The Daily Life of the Immortal King - ตอนที่ 115
ตอนที่ 115 ลูบท้องผมได้เลยฮะ…
มันเป็นวันจันทร์ที่ 24 พฤษภาคม ซึ่งตรงกับวันประชุมพบปะผู้ปกครอง การประชุมผู้ปกครองอาจจะเป็นวันที่น่าหวั่นใจของนักเรียนหลายๆคน แต่สำหรับหวังลิ่งเขารู้สึกเฉยชากับงานในครั้งนี้แถมยังรู้สึกแอบขำด้วย
มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาหาคนอื่นมาแสดงตัวเป็นผู้ปกครองให้แก่เขา เหตุผลที่พ่อแม่ของเขาที่ไม่ยอมมาเข้าร่วมประชุมงานประเภทนี้ก็เป็นเพราะพวกเขาไม่อยากมีเรื่องปวดหัวเพิ่ม
อย่างแรก ทั้งคู่รู้ตัวเองดีว่าตนเองเป็นแค่เพียงคนธรรมดาผู้ซึ่งไม่รู้วิชาของผู้ฝึกตนเลยไม่เหมือนกับครอบครัวนักเรียนคนอื่น แต่ดันให้กำเนิดบุตรผู้ซึ่งมีระดับแรกเริ่มลมปราณและสามารถเข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ได้ คิดแต่เพียงเรื่องนี้ก็ทำให้คนอื่นสงสัยแล้ว และอีกเหตุผลก็คือเขาไม่อยากเปรียบเทียบตนเองกับพ่อแม่เด็กคนอื่น
ระหว่างการประชุมผู้ปกครองแน่นอนว่าพวกเขาต้องได้ยินเสียงการพูดคุยกันของพ่อแม่นักเรียนคนอื่น ว่าลูกตนเองดีอย่างโน้นลูกตัวเองดีอย่างนั้น… ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้ดีว่าต่อให้เด็กนักเรียนคนอื่นเก่งแค่ไหนก็ไม่สามารถเทียบกับลูกลิ่งของพวกเขาได้ เขาโบกมือเพียงครั้งเดียวก็สามารถลบการมีอยู่ของคนพวกนั้นได้ภายในชั่วพริบตา
นี่ถือเป็นความน่าสงสารของความเก่งจนเกินไป…
เมื่อพ่อและแม่ของหวังลิ่งคิดถึงจุดจุดนี้ พวกเขาก็ไม่อยากจะไปเข้าร่วมการประชุมผู้ปกครองตลอดระยะเวลาการเรียนระดับประถมของหวังลิ่งอีกเลย
การประชุมแบบนี้เป็นอะไรที่แสนน่าเบื่อ…
………………………
หวังลิ่งปรากฏตัวที่หน้าหมู่บ้านเหวินเฉียนที่ซึ่งเทพมือระเบิดอาศัยอยู่ ณ เวลา 9 โมงเช้าซึ่งเขาได้นัดหมายไว้
เพราะว่าเขาต้องไปโรงเรียนเขาจึงส่งร่างโคลนตัวเองมายังบ้านของเทพมือระเบิด แม้ว่าจะเป็นแค่เพียงร่างแยก เขาคิดว่าแค่นี้ก็คงจะเพียงพอแล้วต่อการป้องกันหน้ากากผีดิบ
เมื่อเขาเข้าใกล้หน้าประตูบ้านของเทพมือระเบิด เขาก็เห็นรถบรรทุกคันใหญ่คันหนึ่งซึ่งข้างรถเขียนไว้ว่า “ชุนเฟ็งเอ็กเพลส” พนักงานส่งของในชุดสูทสีดำทั้งสองคนกระโดดออกมาจากรถ และกดรีโมตในมือของเขา คนเทนเนอร์บนรถบรรทุกคันนั้นก็ถูกเปิดออกมา โดยที่มุมทั้งสี่ของคอนเทนเนอร์แยกออกจากกันและแผ่ออกมาเหมือนกระดาษถูกคลี่ออก ภายในคอนเทนเนอร์นั้นมีกรงขังสัตว์กรงหนึ่ง
ภายในกรงนั้นบรรจุสิงโตขนสีแดงทองและมีขนาดใหญ่กว่าสิงโตวิญญาณตัวอื่นๆที่สามารถพบเห็นได้ทั้วไปในสวนสัตว์
เพียงแค่การมองแวบเดียว หวังลิ่งก็รู้ทันทีว่าสิงโตตัวนั้นคือสิงโตนักสู้ของตระกูลเสี่ยว!
