CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

The Daily Life of the Immortal King - ตอนที่ 136

  1. Home
  2. The Daily Life of the Immortal King
  3. ตอนที่ 136
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 136 เสน่ห์ของความฝัน

เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของเด็กหนุ่ม เมื่อเทียบกับเสียงของต้นฉบับ มันค่อนข้างจะขาดทางด้านประสบการณ์ แต่ก็เต็มไปด้วยความสดใสของวัยรุ่น

เพลงที่หวังลิ่งเลือกมานั้นมีชื่อว่า Old Boys ของ Chopstick Brothers

เพลงนี้พูดถึง ความกลัวที่จะถูกปฏิเสธจากหญิงที่ตัวเองชอบ แสดงถึงความรู้สึกเสียดายที่ไม่สามารถย้อนกลับไปยังช่วงวัยรุ่น

หวังลิ่งชอบเพลงนี้มาก เขาจำได้ว่าเมื่อตอนที่เขาย่างเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เขามีโอกาสที่จะพูดกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง แต่เนื่องจากเหตุผลส่วนตัว เขาไม่ได้บอกอะไรออกไปจนกระทั่งถึงวันที่จบการศึกษาจากโรงเรียนแห่งนั้น

เป็นเพราะว่าเขากลัวที่จะทำร้ายเธอ

และขณะนี้เอง บรรยากาศโดยรอบร้านอาหารแห่งนี้ได้ถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายของเพลง “Old Boys” และเมื่อหวังลิ่งเริ่มต้นเปล่งเสียงออกมา ทั้งเจ้าของร้านทานและถังยุนหนิงก็ถูกเสียงของหวังลิ่งตกไปเป็นที่เรียบร้อย…

คนนี้แหละคือเด็กผู้หญิงที่ฉันหลงรักและเฝ้าคิดถึงทั้งเช้าและเย็น

แต่ฉันจะทำอย่างไรดี

เธอจะรับรักฉันไหม

บางทีฉันอาจจะไม่สามารถพูดคำนั้นออกไปได้

ฉันคงถูกกำหนดให้ต้องอยู่บนโลกเพียงลำพัง

ฉันรู้สึกกังวลใจยิ่งนัก

ความฝันมันก็คงเป็นได้แค่เพียงความฝัน

บางทีฉันควรจะต้องยอมแพ้

ดอกไม้บานและหายไปในฤดูฝน

ไหนเล่าฤดูใบไม้ผลิ

วันวานช่างผ่านไปอย่างแสนรวดเร็ว

จากไปโดยที่ไม่มีวันหวนคืนและไม่มีโอกาสได้บอกลา

ทิ้งไว้แค่เพียงความเจ็บปวด

โดยที่ไม่ได้ร้องขอ

มองดูท้องฟ้าที่เต็มกลีบดอกไม้ที่ร่วงหล่น

ความสวยงามมักจะมีระยะเวลาสั้น

จะมีใครบ้างที่จำได้ว่าครั้งหนึ่งมันเคยสวยงาม…

นี่เป็นแค่เพียงท่อนแรกของเพลง แต่หวังลิ่งก็วางกีตาร์ลงหลังจากร้องมาถึงท่อนนี้ เจ้าของร้านทำสีหน้างุนงง ‘จบแล้วหรือ?!’

ในขณะที่หวังลิ่งเล่นเพลงนี้ เจ้าของร้านได้ค้นหาหาเนื้อร้องบนอินเทอเน็ต แต่ก็ไม่พบเพลงใดเลยที่มีเนื้อเพลงเหมือนเพลงนี้ นั่นจึงทำให้เขามั่นใจเลยว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่เด็กหนุ่มคนนี้แต่งขึ้น

เด็กคนนี้อยู่แค่เพียงระดับมัธยมปลายชั้นปีที่หนึ่ง แต่เขานั้นมีทักษะในการเขียนเพลงได้ดีขนาดนี้…

ทั้งเจ้าของร้านทานและถังยุนหนิงรู้สึกชื่นชมหวังลิ่งด้วยใจจริง

พวกเขารู้ทันทีว่า มันต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังอยู่ภายใต้เพลงเพลงนี้

เพลงนี้เป็นเพลงที่พวกเขานั้นไม่เคยได้ยินมันมาก่อน แค่ได้ฟังบางส่วนของเพลงนั้นก็ทำดาเมจรุนแรงได้ถึงขนาดนี้!

