The Daily Life of the Immortal King - ตอนที่ 169
ตอนที่ 169 อย่างน้อยก็รอกันก่อน
ลี่หยวนบานั่งลงบนพื้นและตบอุ้งมือของมันหนึ่งครั้ง “ถ่ายทอดคําสั่งออกไป เรียกรวมพล ทําการก่อกวนกลั่นแกล้งยังไงก็ได้โดยห้ามมีการตายเกิดขึ้น ทําให้พวกมันเสียเวลาให้มากที่สุด ก่อนที่เจ๋งทานจะสั่งการบุกโจมตีสํานักงานใหญ่ของพวกมัน!”
หนึ่งในลูกน้องของมันถามขึ้น “ท่านนายพล เราควรจะรอคําสั่งจากเบื้องบนก่อนไหมครับท่าน….?”
ปากของลี่หยวนบากระตุก “คําสั่ง? มันไม่ได้มีโอกาสแบบนี้บ่อยนัก…และมันจะเปลี่ยนไปทุกครั้งหากเราไม่คว้ามันเอาไว้! พวกผู้เฒ่าผู้แก่เบื้องบนนั้นก็กําลังยุ่งกับหลายเรื่องอย่าไปรอคําสั่งจากพวกเขาเลย! เราไม่ควรจะพลาดโอกาสในการโจมตีนี้!”
ลูกน้องทั้งสองของลีหยวนบาไม่กล้าต่อปากต่อคําอะไรอีก
อันที่จริงแล้วพวกมันต่างก็เดาออก เพราะลี่หยวนบาและเจิ้งทานค่อนข้างสนิทกัน ลีหยวนบาจะสนับสนุนเจิ้งทานในแทบจะทุกการเคลื่อนไหว แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้บอกกล่าวอะไรเลยก็ตามทั้งสองนายพลนั้นเคยฝึกร่วมกันจากสามทหารเสือหรือที่รู้จักกันในนามกลุ่มเสือน้อย มิตรภาพที่เหนียวแน่นเช่นนี้หากไม่ใช่ตัวพวกมันเองคงไม่มีใครเข้าใจ
หนึ่งในลูกน้องแมวของลี่หยวนบาถอนหายใจ ถ้าหากลี่หยวนบาเริ่มเคลื่อนไหว มันจะมีผลกระทบลูกโซ่ลามไปยังกองทัพแมวกองทัพอื่นที่อยู่ในระแวกใกล้เคียงและมันอาจจะเกิดความโกลาหัวครั้งใหญ่
เหนือสิ่งอื่นใด คําสั่งที่ว่า “ห้ามมีการตาย” มันจะเป็นไปได้หรือ?
อย่างที่แมวทุกตัวอาจทราบกันดีว่าเจิ้งทานไม่ใช่พี่น้องร่วมสาบานเพียงคนเดียวของลี่หยวนบา ทุกตัวรู้ว่าสื่องครักษ์ซึ่งถูกฝึกฝนโดยกลุ่มเสือน้อย เจิ้งทานนั้นผู้ภายใต้การดูแลของถังซี่ ลีหยวนบาอยู่ภายใต้การดูแลของหยวนชื่อ และยังมีอีกสององครักษ์ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของซ่งสือ ยุนเฟยและอาหวง
โชคชะตาของยุนเฟยและเจิ้งทานนั้นมีความเกี่ยวพันกันนับตั้งแต่สี่ขนของพวกมันแล้ว แมวทั้งสองตัวมีขนสีดํา แต่ต่างกันที่ขนตรงหน้าอกและอุ้งเท้าทั้งสี่ของยุนเฟยมีสีขาว ซึ่งทําให้มันดูเหมือนเดินอยู่ท่ามกลางแดนหิมะตลอดเวลา หรือแมวหลายตัวต่างเรียกยุนเฟยว่าแมวสายพันธุ์หิมะ เมื่อก่อนนั้นทั้งยุนเฟยและเจิ้งทานได้มีโอกาสร่วมภารกิจกันบ่อยครั้งจนทําให้ทั้งคู่สนิทกันมาก
ตอนนี้เจิ้งทานทําหน้าที่เป็นนายพลของกองกําลังอิสระ ในขณะที่ยุนเฟยนั้นก็ทําหน้าที่เป็นนายพลของกองกําลัง358เช่นเดียวกัน
