The Daily Life of the Immortal King - ตอนที่ 154
ตอนที่ 154 บ้านที่เต็มไปด้วยของวิเศษ
มันเป็นเวลาเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว เมื่อตอนที่สองคิงชูเดินทางมาถึงบ้านของหวังลิ้งเพื่อขอความช่วยเหลือ
ยอมรับตามความจริงว่า ปราสาทตระกูลโม่นั้นเคลื่อนไหวเร็วกว่าที่เขาคิดเอาไว้ หากยังยึดตามแผนเดิม เวลานี้เขาคงพึ่งจะถึงสนามบินและเขาอาจจะโดนจับได้ก่อนที่เขาจะได้ขึ้นเครื่องเสียอีก…เขารู้สึกโล่งอกที่เขาเลือกมาทางนี้ ด้วยพลังของเทพมือระเบิดและเด็กหนุ่มชุดกระต่ายผู้ซึ่งมีพลังอันล้นเหลือ เขาจะต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน!
สองคิงชูตั้งชื่อเล่นให้หวังลิ่งว่ากระต่ายขาวเพื่อที่เขาจะได้เรียกง่ายๆ
และทันใดนั้นเองนาฬิกาลูกตุ้มโบราณที่ตั้งอยู่ชั้นหนึ่งในบ้านของครอบครัวหวังก็ส่งเสียงออกมาเป็นเสียงระฆังดัง 12 ครั้ง ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าขณะนี้เวลาเที่ยงคืนแล้ว
หวังลิ่งเดินไปทางประตูทางเข้าบ้านด้วยชุดนอนของเขา
ผู้หญิงชุดกี่เพ้าสีแดงซึ่งยืนตะโกนเรียกสองคิงชูอยู่หน้าบ้านเขาก็พูดออกมา “ในที่สุดก็ยอมโผล่หัวออกมาแล้วงั้นหรือ?”
“มิสอายูคุณไม่ควรมา…” สองคิงชูโผล่หน้าออกมาหลังหวังลิ่ง เป็นเพราะมีหวังลิ่งและเทพมือระเบิดอยู่ด้วยเขาจึงรู้สึกกล้าขึ้นมานิดนึง
“แกทําให้อาจูบาดเจ็บและยังกล้าทรยศปราสาทตระกูลโม่ แค่นี้เหตุผลยังไม่พออีกเรอะ” ผู้หญิงในชุดกี่เพ้านามว่าอายูตะโกนกลับมา
ในทํานองเดียวกัน กระดูกมือขวาของเธอก็โผล่ออกมาจากเนื้อและบิดพันเข้าหากัน เหมือนก้อนมัดกล้ามเนื้อ ก่อนที่จะหมุนด้วยความเร็วสูงจนเหมือนกับสว่านไฟฟ้า
ผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนมือขวาของตัวเองให้กลายเป็นอาวุธวิเศษ
สองคิงซูรู้ดีว่าด้วยพลังของอายูนั้นมีมากกว่าเขาในทุกด้าน เธอคงฆ่าเขาด้วยเวลาไม่ถึงเสี้ยววินาที ปกติแล้วผู้ฝึกตนที่มีระดับสูงกว่าจะสามารถสังหารผู้ฝึกตนที่ระดับต่ำกว่าได้อย่างง่ายดาย
แต่เขาก็ไม่ได้กังวลอะไรเลยแม้แต่น้อย เขายื่นมือออกไปและกลักให้อีกฝ่ายเข้ามา “งั้นก็เข้ามา”
เมื่อเปรียบเทียบการโจตีของอาจูและอายูนั้น การโจมตีของอายูจะดูอํามหิตกว่า สว่านมือขวาของเธอนั้นมีพลังเทียบเท่าอาวุธวิเศษระดับสูง มันสามารถผ่าท้องฟ้าหรือผืนดินได้อย่างง่ายดาย ผู้หญิงในชุดกี่เพ้ายืดหลังตรงและพุ่งเข้ามาราวกับมังกรทะยานผ่านหมู่เมฆ
จากนิ้วของอาจูและมือขวาทั้งมือของอาย แม้แต่เทพมือระเบิดก็ไม่เคยได้ยินว่ามีใครเปลี่ยนร่างกายของตนเองไปเป็นอาวุธวิเศษ การโจมตีของอายูนั้นจะต้องรุนแรงกว่าอาจอย่างแน่นอน ในขณะร่างกายของเธอยังคงอยู่บนอากาศเธอนําเอามือสว่านของเธอนําหน้าเพื่อหวังจะโจมตีด้วยมือข้างนั้น