มันดูได้รับการดูแลอย่างดีและแข็งแกร่ง ดูจากกล้ามเนื้อที่ขาทั้งสี่ของมันซึ่งมองเห็นเส้นเลือดภายใต้ผิวหนังของมัน ทันทีที่คอนเทนเนอร์ถูกเปิดออก ขนสีแดงดั่งเปลวเพลิงของมันสะบัดปลิวไสวตามลมราวกับเปลวไฟ ก็ทำให้พนักงานส่งของรู้สึกเกรงกลัวในตัวมัน
พนักงานส่งของทั้งสองคิดไปถึงเจ้าของสิงโตนักสู้ตัวนี้ ว่าเขาใช้วิธีไหนในการวางยาสลบเจ้าสิงโตตัวนี้
ขณะนี้ฤทธิ์ของยาสลบดูเหมือนจะหมดลงเสียแล้ว และทุกคนรู้ดีว่าสิงโตนักสู้มีนิสัยก้าวร้าวเพียงใดเมื่อไม่มีเจ้าของอยู่ใกล้ๆ
พนักงานขนส่งทั้งสองรีบนำกรงนั้นวางลงบนพื้นและปิดคอนเทนเนอร์ พวกเขายืนเก้ๆกังๆอยู่หน้าประตูบ้าน และเมื่อพวกเขาเห็นเทพมือระเบิดเปิดประตูออกมา พวกเขาก็รีบก้มหัวทำความเคารพ “ชุงเฟ็งเอ็กเพลส! ส่งของเรียบร้อย คุณเล่ย ได้โปรดเซ็นรั…”
“โอ้? พวกนายไม่อยากได้คอมเมนต์ 5 ดาวจากฉันรึ?”
พนักงานส่งของทั้งสองที่มีระดับแค่เพียงแก่นแท้ปราณทองคำ พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าสิงโตนักสู้พวกเขาเพียงแค่อยากจะรีบส่งของและรีบกลับไวๆ
“ไม่เป็นไรหรอกครับพวกเราจะมาขอรับคำติชมทีหลัง ตราบใดที่คุณเล่ยพึงพอใจในการบริการของพวกเราพวกเราก็มีความสุขแล้วครับ ถ้าเช่นนั้นพวกเราขอตัวก่อนนะครับ”
พนักงานส่งของทั้งสองก้มหัวให้กับเทพมือระเบิดก่อนที่พวกเขาจะขึ้นรถและขับออกไป
เทพมือระเบิดได้แต่ขำให้กับท่าทางของพนักงานส่งของทั้งสอง “เจ้าพวกนั้นท่าทางจะกลัวเจ้าสิงโตตัวนี้เอาเสียมากๆ!”
จากนั้นเขาจึงเห็นหวังลิ่งซึ่งยืนอยู่ข้างกลังรถบรรทุกคันนั้น “โย่ว! น้องลิ่ง! ดีใจที่นายมานะวันนี้!”
“…”
“น้องลิ่ง ให้ฉันแนะนำอะไรบางอย่างให้ดู เจ้าตัวที่อยู่ในกรงนั่นคือสิงโตนักสู้ซึ่งฉันยืมมาจากโทยะจอมอมตะเพื่อที่จะเพิ่มการป้องกันให้กับหน้ากาก วันนี้พวกนายทั้งสองต้องร่วมมือกันนะ”
เมื่อพูดจบเขาก็เดินไปปลดโซ่ที่ปิดผนึกกรงออก “ออกมาได้แล้วไอ้หนู!”
“…” สิงโตนักสู้นอนอยู่ในกรงไม่กระดิกไปไหน มันได้แค่เหลือบตามองไม่มีวี่แววจะขยับตัวออกมาตามคำสั่ง
หวังลิ่งได้แต่มองตาปริบๆ “…”
‘เห็นได้ชัดเลยว่าเจ้าสิงโตตัวนี้ไม่ได้รับการฝึกดีนัก!’
โดยปกติแล้วสิงโตนักสู้ตัวเต็มวัยจะฟังแค่คำสั่งของเจ้าของ ถ้าเจ้าของของมันไม่ได้อยู่ใกล้ๆ พวกมันจะไม่ฟังใครทั้งนั้น
เทพมือระเบิดรู้สึกอับอายนิดๆ เขาอยู่ระดับแก่นแท้วิญญาณแท้ๆ แต่ไม่สามารถออกคำสั่งกับสิงโตตัวนี้ได้
เขาวางมือลงบนลำตัวของมัน เพื่อสื่อสารกับสิงโตตัวนั้น “นี่ไอหนู ช่วยไว้หน้าฉันหน่อยเถอะ ได้โปรดช่วยลุกออกมาจากกรงหน่อยได้ไหม? น้องโทยะและฉันก็รู้จักกันมานาน เขาส่งแกมาช่วยฉัน ทำให้พวกเรารู้สึกดีใจแค่ไหนที่มีนายมาช่วย?”
