงเวลาเหล่านี้ ลูน่าเกิดขึ้นมาจากการทดลอง สร้างโดยเทพแห่งความซุกซนของแดนสวรรค์ เขาแค่อยากเห็นว่าลูน่าจะเติบโตขึ้นมาเป็นอย่างไรด้วยความวุ่นวายและความแปลกใหม่
มันเป็นยุคที่เทพเจ้าและสิ่งมีชีวิตที่มีความเป็นเทพเดินทางอย่างเสรีบนโลก ก่อให้เกิดความเจ็บปวดและความสิ้นหวังเพื่อความบันเทิงของพวกเขา และที่นี่ลูน่าถูกเกิดขึ้นมาในเผ่าหมาป่าแตกต่างจากคนอื่น เธอมองและคิดแตกต่างออกไป แต่สิ่งที่ทำให้เธอแตกต่างอย่างแท้จริงคือพลังของเธอ พลังที่จะกลืนและยุติทุกสิ่ง
ด้วยการผสมผสานแนวคิดที่เป็นอันตราย 2 อย่างเข้าด้วยกัน แม้กระทั่งตั้งแต่แรกเกิด ลูน่าก็รู้แล้วว่าตัวเธอคืออะไรและใช้ชีวิตเพื่อเอาชีวิตรอด โดยรู้ว่าเธอจะถูกสังหารทันทีที่โลกรู้ว่าเธอคืออะไร ชีวิตของเธออยู่ภายใต้การควบคุมของเทพเจ้าแห่งความชั่วร้ายที่สนุกกับชีวิตอันแสนทรมานของลูน่า
เพียงแค่นึกช่วงเวลานั้นก็ทำให้ความเกลียดชังและความโกรธที่ไม่ต้องการภายในลูน่าตื่นขึ้นมาสาปแช่งสภาพแวดล้อมรอบตัว ลูน่าใช้ชีวิตด้วยความเกลียดชัง พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อเอาตัวรอด เธอไม่เคยไว้วางใจใครเลยและภายในเธอมีเครื่องวัดความรู้สึกที่พัง เป็นข้อบกพร่องในการสร้างของเธอจากเทพเจ้าแห่งความชั่วร้าย
นี่ทำให้ลูน่าหรือเฟนเรียร์เติบโตเป็นเครื่องจักรที่เกือบไร้ความรู้สึก อารมณ์ของเธอมีเพียงความหิว, ความโกรธและความปรารถนาที่ไม่มีที่สิ้นสุดที่จะยุติทุกสิ่ง และด้วยเหตุนี้เธอจึงใช้ชีวิตเช่นนั้น ใช้อารมณ์เช่นนี้ภายในเธอ แม้กระทั่งรอดชีวิตจากการโจมตีของเหล่าทวยเทพในตอนที่เทพเจ้าแห่งความชั่วร้ายทำให้พลังที่แท้จริงของลูน่ารั่วไหลออกมา
ถึงอย่างนั้นลูน่าก็เติบโตภายใต้การสังหารนั้น และกลายเป็น ‘จุดจบ’ ที่แท้จริงเมื่อเวลาผ่านไปได้อยู่ดี สุดท้ายแล้วลูน่าก็ได้มีส่วนร่วมในสงครามแห่งจุดจบซึ่งเกือบจะทำลายล้างโลก ในที่สุดเธอก็ลงเอยด้วยการแก้แค้นด้วยการกลืนกินพระเจ้าแห่งความชั่วร้ายผู้สร้างของเธอ ในขณะที่ลูน่าทะลวงผ่านขอบเขตสุดท้ายของพลังและไปถึงระดับ ‘นั้น’
แต่สุดท้ายความสำเร็จของเธอก็ไม่มีความหมายเลย เพราะมีแต่ความตายและการสังหารเท่านั้นที่รอเธออยู่ ในชีวิตที่เต็มไปด้วยการสังหารของเธอ เธอมีความปรารถนาเดียวในใจคือความปรารถนาที่จะสร้างครอบครัว