ท่านี้เรียกว่ามังกรสายฟ้าทะลวง สองคิงซูไม่ได้เตรียมการรับมืออะไร เขาแค่ยืนกอดอกเพราะว่าเขามองไม่ทันความเร็วของการโจมตีนี้
นี่เป็นผลความห่างชั้นของพลัง การเคลื่อนไหวของผู้หญิงคนนั้นเขาไม่สามารถมองตามทันได้เลย
เพียงชั่วพริบตาเธอก็พุ่งถึงตัวเขา เสียงการเสียดสีของลมดังสนั่นมาจากการโจมตีของผู้หญิงชุดกี่เพ้า
มังกรสายฟ้าทะลวงนั้นโจมตีเข้าตรงที่แขนของเขา พลังโจมตีของมันทําให้พื้นที่เขายืนถึงกับทรุดตัว เขาจมลงไปในพื้นราวกับว่าเขาเป็นตะปูที่โดนค้อนตอก
แต่ทว่าเมื่อการโจมตีของหญิงสาวโดนเป้าหมาย แขนของสองคิงซูก็เรืองแสงสีทองขึ้นมา
*ตู้ม!*
เกิดแสงสีทองจ้าไปทั่วบริเวณและมือขวาของหญิงสาวโดนเหวี่ยงกลับร่างของเธอนั้นลอยไป ชนเข้ากับต้นไม้แก่ที่อยู่ข้างหลังและทะลุไปไกลกว่า 700 เมตรก่อนที่จะตกลงบนพื้น
ฉากนี้เหมือนกับเคยเกิดขึ้นมาก่อน มันเป็นการสะท้อนหลังจากเกิดแสงสีทองคราวก่อน ซึ่งทําให้อาจูบาดเจ็บสาหัส
ในทางกลับกัน ตัวเขาแค่มีฝนเพียงเล็กน้อยและเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บส่วนใดเลยแม้แต่น้อย
เขาปืนขึ้นมาจากหลุม ปัดฝุ่นที่ติดตัวเขาออกและหันไปยกนิ้วโป้งให้หวังสิ่ง “ผู้อาวุโส! กางเกงขายาวของคุณนี่มันสุดยอดจริงๆ!”
หวังลิ่งไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
ชุดกี่เพ้าของอายูนั้นขาดวิ่นไปหมด เธอค่อยๆลุกขึ้นมาจากพื้นด้วยสองขาอันสั่นเทิ้มของเธอ แขนขวาทั้งแขนของเธอนั้นเละไปหมด
มีเพียงเหตุผลเดียวที่ทําให้เธอยังคงสามารถยืนขึ้นมาได้ นั่นก็คือระดับพลังที่สูงของเธอ ถ้าหากเป็นผู้ฝึกตนระดับธรรมดาทั่วไป พวกเขาคงตายจากพิษบาดแผลไปแล้ว
สองคิงซูเดินเข้าไปหาอายด้วยความรวดเร็วระยะทางกว่า 700 เมตรเพียงเวลาไม่ถึงวินาที
อายูมองไปยังสองคิงซูและกัดฟันพูดด้วยความเจ็บปวดจากบาดแผล “ด้วยระดับของแก แกไม่มีทางที่จะเคลื่อนที่ได้รวดเร็วขนาดนี้”
“ผมใช้ของวิเศษน่ะ” สองคิงซูชี้ไปยังเท้าของเขา
อายูงุนงงกับสิ่งที่เห็น เมื่อเธอดึงสติกลับมาได้ สิ่งที่เธอเห็นก็คือรองเท้าแตะคู่หนึ่ง
“ผมมาขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสหวัง และพวกเราได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ภายในบ้านของเขา ผมไม่คิดว่าคุณจะมาเร็วขนาดนี้และผมก็ไม่มีเวลาที่จะเปลี่ยนรองเท้ากลับไป” สองคิงซูตอบ
ด้วยการที่ตนเองเป็นถึงผู้ช่วยของนายหญิง อายุไม่มีทางที่จะเชื่อกับสิ่งที่อีกฝ่ายบอก “นี่ แกกําลังเล่นตลกอะไร?”
สองคิงซูถอดเสื้อตัวนอกของเขาออกเผยให้เห็นกางเกงขายาวตัวสีแดงที่อยู่ข้างใน “ดูนี่นะ กางเกงขายาวตัวนี้ผมได้รับมาจากผู้อาวุโสหวัง เป็นสิ่งนี้นี่แหละที่หยุดการโจมตีของมิสอายุได้ ไม่อย่างนั้นผมคงตายไปแล้ว”
อายูยังคงไม่เชื่อกับสิ่งที่สองคิงซูพูดถึงขั้นสําลักเลือดออกมา
“นี่แกล้อฉันเล่นใช่ไหม?!!”
สองคิงซูพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ผู้อาวุโสหวังนั้นเป็นคนใจกว้างและไม่อยากจะยุ่งเกี่ยว แต่ถ้าหากคุณยังคงไม่ล้มเลิกความตั้งใจ…โปรดกลับไปบอกเจ้านายว่าผู้อาวุโสหวังนั้นรับปากว่าจะปกป้องผมแล้ว ดังนั้นเขาควรระวังตัวไว้ถ้าหากเขายังอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อ ทางที่ดีก็ไม่ควรจะมายุ่งกับพวกเราอีก”
“…” หวังลิ่งรู้สึกว่าหลังจากเคสโจวยแล้ว เคสนี้เขาก็โดนเหมารวมไปอีกเคส
“นี่แกกล้าขู่เจ้านายงั้นหรือ? ฉันจะบอกอะไรให้นะฉันเตรียมตัวมาดีพอ…ฉันจะต้องฆ่า แกให้ได้ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่มีหน้ากลับไปรายงานนายหญิงและนายใหญ่!” หญิงสาวตรงหน้าเขาตะโกนขึ้นมาอีกครั้งด้วยความโกรธ แต่แล้วเธอก็เปลี่ยนท่าที่อย่างรวดเร็วเมื่อเธอสัมผัสอะไรบางอย่างได้ “ทําไม…ทําไมฉันถึงไม่รู้สึกถึงตราประทับวิญญาณของแก?”
“หืม…คุณจะฆ่าผมด้วยคําสาปงั้นหรอ?” สองคิงซูหัวเราะเบาๆ “เสียใจด้วยนะ ผู้อาวุโสหวังได้ช่วยผมกําจัดตรานั่นไปแล้วด้วยผงซักฟอกของเขาก่อนที่คุณจะมาถึง”
“ผงซักฟอก…” อายูแสดงสีหน้างุนงง
“ตราประทับซึ่งเจ้านายของเธอเขียนลงบนวิญญาณของสองคิงชูนั้น มันอยู่มานานจนเลยจุดที่จะกําจัดออกได้แล้ว ผงซักฟอกบ้าบออะไรที่จะสามารถขจัดคราบได้ 99.999%?”
“เธอมีอะไรจะพูดอีกไหม” สองคิงซูถามขึ้น
“แกไม่รู้หรอกว่าแกได้สร้างปัญหาอะไรไว้! อาจูและฉันทํางานให้กับนายหญิง แต่พวกเรานั้นถูกว่าจ้างมาอีกที พวกเราไม่ได้ทํางานให้แค่เพียงปราสาทตระกูลโม่ แต่เป็นหอคอยผมตะด้วย! ถ้าหากแกกล้าต่อกรกับพวกเขา พวกเขาไม่มีทางปล่อยแกไปแน่” หญิงสาวพูดข่มขู่สองคิงซูด้วยสายตาเคียดแค้น “ถึงแม้ว่าฉันจะบาดเจ็บ ตราบใดที่ทั้งสองคนนั้นไม่เคลื่อนไหว แกคิดว่าวิญญาณก่อกําเนิดอย่างแกจะสามารถฆ่าฉันได้งั้นเหรอ?”
หอคอยอมตะ?”
เมื่อได้ยินดังนี้ ทั้งหวังลิ่งและเทพมือระเบิดก็หยุดฟังอย่างตั้งใจ
“ที่จะพูดมีแค่นี้งั้นเหรอ?”
สองคิงซูไม่ได้สนใจคําพูดก่อนหน้าของหญิงสาวเลย เขาโดนตามล่าโดยปราสาทตระกูลโม่มานาน…ตอนนี้ถึงเวลาเอาคืนบ้างแล้ว
ในมือของเขามีไม้จิ้มฟันซึ่งเขาถือวิสาสะหยิบออกมาจากบ้านของครอบครัวหวัง
เมื่อเขาพูดจบเขาก็ใช้พลังวิญญาณควบคุมไม้จิ้มฟันอันนั้นและบินทะลุหน้าผากของหญิงสาวเข้าไป
ผู้หญิงคนนี้ตายอย่างไม่เต็มใจ กะโหลกของผู้ฝึกตนระดับแก่นแท้วิญญาณนั้นแข็งมาก จนพวกเขานั้นไม่กลัวว่าจะมีสิ่งใดทําให้หัวของพวกเขาแตกได้ แต่ท้ายที่สุดผู้หญิงคนนี้คงไม่นึกไม่ฝันว่าเธอจะตายด้วยไม้จิ้มฟันไม้เดียว
พลังวิญญาณข้างในไม้จิ้มฟันนั้นระเบิดออก ส่งผลให้เกิดรูขนาดเท่ากําปั้นคนบนหัวของหญิงสาว
สองคิงซูจ้องมองรูบนหน้าผากของอายุด้วยมือที่ยังคงสั่นอยู่ เขาไม่เคยโล่งอกแบบนี้มานาน เขารู้สึกถูกปลดปล่อยและเป็นอิสระเสียที