The Daily Life of the Immortal King - ตอนที่ 121
ตอนที่ 121 คุณคือ?
นักบุญลำดับสามรู้สึกคุ้นชุดนักเรียนสีน้ำเงินเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ดวงตาเขาหยุดจ้องไปที่หน้าของเด็กผู้ชายตรงหน้าอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็นึกออกว่าชุดนักเรียนสีน้ำเงินนี้เขาเคยเห็นมันในข่าวเมื่อไม่นานมานี้! มันคือชุดนักเรียนของโรงเรียนอันดับที่60ในเขตไป่หยวนอันโด่งดังนั่นเอง!
โรงเรียนแห่งนั้นเคยเป็นโรงเรียนมัธยมปลายที่ไม่มีชื่อเสียง ถ้าหากไม่เป็นเพราะว่านักฆ่าฝีมือดีระดับโบว์แดงขององค์กรเงาสายธารถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม เขาคงไม่สนใจข่าวอันแปลกประหลาดข่าวนั้น
เขาจำได้ว่าข่าวได้พูดถึงเกี่ยวกับโรงเรียนธรรมดาแห่งนี้ นอกจากกำจัดนักฆ่าระดับโบว์แดงได้แล้วยังสามารถจับนักฆ่าระดับโบว์ทองได้อีกด้วย ซึ่งมันดูแปลกมากที่ทุกอย่างจะเกี่ยวข้องกับโรงเรียนนี้ทั้งหมด
และตอนนี้ เด็กหนุ่มซึ่งยืนอยู่ข้างหน้าเขาสวมใส่ชุดนักเรียนของโรงเรียนแห่งนั้น…นักบุญลำดับสามเริ่มรู้สึกหวั่นใจขึ้นมา
แต่มันก็ไม่มีหลักฐานอะไรที่ชี้ชัดว่า เด็กคนนี้จะเป็นสาเหตุการณ์ตายของศิษย์พี่ทั้งสองของเขา…ใช่ไหม?
อาจจะเป็นผู้ฝึกตนที่มีฝีมือคนอื่นหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้าน ผู้ซึ่งวิชารับรู้สวรรค์ก็ไม่สามารถตรวจจับได้
‘เขากลัวอะไร?’
‘มันไม่น่าจะเป็นไปได้’
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะเขาก็ยังสามารถผ่านมันมาได้!
นักบุญลำดับสามคิดว่าตอนที่เขาสำเร็จขั้นแก่นแท้วิญญาณ ไอเด็กคนนี้คงยังไม่เกิดเลยกระมัง
‘นั่นก็แค่เด็กคนนึง’
‘เด็กผู้ชายใส่ชุดนักเรียน’
‘ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัวเลย’
หวังลิ่งซึ่งยืนอยู่หน้าประตูบ้านไม่แสดงความเห็นใดๆต่อความคิดของคุณลงผู้ฝึกตนคนนั้น เขาสงสัยเพียงแค่ว่า จนถึงป่านนี้ทำไมคุณลุงยังไม่เริ่มลงมืออีก
ทันใดนั้นเองเขาเห็นว่าเกิดแสงสว่างขึ้นที่มือของลุงคนนั้น ขวดน้ำเต้าซึ่งปกติแล้วจะเอาไว้บรรจุเหล้าก็โผล่ขึ้นมาในมือของลุงคนนั้น เขายกมันขึ้นก่อนที่จะดื่มไปหลายอึก
หวังลิ่งงุนงงกับภาพตรงหน้า ‘หรือนี่จะเรียกว่าการดื่มเหล้าย้อมใจ? นี่เราน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือ?’
