The Daily Life of the Immortal King - ตอนที่ 131
ข้อแก้ไขนิดนึงนะครับ
สถานะของ โจวจี้นั้นเป็นน้องของสองคิงชู
ดังนั้นผู้แปลขอเปลี่ยนสรรพนามที่โจวจี้เรียกสองคิงชูเป็นพี่นะครับ
———————————
ตอนที่ 131 ชัยชนะของเชาหยาง
เมื่อตอนที่โจวเว่ยถูกจับตัวได้ เขายังคงรู้สึกสับสนและมึนงงอยู่เลย
ความวุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อเกิดการปฏิบัติการจับกุมของสองกลุ่มใหญ่ กองกำลังอิสระเจิ้งทาน และสมาคมเสริมสร้างความสามัคคีของมาดามดง แต่หลังจากนั้นสองชั่วโมงทุกอย่างก็กลับสู่สภาวะปกติ
แน่นอนว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจากการที่หวังลิ่งปล่อยข้อมูลการหลบหนีของโจวเว่ยออกมา
ที่ร้านบาคาร่าบาร์แห่งหนึ่งในย่านดาวน์ทาวน์ของเมืองซ่งไห่ คนที่ดูแลบาร์แห่งนั้นก็คือหัวหน้าพรรคเขียวโจวจี้
ทันทีที่โจวเว่ยถูกจับ สำนักข่าวทุกช่องทางก็ออกข่าวเหตุการณ์ในครั้งนี้
ภายในบาร์ โจวจี้ช็อคไปเรียบร้อยแล้วหลังจากที่ได้ดูข่าว เขารีบทำตามทำแนะนำของสองคิงชูทันทีที่เขาได้รับคำแนะนำ เขาได้ใช้เส้นสายในการช่วยโจวเว่ยปิดบังสถานะตัวเองและให้สามารถใช้ช่องโดยสารฉุกเฉิน
เขาไม่คิดว่าท้ายที่สุดแล้วแผนการทั้งหมดที่วางมาจะพังไม่เป็นท่าแบบนี้
นักเขียนนิยายออนไลน์หวังสิถูคนนี้…เขาเป็นใครกันแน่?
ในข่าวใบหน้าของโจวเว่ยถูกเบลอไว้ การที่เห็นหลานของเขาถูกจับใส่กุนแจมือโดยตำรวจอ้วนนั้นทำให้โจวจี้คิดอะไรไม่ออก
เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดและโทรไปหาสองคิงชูอีกครั้งและพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสลด “พี่สอง…พวกเราจะทำยังไงดี?”
“คำแนะนำของฉันก็คือ นายควรจะรีบย้ายฐานที่มั่นของพรรคเขียวโดยเร็วที่สุด แม้ว่ามันจะเป็นระยะสั้นๆ นายก็ควรจะย้ายออกจากเมืองซ่งไห่นี่ไปเพื่อที่จะไม่ต้องเผชิญกับความเสียหายที่อาจจะมีมากกว่านี้” สองคิงชูกุมขมับและพูดขึ้นต่อ “ฉันรู้ว่ามันอาจจะดูเสียหน้า แต่พวกเราต้องเผชิญหน้ากับความจริง…พวกเราไม่สามารถที่จะเผชิญหน้าตรงๆกับคนคนนี้ ณ ตอนนี้ และอย่าพยายามฝืนสืบหาตัวตนที่แท้จริงของคนคนนี้”
โจวจี้พยักหน้าและจึงตอบกลับไป “ฉันเขาใจแล้วพี่สอง”
ตอนนี้ทั้งพรรคเขียวและปราสาทตระกูลโม่ได้มีชะตาลงเรือลำเดียวกัน
โจวจี้รู้ดีว่าทำไมสองคิงชูถึงยังให้การช่วยเหลือเขา นั่นก็เพราะพวกเขากลัวว่าพรรคเขียวจะเปิดเผยข้อมูลบางอย่าง จนทำให้เกิดผลกระทบต่อปราสาทตระกูลโม่ที่กำลังสร้างรากฐานในเมืองซ่งไห่
