The Daily Life of the Immortal King - ตอนที่ 148
ตอนที่ 148 เป็นไปไม่ได้ที่จะกินแล้วไม่อ้วน
วันอังคารที่ 1 มิถุนายน สัปดาห์ที่ 6 ของปีการศึกษาที่หนึ่ง
วันนี้เป็นวันเด็กแห่งชาติ ระว่างทางมาโรงเรียน หวังลิ่งเห็นพวกเด็กๆออกมาเดินเล่นกับครอบครัวเต็มสองข้างถนน
เมื่อหวังลิ่งถึงโรงเรียน กัวหาวก็พึ่งจะลอกการบ้านเสร็จพอดีและเริ่มต้นแสดงการล้อเลียนบางอย่างตามนิสัยของเขา เขาหยิบหนวดปลอมออกมาแปะไว้ใต้จมูก “อ้า ฉันแก่แล้วจริงๆ พวกเราจะไม่มีโอกาสได้เฉลิมฉลองวันเด็กอีกต่อไปแล้ว พวกนายรู้ไหมว่าตามกฎหมายของผู้ฝึกตนเรานะก้าวเข้าสู่วัยกลางคนแล้วนะ”
เมื่อเป็นเฉาได้ยินดังนั้นเขาก็พลันนึกถึงเรื่องบางอย่างได้ ที่จริงตัวเขาน่ะยังดูเด็กและหนุ่ม เพราะว่าเขานั้นเข้าฟิตเนสทุกวันเพื่อที่จะสร้างร่างกายที่ผู้ชายทุกคนใฝ่ฝัน
กล้ามเนื้อนี่แหละที่จะช่วยให้แสดงความเป็นชายชาตรีให้ทุกคนเห็น
แต่เมื่อเช้านี้ระหว่างทางที่เขาเดินทางมาโรงเรียนโดยรถไฟใต้ดิน เขาโดนเด็กอายุประมาณ 4-5 ขวบเรียกเขาว่าลุง!
ละ…ลุง…
ตอนนั้นเองเขารู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่าลงที่กลางใจ
ความรู้สึกเหมือนโดนแฟนทิ้งคอเสื้อและถามว่าถ้าหากฉันและแม่ของคุณกําลังจมน้ำคุณจะเลือกช่วยใคร!…คําว่าลุงนั้นไม่น่าจะใช้เรียกเขาได้ มันควรจะเป็นพี่ชายสิถึงจะถูก!
แต่เมื่อเขาคิดไปได้สักพักเขาก็ฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ว่ามันเป็นการเปรียบเปรยที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไร
เพราะว่าเขายังไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลยน่ะสิ!
และเมื่อคิดได้ดังนั้น…
สองเกลอเป็นเฉาและกัวหาวผู้ซึ่งกําลังตกอยู่ในห้วงความคิดว่าตัวเองแก่แล้ว ก็ไม่สามารถฉุดตัวเองกลับมาได้อีกเลยตลอดช่วงเช้า
เมื่อพูดถึงกล้ามของเป็นเฉา…หวังลิ่งก็แอบเอามือไปลูบพุงของเขา…
“หืม…มันนิ่มและค่อนข้างเหลว”
อาจจะเป็นเพราะขนมบะหมี่รสราเมงเนื้อพิเศษซึ่งคุณปู่ของเขาซื้อมาฝากมันอร่อยจนเกินห้ามใจ ทําให้เขานั้นเผลอกินจนหมดภายในหนึ่งคืน…
เป็นเพราะเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้นี่เอง!
แต่ทุกวันนี้ก็มีคนหนุ่มสาวจํานวนมากที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ หวังลิ่งรู้สึกว่าเขาก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีเลยสําหรับเรื่องนี้
แม้ว่าเขาไม่จําเป็นที่จะต้องกิน แต่ว่าบางทีเขาก็รู้สึกคันปาก
ความอยากนั้นมันไม่ใช่อะไรที่เข้าใจได้ง่าย
แม้ว่าหวังลิ่งจะไม่ได้คิดมากเรื่องน้ำหนัก เขาสามารถกําจัดไขมันส่วนเกินทั้งหมดทิ้งไปได้เมื่อเขากลับถึงบ้าน นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทําไมเขาถึงไม่เคยอ้วนเลย
การควบคุมความอ้วนนั้นเป็นลิ่งที่คุณต้องตั้งใจทําสม่ำเสมอ
หวังลิ่งเกลียดคนอยู่สองประเภทที่ทําตัวได้น่าหมั่นไส้พอๆกันในโรงเรียนแห่งนี้
หนึ่งคือพวกนักเรียนหัวกะทิที่ชอบพูดเสมอว่าทําข้อสอบไม่ได้เลยเมื่ออกจากห้องสอบ
และสองคือพวกที่ชอบพูดว่าตัวเองนั้นกินเท่าไรยังไงก็ไม่อ้วน
…………….
