The Daily Life of the Immortal King - ตอนที่ 155
ตอนที่ 155 ผู้ฝึกตนหญิงเดี๋ยวนี้
ทุกอย่างจบลงอย่างรวดเร็ว
อายูถูกสังหารและในตอนนี้สองคิงซูก็สบายใจไปเปราะหนึ่ง
อย่างไรก็ตามการแก้แค้นของปราสาทตระกูลโม่มันพึ่งจะเริ่มต้นขึ้น สองคิงชูรู้ดีว่าตั้งแต่ที่เขาทําร้ายอาจูและสังหารอายูนั้น นายหญิงของปราสาทคงไม่ปล่อยเขาลอยนวลไปง่ายๆ นักฆ่าที่มีฝีมือยิ่งกว่าจะต้องถูกส่งมา แต่เขาก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องกลัว…เพราะว่าเขามีกางเกงขายาวสุดเทพอยู่กับตัว!
ยิ่งไปกว่านั้นตราประทับวิญญาณซึ่งถูกผงซักฟอกยี่ห้อโอโม่ล้างไป มันทําให้ปราสาทตระกูลโม่ตามตัวเขายากขึ้น
“ดูเหมือนว่าเราคงไม่มีดวงกับการกระทําความผิด ถ้าหากเรารู้ตัวเร็วกว่านี้ เราคงไม่เลือกทํางานด้านมืดให้กับที่นั่น…” สองคิงซูถอนหายใจ จากนั้นจึงหยิบขวดบรรจุของเหลวสีม่วงออกมามันเป็นน้ำยากร่อนกระดูกที่ใช้ทําลายศพ
เขาเทลงบนร่างของอายู…กลิ่นฉุนคลุ้งไปทั่วบริเวณและกัดกร่อนชุดกี่เพ้าสีแดงบนร่าง แม้ว่ากี่เพ้าตัวนั้นจะทํามาจากสมบัติวิเศษ แต่มันก็ไม่สามารถต้านทานฤทธิ์การกัดกร่อนของน้ำยากร่อนกระดูกได้ แต่ทว่าพลังของน้ำยากร่อนกระดูกมีจํากัด มันทําได้แค่ย่อยสลายชุดกี่เพ้าแต่ร่างกายของหญิงสาวกลับไม่เป็นอะไรเลย
สองคิงซูรู้สึกงุนงง น้ำยาก่อนกระดูกสามารถทําลายร่างกายผู้ฝึกตนระดับวิญญาณก่อกําเนิดได้อย่างง่ายดาย แต่มันกลับไม่ได้ผลกับร่างกายของผู้ฝึกตนระดับแก่นแท้วิญญาณเลย
เห็นได้ชัดเลยว่า ความต่างของระดับวิญญาณก่อกําเนิดและระดับแก่นแท้วิญญาณนั้นมหาศาล แม้ว่าจะห่างกันแค่เพียงหนึ่งขั้นเท่านั้นเอง
เมื่อคิดว่าเขานั้นติดอยู่ที่ระดับวิญญาณก่อกําเนิดมานาน เขาก็เริ่มรู้สึกหดหู่
“คุณยังมีน้ำยากร่อนกระดูกอีกไหม?” เทพมือระเบิดถามขึ้นเมื่อเขาเห็นท่าทางผิดปกติของสองคิงซู
สองคิงซูยกขวดน้ำยากร่อนกระดูกขึ้นมา “เหลือเพียงหนึ่งขวดครับ…”
“เอามันมาให้ฉัน” เทพมือระเบิดหยิบขวดใบนั้นมาและเปิดออก และโรยผงอะไรบางอย่างลงไปก่อนจะเขย่าเพื่อให้มันเข้ากัน
ใบหน้าสองคิงซูเต็มไปด้วยความสงสัย “ฉันขอถามหน่อยได้ไหม…คุณใส่ผงอะไรลงไป?”
เทพมือระเบิดหันมาตอบ “มันคือผงซักฟอกโอโม่ไง”
“….”
หลังจากที่ผงซักฟอกและน้ำยากร่อนกระดูกผสมกันเข้าที่แล้ว เทพมือระเบิดก็เทมันลงบนร่างของอายุอีกครั้ง รอบนี้ร่างกายของอายูสลายหายไปเป็นไออย่างรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้นกลิ่นฉุนก็ไม่มีอีกด้วยมีแต่กลิ่นผงซักฟอกหอมฟุ้ง!
