The Daily Life of the Immortal King - ตอนที่ 175
ตอนที่ 175 ลุงของกัวหาว Everywhere
วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน
เช้าวันนี้นักเรียนชั้นปีที่หนึ่งห้องสามก็ตั้งวงเม้ากันตามปกติ เกี่ยวกับเรื่องนักโทษหน้าอก36Dแหกคุกสําเร็จแต่สุดท้ายเธอก็ไม่ไปไหนไม่รอดถูกจับกลับเข้าคุกอีกครั้ง ที่จริงแล้วไม่ใช่แค่เพียงเด็กในห้องนี้หรอก ทุกคนต่างก็พูดคุยเกี่ยวกับข่าวดังข่าวนี้ เพราะธรรมชาติมนุษย์ชอบเสพดราม่า
จากเหตุการณ์นักโทษแหกคุก องค์กรเงาสายธารถูกถล่มโดยบุคคลนิรนามจนไปถึงจับกุมนักโทษแหกคุกสําเร็จ…ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นล้วนเกิดขึ้นภายในระยะเวลา36ชั่วโมงหลังจากนักโทษสาวแหกคุกเท่านั้นเอง
ภายหลังเหตุการณ์นี้มีบุคคลสองคนที่ได้รับชื่อเสียงจากเหตุการณ์ครั้งนี้
หนึ่งคือผู้คุมวอร์เดนเหลียงแห่งคุกสูงสุดเมืองซ่งไห่ ที่วางแผนปล่อยตัวนักโทษสาวเพื่อที่หวังจะจับปลาตัวใหญ่กว่า ซึ่งผลลัพธ์ก็ออกมาดีเกินคาด
คนที่สองก็คือโจวยี่จากการกําจัดนักฆ่าเงาสายธารที่โรงเรียนมัธยมอันดับที่60 และจับกุมนักฆ่าสาวที่โรงเรียนมัธยมอันดับที่59 เหตุการณ์ทั้งหมดล้วนมีการเชื่อมโยงต่อองค์กรเงาสายธาร
หลังจากกัวหาวลอกการบ้านเสร็จสิ้น เขาก็เริ่มรวบรวมทุกข้อมูลเข้าด้วยกันและเริ่มขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียด “ฉันมีลุงที่ทํางานอยู่ในคุก เขาบอกว่าเขาเห็นมากับตาตอนที่นักฆ่าสาวตกลงมาจากหลุมอวกาศที่ปรากฏบนท้องฟ้า…”
ทุกคนต่างแสดงท่าทางตกใจ “หลุมอวกาศ?”
เซ็นเฉาขมวดคิ้ว “วิชามิติหรือวิชาเกี่ยวกับห้วงเวลาถูกสั่งห้ามฝึกฝนจากรัฐบาลเพราะว่ามันอาจสร้างปัญหาหลายอย่างได้ และนั่นก็คือเหตุผลที่ในเมืองใหญ่ทุกเมืองจะต้องมีหอคอยสังเกตการณ์มิติที่บิดเบี้ยว เพื่อตรวจสอบหากมีความผันผวนของมวลอากาศภายในเมือง”
กัวหาวพยักหน้าและพูดต่อ “นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ฉันมีลุงทํางานอยู่ที่หอคอยสังเกตมิติที่บิดเบี้ยว เขาตรวจสอบไม่พบความผันผวนของมิติหรือหลุมอากาศเลย และนั่นจึงเป็นข้อพิสูจน์ว่าคนผู้ซึ่งใช้งานวิชามิติหรือห้วงเวลานั้นมีพลังเหนือกว่าเครื่องจะตรวจจับได้ ไม่มีทางที่จะเป็นเอเลี่ยนอย่างในข่าวบอกอย่างแน่นอน”
“ทําไมมันถึงเป็นอย่างนั้นหล่ะ?”
