The Daily Life of the Immortal King - ตอนที่ 143
ตอนที่ 143 รู้ไหมนี่รถใคร???
หลังจากได้ข้อมูลจากโรงพยาบาลแล้ว เทพมือระเบิดและหวังลิ่งก็ลงมาข้างล่างพร้อมกับผู้อำนวยการหลี ตัวเทพมือระเบิดนั้นเขาไม่ได้รู้สึกสบายใจเลยตั้งแต่ย่างก้าวเข้ามาในโรงพยาบาลแห่งนี้
“ผู้อำนวยการหลี ผมฝากดูแลเด็กๆเหล่านั้นด้วยนะครับ ตัวผมเองเล่ยเหมาเร็นจะต้องสืบหาความจริงให้ได้”
“ไม่ต้องเป็นห่วงนะคุณเทพมือระเบิด แม้ว่าคุณจะไม่ได้ขอร้องผม ผมก็มีหน้าที่ดูแลคนป่วยทุกคนในโรงพยาบาลแห่งนี้ เด็กๆสามคนซึ่งเป็นผลการทดลองที่ผิดพลาดของพวกนั้นผมจะดูแลเป็นอย่างดี”
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหลีรู้ดีว่า การสืบหาความจริงจากคนกลุ่มนี้นั้นย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะอีกฝ่ายก็มีกำลังทรัพย์มหาศาล ทันทีที่เด็กเหล่านี้ได้รับผลข้างเคียงพวกเขาก็รีบใช้เงินอุดปากครอบครัวเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องราวใหญ่โต ซึ่งจำนวนเงินก็มากเสียจนทางครอบครัวไม่กล้าปฏิเสธ
ทังเขาและเทพมือระเบิดระเบิดต่างรู้ดีว่าเงินเหล่านี้ใช้เพื่อปิดปาก และเพื่อทำให้พวกเขายังคงใช้มนุษย์เป็นหนูทดลองได้ต่อ องค์กรขนาดใหญ่ขนาดนี้กล้าทำกับเหล่าเด็กๆซึ่งเป็นอนาคตของชาติ การกระทำของพวกนั้นราวกับไม่ใช่มนุษย์ ตอนนี้พวกเทพมือระเบิดรู้แค่เพียงว่าพวกมันใช้เด็กๆเป็นหนูทดลอง แต่พวกเขาก็ยังไม่รู้ว่าเบื้องหลังขององค์กรยังมีอะไรซ่อนอยู่อีกหรือเปล่า
เมื่อพวกเขาเดินมาถึงหน้าประตูทางออกตึก ผู้อำนวยการหลีก็ก้มหัวเพื่อแสดงความเคารพ “รุ่นพี่ครับ ขอให้ระมัดระวังตัวด้วย แบ็คอัพที่หนุนหลังคนกลุ่มนี้นั้นค่อนข้างน่ากลัว…อาจารย์ของผมรู้ว่าพวกคุณกำลังสืบเรื่องนี้อยู่เขาเป็นห่วงมาก ถ้าหากคุณต้องการความช่วยเหลือ คุณสามารถบอกคนในกรุ๊ปแชทได้เลยนะครับ ถ้าพวกเราทุกคนร่วมมือกันทุกอย่างต้องไปได้สวยอย่างแน่นอน”
“น้องโทยะพูดอย่างนั้นเรอะ?” เทพมือระเบิดหันมาถาม
“ใช่แล้วครับ นี่เป็นคำพูดของอาจารย์” ผู้อำนวยการหลีตอบอย่างหนักแน่น
“ฝากไปบอกโทยะด้วยนะว่าไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าหากฉันไม่สามารถไปต่อได้ ฉันจะขอความช่วยเหลืออย่างแน่นอน” เทพมือระเบิดยิ้ม “ไม่ต้องห่วงหรอกฉันน่ะหนังเหนียว”
“ขอให้โชคดีนะครับ” ผู้อำนวยการหลีก้มหัวให้ก่อนที่จะพูดขึ้นมาต่อ “ผมยังคงมีงานที่ต้องทำในตึกอยู่ งั้นผมขอลาตรงนี้เลยนะครับ”
เทพมือระเบิดหยักหน้า “อืม…เชิญเลยคุณผู้อำนวยการ ถ้าหากมีอะไรคืบหน้าเกี่ยวกับยาตัวนั้นอย่าลืมโทรมาบอกผมด้วยหล่ะ”
…………………………………………
หลังจากที่พวกเขาเดินออกมาจากตึกแล้ว เทพมือระเบิดก็เอาแต่ถอนหายใจ
