The Daily Life of the Immortal King - ตอนที่ 128
ตอนที่ 128 ตัวละครลับของพ่อหวังลิ่ง
เมื่อก่อนปราสาทตระกูลโม่จะใช้ข่าวสารทั้งหมดมาจากหน่วยข่าวกรองของพรรคเขียว ก่อนที่พวกเขาจะก่อตั้งหน่วยสายลับหรือหน่วยข่าวกรองของพวกเขาขึ้นมาเอง
และไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ดูเหมือนจะถดถอยลงไป ไม่ได้ใกล้ชิดเหนียวแน่นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
เมื่อสองขั้วอำนาจเริ่มต้นความสัมพันธ์ด้วยผลประโยชน์ ต่อมาเมื่อความสัมพันธ์นั้นมีปัญหาก็ยากที่จะสานต่อ
ด้วยการที่เป็นหัวหน้าพรรคเขียว โจวจี้มีจุดยืนที่ชัดเจนสำหรับแนวทางการเติบโตของพรรคเขียว เขาค่อยๆขยายรากฐานของพรรคเป็นระยะเวลากว่าหลายปี พยายามที่จะเป็นที่หนึ่งทางด้านข่าวสารในโลกใต้ดินอาณาเขตเมืองซ่งไห่ แต่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาทางด้านประสาทตระกูลโม่ที่พึ่งเริ่มก่อตั้งหน่วยสปายของตนเองขึ้น และดันมีอัตราการเติบโตเร็วจนเกินไป
แต่ถึงแม้ว่าการเขาจะสู้พลังข่าวสารบนดินไม่ได้ โจวจี้ก็ยังสามารถหาเบาะแสเกี่ยวกับหน้ากากผีดิบได้โดยบังเอิญ และเขารู้ว่าปราสาทตระกูลโม่ตามหามันมานานเป็นเวลาหลายปี
สองคิงชูกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก แน่นอนว่าข้อเสนอนี้เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ
ทางด้านโจวจี้รู้ว่าข้อเสนอของเขาไปโดนจุดสนใจของสองคิงชูเข้าอย่างจัง “พี่สองพี่แค่หาวิธีควบคุมความคิดเห็นสาธารณะบนWeiboเท่านั้นเอง…ฉันมีหลานชายเพียงแค่คนเดียว ฉันต้องปกป้องเขาไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม!”
สองคิงชูถอนหายใจออกมา “ก็ได้..ฉันรับข้อเสนอของหัวหน้าโจว แต่นายต้องรู้ด้วยนะว่าเจ้าสำนักทะลวงฟ้านั้นได้ดำเนินการไปแล้ว ถ้าหากมันทำให้ปราสาทตระกูลโม่ติดร่างแหไปด้วย…”
“พี่สอง ฉันแค่ขอให้ช่วยในเรื่องนี้ ขอแค่ช่วยทำให้ผลลัพธ์มันเบาลงต่อให้ท้ายที่สุดแล้วมันจะช่วยได้หรือไม่ ฉันก็จะบอกทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันรู้เกี่ยวกับหน้ากากผีดิบ”
เมื่อสองคิงชูได้ฟังคำอธิบายของอีกฝ่ายเสร็จ เขาก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ได้…ฉันจะทำเท่าที่ทำได้ก็แล้วกัน”
เมื่อวางสายลงเขาก็พยายามคิดว่าใครที่จะสามารถช่วยเขาในเรื่องนี้ได้?
สองคิงชูคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรออกไปยังเบอร์เบอร์หนึ่ง “ฮัลโหล นี่ผมเองสองคิงชู รบกวนช่วยต่อสายไปหานายกเทศมนตรีดิงหน่อย…”
………………………..