เจ้าของร้านได้ตกเป็นแฟนคลับของหวังลิ่งไปเรียบร้อยแล้ว ‘หรือว่าเด็กคนนี้จะเป็นอัจฉริยะอย่างที่พ่อของเขาบอก’

“…”

มีเพียงหวังลิ่งที่รู้ว่าเขาไม่ใช่อัจฉริยะเลย…เขาไม่ได้เขียนเพลงเองเสียด้วยซ้ำ เขาแค่ก๊อปเพลงมาจากที่อื่นที่เขาได้ยินผ่านวิชาหูทิพย์ของเขามาแค่นั้น

หวังลิ่งวางกีตาร์ลงไปยังที่เก่า และค่อยๆเดินกลับไปยังโต๊ะของเขาเพื่อทำการกินบะหมี่ส่วนที่เหลือ ด้วยลักษณะนิสัยของหวังลิ่งที่วางตัวเรียบง่ายราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันทำให้ถังยุนหนิงรู้สึกประหลาดใจ

‘…คนคนนี้เป็นใครกัน’

ถังยุนหนิงรู้สึกเศร้าและผิดหวัง เขาทิ้งหัวลงเพราะรู้สึกว่าตนเองพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง… ก่อนที่เขาจะเริ่มเรียนเกี่ยวกับดนตรีเขายอมทิ้งทุกอย่างแม้กระทั่งครอบครัวของตนเอง เขาขโมยเงินจากการจำนองที่ดินไปจ่ายเป็นค่าเล่าเรียน ซึ่งจริงๆแล้วเงินจำนวนนี้ถูกเก็บไว้สำหรับเขาเพื่อใช้ในการแต่งงาน และเมื่อเขาถูกจับได้เขาจึงถูกทางครอบครัวตัดขาดไม่ช่วยเหลือด้านการเงินอีก และเพราะเหตุนั้นเองเขาจึงกลายมาเป็นนักดนตรีเร่ร่อน

มันดูเหมือนว่าเขาได้ทำบางสิ่งบางอย่างพลาดไปอย่างไม่น่าให้อภัย

ถ้าหากเขายอมเชื่อฟังพ่อแม่ของเขา ไม่ใช้เงินจำนองที่ดินอันนั้น ป่านนี้เขาคงใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับภรรยาของเขาไปแล้ว เขาจะมีบ้านใหม่หลังใหญ่และบางทีอาจจะกำลังเล่นกับลูกๆอยู่…เขาอาจจะมีอาชีพการงานที่ดีและมั่นคงกว่านี้

นี่เป็นครั้งแรกที่ถังยุนหนิงรู้สึกว่าเขาเลือกทางเดินผิด

‘เขาจะไปต่อดีไหม?’

หลังจากได้ฟังหวังลิ่งร้องเพลง เขาก็เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองอย่างจริงจัง

“นายทำเงินได้แค่ไหนต่อหนึ่งวัน” จู่ๆพ่อของหวังลิ่งก็ถามขึ้นมา

ถังยุนหนิงเกาหัวอย่างอายๆ “ก็…มันขึ้นอยู่กับว่าวันนั้นฝนตกหรือเปล่า ถ้าหากฝนตกผมก็จะไม่ได้เงินเลย ผมแค่ต้องการให้ทุกคนให้เงินผมเพราะชอบเพลงของผม ไม่ใช่เพราะรู้สึกสงสารในตัวผม”