สำหรับนักบุญลำดับสามที่ไม่สามารถเดาพลังของหวังลิ่งได้ เขาไม่รู้สึกได้ถึงพลังวิญญาณจากตัวของเด็กนักเรียนคนนี้เลย เมื่อตอนที่เขาเห็นหน้าเด็กผู้ชายคนนั้นเขาก็เลิกปล่อยจิตสังหาร กลับกันเขารู้สึกถึงอันตรายบางอย่างทำให้เขาต้องเสกเหล้าขึ้นมาดื่มย้อมใจ
หวังลิ่งเหลือบมองเหล้าในมือของคุณลุง “xx82” เหล้าชนิดนี้กำลังเป็นที่โด่งดังในโลกผู้ฝึกตนขณะนี้ เขาเคยเมาแบบนี้มาครั้งนึงแล้วเมื่อตอนที่ทำภารกิจเก็บกวาดจากเหตุการณ์ปีศาจบุกเมืองเมื่อความก่อน แม้ว่าประตูมิติที่เปิดนั้นจะไม่ได้นาน แต่การดื่มเหล้าย้อมใจเป็นธรรมเนียมที่ได้รับความนิยมมานานแล้ว
โดยทั่วไปแล้ว นักบุญลำดับสามจะดื่มก็ต่อเมื่อพบเจอกับศัตรูที่น่ากลัว…แต่เขาก็ไม่คิดว่านักเรียนรูปร่างหน้าตาธรรมดาดูไม่มีพิษภัย เพียงแค่ส่งสายตาเย็นๆมาให้ก็ทำให้เขารู้สึกกลัวขึ้นมาเสียอย่างนั้น
ตอนนี้เหล้าทั้งหมดจากขวดน้ำเต้าได้ลงไปกองอยู่ในท้องของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาเงยหน้าขึ้นและพูดด้วยเสียงอู้อี้ “มาเลย พร้อมแล้ว~!”
เขายกกระบี่ขึ้นและแทงตรงไปยังหวังลิ่ง มีเสียงเสียดสีกันระหว่างกระบี่และอากาศดังตามการแทงของเขา ภายใต้การกวัดแกว่งของผู้ฝึกตนระดับแก่นแท้วิญญาณ ถ้าหากเป้าหมายมีระดับต่ำกว่า เขาเหล่านั้นอาจตายก่อนที่กระบี่จะทันถูกตัวเสียอีก
ถ้าหากเด็กคนนี้เป็นเด็กนักเรียนมัธยมระดับแรกเริ่มลมปราณจริงล่ะก็ เด็กคนนั้นก็ไม่สามารถจะที่จะสู้เขาได้เลย
10นักบุญได้ฝึกฝนพลังด้านมืดมา แต่พวกเขาก็เลือกฝึกในอาวุธที่แตกต่างกันไป เช่น ขวาน และสบู่…ซึ่งนักบุญลำดับสามเลือกที่จะฝึกกระบี่เป็นหลัก
หวังลิ่งสามารถบอกได้เลยว่าวิชานี้คือ “วิชาสามกระบี่” ซึ่งถูกคิดค้นขึ้นมาโดยนายพลยิ! ซึ่งวิชานี้ถูกแบ่งออกเป็นสามคุณสมบัติ ทองแดงเน้นป้องกัน, ทองคำเน้นโจมตีและเงินเน้นทั้งการรุกและรับ
โดยที่วิชาที่นักบุญลำดับสามถนัดนั้นเป็นคุณสมบัติเงิน
หวังลิ่งไม่ได้ขยับไปไหนเขาแค่กระพริบตาของเขาเพียงครั้งเดียว
ผู้ฝึกตนแก่รู้สึกแปลกใจ และคิดไปว่า “หรือเด็กหนุ่มคนนี้จะหว่านเสน่ห์ใส่เรา?” [เออก็คิดได้เนอะ ผู้แปล]
แต่นักบุญลำดับสามก็แสดงความแปลกใจได้ไม่นาน เขาก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติ
เพราะก่อนที่กระบี่ของเขาจะทันเข้าถึงตัวเด็กนักเรียนคนนี้ มันถูกอะไรบางอย่างหยุดเอาไว้กลางอากาศ ทั้งพลังลมปราณที่เคลือบกระบี่และตัวกระบี่เองถูกหยุดไว้ด้วยพลังที่มองไม่เห็น
และตอนนั้นเองนักบุญแก่นึกถึงภาพที่เด็กหนุ่มกระพริบตาเมื่อสักครู่
“หรือว่านั่นไม่ใช่แค่การกระพริบตาธรรมดา?”
เด็กคนนี้ใช้ลมจากการกระพริบตายับยั้งกระบี่ของเขา!
