The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 494 What Are The Girls Up To?(17)
- Home
- The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต
- ตอนที่ 494 What Are The Girls Up To?(17)
มุมมองของลูมินาร่า :
‘ฉันต้องรีบทำให้เรื่องนี้เสร็จโดยเร็ว’
ลูมินาร่าคิดขณะจดจ่ออยู่กับงานของเธอ เอกสารที่อยู่ตรงหน้าเธอประกอบด้วยความเคลื่อนไหวล่าสุดของหนังสือของออสตินและผลกำไรจากหนังสือเหล่านั้น พร้อมกับของขวัญและสิ่งของต่างๆ มากมายที่ถูกส่งมา ออสตินสัญญารางวัลพิเศษให้กับคนที่ทำงานเสร็จก่อน และลูมินาร่ามีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเป็นคนแรกที่ทำเสร็จ
นี่เป็นเรื่องของศักดิ์ศรีในฐานะเลขาของออสติน และความปรารถนาส่วนตัวที่จะได้รับบางสิ่งบางอย่างจากเขา มันผ่านมา 4 ปีแล้วที่เธอทำงานให้กับเขา ซึ่งถือเป็นระยะเวลาที่สั้นมากเมื่อพิจารณาถึงอายุขัยของเอลฟ์ที่ยาวนาน แต่เพียง 4 ปีก็เพียงพอที่จะก่อให้เกิดความภักดีและความรักอย่างสุดซึ้งในใจของเธอต่อออสตินแล้ว
ลูมินาร่ายังคงจำวันนั้นได้ดี วันที่เธอถูกขับไล่ออกจากเผ่าของเธอ เผ่าที่มีสถานะสูงในอาณาจักรเอลฟ์ มีชื่อเสียงในด้านผมสีเงินอ่อนและพรสวรรค์โดยกำเนิดในการใช้เวทย์ธาตุ รวมถึงพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมในการจัดการด้านการเงิน เผ่าที่ชื่อว่าเทร็กซ่อนดูแลการเงินส่วนใหญ่ของอาณาจักรเอลฟ์
ซึ่งลูมินาร่าในฐานะที่เป็นลูกสาวของหนึ่งในผู้อาวุโส เธอเกิดมาพร้อมกับความงดงาม, ภูมิหลังและพรสวรรค์ที่น่าทึ่ง ผมสีเงินของเธอเป็นเครื่องหมายแห่งความภาคภูมิใจ จนกระทั่งมันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำ เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเธอไม่ ‘บริสุทธิ์’ ซึ่งเป็นลักษณะที่น่าขายหน้าที่ปรากฏขึ้นเมื่อไม่มีคุณสมบัติพอที่จะถือชื่อสกุลเทร็กซ่อน
เธอจำได้ว่าตัวเองตกจากสวรรค์ไปสู่นรกอย่างไร ทุกคนที่เคยชื่นชมเธอกลับไม่ให้ความสนใจเธออีกเลย เกียรติและตำแหน่งที่เธอสร้างขึ้นในเผ่าหายไปเหมือนควัน ก่อนที่เธอจะมีโอกาสรับรู้ทุกสิ่ง เธอก็ถูกขับไล่ออกจากเผ่าแล้ว ความเกลียดชังต่อผมของตัวเองที่ตอนนั้นกลายเป็นสีดำสนิทเติบโตขึ้นในใจเธอ
‘ฉันคงยังอยู่ในสภาพนั้นหรือเปล่านะ?’