ในขณะที่หัวหน้าพรรคเขียวได้โทรไปขอความช่วยเหลือจากสองคิงชูในเรื่องช่วยควบคุมข่าวของหลานชายบนWeibo คอมเมนต์บนWeiboก็ไม่มีทีท่าว่าจะจบลงเลย
มันเป็นเวลากว่าสี่ชั่วโมงแล้วตั้งแต่เริ่ม เวลานี้เป็นเวลาเที่ยงคืนแต่สถานาการณ์บนWeiboยังคึกคักราวกับว่าเป็นเที่ยงวัน
เรื่องก็ดูท่าจะรุนแรงขึ้นมากกว่าเก่า โพสต์ของพ่อหวังลิ่งที่ชื่อว่า “เพลิงความแค้นของหวังสิถู” ได้ถูกตั้งค่าเป็น Hot topic บนWeiboเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยที่มีประเด็นเรื่องผู้หญิงควรจะป้องกันตนเองอย่างไรเมื่อเผชิญกับเหตุการณ์แบบนี้
ชาวเน็ตได้แชร์โพสต์และแสดงความรู้สึกสงสาร แม้แต่เหล่านักเลงคีย์บอร์ดก็ยังไม่ยอมไปหลับไปนอน เป็นเพราะพวกเขาเหล่านั้นไม่อยากพลาดการมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ครั้งนี้
ทันใดนั้นเองก็มีข้อความพร้อมกับอีโมติค่อนโกรธจำนวนมากแสดงลงมาในคอมเมนต์ “แปลก! ทำไมคอมเมนต์ของฉันในโพสต์นี้หายไป! แม้แต่จำนวนผู้อ่านบนมุมขวาบนของฉันก็หายไป”
ชายเน็ตจำนวนมากส่งรูปแคปหน้าจอของตัวเองลงมาด้วยความไม่พอใจ
จำนวนคอมเมนต์ก็ดูเหมือนจะลดลง “ฉันนึกว่าเป็นแค๋ฉันคนเดียวที่โพสต์บนWeiboโดนล็อค! นี่ทุกคนก็มีปัญหาเหมือนกันหมดเลยใช่ไหม!”
“Shit! ไม่ได้เป็นเฉพาะฉันจริงๆด้วย!”
“ฉันอุตส่าห์พิมพ์ไปตั้งเยอะตั้งแยะ ทำไมมันถึงโดนบล็อค?! ช่วยกูรูหวังสิถู!”
นี่ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เหล่าชาวเน็ตกุเรื่องขึ้นมาแล้ว เพราะว่าพ่อของหวังลิ่งก็สังเกตอะไรบางอย่างได้เช่นกัน เขาพบว่าจำนวนยอดไลค์และคอมเมนต์บนโพสต์ของเขากำลังลดลง สี่ชั่วโมงที่ผ่านมียอดกดไลค์มีประมาณ 200,000 ไลค์ แต่หลังจากที่เขารีเฟรชหน้าเพจ! ตัวเลขเหลือแค่เพียงครึ่งนึงจากของเดิม!
หวังลิ่งก็สังเกตได้เช่นกันว่ามีหลายคอมเมนต์ที่หายไป
ก่อนหน้านี้ มีบางคนส่งเบาะแสมา แต่ยังไม่ทันที่จะได้ตรวจสอบอะไรพวกมันก็หายไปเสียอย่างนั้นแถมยังขึ้นแจ้งเตือนว่า “ไม่อนุญาตให้โพสต์ข้อความประเภทนี้”
เป็นที่แน่ชัดเลยว่ามีใครบางคนพยายามลบข้อความเพื่อที่จะทำให้เรื่องมันซาลง
พ่อของหวังลิ่งนั่งเฝ้าดูเหตุการณ์กว่าสิบห้านาทีอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ จากนั้นเขาก็เห็นว่า “Hot” ซึ่งอยู่ข้างโพสต์ของเขานั้นหายไป แม้แต่อันดับของมันก็ลดลงจนไปอยู่อันดับสาม
ภายในห้องทำงานของเขา ที่เขี่ยบุหรี่ของเขาเต็มไปด้วยก้นและขี้บุหรี่ และดูเหมือนบุหรี่ของเขาจะหมดลงแล้วเช่นกัน
หวังลิ่งคิดว่าเขาควรจะใช้วิชาเทเลพอร์ตไปร้านสะดวกซื้อเพื่อซื้อบุหรี่ซองใหม่มาให้พ่อของเขา
เพราะมันอาจจะเป็นอย่างเดียวที่เขาจะทำเพื่อพ่อของเขาได้ เนื่องจากว่าพ่อของเขาไม่ยอมให้เขาสอดมือเข้ามายุ่งกับเหตุการณ์ในครั้งนี้
ไม่ทันขาดคำหวังลิ่งก็เข้าใจว่าเขาคงจะแค่คิดมากไปเอง
เพราะเขาเห็นพ่อของเขายืนขึ้นและหยิบกล่องเหล็กใบหนึ่งบนชั้นวางหนังสือข้างๆเขา ภายในกล่องมีซิการ์จำนวนสิบมวน พ่อของเขาหยิบมันมาคาบไว้และจุดไฟทันที
หวังลิ่งเริ่มรู้สึกร้อนๆหนาวๆเพราะเขาเริ่มจะรับรู้ถึงความอันตรายของพ่อเขาเพิ่มขึ้นอีก
……………………….