“นั่นก็เพราะมันไม่มีเอเลี่ยนตัวไหนเก่งกาจขนาดนั้นยังไงหล่ะ!” กัวหาวพูดอย่างอมภูมิ “ฉันมีลุงที่ทํางานอยู่กองกําลังป้องกันตนเอง ซึ่งเขาเคยบอกฉันมาว่า มีการต่อสู้เกิดขึ้นที่ดาวM78 นายพลยิของพวกเรานั้นหลังจากออกมาจากการบําเพ็ญเพียร เขาได้ใช้วิชากระบี่ผ่านภาเพียงครั้งเดียวกองทัพเหล่านั้นต่างพากันหนีกระเจิงกันไปหมด…”
หวังลิ่ง “…” ‘เอ็งมีลุงกี่คนกันแน่เนี่ย?!?’
……………………………………
ในคืนนั้นเองเทพมือระเบิดเดินทางมายังบ้านของหวังลิ่งอีกครั้ง ครั้งนี้เขานําบล็อคโคลี่มาฝาก5กิโลด้วยกัน แน่นอนว่ามันคือผลผลิตจากบล็อกโคลี่ซึ่งได้รับมาจากคุณปูหวัง เขานํามันไปปลูกไว้ในดินพลังวิญญาณที่บ้านของเขา
เขานําบล็อกโคลี่มายังบ้านของหวังลิ่งหลายครั้งแต่เขาก็ยังคงรู้สึกไม่พอใจ เนื่องจากจนถึงตอนนี้เขายังไม่สามารถไขปัญหาว่าคุณปู่ให้บล็อกโคลี่แก่เขาเพื่ออะไร
เขาทิ้งสองคิงชูให้เฝ้าบ้านของเขาไว้ที่เหวินเฉียน ชายคนนั้นกลายมาเป็นคนดูแลบ้านของเทพมือระเบิดไปเรียบร้อยแล้ว เมล็ดฮาวธอร์นที่พวกเขาปลูกไว้ก่อนหน้านี้เริ่มหยั่งรากลงไปในดินแล้ว ในจุดนี้มันต้องการดูแลเอาใจใส่อย่างเป็นพิเศษ สองคิงชูเปลี่ยนไปมากหลังจากที่ได้มาอาศัยอยู่กับเทพมือระเบิด เขาดูร่าเริงขึ้นมาจากแต่ก่อน เขาได้ขายสมบัติรวมไปถึงของวิเศษซึ่งขโมยมาจากปราสาทตระกูลโม่ และนํามันไปบริจาคแก่หลายมูลนิธิ
แม้ว่าสองคิงชูจะยังอยู่ภายใต้การจับตามอง เปรียบเทียบกับเมื่อก่อนที่พวกเขาจะพบ เทพมือระเบิดค่อนข้างไว้ใจและลดความระมัดระวังตัวลง อาจเป็นเพราะว่าสิงโตนักสู้ก็ช่วยเขาจับตามองอีกตานึงเช่นกัน
หลังจากคราวก่อนที่โทยะยอมให้ยืมสิงโตนักสู้เป็นเวลาสองวัน เจ้าสิงโตก็ดูไม่อยากจะกลับไปหาโทยะอีก ไม่ว่าโทยะจอมอมตะจะพยายามสักแค่ไหน สิงโตตัวนั้นก็ไม่มีทีท่าจะขยับไปไหนเลยสักนิ้วเดียว
มันแค่นอนอยู่เฉยๆหน้าประตูหน้าบ้านของเทพมือระเบิดและสายตาที่มองไปยังทิศทางหนึ่งเพียงทิศเดียว เทพมือระเบิดรู้ว่าทิศทางที่มันมองไปนั้นเป็นทิศทางที่บ้านของหวังลิ่งตั้งอยู่เจ้าสิงโตนักสู้ตัวนี้อยากจะเจอหวังลิ่งนั่นเอง
มันเคยเป็นสัตว์ที่หยิ่งในตัวเองไม่เคยก้มหัวให้ใคร แต่หลังจากหวังลิ่งจากไป มันก็เหมือนสตรีที่กําลังตกหลงรักในตัวหวังลิ่งอยากจะพบเจอเด็กหนุ่มอีกสักครั้ง
เทพมือระเบิดคิดว่าหวังลิ่งคงเป็นเพียงคนเดียวที่มีความสามารถทําให้สัตว์เชื่องโดยใช้เวลาเพียงน้อยนิด