ลูมินาร่าถามตัวเองขณะหยุดพักเล็กน้อย ดวงตาของเธอมองไปที่ผมของตัวเองตอนนี้ที่ซึ่งเป็นสีผสมระหว่างสีเงินและสีดำ อันเป็นผลจากของขวัญที่ออสตินมอบให้เธอ มอบโอกาสใหม่ในชีวิต
แม้ว่าตระกูลของเธอจะขับไล่เธอออกมา แต่พวกเขาก็ยังให้ชีวิตที่หรูหราแก่เธอ เธอทำได้เพียงแค่มีชีวิตต่อไป เพราะเธอไม่มีที่อยู่ในอาณาจักรเอลฟ์อีกแล้ว และในตอนนั้นลูมินาร่ารู้สึกอับอายที่จะยอมรับว่าสภาพจิตใจของเธอไม่ดีนัก
เธอเคยเป็นเจ้าหญิงที่ถูกตามใจที่อยู่ๆ ก็ต้องตกนรก จิตใจของเธอไม่สามารถยอมรับได้ ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปเป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยความเศร้า ไม่มีเป้าหมาย เธอมีเพียงเหล้าและความเศร้าโศกเป็นเพื่อน
ผมสีดำซึ่งเป็นเครื่องหมายของการถูกขับไล่ของเธอยังคงอยู่กับเธอ เธอดื่มและดื่มเพื่อหวังว่าวันหนึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย สิ่งที่เธอทำคือใช้เวลาและพรสวรรค์ของเธออย่างสูญเปล่า ตกลงไปในหลุมที่ไม่สามารถหลีกหนีได้ เธอไม่เหลือใครแล้วในชีวิตและเธอไม่ต้องการให้ใครเข้ามาในชีวิตอีกแล้ว
จนกระทั่งเธอพบออสติน หรือจะพูดให้ถูกคือออสตินที่มาพบเธอ ดวงตาสีม่วงของเด็กคนนั้นมองมาที่เธอ เธอยังคงจำได้วันนั้นที่เขามาเยี่ยมเยียนเธอที่อยู่ในสภาพเมาและใช้ชีวิตเหมือนคนสูญเสียจิตวิญญาณได้ สภาพของเธอนั้นช่างไม่น่าดูเอาซะเลยในตอนนั้น แต่เขาก็มองข้ามทุกสิ่งนั้นไป เขาเห็นศักยภาพของเธอในการลุกขึ้นอีกครั้งและให้โอกาสกับเธอ เธอยังคงจำคำพูดที่เขาพูดกับเธอได้อยู่เลย
“ถ้าคุณยอมแพ้ในการชีวิต ทำไมคุณไม่ลองมาเข้าร่วมกับผมและทำสิ่งที่บ้าคลั่งเพื่อยึดครองโลกนี้กันหล่ะครับ?”
รอยยิ้มบางๆ บนใบหน้าของเด็กคนนั้นที่มาหาเธอสลักอยู่ในใจของเธอ แน่นอนว่าเธอไม่รับข้อเสนอในครั้งแรก เธอถึงขนาดด่าทอเขาและอ้วกใส่เขาก่อนที่เธอจะสลบไป ซึ่งยังคงเป็นสิ่งที่น่าอับอายที่สุดที่เกิดขึ้นกับเธอและดีที่สุด
เพราะออสตินไม่ทิ้งเธอ เขาอยู่ข้างเธอเป็นเวลาหนึ่งเดือน ทำให้เธอดีขึ้นและฟื้นคืนสติ เขาไม่เคยยอมรับคำปฏิเสธ เขาทำให้แน่ใจว่าจะอยู่ข้างเธอจนกว่าเขาจะได้รับการยืนยันจากเธอ หลังจากนั้นเธอก็ได้เรียนรู้ตัวตนที่แท้จริงของออสติน และนั่นทำให้เธอประหลาดใจ
เขานำเธอออกจากกลุ่มโดยใช้ตัวตนของเขา และในการทำเช่นนั้น เขายังรักษาคำสาปของเธอด้วยซ้ำ รอยยิ้มอันน่าหลงใหลปรากฏบนใบหน้าของลูมินาร่าเมื่อเธอคิดถึงวันที่ออสตินรักษาเธอ คืนนั้นเธอร้องไห้หนักมาก เธอร้องไห้จนหมดสติไป มันอาจจะแค่ครึ่งเดียว แต่มันก็ช่วยเปิดใจของลูมินาร่า และตั้งแต่นั้นมาเธอก็ติดตามออสตินอย่างสุดหัวใจ