สองคิงซูถึงกับต้องยกนิ้วให้ “ผู้อาวุโสกระต่ายขาว” ผู้พระคุณของเขา
“นี่ผู้อาวุโสหวังสิ่ง น้ำยาล้างห้องน้ำของคุณมีสรรพคุณแบบนี้ด้วยหรือเปล่า?”
“ยาฆ่าแมลงบ้านคุณสามารถสังหารผู้ฝึกตนระดับแก่นแท้วิญญาณได้ไหม?”
หวังลิ่ง (= =)
ทั้งสามคนยังคงยืนรอดูจนกว่าร่างของอายูจะหายไปจนหมด ในเวลานั้นเอง มีแสงเรืองขึ้นมาข้างศพของหญิงสาวก่อนที่จะมีสิ่งของมากมายออกมาจากอากาศ
สิ่งของเหล่านี้ตอนแรกถูกเก็บไว้ในต่างหูเก็บของของอายู แต่เมื่อน้ำยากร่อนกระดูกได้ย่อยสลายต่างหู จึงทําให้สิ่งของที่อยู่ข้างในหลุดออกมาจากมิติเก็บของ เหมือนไอเท็มดรอปจากมอนสเตอร์ในเกม
บางทีอาจจะเป็นเพราะเธอแค่เป็นนักฆ่ารับจ้างชั่วคราว เธอจึงไม่ได้พกสิ่งของอะไรมามากมายนัก
ในบรรดาสิ่งของเหล่านั้น มันมีของสิ่งหนึ่งสีดําและดูเหมือนกระบี่ที่มีด้ามจับ แต่รูปร่างมันค่อนข้างแปลกประหลาดเป็นลูกบอลเจ็ดลูกเรียงต่อกัน
สองคิงซูแสดงสีหน้าตกใจเล็กน้อยเมื่อเขาหยิบกระบี่เล่มสีดํานั่นขึ้นมา “เดี๋ยวนี้ผู้ฝึกตนหญิงลามกถึงขนาดพกไข่สั่นไปไหนมาไหนตลอดเวลาแล้วรึ?!”
หวังลิ่ง “…”
เทพมือระเบิดเหมือนจะนึกอะไรออกหลังจากมองกระบี่ในมือสองคิงชูอยู่นาน “…นั่นมันกระบี่เจ็ดดาว”
“กระบี่เจ็ดดาว?”
“ฉันคุ้นๆว่าเคยเห็นมันในหนังสือเก่าเล่มหนึ่ง มันเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่ง และเป็นหนึ่งในของวิเศษที่เทพเจินหยวนใช้ พร้อมกับน้ำเต้าม่วงทองและเชือกทองคํา ไม่นึกว่าผู้หญิงคนนี้จะพกของแบบนี้ติดตัวมา” เทพมือระเบิดพูดในสิ่งที่เขาคิดไว้ออกมา
เทพเจินหยวน…
เมื่อได้ยินชื่อนี้ สองคิงซูจึงยื่นหน้าเข้าไปดูกระบี่เจ็ดดาวที่ว่านั่นให้ชัดขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตา
ชื่อนี้เป็นตํานานในยุคเดียวกันกับจอมมารกัวผี ในตอนที่ประตูมิติได้ถูกเปิดบนโลกมนุษย์ บรรดาผู้ฝึกตนได้ต่อสู้กับปีศาจผู้รุกราน และเทพเจินหยวนผู้นี้แหละที่เป็นคนปิดประตูมิติ
เทพมือระเบิดยกมือขึ้นแตะคางในขณะที่เขากําลังคิดอะไรบางอย่าง “ตามตํานานได้กล่าวไว้ว่า กระบี่เจ็ดดาวมีพลังสามารถเคลื่อนย้ายภูเขาและสามารถดูดซับพลังงานของโลกมาเป็นพลังของตนเองได้”
“แล้วทําไมเธอถึงไม่เอามันออกมาใช้?” สองคิงซูถามด้วยความสงสัย
“อาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่งนั้นมีความพิเศษในตัว ผู้ฝึกตนระดับแก่นแท้วิญญาณสามารถใช้ได้แค่ระดับสี่หรือไม่ก็ห้าเท่านั้น” เทพมือระเบิดอธิบาย “มันคุ้มที่จะลองสืบดูนะว่าทําไมผู้หญิงคนนี้ ถึงมีกระบี่เจ็บดาวนี้ได้ยังไง”