โจวจี้เข้าใจสถานการณ์อย่างแจ่มแจ้ง “พี่สองไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะรีบจักการการหลบหนีเดี๋ยวนี้แหละ ฉันจะถอนตัวออกจากเมืองซ่งไห่ภายในสองวัน”
“อืม…ทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
สองคิงชูพยักหน้า “แม้ว่าพวกเราจะยังไม่สามารถแก้แค้นได้ในตอนนี้ แต่มันก็ยังคงมีโอกาสอยู่บ้าง ในการที่จะแก้แค้นสำเร็จนายต้องทำตัวให้เป็นประโยชน์”
โจวจี้พยายามคิดถึงว่าไอประโยคที่สองคิงชูพูดมานั้นคืออะไรแต่เขาก็คิดไม่ออก “สมองของฉันนั้นค่อนข้างช้า ได้โปรดบอกผมมาเถอะ”
“ก็แค่บอกข้อมูลเรื่องคนสร้างหน้ากากมาให้ฉันเร็วๆ…มันเป็นเวลาหลายวันแล้วทำไมถึงยังไม่บอกฉันอีก? เก็บข้อมูลไว้กับตัวมันก็ไม่มีประโยชน์สำหรับนาย…”
“…”
………………………
ปัญหาบน Weibo จบลงด้วยชัยชนะของพ่อหวังลิ่ง
ท้ายที่สุดฝ่ายตรงข้ามก็ไม่สามารถเอาชนะพ่อของหวังลิ่ง พวกเขาพ่ายแพ้ด้วยเพียงการสะบัดนิ้วของตัวละครลับของเขา
วันที่ 28 พฤษภาคม เป็นวันศุกร์สัปดาห์ที่ห้าของภาคเรียนที่หนึ่ง หวังลิ่งได้อ่านเทรนด์ข่าวเช้าวันนี้ตั้งแต่หัวข้อบนสุดยันล่างสุด
หัวข้อข่าวแรก: ชัยชนะอย่างหมดจดจากพลังลึกลับเบื้องหลังหวังสิถู อะไรคือสาเหตุที่แท้จริง? ดาวน์โหลดWeibo Application ดูสิ…
หัวข้อข่าวที่สอง: ตำรวจฝึกหัดได้แสดงผลงานอันยอดเยี่ยม! นายตำรวจหวังผู้มีประสบการณ์โชกโชนได้จับกุมผู้ต้องสงสัยโจว จากบทสัมภาษณ์ กล่าวว่า “เป็นเพราะความร่วมมือของประชาชน!”
หัวข้อข่าวที่สาม: เมื่อวานนี้ ด้วยความร่วมมือของเหล่าแมวและคนกลุ่มหนึ่ง จึงสามารถช่วยจับกุมผู้ต้องสงสัยโจว ผู้ต้องหาคดีลวนลามทางเพศที่ท่าอากาศยานนานาชาติดาหวง ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าคนและแมวกลุ่มนี้นั้นน่าจะมาจากเมืองเชาหยาง…
“…”
…………………………..
เมื่อหวังลิ่งมาถึงโรงเรียน คนทั้งห้องก็ส่วนใหญ่ก็พูดถึงเรื่องการจับกุมที่สนามบินเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา เป็นเพราะพ่อของเขา ทำให้คนทั้งประเทศรู้สึกตัวถึงการมีอยู่ของคดีลวนลามทางเพศ ไม่เช่นนั้นแล้วมันอาจจะยังคงไม่ถูกแก้ไขอย่างถูกต้อง
ไม่มีใครรู้ว่ากัวหาวนั้นไปได้ข่าวเหล่านี้มาจากไหน แต่เขาก็เริ่มที่พูดถึงเรื่องเหล่านั้นในห้องเรียน “พวกนายรู้ไหม มันมีข่าวลือว่าผู้ต้องสงสัยคนนั้นก็มีเส้นสายที่ใหญ่เหมือนกัน พี่ชายของเขาเป็นถึงหัวหน้าแก๊งใต้ดินที่ชื่อว่าพรรคเขียว อีกเพียงแค่นิดเดียวเขาก็จะหนีรอดไปยังทางขึ้นเครื่องฉุกเฉินแล้ว!”