และเพื่อความสุขของเธอ ไม่มีวันไหนที่เธอรู้สึกเบื่อกับออสตินเลย เขารักษาคำพูดของตัวเอง และทั้งสองก็มุ่งสร้างบริษัทจากศูนย์ซึ่งปัจจุบันครอบคลุมโลกนี้ เธอได้เห็นด้วยตาของตัวเองแล้วว่าออสตินเติบโตขึ้นมาอย่างไร เขาเป็นปริศนาที่ยิ่งใหญ่ในสายตาของเธอ คนที่ดูเหมือนจะมีพรสวรรค์ไม่รู้จบที่ซ่อนอยู่
เมื่อเวลาผ่านไป เธอได้ใช้เวลาอยู่กับออสติน มองเขาและเข้าใจเขา ความชื่นชมและความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาก็เติบโตขึ้นจนถึงระดับความรักที่สูงสุด ลูมินาร่ารู้ว่าตัวเองรักออสตินอย่างหมดใจ เธอรักทุกอย่างเกี่ยวกับเขาและปรารถนาที่จะรับใช้เขาจนกว่าจะสิ้นอายุขัย
เธอเข้าใจดีว่าออสตินจะยังคงเข้าถึงความยิ่งใหญ่ที่สูงขึ้นต่อไปอีก และเธอหวังว่าจะได้อยู่ข้างๆ เขาเพื่อเฝ้าดูทุกสิ่งทุกอย่าง ลูมินาร่ารู้จุดยืนของตัวเองดี เธอรู้ว่าออสตินจะแต่งงานกับเธอไม่ได้ แต่ทั้งหมดที่เธอหวังคือการเป็นคนรักของออสติน เธอไม่สนใจตำแหน่งของเธอ ตราบใดที่เธอได้รับความรักจากเขาและอยู่ข้างๆ เขา เธอก็พอใจแล้ว
และเพื่อขั้นตอนแรกสู่เป้าหมายนั้น เธอต้องทำงานนี้ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน
..…
มุมมองของเอร่า :
“ฉันจะแพ้ไม่ได้…..”
เอร่าหวังมานานที่จะมีโอกาสที่จะได้เป็นหนึ่งเดียวกับออสติน เธอพยายามมาตลอดหลายปีที่จะได้อยู่กับเขา แต่เขากลับผลักเธอออกห่างเสมอ เธอรู้ว่ามันไม่ใช่เพราะเขาไม่คิดว่าเธอสวย แต่เขาตอบแทนด้วยวิธีอื่น ดังนั้นเธอจึงอดทนและรอคอย และตอนนี้โอกาสนั้นก็มาถึงแล้ว
“อืม!~ ฉันต้องการมากกว่านี้~”
เธอพูดออกมาเมื่อนึกถึงวิธีที่ออสตินเล่นกับก้นของเธอในที่ประชุม เธอแทบจะไม่สามารถยับยั้งตัวเองไม่ให้ถอดเสื้อผ้าออกและขึ้นขี่เขาจนพอใจ สิ่งที่เธอต้องการในขณะนี้คือให้ออสตินครอบครองเธอ ใส่เมล็ดพันธุ์ลึกเข้าไปในตัวเธอ และทำเครื่องหมายวิญญาณของเธอว่าเป็นของเขา
มือของเธอเลื่อนไปที่ชุด ยกขึ้นเล็กน้อยขณะที่มือของเธอเคลื่อนไปตามรอยแผลเป็นเล็กๆ บนร่างกายของเธอ ใจของเธอนึกถึงเวลาที่ออสตินช่วยชีวิตเธอ ช่วงเวลาที่เธอเลือกที่จะออกจากเผ่าเพื่ออยู่กับเขา ในตอนแรกมันเป็นการเฝ้าดูเขาด้วยความภักดีของเธอ แต่เมื่อเวลาผ่านไปความรักที่แท้จริงกลับบานสะพรั่งในใจของเธอต่อออสติน
หัวใจของเธอปวดร้าวเพื่อเขา และความปรารถนาของเธอก็ทวีความรุนแรงมากขึ้น เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงช่วงเวลาที่พวกเธอแบ่งปันกัน วิธีที่เขาดูแลเธอและวิธีที่เขาทำให้เธอรู้สึกพิเศษ