ตัวเลขของกองกําลังยุนเฟยนั้นมีความหมายพิเศษ นั่นก็คือเป็นจํานวนครั้งที่ยุนเฟยได้รวมทําภารกิจกับเจิ้งทาน 358 ครั้งพอดิบพอดี
กองกําลัง358ของยุนเฟยนั้นอยู่ใกล้กับกองกําลังอิสระของเจิ้งทาน ทั้งสองตั้งฐานทัพไว้ที่เมืองซ่งไห่ เจิ้งทานพบโพรงต้นไม้ซึ่งปัจจุบันเขาใช้มันเป็นฐานทัพของเขา ส่วนทางด้านยุนเฟยพบทาสแมวซึ่งยอมทําทุกอย่างเพื่อมัน มันจึงอาศัยอย่างสุขสบายในบ้านหลังหนึ่ง บ้านแมวซึ่งอยู่ที่สวนหลังบ้านของมัน ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อบรรดาลูกน้องของมัน แน่นอนว่าบ้านแมวหลังนั้นก็ถูกขยายภายในเหมือนกับโพรงต้นไม้ของเจิ้งทาน
มันมีบ้านแมวหลายหลังซึ่งใช้สําหรับแต่ละหน่วยของมัน หน่วยทหารราบ ทหารม้า พลปืน และศูนย์บัญชาการ
หลังจากเจิ้งทานเดินทางออกจากเมืองเพื่อปฏิบัติการโจมตี ลี่หยวนบาเมื่อทราบข่าวเขาก็ทําการส่งกําลังเสริมไปช่วย ยุนเฟยเป็นแมวตัวที่สามที่พึ่งจะทราบข่าวปฏิบัติการนี้
ณ ศูนย์บัญชาการกองกําลัง 358 ยุนเฟยกําลังดูแผนที่อยู่ “ทําไมมันบ้าดีเดือดอย่างนี้นําทัพออกไปสู้คนเดียว?”
หนึ่งในเจ้าหน้าที่แมวซึ่งประจําการอยู่พูดขึ้น “จากหน่วยข่าวของทางเรา มีเพียงกองกําลังอิสระของนายพลเจิ้งทานเท่านั้นครับ เขาไปนํากองกําลังรบหลักของเขาเข้าโจมตีพื้นที่ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นแค่เพียงข่าวลือว่าจะเป็นศูนย์บัญชาการหลักของเงาสายธาร…”
ยุนเฟยขมวดคิ้วจากนั้นจึงลูบหน้าตนเองด้วยงเท้า “ไม่ดีแน่ ทั้งจิงหัว ดงเบย และซ่งไห่มีการต่อสู้แทบทุกพื้นที่ บรรดากองทัพแมวทางตอนใต้ของประเทศเริ่มวุ่นวาย เจิ้งทานมันสะเพร่าเกินไปแล้ว!”
เจ้าหน้าที่แมว: “นายพลแล้วเราจะทํายังไงกันดีครับ?”
ยุนเฟย: “จะทํายังไงได้อีกหล่ะ…แน่นอนว่าต้องช่วยขัดขวางศัตรู! แจ้งหัวหน้าหน่วยพลปืนให้นําอาวุธรุ่นใหม่ล่าสุดออกใช้งาน! จําเอาไว้ว่าเงาสายธารนั้นดุร้าย พวกเราต้องหยุดมันให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้ ระเบิดควัน ระเบิดแฟลช ระเบิดเสียงอะไรที่ยิงได้ยิงไปให้หมดเลย!”
เจ้าหน้าที่แมว: “ รวมไปถึงระเบิดแฟลชหลิวน้อยด้วยหรอครับ?”
ยุนเฟย: “หืม…ใช้มันก่อนเลย! เดี๋ยวฉันค่อยไปคิดบัญชีที่เจ๋งทาน! ถึงแม้ว่าการโจมตีนี้เจิ้งทานจะไม่ได้เป็นคนเปิดฉาก ยังไงกองกําลัง358ก็ยังคงต้องออกไปช่วยเหลือเพื่อนแมวด้วยกัน!”