“…” และทุกคนในร้านก็ตกอยู่ในความเงียบ

ถังยุนหนิงลูบกีตาร์ของเขาพร้อมกับน้ำคลอเบ้า “ก่อนหน้านี้ผมคิดว่า ด้วยความสามารถของผม ผมคงจะผ่านเข้ารอบการแข่งขัน… เพราะผมมีแค่ดนตรีเพียงอย่างเดียวในชีวิต”

“แปลว่านายจะเดินทางสายนี้ต่อสินะ” พ่อของหวังลิ่งถามย้ำ

เด็กหนุ่มส่ายหัว “ผมไม่รู้”

“นายไม่รู้นั่นแปลว่านายยังคงอยากที่จะทำมันต่อ”

พ่อของหวังลิ่งเลิกคิ้วขึ้น เขารู้สึกว่าเด็กหนุ่มคนนี้ยังคงดื้อดึง ใครก็ตามที่โดนเค้าต่อว่านั้นมักจะยอมแพ้ไปตั้งแต่แรก แต่ก็นั่นแหละยังมีบ้างที่ทนคำพูดของเขาได้ อย่างเด็กหนุ่มคนนี้เขายังคงไม่อยากจะยอมแพ้ในสิ่งที่เขาเลือก

“แล้วนายคิดยังไงกับเพลงของลูกของฉันเมื่อสักครู่”

“เพลงนั่นมันเยี่ยมมากเลย!”

ถังยุนหนิงตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นและเศร้าในเวลาเดียวกัน “ผมไม่คิดว่าผมจะสามารถเขียนเพลงแบบนั้นได้…”

“นายรู้แล้วหรือยังว่าทำไมนายถึงพลาดในการประกวดนั่น มันอาจจะเป็นเพราะเพลงที่นายเลือกก็ได้” พ่อของหวังลิ่งถามย้ำกลับไป

หวังลิ่งเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เขารู้สึกว่าทัศนคติของพ่อเขาที่มีต่อเด็กหนุ่มเริ่มเปลี่ยนไป จากก่อนหน้านี้ที่คอยพูดลดทอนกำลังใจกลับกลายมาเป็นการพูดด้วยสาระและเหตุผล พ่อของหวังลิ่งนั้นเป็นคนที่เก่งในด้านการสรรหาคำพูดมาใช้ หนำซ้ำเขายังมีความเป็นผู้นำในตัวค่อนข้างสูง… หวังลิ่งเคยเห็นพ่อของเขาชักจูงคนที่อ่านนิยายเถื่อนของเขาให้กลับมาอ่านนิยายที่วางขายอย่างถูกต้องตามกฎหมายอีกครั้ง

ถังยุนหนิงกระพริบตาปริบๆ “คุณอาจารย์หมายความว่ายังไง”

“อย่าเรียกฉันว่าอาจารย์เลย มันฟังดูแปลกๆ เรียกฉันว่าคุณลุงก็พอ” พ่อของหวังลิ่งโบกมือ “ฉันหมายความว่า ถ้าหากนายไม่รังเกียจเพลงของลูกชายฉัน หากฉันจะขายให้นายหล่ะเป็นไง”

เด็กหนุ่มรีบลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ “คุณลุง… คุณหมายความว่าคุณจะขายเพลงเพลงนั้นให้กับผม?”

แต่ก็แทบจะในทันทีเด็กหนุ่มพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้า “แต่คุณลุง…ผมไม่มีตังนะ”

เพลงที่มีคุณภาพดีแบบนี้หาได้ยากในยุคปัจจุบัน ถังยุนหนิงรู้สึกว่าเพลงของหวังลิ่งนั้นสามารถเรียกราคาได้ค่อนข้างสูงถ้าหากขายให้กับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่

พ่อของหวังลิ่งหยิบบุหรี่ขึ้นมาคาบและจุดไฟ “ทั้งตัวนายมีเท่าไร?”