ครั้งนี้เขามาหาหวังลิ่งก็เพราะหวังลิ่งเรียกเขามา หลังจากที่เขาได้พบเจอผู้อาวุโสแล้ว เทพมือระเบิดก็เดินขึ้นไปยังชั้นสองเพื่อไปหาหวังลิ่งในห้องของเด็กหนุ่ม
“น้องลิ่งตามหาฉันมีอะไรงั้นหรือ?” เมื่อเทพมือระเบิดเปิดประตูเข้าไป เขาเห็นพี่ชายกล้ามโตสองคนช่วยหวังลิ่งทําการบ้านอยู่ที่โต๊ะเรียนหนังสือของเด็กหนุ่ม
สองสีได้กลิ่นเทพมือระเบิดมาตั้งแต่ไกลๆ มันกําลังนอนอยู่บนพื้นและชะโงกหัวขึ้นมาก้มหัวลงทําความเคารพแก่เทพมือระเบิดครั้งนึง
หวังลิ่งนั่งไขว่ห้างอยู่บนเตียงและกําลังจ้องกล่องหินกล่องหนึ่งตรงหน้าของเขา
“นี่คือ…” เมื่อเทพมือระเบิดเห็นเจ้ากล่องหิน เขาเปลี่ยนท่าที่เป็นเคร่งขรึมและหยิบกล่องหินนั้นขึ้นมา เขาสังเกตเห็นว่ามันปิดสนิทไม่มีทางที่จะเปิดออกได้เลย แต่ด้วยตาสวรรค์ของเขาเขาสามารถมองผ่านรูเล็กๆเข้าไปได้ และพบว่าภายในกล่องนั้นว่างเปล่า
“นี่เป็นกล่องใส่หน้ากาก หลังจากหน้ากากของมันถูกนําออกไป กล่องก็เข้าสู่สถานะล็อคสนิทจากภายนอก นั่นจึงทําให้มันบิดแน่นขนาดนี้” เทพมือระเบิดจับกล่องพลิกไปพลิกมาตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน จากลวดลายของกล่องและมันมีกลิ่นเลือดอ่อนๆ เขาคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่มันจะเป็นกล่องใส่หน้ากากผีดิบ!
ตั้งแต่ต้นหน้ากากผีดิบนั้นก็มีกลิ่นอายของเลือดอยู่แล้ว สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของมันก็คือมันไม่มีทางถูกทําลาย ดังนั้นจะต้องมีช่างทํากล่องได้หาวิธีผนึกหน้ากากใบนั้น และเป็นที่แน่นอนว่ากล่องใบนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์นี้นั่นเอง
เป็นที่พิสูจน์แล้วว่าครั้งหนึ่งหน้ากากผีดิบเคยถูกผนึกภายในกล่องนี้มาก่อน จะมีใครรู้ไหมว่าหน้ากากได้ถูกนําออกไปแล้ว และกล่องใบนี้เป็นเพียงกล่องเปล่าเท่านั้น?
“น้องลิ่งไปเจอกล่องใบนี้ที่ไหน?” เทพมือระเบิดถามอย่างสงสัย
หวังลิ่งส่งข้อความผ่านทางโทรจิตถึงที่มาที่ไปของกล่องใบนี้
“แมว?” เทพมือระเบิดอึ้งเมื่อได้ยินเรื่องราวทั้งหมด เขาเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้วที่ว่าศูนย์บัญชาการใหญ่ของเงาสายธารโดนทําลายเมื่อสองวันก่อน
ถ้าหากเรื่องนี้ได้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะชน ทั่วทั้งโลกผู้ฝึกตนคงได้คลั่งอย่างแน่นอน
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เทพมือระเบิดรู้สึกว่าความสําเร็จของเขานั้นเทียบไม่ได้กับความสําเร็จของเหล่าแมวพวกนั้นเลย