หลังจากขบคิดถึงเรื่องราวต่างๆ เขาคิดว่าบางทีเด็กๆพวกนั้นอาจจะไม่ได้ตั้งใจดื่มยาตัวนั้น แต่อาจจะถูกหลอกให้ดื่ม เพราะปัจจุบัน มันง่ายมากที่จะหลอกขายยา แค่บอกว่ายาเพิ่มความฉลาดนี้มีสรรพคุณช่วยบำรุงสมอง
สุดท้ายคนที่โชคร้ายรับเคราะห์ก็คือเด็กๆเหล่านั้น…
แรกเริ่มหวังลิ่งนั้นตั้งใจจะทิ้งปัญหาให้เจ้าของเว็บบอร์ดผู้ฝึกตนแก้ไขคนเดียว แต่เมื่อสักครู่เขาเห็นสีหน้าของเทพมือระเบิด เท่าที่เขารู้จักกันมา เขาไม่เคยเห็นเทพมือระเบิดแสดงสีหน้าแบบนั้นมาก่อน
ปราสาทตระกูลโม่นั้นน่าสงสัยเกินไปและดูจะมีปัญหามากเกินไป…เทพมือระเบิดไม่สามารถที่จะรับมือกับเรื่องเหล่านั้นได้ด้วยเพียงประสบการณ์และคุณธรรม
หวังลิ่งรู้สึกว่าเรื่องของปราสาทตระกูลโม่ตอนนี้นั้นมันเป็นเรื่องใหญ่
และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือองค์กรนี้มันได้ล้ำเส้นเข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของเขาทั้งทางตรงและทางอ้อมอีกด้วย
…………………………………
เมื่อพวกเขาเดินไปจนถึงลานจอดรถ หวังลิ่งพบร่องรอยของการต่อสู้ที่พึ่งจะเกิดขึ้นที่นี่
เครื่องรางวิญญาณได้ถูกใช้งาน เพราะมันทิ้งกลิ่นเอาไว้ คนปกติทั่วไปอาจจะไม่ได้กลิ่นแต่สำหรับเขานั้นต่างออกไป
นัยน์ตาของเขาเบิกกว้างและภาพตรงหน้าของเขานั้นเริ่มย้อนกลับ ตาสวรรค์ของเขาสามารถเห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าได้ ซึ่งทำให้หวังลิ่งรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว
หวังลิ่งส่งภาพไปให้เทพมือระเบิดผ่านทางโทรจิตและอีกฝ่ายก็แสดงท่าทางตกใจออกมา “เดี๋ยวก่อนนะน้องลิ่ง!!! นี่รถสามล้อของนายมันพูดได้เรอะ?”
‘นั่นดูเหมือนจะไม่ใช่ประเด็นหลักนะ…’
ประเด็นก็คือ ผู้ชายในชุดสูทที่อยู่ในรถไมบากคันนั้นต่างหาก ทำไมเขาถึงอยากทุบรถสามล้อด้วยค้อนกัน ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดจะเป็นชายในชุดสูทเองที่กระเด็นลอยออกไป…
เทพมือระเบิดแสดงท่าทางครุ่นคิดกับภาพที่เขาเห็นผ่านโทรจิตจากหวังลิ่ง ทันใดนั้นเองเขาก็จำอะไรบางอย่างได้ ว่าเขาเคยเห็นผู้ชายคนนั้นมาก่อน ชายคนนั้นมาจากปราสาทตระกูลโม่ และเป็นลูกน้องของคนที่มาคราวก่อน
“เรากำลังโดนจับตามอง”
เทพมือระเบิดกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ ‘มันจะไม่มีที่ไหนเลยเรอะที่คนพวกนั้นจะไม่สามารถเข้าถึง พวกมันเป็นปลาไหลหรือยังไง’
ไม่ไกลจากลานจอดรถ หัวหน้ายามที่เห็นพวกหวังลิ่งก็รีบเดินเข้ามาและชี้ไปยังรถสามล้อคันนี้ “สวัสดีครับ รถคันนี้ใช่ของพวกคุณหรือเปล่า? เมื่อตอนที่พวกคุณไม่อยู่ รถสามล้อคันนี้วิ่งไล่ตามรถไมบากออกไป…ผมไม่รู้หรอกนะว่าได้ยังไง แต่มันพาตัวเองกลับมาจอดที่เดิมเมื่อตะกี้นี้เอง”
“…”
เมื่อฟังที่หัวหน้ายามเล่า เทพมือระเบิดรู้สึกว่าเขายังคงอ่อนหัด เขาคิดว่ารถสามล้อคันนี้เป็นแค่เพียงรถธรรมดา…น้องลิ่งรู้มาตลอดเลยงั้นหรือ?
