The Daily Life of the Immortal King - ตอนที่ 125
ตอนที่ 125 พลังของคนดัง
มีคำพูดที่ว่า “พระเจ้าจะช่วยคนก็ต่อเมื่อคนเหล่านั้นมีความพยายาม” เป็นคำอธิบายถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับพ่อของหวังลิ่ง
สุดท้ายเป็นสองสีที่ลากตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจหวังผู้มากประสบการณ์ออกไปจากบ้านด้วยขาเพียงข้างเดียว
เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อตอนที่หวังลิ่งกลับมาถึงบ้าน ทันทีที่เขาเปิดประตู เขาก็พบขาหลังทั้งสองข้างของสองสี ในขณะที่มันกำลังคาบรองเท้าบูทและลากเจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งออกไปจากบ้าน โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นร้องแหกปากโวยวายตลอดทาง “ถึงแม้พวกเราจะเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกหัดแต่เราก็มีสิทธิมนุษยชนนะเฮ้ย!”
ทันทีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหวังพูดจบ สองสีก็สะบัดหางฟาดไปหนึ่งที ความรุนแรงของมันราวกับหมัดของผู้ชายตัวใหญ่คนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ได้ฟาดเข้าไปที่ท้องน้อย ส่งผลให้ร่างของตำรวจฝึกหัดหนุ่มลอยละล่องขึ้นไปบนอากาศก่อนที่จะตกลงมาก้นกระแทกพื้นด้วยความแรง
หวังลิ่งทำได้แค่ยืนมองภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดโดยที่ไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ…
…………………………
เมื่อหวังลิ่งเข้ามาถึงภายในตัวบ้าน บรรยากาศภายในบ้านค่อนข้างน่าอึดอัด หลังจากที่เขาเห็นรอยแผลบนหน้าผากของแม่เขา เขาก็ทำหน้าตาเคร่งเครียดขึ้นมาทันที
ปู่หวังตีตักตัวเองด้วยความโมโหก่อนที่จะพูดขึ้นว่า “ทันทีที่ฉันเห็นมัน ฉันก็นึกแล้วว่ามันต้องเชื่อถือไม่ได้! ฉันก็ไม่ได้คิดถึงขนาดที่ว่าสถานีตำรวจจะส่งตำรวจฝึกหัดมา พวกเขาคิดว่าประชาชนเป็นลิงหรือยังไง?!”
แม่ของหวังลิ่งพยายามพูดปลอบให้ชายแก่ใจเย็นลง “คุณพ่อ ลืมๆมันไปเถอะค่ะ ฉันก็ไม่ได้เจ็บอะไรขนาดนั้นเสียหน่อย อย่างมากที่สุดก็แค่โดนพูดจาใส่ร้ายเล็กน้อย”
ไม่กี่วินาทีต่อมา หวังลิ่งใช้วิชาอ่านใจจนเขาปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดได้
‘…หืม?’
‘ลวนลามแม่…แล้วยังกล้ามาเตะแม่ของเขาอีก!’
‘แกได้เห็นดีแน่ไอโจรนรก!’
หวังลิ่งสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่เพื่อสงบสติอารมณ์ของตนเอง จากนั้นเขาเขาจึงวาดรูปผู้ชายคนหนึ่งขึ้นมาจากภาพที่เขาเห็นในความทรงจำ ชายคนนั้นเป็นเพียงเด็กหนุ่มสูงเพียง 178 เซนติเมตร ไว้ผมทรงโมฮอก มีลายสักบนแขนขวาและสวมใส่เครื่องประดับมากมาย
แม่ของหวังลิ่งมองไปยังรูปภาพที่หวังลิ่งวาดขึ้นและชี้ไปยังรูปนั้น “ใช่แล้ว หลิงหลิง คนนี้แหละ!”
ชายแก่มองไปยังรูปภาพนั้นและพยักหน้า “หลานพอจะตามหาคนคนนี้ได้ไหม?”
พ่อของหวังลิ่งพูดขึ้นมาว่า “ด้วยพลังวิญญาณระดับหลิงหลิงแล้ว มันคงไม่น่าจะยากที่จะตามหาคนคนนี้ในเมืองซ่งไห่ แต่ผมจะได้ว่าหลิงหลิงเคยบอกว่า ถ้าหากเขาใช้พลังวิญญาณเพื่อตามหาคน เขาจะต้องปล่อยพลังของเขาครอบคลุมทั่วทั้งเมืองซึ่งมันเพียงพอแล้วที่จะทำให้ไฟฟ้าภายในเขตเมืองซ่งไห่ทั้งหมดดับลงใช่ไหม ?”