ผู้องครักษ์ตัวสุดท้ายของสื่องครักษ์กําลังจะได้ยินข่าวนี้ อาหวงแมวลายสีเหลืองผู้น่าสงสาร เจ้าของเก่ามันทําหมันให้มันตั้งแต่แรกเกิด เป็นเพราะเจิ้งทานช่วยมันรักษาโรคซึมเศร้ามันจึงติดหนี้บุญคุณครั้งใหญ่ต่อเจิ้งทาน
กองกําลังของอาหวงนั้นประจําการอยู่ที่นานยานซึ่งอยู่ระหว่างจิงหัวและซ่งไห่
ตอนที่มันได้ข่าวของเจิ้งทานมันกําลังจิบไวน์อยู่ภายในท่อระบายน้ำ
หัวหน้าหน่วยซึ่งอยู่ข้างมันรายงานข่าวที่ได้รับมาด้วยน้ำเสียงตึงเครียด “พวกเราพึ่งได้รับข่าวมาว่า กองกําลังของลี่หยวนบาและแมวจรจัดในระแวกใกล้เคียงกําลังก่อสงคราม…”
อาหวง: “หืม?”
หัวหน้าหน่วย: “แม้แต่กองกําลัง358ของยุนเฟยก็ได้เข้าร่วมโดยไม่ได้ไตร่ตรอง ปราศจากคําสั่งจากทางเบื้องบน พวกเราไม่ทราบเลยว่าอะไรมันเกิดขึ้นกันแน่ครับ”
อาหวง: “ฮ่าๆ!! มันต้องเป็นฝีมือของเจิ้งทานแน่นอน! เจ้านั้นมักชอบสร้างปัญหา!”
หัวหน้าหน่วย: “แล้วหัวหน้าคิดยังไงกับการเคลื่อนไหวของนายพลเจิ้งทานครับ? พิกัดที่เกิดเหตุนั้นเป็นพิกัดที่พวกเราคิดว่าเป็นศูนย์บัญชาการใหญ่ขององค์กรเงาสายธาร แต่ทางเบื้องบนยังไม่มีคําสั่งใดลงมา นายพลเจิ้งทานกระทําการโดยพลการงั้นหรอครับ?”
“ไม่มีใครรู้ว่าในหัวของเจ้านั่นคิดอะไรอยู่หรอก…มันไม่ชอบองค์กรเงาสายธารมาแต่ไหนแต่ไร บางทีมันอาจจะอยากเริ่มต้นเปิดฉากโจมตีก่อนโดยไม่ให้ฝ่ายนั้นตั้งตัว…”
อาหวงส่ายหางตัวเองและหัวเราะ “เจ้านั่นมันน่าเหลือเชื่อจริงๆ! ดีกว่าบรรดาเบื้องบนเป็นไหนๆ!”
ภายในอพาทเม้นแห่งหนึ่งใจกลาวเมืองจิงหัว ผู้นําถังขี่เสือสายฟ้าฟาด กําลังคุยโทรศัพท์ด้วยความโกรธจนขนชี้ตั้งอย่างเห็นได้ชัด “นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น?!”
ลูกเสือหยวนชื่อเอาอุ้งมือของมันทุบไปบนโต๊ะและแสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมา “มันเกิดอะไรขึ้น? ทําไมถึงไม่มีรายงานอะไรเข้ามาเลย…หา??พวกมันออกไปก่อสงคราม? ใครเป็นแกนนํา!? อย่างน้อยมันก็ต้องวางแผนกันก่อนที่จะเริ่มเปิดฉากโจมตีสิ!”
“ใครก็ได้บอกฉันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น? ท่านราชันย์เหมียว ถ้าหากท่านอยู่ที่นี่หล่ะก็…” ซ่งสือโอดครวญหาราชันย์เหมียว
ทันใดนั้นเองเกิดแสงสว่างขึ้นพร้อมกับหมอกควัน แมวเปอร์เซียขนสีขาวโผล่ขึ้นมาต่อหน้ากลุ่มเสือน้อย
หวังลิ่งแปลงร่างกลับไปเป็นแมวเปอร์เซียสีขาวลอยตัวอยู่กลางอากาศท่ามกลางสายตาของกลุ่มเสือน้อย
เขาเสียเวลาไปนิดหน่อยเพราะเขาต้องให้แบล็คระบุพิกัดของแมวทั้งสามตัว โชคยังดีที่เขามาทันเวลา