เมื่อพวกเขาคุยกันเสร็จ พวกเขาทั้งสองก็มองไปยังสิ่งของอื่นที่กองอยู่บนพื้น
นอกเหนือไปจากกระบี่เจ็ดดาวแล้ว ก็ยังมียาวิเศษแปลกๆ และน้ำยาก่อนกระดูกขวดสีม่วง
“น้ำยากร่อนกระดูก” ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้วางแผนที่จะมาสังหารสองคิงซูพร้อมกับทําลายหลักฐาน แต่โชคร้ายของเธอที่เป็นเธอเสียเองที่ถูกกระทํา
สายตาของเทพมือระเบิดกวาดมองไปทั่วบริเวณ เขาพบว่าไม่มีอะไรที่มีค่าแล้วเขาจึงเลิกสนใจและหันกลับให้ความสนใจไปยังกระบี่เจ็ดดาว
กระบี่เจ็ดดาวนั้นถือว่าเป็นโบนัสที่ไม่คาดฝัน
หลังจากที่ถามความเห็นของหวังลิ่งแล้ว เขาก็ไม่ลังเลที่จะเก็บเข้ากระเป๋าของตัวเองไป
หวังลิ่งไม่ได้สนใจสิ่งของอะไรทั้งสิ้น แม้ว่าจะเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับหนึ่งอะไรนั่น เพราะว่าร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าของวิเศษเหล่านั้น ในโลกนี้ไม่มีอาวุธใดที่จะสามารถทําร้ายเขา
แต่ทว่าท่ามกลางสิ่งของมากมายบนพื้น มันกลับมีของสิ่งหนึ่งที่เตะตาหวังสิ่งซึ่งทั้งสองคิงซู และเทพมือระเบิดมองข้ามไป
เขากระดิกนิ้ว และทันใดนั้นวัตถุชิ้นนั้นก็ลอยเข้ามาอยู่ในมือของเขา
มันเป็นเหรียญตราบรอนซ์ขนาดเท่าฝ่ามือซึ่งมีความหนาเท่ากับเหรียญเงินทั่วไป ตรานั่นถูกสลักเป็นรูปดอกบัว ซึ่งหวังลิ่งคิดว่ามันอาจจะเป็นสัญลักษณ์ของหญิงสาวหรือเป็นสัญลักษณ์ขององค์กรที่ผู้หญิงคนนี้สังกัด
เขาจําได้ว่าผู้หญิงคนนั้นตะโกนว่าเธอมาจากหอคอยอมตะ
หวังลิ่งไม่อยากด่วนสรุป น่าเสียดายที่ผู้หญิงคนนั้นตายไปแล้ว สองคิงซูลงมือหนักเกินไปจนทําให้หัวสมองของเธอระเบิด ไม่อย่างนั้นเขาคงได้อ่านข้อมูลจากสมองของเธอได้บ้าง
หวังลิ่งจ้องมองเหรียญตราที่ทําจากบรอนซ์อย่างเหม่อลอย สองคิงซูจึงเอ่ยถามขึ้น “ท่าน ทั้งสองรู้ไหมว่าไอองค์กรหอคอยอมตะนี่พวกเขาทําอะไร?”
หวังลิ่งขมวดคิ้ว เขาสังหรณ์ว่าองค์กรนี้อาจจะไม่ธรรมดา
“ฉันคิดว่าเคยได้ยินชื่อองค์กรนี้มาก่อนนะ ถ้าให้ฉันเด สาเหตุที่ผู้หญิงคนนี้มีกระบี่เจ็ดดาวในมือก็คงจะเกี่ยวข้องกับองค์กรนี้แหละ” ในระหว่างที่พูดเทพมือระเบิดก็หรี่ตาลง “เดี๋ยวฉันไปสืบเอง แต่ก่อนหน้านั้นฉันอยากจะขออะไรจากน้องสิ่งสักอย่าง…”
หวังลิ่งทําหน้าสงสัย “???”
“น้องลิ่งยังมีกางเกงขายาวแบบนี้อีกไหม? อย่างว่าแหละเราก็เป็นพี่เป็นน้องกัน ยกกางเกงของนายมาให้ฉันสักตัวสิ”