ออสติน เด็กชายผู้ใจดีและทรงพลังที่เดินทางมายังชนเผ่าของเธอเพื่อตามหาเธอ เขาไม่เพียงแต่ช่วยชีวิตเธอจากสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัยเท่านั้น แต่เขายังมองเห็นคุณค่าที่แท้จริงของเธออีกด้วย เอร่า เอลฟ์ผิวสีน้ำตาลที่มีผมและดวงตาสีน้ำตาล เคยรู้สึกว่าตัวเอกเป็นคนที่แปลกแยกจากคนในเผ่า
เผ่าของเธอขึ้นชื่อในเรื่องความภักดีและการอุทิศตน แต่มีกฎที่ไม่ได้บอกไว้ว่าพวกเขาไม่ควรพัฒนาอารมณ์อันลึกซึ้งต่อใครก็ตามที่อยู่นอกเผ่าของพวกเขาได้ พวกเขาเชื่อว่าความรักอาจทำให้พวกเขาหลงทางจากจุดประสงค์ที่แท้จริงและอาจนำไปสู่ความอ่อนแอ
แต่กับออสติน ทุกอย่างเปลี่ยนไป ขณะที่เอร่าทำงานเคียงข้างเขา เฝ้าดูเขาเติบโตและเฝ้าดูความเมตตาที่เขาแสดงต่อทุกคน ความรู้สึกของเธอกลายเป็นความรักที่ลึกซึ้งและไม่มีเงื่อนไขต่อเขา ออสตินซึ่งปฏิบัติต่อเธออย่างเท่าเทียมและชื่นชมความสามารถของเธอ ได้กลายเป็นศูนย์กลางของโลกของเธอ
ในสถานการณ์พิเศษที่เกี่ยวข้องกับเผ่าของเธอ เอร่าพบว่าตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ประเพณีที่มีมายาวนานของเผ่าของเธอกำหนดว่าเธอต้องเสียสละบางส่วนของเสรีภาพของเธอเพื่อรักษาค่านิยมและความเป็นอยู่ที่ดีของเผ่า
และเธอไม่ลังเลที่จะออกจากเผ่าของเธอ มันเป็นกฎของพวกเขาที่จะตามหลังคนที่พวกเขาเลือก และเอร่าไม่เสียใจเลยในสิ่งที่ทำ ออสตินแสดงให้เธอเห็นถึงโลกที่กว้างกว่าที่เธอจะจินตนาการได้ เขาทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้นและเป็นคนที่มีคุณค่าในโลก
เอร่ารู้จุดยืนของตัวเองดี และสิ่งที่เธอต้องการทั้งหมดคือการเป็นคนรักของออสติน เธอไม่สนใจว่าความสัมพันธ์ของพวกเธอจะเป็นความลับจากโลก ทั้งหมดที่เธอสนใจคือการอยู่กับคนที่เธอเลือก คนที่แสดงให้เธอเห็นถึงโลกที่กว้างขึ้น คนที่เธอมอบความภักดีให้
เอร่าสลัดความคิดของเธอออกไปก่อนจะกลับมาสนใจเอกสารในมือด้วยรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้า ดูเหมือนว่าเธอจะมีพรสวรรค์ในการจัดการกับผู้มีอำนาจและมีความสามารถทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยม ออสติน เจ้านายของเธอ ดูเหมือนจะรู้สิ่งนี้เกี่ยวกับเธอก่อนที่เธอจะรู้ตัวเองซะอีก และเธอก็ชอบที่จะทำทุกอย่างที่ออสตินมอบให้เธอ สิ่งเดียวที่เหลืออยู่คือให้ออสตินยอมให้เธอได้เป็นคู่นอนของเขา ได้ครอบครองเธอตามใจชอบ
ยับยั้งความปรารถนาของตัวเองในตอนนี้ เอร่าจดจ่อกับงานของเธออีกครั้งด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำเสร็จเป็นคนแรก