แค่การกระพริบตาก็สามารถรับมือวิชาสามกระบี่ได้…
ความภาคภูมิใจของเขาที่ฝึกตนมากว่าสองพันปีถูกพังทลายลงอย่างไม่เหลือชิ้นดี…
ที่แย่ไปกว่านั้น ไม่เพียงแค่วิชาของเขาถูกหยุดเอาไว้ แต่พลังลมปราณที่เขาใส่ลงไปในวิชาสามกระบี่ ก็ดันย้อนกลับเข้าหาตัวเขา เมื่อตอนที่เขาคิดว่าจะปล่อยมือออกจากกระบี่มันก็สายเกินไปเสียแล้ว! พลังลมปราณไหลย้อนกลับมาอย่างรุนแรงผนวกเข้ากับคลื่นพลังที่มองไม่เห็น!
การสะท้อนนี้รุนแรงเกินกว่าที่เขาคิดไว้ รุนแรงยิ่งกว่าพลังที่เขาใส่ลงไปในตอนแรกเสียอีก!
นักบุญลำดับสามไม่ทันแม้แต่จะแสดงท่าทีตกใจ ความกลัวของเขาเพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุด…
‘ไอเด็กคนนี้มันเป็นใคร?!’
โชคยังดีที่เขาไหวตัวทัน เขาตัดมือขวาข้างที่จับกระบี่ของเขาทิ้ง ทิศทางของพลังที่สะท้อนกลับมาเปลี่ยนทิศพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าผ่ากลุ่มก้อนเมฆขึ้นไป ส่งผลให้ก้อนเมฆสลายหายไปเสียจนหมด
ไม่กี่วินาทีต่อมา เขาไอออกมาเป็นเลือดเปื้อนชุดขาวตัวเก่งของเขา
แม้ว่าเขาจะสามารถเปลี่ยนทิศทางของพลังได้ แต่ผลของมันก็ได้สร้างอาการบาดเจ็บภายในให้แก่เขา ต้องขอบคุณที่เขาเลือกแก้ปัญหาได้ถูกวิธี ระดับของอาการบาดเจ็บของเขาแค่เพียงระดับสอง
ตอนนั้นเองเขาก็รู้สึกถึงความน่ากลัวของเด็กหนุ่มตรงหน้าและรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ ‘แค่ลมที่เกิดจากกระพริบตา สามารถสร้างความเสียหายได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ! ถ้าหากไหวตัวไม่ทันป่านนี้เขาคงไปพบศิษย์พี่ของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!’
“กำจัดศัตรูด้วยเพียงการกระพริบตา…” ใบหน้าของนักบุญลำดับสามซีดลงด้วยความหวาดกลัว
‘เด็กหนุ่มคนนี้มีระดับสูงกว่ากลุ่ม10นักบุญของเขาแน่นอน’
แม้แต่เขามีผู้ฝึกตนระดับแก่นแท้วิญญาณจำนวน 100 คน พวกเขาก็ยังไม่อาจต่อกรกับเด็กคนนี้!
เขานึกถึงท่าการกระพริบตาของเด็กหนุ่ม เขารู้สึกคุ้นกับวิชานั่นอย่างบอกไม่ถูก
ตำนานเคยกล่าวไว้ว่า นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งวงการนักฆ่า หรือฉายาปรมาจารย์นักฆ่า ได้สำเร็จวิชากำจัดศัตรูด้วยการกระพริบตาเช่นกัน!
หรืออาจจะเป็น… เด็กคนนี้เป็นปรมาจารย์นักฆ่าคนนั้น? แต่ทำไมเขาถึงสวมชุดนักเรียนกันหล่ะ? งานอดิเรกของเขาคือคอสเพลย์หรือ?
‘โอ้วมายก็อด! นักฆ่าอันดับหนึ่งนั้นถือเป็นไอดอลของเขาเลยนะ!’
หวังลิ่งเห็น คุณลุงนักบุญเอามือกุมแขนข้างที่บาดเจ็บไว้ และเดินตรงมาทางเขาพร้อมกับเอ่ยถามว่า “คุณคือนักฆ่าอันดับหนึ่งใช่ไหม…ประมาจารย์นักฆ่าใช่ไหมครับ? ผมขอลายเซ็นหน่อยได้ไหมครับ?”
หวังลิ่ง “…” ‘ก่อนหน้านี้แกพึ่งบอกว่ามาแก้แค้นอยู่เลยไม่ใช่รึไงแวะ?’