สิงโตนักสู้ตัวนั้นเหลือบมามองอย่างสงสัย
“นี่ไอหนู ฉันไม่เคยสุภาพขนาดนี้มาก่อน ฉันบอกเลยนะว่าถ้าหากมันไม่ใช่เพราะนายเป็นสัตว์เลี้ยงของโทยะ ฉันคงใช้กำลังกับนายไปแล้ว! ออกมาได้แล้วก่อนที่ฉันจะโกรธไปมากกว่านี้ แม้แต่ตัวฉันเองยังกลัวตัวเองในขณะที่โกรธเลย!” เทพมือระเบิดตะโกนใส่ และแหย่หัวเข้าไปในกรง
“กรร!” สิงโตนักสู้คำรามใส่หัวของเทพมือระเบิดและกระโจนเข้ามาขย่ำหัวของเทพมือระเบิด ส่งผลให้เลือดของเขาค่อยๆไหลออกมา
หวังลิ่ง “…”
ในขณะที่หัวของเทพมือระเบิดยังคงอยู่ในปากของสิงโตนักสู้เขาถอนหายใจออกมา “ฉันต้องขอโทษด้วยจริงๆนะที่ต้องมาเห็นอะไรแบบนี้…แต่ฉันเตรียมแผนรับมือมาแล้วหล่ะ!”
หลังจากที่เขาพูดจบ ก็มีเสียงดังออกมาจากนาฬิกาข้อมือของเขา
“เจ้าปีศาจ! ปล่อยเดี๋ยวนี้!”
นั่นเป็นเสียงของโทยะจอมอมตะ
เมื่อได้ยินเสียงนี้ สิงโตนักสู้ก็หยุดและอ้าปากออกปล่อยหัวของเทพมือระเบิดเป็นอิสระ
หลังจากเป็นอิสระจากปากของสิงโตตัวนั้น เทพมือระเบิดจึงเช็ดเลือดที่ไหลเต็มคอของเขา “โชคดีที่ฉันน่ะฉลาดพอที่จะให้น้องโทยะอัดเสียงไว้ให้”
เขากดปุ่มเล่นอีกครั้ง
หวังลิ่งจึงได้ยินคำอื่นนอกจาก “เจ้าปีศาจ! ปล่อยเดี๋ยวนี้!” และหลายๆคำสั่งซึ่งเทพมือระเบิดขอให้โทยะจอมอมตะอัดเสียงไว้ “เจ้าปีศาจ! นั่งลง!” “เจ้าปีศาจ! หมอบ!” “เจ้าปีศาจ! ยกมือขึ้น!” และ “ไปเลย เจ้าปีศาจ! ฉันเลือกนาย!”
เทพมือระเบิดหันมาพูดกับหวังลิ่ง “น้องลิ่ง ถ้าหากนายคุมมันไม่อยู่ก็เล่นไฟล์เสียงนี้นะ”
หวังลิ่ง “…”
หวังลิ่งมองไปยังสิงโตนักสู้ที่อยู่ในกรง ด้วยสายตาเรียบเฉยไร้ความรู้สึก
เขาไม่แม้แต่จำเป็นที่จะต้องปล่อยพลังวิญญาณออกไปเพื่อสยบสิงโตตัวนั้น มันแค่ถูกมองเพียงครั้งเดียวก็รู้สึกกลัวขึ้นมาจนขนทั้งตัวของมันลุกซู่ตั้งแต่หัวจรดหาง
‘ความกดดันอะไรกัน?’
สิงโตนักสู้รู้สึกกลัวอย่างอธิบายไม่ถูก ด้วยการที่มันเป็นสัตว์พลังวิญญาณ มันมีสัญชาตญาณบางอย่างในการรับรู้ถึงอันตราย และสัญชาตญาณนั่นบอกมันว่า…ชายคนนี้เป็นคนที่มันไม่ควรจะต่อกรด้วย
‘จะทำอย่างไรดี? หรือว่าเราควรจะแสดงความเป็นมิตร?’
‘ถ้าไม่ทำเช่นนั้น เราอาจจะไม่รอด!’
เมื่อสิงโตนักสู้คิดเสร็จ มันจึงไม่มีทางเลือกอื่น มันต้องแสดงความน่ารักของมันให้ชายคนนี้รับรู้
ครู่ต่อมาเทพมือระเบิดและหวังลิ่งก็เห็นสิงโตนักสู้ค่อยๆเดินออกมาจากกรง และนอนหงายอยู่เบื้องหน้าพวกเขาทั้งสอง มันยกอุ้งมือทั้งสี่ของมันขึ้น เผยให้เห็นหน้าท้องและหลับตาพริ้ม…
‘ลูบท้องของผมได้ตามสบายเลยฮะ!’
“…”