เวลาบ่ายสองโมง มันควรจะเป็นเวลาคาบเรียนพละ แต่ในขณะที่ทุกคนกําลังเตรียมตัวที่จะออกจากห้องไปยังสนามกีฬา อาจารย์พละก็โผล่มาที่หน้าประตูห้องเรียน จากสีหน้าของอาจารย์นั้นทําให้นักเรียนทุกคนรู้เลยว่า วิชาพละกําลังจะถูกยกเลิกอีกครั้งและโดนวิชาอื่นเข้ามาแทน!
วิชาเคมีของอาจารย์ป่าน วิชาภาษาอังกฤษของอาจารย์เหมยเหมย และวิชาคณิตศาสตร์ของอาจารย์หลิวไซหมิง…ไม่มีใครกล้าที่จะมาขอแลกเปลี่ยนวิชาเหล่านี้ ถ้าหากทางโรงเรียนมีกิจกรรมพิเศษส่วนมากจะเป็นวิชาพละนี่แหละที่โดน…
ถ้าจะบอกว่าอาจารย์คนไหนที่โชคร้ายที่สุดภายในโรงเรียนนี้ ทุกคนคงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าอาจารย์พละศึกษา
อาจารย์พละศึกษาคนนี้ชื่อเย่ฮันเขามีผมสีบลอนหยักศกตามธรรมชาติและมีร่างสายที่สูงใหญ่ดูแข็งแรง จากวิชาอ่านใจของหวังลิ่งเขารู้ว่าอาจารย์เย่อันคนนี้มีงานอดิเรกชอบเอาผ้าขนหนูไปไว้ที่ระหว่างขาและดึงขึ้นถึงลงซ้ำไปซ้ำมา มีใครบางคนเคยกล่าวไว้ว่านี่เป็นเคล็ดลับความแข็งแกร่งของบิลลี่เฮอริงตัน (Billy Herrington) ซึ่งทําให้ร่างกายหมุนเวียนถ่ายเทเลือดได้ดี
อาจารย์เย่มักจะไม่ค่อยทําตัวเด่นภายในโรงเรียน เขาไม่เคยต่อล้อต่อเถียงกับอาจารย์คนไหนเลย…ทุกครั้งที่มีใครต้องการใช้คาบเรียนวิชาพละของเขา ก็แค่เดินมาขอเขาเท่านั้นก็พอตั้งคําที่ว่า “คนที่มักจะโดนเอาเปรียบได้ง่าย”
โรงเรียนอันดับที่6กนั้นหลังจากยอมรับข้อเสนอของปราสาทตระกูลโม่ อาจารย์ใหญ่เช็นก็สั่งให้อาจารย์ประจําชั้นทุกคนเปิดวีดีโอเพื่อโปรโมทปราสารทตระกูลโม่
ด้วยลักษณะนิสัยของอาจารย์ป่านเธอจะไม่ยอมให้อะไรมาขัดเวลาคาบเรียบของเธอได้เพราะเหตุนั้นหวยจึงออกไปที่อาจารย์เย่แทน
อาจารย์เย่กําลังยืนอยู่บนเวทีหน้าชั้นเรียน เขานําเอาโน้ตบุคที่เขาหิ้วมาด้วยวางลงบนโต๊ะ ที่จริงแล้ววันนี้เขาวางแผนไว้ว่าจะให้เด็กพวกนี้สอบวิ่ง 1000 เมตร ใครที่วิ่งไม่ครบภายใน 10 วินาที่ถือว่าสอบตก
นักเรียนในห้องสามนี้มีแค่เพียงสิบห้าคนมันคงใช้เวลาแค่เพียงไม่นาน อาจารย์ป่านจึงได้ขอให้อาจารย์เย่นวีดีโอคลิปของปราสาทตระกูลโม่มาเปิดในคาบเรียนพละแทน
“นักเรียนทุกคนพวกเธอต้องเข้าใจอาจารย์ด้วยนะว่าอาจารย์ก็ทําอะไรได้ไม่มากในเรื่องนี้”
อาจารย์เย่พูดด้วยน้ำเสียงห่อเหี่ยว บรรดานักเรียนชายในห้องเรียนต่างก็บ่นออกมาเป็นเสียงเดียวกัน มีแค่เพียงแค่เสี่ยวหัวเฉิงที่ถือโอกาสนี้ในการทําการบ้านที่เหลืออยู่ของเขา