พ่อของหวังลิ่งดูดซิการ์เข้าปอดไปฟอดใหญ่
หวังลิ่งจ้องไปยังกล่องใบนั้นอยู่นึง และเขาก็เริ่มที่จะนึกออก ว่ากล่องใบนี้เป็นของขวัญจากแฟนคลับของพ่อของเขา ซึ่งถูกส่งมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ซึ่งตอนนั้นพ่อของเขาก็กำลังพิมพ์งานอยู่ในห้องทำงาน และเป็นหวังลิ่งเองที่เป็นคนเซ็นรับกล่องใบนี้มานั่นจึงทำให้เขารู้สึกคุ้นๆเมื่อเห็นพ่อของเขาหยิบกล่องใบนี้ลงมาจากชั้นวางหนังสือ
แต่หวังลิ่งก็ไม่ได้สนใจรายละเอียดอะไรของมันมากจึงทำให้เขาไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ภายในกล่องใบนั้น
และเมื่อพ่อของเขารับกล่องนี้ไป พ่อของเขาก็นับมันไปวางไว้บนชั้นวางหนังสือตั้งแต่บัดนั้นจนถึงปัจจุบัน
มันไม่ได้ดูหรูหรือแพงอะไรจากรูปลักษณ์ภายนอก แต่ซิการ์ภายในกล่องนั้นดูหรูหราอย่างบอกไม่ถูก!
เขาใช้วิชาตาสวรรค์ตรวจสอบส่วนประกอบของซิการ์ ซึ่งมันเต็มไปด้วยสมุนไพรเลอค่ากว่าหนึ่งร้อยชนิด ซึ่งเขาสามารถได้กลิ่นจางๆของ “หญ้ามังกรมงคล”! ซึ่งเป็นยาสมุนไพรต้องห้อมภายในประเทศ สรรพคุณของมันคือสามารถชุบชีวิตคนตายได้ และยังได้รับความนิยมทั่วทั้งโลกเพราะมีอีกสรรพคุณคือรักษาโรคมะเร็ง! แค่เพียงเศษสมุนไพรก็สามารถกำจัดเซลล์มะเร็งให้หมดไปจากร่างกายได้!
เห็นได้ชัดว่าซิการ์เหล่านี้ได้ถูกสร้างขึ้นอย่างพิเศษโดยแฟนคลับของเขา การที่จะนำหญ้ามังกรมงคลมาเป็นส่วนผสมของซิการ์ได้ คนคนนี้ต้องอยู่ระดับไหนกัน?
ในขณะที่หวังลิ่งกำลังสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนั้นอยู่ พ่อของหวังลิ่งก็สูบซิการ์หมดไปครึ่งมวนแล้ว
เป็นอย่างที่เขาคิดไว้ มีใครบางคนกำลังพยายามลบข้อความบนWeibo และโพสต์ “เพลิงความแค้นของหวังสิถู” ก็ตกลงไปจนไม่ติดหนึ่งในสิบแล้ว
“ทุกคน ช่วยกันแชร์โพสต์อีกครั้ง! ช่วยกูรูหวังสิถู! มันกำลังตกลงไป!”
“ไอWeiboหน้าส้นติง! ไอพวกที่อยู่เบื้องหลังทั้งหลายแม่งหน้าไม่อายเลยหวะ!”
“ฉันจะแชร์! แชร์! แชร์มันอีก! ฉันไม่เชื่อว่ามันจะถูกแซงโดยโฆษณาแชมพูยาสระผมปัญญาอ่อนได้! มันไปเอาความมั่นใจมาจากไหน?! Rejoice?!”
ชาวเน็ตรู้สึกว่ามันไม่แฟร์สำหรับหวังสิถู มันมีมือมืดพยายามควบคุมเรื่องนี้อยู่เบื้องหลัง และพวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย…
เมื่ออ่านคอมเมนต์ทั้งหมด พ่อของหวังลิ่งรู้สึกโกรธจนเลือดขึ้นหน้า
‘มีคนอยู่เบื้องหลังรึ?’
‘ไม่มีทางหรอกสู้ฉันได้หรอก’
หวังลิ่งเห็นพ่อของเขากลับด้านกล่องเหล็กใบนั้นและเปิดจากข้างหลัง
คิ้วของเขาขมวด…กล่องใบนั้นสามารถเปิดได้ทั้งหน้าและหลังแต่ขนาดความจุดูจะน้อยกว่าด้านที่ใส่ซิการ์
และภายในนั้นมีเบอร์โทรศัพท์อยู่เบอร์หนึ่ง
พ่อหวังลิ่งไม่จำเป็นต้องคิดอะไรเลยก่อนที่เขาจะโทรออกไปยังเบอร์นั้น
หลังจากนั้นไม่นานพ่อของหวังลิ่งก็พูดขึ้น “สวัสดีครีบ นี่ผมเองหวังสิถู ได้โปรดต่อสายหาประธานาธิบดี…” [บอกเลยงานนี้เละ…ผู้แปล]