หวังลิ่งพยักหน้าตอบ
“งั้นลืมเรื่องนั้นไปได้เลย ปล่อยให้ผมจัดการเอง…”
เมื่อพูดจบคุณพ่อหวังก็หยิบไฟแช็กขึ้นมาเพื่อจุดบุหรี่ เขาดูดมันเข้าปอดไปฟอดใหญ่ก่อนที่จะพ่นควันออกมามีรูปร่างคล้ายกับมังกร “เมื่อเราพบมันแล้วเราจะทำยังไงกับมันดีหลิงหลิง? พ่อให้ลูกเป็นคนตัดสินใจก็แล้วกัน แต่อย่าลืมกฎเหล็กของพ่อนะห้ามฆ่ามัน… อย่างมากที่สุดคือทำให้มันพิการและส่งเข้าโรงพยาบาลไปเลย มันจะได้ไม่มีโอกาสออกมาทำอะไรแบบนี้เป็นครั้งที่สอง!” ‘กล้าดียังไงมาทำร้ายเมียตู มึงวอนหาเรื่องตายเสียแล้ว!’
ทั้งปู่และหวังลิ่งนั่งตัวสั่นกับคำพูดของพ่อหวังลิ่ง
คุณพ่อกลายเป็นปีศาจไปเสียแล้ว…
………………….……………..
ในโลกแห่งความเป็นจริง เรื่องราวที่ไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นมากมายในสังคม ในยุคที่ผ่านมาคนธรรมดาซึ่งไม่มีพลังวิเศษไม่สามารถที่จะพูดออกมาได้ ในขณะที่ผู้ฝึกตนก็ต้องแก้ไขด้วยพลังของเขาเอง แต่ในอดีตพลังถือเป็นทุกสิ่งอย่างใครมีพลังมากก็ทำได้ทุกอย่างบนโลก
แต่ในยุคพลังวิญญาณที่ซึ่งมีกฎหมายคอยควบคุมทั้งคนธรรมดาและผู้ฝึกตน
ก็สามารถพูดได้ว่ากฎหมายก็ยังไม่แข็งพอที่จะตัดสินปัญหา
มีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่เผชิญปัญหาอะไรแบบนี้ ซึ่งพวกเธอทำได้แค่ยอมรับความซวยนั้นเพียงเพราะพวกเธอไม่อยากให้มันเป็นเรื่องยุ่งยาก
แน่นอนว่า ในกลุ่มนั้นก็มีผู้หญิงที่กล้าพอที่จะเผชิญหน้าและเปิดเผยคนเลวเหล่านั้น
แต่บางครั้งการกระทำแบบนั้นก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จเสมอไป หนึ่งในตัวแปรสำคัญก็คือเหล่าผู้เห็นเหตุการณ์นั่นแหละ เพราะพวกเขาเอาแต่ยืนมองและถ่ายรูป ไม่ยอมยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ สิ่งที่น่ากลัวก็คือเมื่อเรื่องราวทั้งหมดถูกบอกต่อไปยังโลกออนไลน์ โดยเหล่านักเลงคีย์บอร์ดมักจะโยนความผิดไปที่ฝ่ายหญิงผู้ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ว่ามันเป็นความผิดของพวกเขาหรือเปล่าที่พวกหล่อนแต่งตัวโป๊แบบนั้น! [แล้วมึงมีสิทธิไปทำแบบนั้นหรอฮะ พูดแล้วขึ้น…ผู้แปล]
ท้ายที่สุด แม้แต่จะแจ้งความไปแล้วก็ไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้อยู่ดี
อย่างที่เจ้าหน้าที่หวังผู้มีประสบการณ์ได้กล่าวเอาไว้ ในพื้นที่สาธารณะอย่างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินซึ่งมีคนจำนวนมากใช้งาน ถ้าหากคนร้ายมันไม่ได้เข้ากล้องเลย มันคงเป็นการยากที่จะหาตัวคนร้ายเจอ เพราะตำรวจก็คงไม่มีเวลามานั่งดูหน้าจอได้ตลอด24ชั่วโมง
และถึงแม้ว่าจะจับตัวคนร้ายได้แล้ว พวกเขาก็จะถูกคุมขังแค่15วัน และยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากคนร้ายนั้นมีเส้นสาย พวกเขาก็แค่เพียงเลี้ยงน้ำชาเหล่าตำรวจก่อนที่จะถูกปล่อยตัวออกไป…
ผลที่ได้ก็คือ คนธรรมดาทั่วไปก็รู้สึกแย่ที่ตนเองต้องมาเจอกับเหตุการณ์อะไรแบบนี้
แต่โชคร้ายหน่อยสำหรับไอหนุ่มโมฮอกคนนี้ เพราะเขาได้ยุ่งกับคนในครอบครัวหวัง…
หนนี้พ่อของหวังลิ่งจะเป็นคนตามหาไอคนร้ายคนนั้นด้วยตัวเขาเอง โดยที่ไม่พึ่งความช่วยเหลือจากหวังลิ่งด้วยเหตุผลสองประการ
หนึ่ง เขาคิดว่าเขาก็ยังคงต้องอาศัยอยู่ในเขตเมืองนี้ ถ้าหากเศรษฐกิจหยุดชะงักไปเพราะพลังของหวังลิ่งไปทำให้ไฟดับทั่วทั้งเมืองมันคงจะไม่คุ้มกัน ยิ่งไปกว่านั้นภรรยาของเขาเสียเองเป็นผู้เสียหายในเหตุการณ์ครั้งนี้ เขาไม่อยากที่จะขอความช่วยเหลือจากลูกของเขามากนัก
ก็แค่ตามหาคนเพียงคนเดียว…มันจะยากสักแค่ไหนเชียว!