นี้เป็นเหตุผลว่าทําไมเสี่ยวหัวเฉิงไม่เคยนําการบ้านกลับบ้านเลยสักครั้งเดียว เพราะว่าเขาทํามันเสร็จหมดตั้งแต่อยู่ที่โรงเรียนแล้ว
อาจารย์เย่เปิดวีดีโอคลิปและต่อไปยังเครื่องโปรเจกเตอร์ นักเรียนในชั้นเรียนพิเศษห้องนี้คุ้นชินกับการสอนพิเศษแบบนี้อยู่แล้ว โดยปกติแล้วจะมีการโฆษณาบางอย่างระหว่างการสอนผ่านวีดีโอ บ้างก็เป็นช่วงกลางของการสอน บ้างก็เป็นช่วงท้ายของการสอน
และก็เป็นอย่างที่ทุกคนคิดไว้ ตอนสุดท้ายของวีดีโอ มีผู้หญิงพิธีกรคนหนึ่งยืนอยู่บนเวทีและพูดด้วยเสียงดังและชัดถ้อยชัดคําว่า “ต่อไปนี้ ขอเชิญพบกับนักเรียนดีเด่นที่แสนภาคภูมิใจของเรา มาดูซิว่าเขามีเคล็ดลับอะไรหรือเปล่า”
บนหน้าจอ มีเด็กอ้วนคนหนึ่งซึ่งมีสัญลักษณ์ห้าแถบบนไหล่ของเขา ถ้าพูดถึงเรื่องรูปร่างแล้ว เขาน่าจะอ้วนกว่ากัวหาว แม้ว่าเด็กอ้วนคนนั้นจะหน้าตาไม่ค่อยดีแต่ทุกคนต่างรู้จักเป็นอย่างดี เด็กคนนี้ชื่อว่าทานเจี่ยหมิงเด็กผู้ซึ่งได้คะแนนสอบเข้ามหาลัยสูงที่สุดปีที่แล้วซึ่งทางมหาวิทยาลัยลําดับที่ 211นั้นรับเขาแทบจะในทันที ด้วยคะแนน 197,000 คะแนน โดยทุกคนเรียกเขาว่า5แถบในตํานาน
ในตอนนั้นตัวเด็กอ้วนคนนี้ได้ไปปรากฏอยู่ในแทบทุกสื่อทุกข่าว เพราะว่าเขาได้รับของขวัญจากทางรัฐบาลเป็นยาบํารุงพลังวิญญาณขั้นสูงถึงสามขวด! โดยยาบํารุงพลังวิญญาณตัวนี้นั้นถือเป็นอะไรที่สุดยอด เพราะเพียงแค่ขวดเดียวก็สามารถทําให้คนมีพลังถึงแก่นแท้ปราณทองคําขั้นกลางได้
ทานเจี่ยงหมิงซึ่งยืนอยู่บนเวทีภายในวิดีโอนั้นได้เสกขวดแก้วซึ่งภายในบรรจุของเหลวขึ้นมาขวดหนึ่งและหันหน้า90องศาไปทางกล้อง “นี่แหละคือเคล็ดลับของผม! น้ำยาอมฤทธิ์ของตระกูลโม่!”
หวังลิ่งรู้ทันทีว่าน้ำในขวดนั่นคือนํ้ายากลายพันธุ์! เขาเลิกตาขึ้นเพื่อที่จะมองมัน เขารู้สึกประหลาดใจที่ยาขวดนั้นเป็นเวอร์ชั่นที่พัฒนาแล้ว! ก่อนหน้านี้มันต้องเป็นของเหลวสีดํา แต่ตอนนี้มันกลับมีสีที่ดูสดใสน่าดื่ม!
สิ่งที่ทําให้หวังลิ่งตกใจไปมากกว่านั้นก็คือ หลังจากที่ทานเจี่ยหมิงพูดจบ พิธีกรสาวก็เดินกลับขึ้นมาบนเวทีพร้อมกับแสดงใบรับรองซึ่งรับรองโดยบรรดาผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดสี่คน
และรายชื่อทั้งสี่นั้นก็ดูเหมือนจะเป็นบุคคลมีชื่อเสียงในแวดวงอุตสาหกรรมสุขภาพ
กิ้งก่าเทพแห่งการแพทย์ หลิวฮงบิน
เบาหวานศักดิ์สิทธิ์ ลี่ชิมมิ่ง
ราชาแห่งโรคไขข้อ หวังจี้จิน
จักพรรดิแห่งไตบกพร่อง เกาเจินจง
หวังลิ่ง: “…”