ถังยุนหนิงค้นหาเงินทั้งตัวและเอามากองไว้บนโต๊ะ ทั้งหมดรวมได้แค่เพียง สามสิบสามหยวน และเศษเจ็ดเซ็น

ถังยุนหนิงมองไปยังพ่อของหวังลิ่งสลับกับมองไปยังกีตาร์คู่ใจของเขา เขาก้มลงจูบกีตาร์ของเขาทีนึงก่อนจะพูดขึ้น “คุณลุง…ถ้าหากไม่รังเกียจ…”

“ไม่” พ่อของหวังลิ่งตอบกลับทันทีโดยที่ไม่ทันแม้แต่จะฟังเด็กหนุ่มพูดจนจบ

“…”

“ฉันจะเอากีตาร์ของนายไปทำไม? มันกินได้หรอ? ไม่ใช่ว่านั่นคือเส้นเลือดใหญ่ของนายรึไง? คนเราจะมีชีวิตอยู่ได้ยังไงถ้าหากขาดเพื่อนคู่ใจไปแบบนั้น”

และเมื่อพูดจบเขาจึงหันไปมองเจ้าของร้านบะหมี่ “บอสทาน คุณมีกระดาษกับปากกาไหม”

เจ้าของร้านบะหมี่พยักหน้า “มี”

พ่อของหวังลิ่งนั้นมีความจำที่ดี และเขาก็พอจะมีความรู้ทางด้านดนตรีอยู่บ้าง เขานั้นจำเนื้อเพลงและทำนองเพลงที่หวังลิ่งร้องได้หมดแล้ว และถึงแม้ว่าเขาจะจำผิดหวังลิ่งก็สามารถช่วยเขาแก้ไขผ่านการบอกทางโทรจิตได้อยู่ดี…

ด้วยการเขียนที่ลื่นไหลตามสไตล์หวังสิถู เขาเขียนเนื้อเพลง “Old Boys” ลงบนกระดาษจนเสร็จ และเขียนอะไรบางอย่างลงไปก่อนที่จะปิดฝาปากกา

เขายื่นกระดาษแผ่นนั้นไปให้ถังยุนหนิง “สิ่งที่มีเสน่ห์ที่สุดของความฝันนั่นก็คือ มันสามารถกลับมาสานต่อได้ ไม่ว่านายจะล้มเหลวมากี่ครั้งแล้วก็ตาม”

ถังยุนหนิงจับกระดาษแผ่นนั้นมาด้วยมือที่สั่นเทิ้ม

พ่อของหวังลิ่งพ่นควันบุหรี่ออกมาเป็นรูปมังกรกินหาง และหยิบเอาสามสิบสามหยวนเจ็ดเซ็นบนโต๊ะมา และวางลงบนมือของเจ้าของร้าน “ค่าบะหมี่สองชามสามสิบหยวน ไม่ต้องทอน”

หลังจากนั้นทั้งคู่และสุนัขหนึ่งตัวก็เดินออกจากร้านไป ปล่อยให้เจ้าของร้านยืนถือเงินจำนวนสามสิบสามหยวนเจ็ดเซ็นด้วยความงุนงง

…………………………………..

หลังจากหวังลิ่งเทเลพอร์ททุกคนกลับมาบ้าน พ่อของเขาก็เดินไปนอนบนโซฟาพร้อมกับเสียงถอนหายใจ “แม่ของแกน่ะใช้เงินของพ่อหมดเลย พวกเราต้องประหยัดเงินให้ได้มากที่สุดภายในช่วงนี้”

“…”

พ่อของหวังลิ่งมองหวังลิ่งด้วยสีหน้าจริงจัง “ดูสิด้วยความฉลาดของพ่อ พ่อสามารถประหยัดเงินค่าบะหมี่สองถ้วยได้ พ่อแค่อยากจะสอนให้แกรู้ว่าความตระหนี่มันเป็นยังไง”

“…”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 136"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์