ถ้าหากพลังเป็นอาวุธของหวังลิ่ง…
คนธรรมดาซึ่งไม่มีพลังวิญญาณใดๆเลยอย่างเขา ก็มีพลังความสามารถพอที่จะตามหาได้เหมือนกัน!
……………………………….
โดยที่ไม่ได้รับประทานอาหารเย็น พ่อของหวังลิ่งเริ่มลงมือกระทำการค้นหาตัวคนร้ายโดยการเริ่มล็อคอินไปยังWeibo ซึ่งเขาล็อคอินครั้งล่าสุดเมื่อครึ่งปีที่แล้ว เขาไม่ค่อยชอบที่จะเล่นWeiboเนื่องจากมันมีคนอยู่4ประเภทด้วยกัน
ประเภทที่ 1 พวกขยะนักเลงคีย์บอร์ด
ประเภทที่ 2 พวกขยะที่ไม่ได้แหกตาดูอะไรเลย
ประเภทที่ 3 พวกที่อยากดัง
ประเภทที่ 4 ไอพวกผู้ติดตามของพวกที่อยากดังซึ่งเชื่อทุกอย่างที่เขาพูด
และแน่นอนว่ายังมีมากกว่านี้อีก3-4ประเภท
เขาเหลือบไปเห็นตราอะไรบางอย่างบนโปรไฟล์ของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ “Best-selling novelist guru Wang Situ from the Cultivation Reading Network” ทางเว็บไซต์เป็นคนช่วยขอตรานี้ให้เขาเพื่อเป็นการโปรโมตนิยายของเขา
เพราะว่าเขาไม่ได้เข้ามาเล่นWeiboมานาน หน้าเว็บเพจได้ค้างไปประมาณสองนาทีทันทีที่เขาล็อคอินเสร็จ เป็นเพราะว่าเขาได้รับข้อความจำนวนมากจากคนอื่น
เขามองไปยังจำนวนคนทั้งหมดที่ติดตามเขา ‘อืม ดี! เขาไม่ได้ออนไลน์มาครึ่งปี แต่แฟนคลับของเขาก็เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมไปอีกล้านคน!’
พ่อของหวังลิ่งจำได้ว่า ก่อนหน้านี้แฟนคลับของเขาก็มีอยู่สามล้านแล้ว ผ่านไปเพียงครึ่งปีก็มีคนมาติดตามเพิ่มขึ้นอีกล้านคนอย่างคาดไม่ถึง
เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแฟนคลับจำนวนกว่าสี่ล้านคนนี้จะมีประสิทธิภาพแค่ไหน
แต่ณเวลานี้เขาคงทำได้เพียงพึ่งพลังเหล่าแฟนคลับในการตามหาไอผู้ชายหัวโมฮอกคนนั้น
ด้วยการเป็นคนดังบนโลกออนไลน์ พลังของโซเชียลมีเดียถือเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา!
‘งั้นมาลองเลยดีกว่าว่าจะมีกระแสตอบรับยังไงบ้าง…’
พ่อของหวังลิ่งหยิบบุหรี่อีกมวนขึ้นมาจุด จากนั้นเขาก็พิมพ์ประโยคแรกในรอบหกเดือนลงไป “สวัสดีตอนเย็นทุกคน”
ทันทีที่เขาโพสต์ลงไปเสร็จ หน้าเว็บเพจก็ค้างไปอีกรอบ…
เมื่อหน้าจอกลับสู่ปกติก็พบว่ามีจำนวนไลค์เป็นพันภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที!
หลังจากนั้นก็มีคอมเมนต์จำนวนมากขึ้นมาใต้โพสต์
“OMG! กูรูสิถู มาโพสถ์บนWeibo!”
“อะไรกันเนี่ย?! ไปพิมพ์ตอนต่อไปได้แล้ว! วันนี้มีตอนใหม่แค่ตอนเดียวเอง! แต่ถ้าคุณยอมแต่งหญิง ฉันจะยกโทษให้!” [เนี่ยโทรล์…ผู้แปล]
“คุ้มค่าจริงๆที่เฝ้ารอหน้าWeiboทุกวันเพื่อดักเจอ ในที่สุดก็ได้เจอผู้เขียนตัวเป็นๆเสียที!”
………………………..
ภายในห้องนอนของหวังลิ่งซึ่งอยู่ข้างห้องทำงานของพ่อเขา หวังลิ่งได้รับรู้ถึงความน่ากลัวของคนในWeiboเป็นครั้งแรก ‘เฝ้ารอมาครึ่งปีเพื่อที่จะดักเจอคนที่ชื่นชอบเนี่ยนะ…’