มันเป็นสิ่งเดียวที่ยังคงอยู่ตลอดชีวิตของเธอ เธอได้เห็นความรักที่แหกผ่านความกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เธอได้เห็นพ่อที่ปกป้องลูกสาวของเขา แม่ที่เสียสละชีวิตเพื่อลูกชายของเธอ และสามีที่ตายเพื่อภรรยาของเขา ส่วนใหญ่เป็นการเสียสละเพื่อครอบครัว และลูน่าก็อยากรู้ว่ามันหมายถึงอะไร
เธอปรารถนาอย่างมากที่จะมีมัน แต่เธอเองก็รู้ว่าไม่มีวันมีมันได้ เธอไม่สามารถมีมันได้ และด้วยเหตุนี้หลังจากที่เธอได้บรรลุพลังระดับ ‘นั้น’ ลูน่าก็หาทางอื่นที่จะนำจุดจบที่แท้จริงมาสู่ทุกสิ่ง มันเป็นเวลานั้นที่เธอถูกหยุดโดย ‘มัน’
‘มัน’ เป็น ‘ตัวตนเพียงหนึ่งเดียว’ ที่แท้จริงที่อยู่เหนือทั้งการสร้างและการทำลาย ‘มัน’ ให้โอกาสกับเธอ ‘มัน’ ให้โอกาสในการมีครอบครัวกับเธอ
“อย่าพึ่งนำจุดจบมาตอนนี้ เพราะเจ้าอยู่เหนือมันมาก ข้าจะให้ชีวิตที่สองแก่เจ้า และเขาจะให้ครอบครัวที่เจ้าปรารถนา”
เฟนเรียร์ตอนนั้นไม่ได้มีตัวเลือก และในเวลาต่อมาเธอก็ได้รับความทรงจำของเธอคืน เธอก็พบครอบครัว แต่ครอบครัวนี้ต่างออกไป แต่ดีกว่าที่เธอหวังไว้ เธอซ่อนความทรงจำที่เพิ่งค้นพบและทำตัวเหมือนเดิม ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอย่างที่สุด จนกระทั่งเธอพบว่าครอบครัวของเธอต้องการเริ่มครอบครัวใหม่
มันเป็นเวลานั้นที่ความปรารถนาใหม่บานสะพรั่งในจิตใจของลูน่า ความปรารถนาที่จะเริ่มครอบครัวที่แท้จริง ที่เธอเป็นแม่และออสตินเป็นพ่อ เธอสามารถจินตนาการถึงลูกหมาป่าตัวน้อยที่วิ่งเล่นขณะที่พวกเธอทั้ง 2 คนดูแลพวกเขาได้เลย และเพื่อสิ่งนั้นเธอต้องการพลังและร่างกายของมนุษย์ผู้หญิง
ลูน่ารู้ว่าเธอจะไม่สามารถทำให้ออสตินมองเธอในแบบที่เธอต้องการได้จนกว่าเธอจะได้ร่างมนุษย์คืน เธอสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้แต่เธอไม่เคยทำในอดีตเพราะคิดว่ามันไร้ประโยชน์ แต่ตอนนี้เธอต้องการมันมากกว่าสิ่งใดๆ พร้อมกับพลังของเธอ เธอจะปกป้องครอบครัวของเธอด้วยมือของเธอเอง
‘ใช้เวลาร่วมกับเขาให้สนุกไปจนชั่วนิรันดร์…’
นี่เป็นความคิดสุดท้ายของลูน่าก่อนที่เธอจะเข้าสู่การจำศีลอีกครั้งเพื่อเพิ่มพลัง มันจะใช้เวลาอีกนิดในการคืนพลังสูงสุดของเธอ และเมื่อเธอทำสำเร็จ จะไม่มีสิ่งใดหยุดเธอจากการได้ครอบครัวที่เธอต้องการได้
เธออาจไม่ใช่คนแรกของเขา แต่คนสุดท้ายของเขาจะต้องเป็นของเธอแน่นอน…