เช็นเฉาขมวดคิ้ว “แม้แต่คนที่เส้นใหญ่ขนาดนั้นยังไม่สามารถหนีพ้น และแม้แต่รัฐบาลก็ยังลงมือกับปัญหานี้ ไม่ใช่ว่ามันแน่ชัดแล้วหรอที่หวังสิถูก็มีแบ็คอัพที่ใหญ่เหมือนกัน?”
หลินเสียวหยูพูดขึ้น “ทำไมถึงพูดเรื่องนี้กันตั้งแต่เช้า?! แต่ฉันก็อยากรู้นะว่าบทลงโทษแบบไหนที่คนคนนั้นจะได้รับ ไม่ใช่ว่าเขาแค่โดนกักบริเวณหรอ?”
ซุนหรงส่ายหัว “เหตุการณ์ในครั้งนี้ได้สร้างกระแสต่อต้านจำนวนมาก ชายคนนั้นอาจจะไม่ได้ออกมาในเร็วๆนี้ เมื่อคืนทางรัฐบาลบอกให้ม่านน้ำฮวงโหแจกสเปรย์พริกไทยให้แก่ผู้หญิง เพื่อที่จะป้องกันเหตุการณ์แบบนี้ไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำสองอีก”
หลินเสียวหยูรู้สึกผิดหวัง “แค่นั้นหรอกหรอ? ฉันนึกว่าจะมีคำสั่งให้ตัดไอจ้อนของชายคนนั้นเสียอีก…”
ทุกคนในห้องต่างเงียบให้กับความคิดของหลินเสียวหยู
กัวหาวเห็นว่าเงียบจนเกินไปเขาจึงพูดแทรกขึ้นมา “ฉันมีวีดีโอตอนที่เกิดการจับกุมที่สนามบินเมื่อวานด้วยนะ ถ้าหากใครอยากดูจ่ายมาสิบห้าหยวนก็พอ!”
หลังจากที่เด็กอ้วนพูดจบทุกคนต่างเงียบหนังกว่าเก่า ดูท่าว่าจะไม่มีใครให้ความสนใจกับเขาเลย กัวหาวรู้สึกหน้าแตก
แต่ถึงกระนั้นกัวหาวก็ยังเป็นกัวหาว เขาคว้าไหล่เสี่ยวหัวเฉิงซึ่งกำลังเก็บการบ้านของเพื่อนในห้องอยู่เพื่อที่จะล้างอาย “เพื่อนเสี่ยวหัวเฉิง ฉันรู้ว่านายกำลังสนใจในคลิปวีดีโอของฉันใช่มะ? อยากจะซื้อมันไหม?”
เสียวหัวเฉิงดึงตัวเองกลับไป เมื่อเขาเป็นอิสระแล้วเขาหันมามองหน้ากัวหาวอย่างโมโห
เมื่อกัวหาวถูกจ้องด้วยสายตาแบบนั้นเขาก็รู้สึกหวั่นใจ “ฉันแค่ขายวีดีโอคลิปเอง นายไม่ต้องทำหน้าตาแบบนั้นก็ได้?!”
เสี่ยวหัวเฉิงส่ายหัว “ไม่ ฉันกำลังคิดว่า ทำไมฉันถึงกลายเหยื่อของพวกคนที่อยากขายคลิปวีดีโอ…” [เมื่อก่อนเวลาเดินตามตลาดแห่งหนึ่งมักจะมีแบบ “สนใจไหมน้อง หนังใหม่ ภาพชัด3แผ่น100”…ผู้แปล]
ไม่ใช่แค่เพียงกัวหาว แต่เพื่อนทั้งห้องก็งงในความคิดของเสี่ยวหัวเชิงเช่นกัน…