“…”
หัวหน้ายามจึงพูดต่อ “แม้ว่าพวกคุณจะเป็นเพื่อนของผู้อำนวยการหลี รถสามล้อคันนี้และไมบากซึ่งหนีไปแล้วเป็นคนทำให้เกิดความเสียหายต่อรถคันอื่นในลานจอดรถแห่งนี้…แล้วพวกเราจะเอายังไงกันดีครับ”
จังหวะนั้นเองก็มีผู้ชายท่าทางแข็งแรงสวมแว่นกันแดดเดินมา จากตาสวรรค์ของเขา หวังลิ่งและเทพมือระเบิดรู้ว่าชายคนนี้เป็นเจ้าของรถคันที่ชายในชุดสูทบินไปกระแทก
“พวกคุณหรอที่ทำความเสียหายให้กับรถของฉัน” ชายสวมแว่นกันแดดถามขึ้น
“คุณจะพูดอย่างนั้นไม่ได้นะ…รถของคุณนั้นโดนผู้ชายที่ขับรถไมบากคันนั้นทำต่างหาก แล้วทำไมถึงมาโทษพวกผมหล่ะ?” เทพมือระเบิดเหลือบไปมองรถของชายคนดังกล่าว… ‘WTF เบอกาติรุ่นลิมิเต็ด แถมยังไฟหน้าทั้งสองข้างยังแตกอีก เอ็งทำอะไรลงไปไอคนจากประสาทตระกูลโม่!’
‘ในการที่จะซ่อมไฟหน้าทั้งสองข้างนั้นจะต้องใช้เงินจำนวนอย่างน้อย 10,000 หยวน ขนมบะหมี่กี่ซองล่ะนั่น?!’
หวังลิ่งและเทพมือระเบิดนั้นมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ พวกเขาเป็นคนประหยัด ตั้งแต่พวกเขากิดมาพวกเขายังไม่เคยใช้เงินไปกับสิ่งของฟุ่มเฟือยเลย
“ฉันไม่สนว่า คนขับไมบากที่หนีไปแล้วคนนั้นคือใครเพราะฉันจับเขาไม่ได้ และพวกคุณก็เป็นหนึ่งในคนที่รับผิดชอบ” ชายแว่นดำยกมือขึ้นกอดอก “จริงๆแล้วฉันไม่ใช่เจ้าของรถคันนี้ฉันเป็นแค่เพียงคนขับรถ…พวกนายรู้หรือเปล่าว่านี้น่ะรถใคร ถ้าฉันบอกพวกนายพวกนายจะต้องหนาว!”
“หืม…หนาวเลยหรอ?” เทพมือระเบิดรู้สึกตลกกับคำขู่ของอีกฝ่าย
“พวกนายรู้จักเลขาธิการซุนแห่งสมาพันธ์หมื่นโรงเรียนไหม เขาเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งประเทศ” ชายในแว่นดำเชินหน้าขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ “เจ้านายของฉันน่ะคือตำนานแห่งโรงเรียนอันดับที่60 ผู้ซึ่งสามารถฝึกสำเร็จขั้นแก่นแท้ปราณทองคำตั้งแต่ยังเด็ก”
เมื่อหวังลิ่งฟังมาถึงตรงนี้เขาเริ่มรู้สึกตะงิดๆ…
“เขาคือชายผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากแผนการสังหารนักฆ่าองค์กรเงาสายธาร ทั้งยังเป็นที่ชื่นชอบของเลขาซุนดาคัง ชายผู้ซึ่งได้รับตำแหน่งกุมอำนาจสมาคมร้อยโรงเรียนที่เด็กที่สุดในประวัติศาสตร์…โจวยี่!!! เป็นไงเริ่มรู้สึกหนาวขึ้นมาบ้างแล้วหรือยัง?!”
“…”
หวังลิ่งก็ไม่ได้อยากจะขัดอะไรหรอกนะ เขาอยากจะขำใส่ด้วยซ้ำไป…