The Daily Life of the Immortal King - ตอนที่ 199
ตอนที่ 199 สมกับที่เป็นเงินเหริน
ในตอนนี้ไม่มีก้อนเมฆหลงเหลือเลยสักก้อนเดียวเหนือลานกว้างภายในตําหนักตระกูลเสี่ยว
ดามาราจาถอดแว่นกันลมออกและโยนมันทิ้งลงข้างตัวของเขา ตอนนี้ทั้งหัวของเขาเปียกโชกไปด้วยหยาดเหงื่อและก้มตัวลงจับหัวเข่าอย่างเหนื่อยหอบ
หลังจากสามหมัดสายฟ้าของเขา ดามาราจากระจ่างในหนึ่งเรื่องนั่นก็คือความห่างชั้นระหว่างเขาและหลิงเงินเหริน มันไม่ใช่แค่ห่างระดับแม่น้ํากั้นแต่มันห่างระดับทะเลมหาสมุทรกั้นเลยหล่ะ!
หรือสามารถพูดได้ว่า เงินเหรินสมเป็นเงินเหริน ช่างเก่งกาจสมคําร่ําลือ
คุณหลิงนี่สุดยอดไปเลยนะครับ…ผมแพ้หมดท่าเลย! ดามาราจาพูดขึ้นหลังจากที่เขายอมรับความพ่ายแพ้
ดามาราจาถอนหายใจออกมา มันไม่ใช่แค่ความห่างชั้นธรรมดา พลังที่เขาใช้นั้นคือพลังสายฟ้าระดับ10ของสายฟ้าเทพเจ้า พลังของมันที่ทําให้โทยะที่ยืนมองอยู่ข้างนอกเหงื่อตกดันถูกหยุดได้ง่ายๆ
หลิงเงินเหรินใช้แค่เพียงมือข้างเดียวรับไว้หนําซ้ําเพียงชั่วพริบตาพลังของมันดันถูกสลายไปจนหมด
เมื่อสติสัมปชัญญะของเขากลับมา เขาสังเกตเห็นว่ามีแสงสีทองห่อหุ้มตัวเขาไว้อยู่ราวกับเป็นผ้าคลุมโปร่งแสง …นี่มันคืออะไร?
ในตอนหมัดสุดท้าย คุณหลิงได้ใช้แสงสีทองของกายเซียนป้องกันเราไว้ โทยะอธิบาย เขาซึ่งมองเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน ไม่อย่างนั้น ด้วยพลังหมัดของนาย ถึงมันจะไม่สามารถทําอันตรายแก่คุณหลิงได้ นายก็อาจจะกลายเป็นซากเพราะกายเซียนสะท้อนพลังหมัดของนายกลับมา
เมื่อดามาราจาได้ยินดังนั้นเขากลับรู้สึกนับถือ ข่าวลือที่ว่าคุณหลิงนั้นไม่ใช่เพียงแค่แข็งแกร่ง แต่เขายังเป็นคนที่มีเมตตา…เขาเป็นผู้ชายที่เพอร์เฟคทั้งร่างกายและจิตใจ
ดามาราจารู้สึกปลาบปลื้มใจ ถ้าหากเขาเป็นผู้หญิงเขาคงตกหลุมรักคุณหลิงไปแล้ว!
นายได้ลองแล้วพอใจแล้วหรือยัง? โทยะยืนกอดอกจ้องเขม็งไปที่ดามาราจาและดูเหมือนเขาก็พอใจที่ได้เป็นผู้ชมในการประลองครั้งนี้เช่นกัน
ดามาราจาพยักหน้าให้ นายกับคุณหลิงไม่ต้องเป็นห่วง ผมได้สัญญาไว้แล้ว ปล่อยหน้าที่ซ่อมแซมให้เป็นของผมเถอะ เดี๋ยวผมกลับไปจะรีบซ่อมให้ทันที!
โทยะหันไปมองรอบลานกว้างและถอนหายใจออกมา ว่าแต่ว่า…ดามาราจา นายทําความเสียหายไปมากขนาดนี้ มันจะไม่เป็นไรใช่ไหม?
ยังไงเสียมันก็ยังไม่เปิดให้เข้าชม ฉันซ่อมมันได้น่า
เมื่อพูดจบดามาราจาก็ส่งสายตาแปลกๆมาทางโทยะ ฉันอิจฉานายจริงๆโทยะ…
โทยะ ???
ดามาราจา ก่อนหน้านี้ฉันก็รู้แล้วแหละว่านายเป็นคนที่หล่อที่สุดในกลุ่ม แต่หลังจากได้มีโอกาสพบคุณหลิง วันนี้ฉันก็พบว่าเขาก็หล่อไม่แพ้กัน…ที่น่าตกใจก็คือความสัมพันธ์ของนาย ตอนที่คุณหลิงสู้กับฉันเขายังอุตส่าห์ สร้างเกราะป้องกันให้นายด้วย
ดามาราจาเดินมาแตะไหล่โทยะและพูดว่า ฉันขอให้พวกคุณทั้งสองมีความสุข!
หวังลิ่ง …
เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่าเมื่อผู้ชายหน้าตาดีสองคนยืนอยู่ข้างกัน มันมักจะชวนให้คนอื่นเข้าใจผิด หวังลิ่งซึ่งคิดว่ารูปร่างหน้าตาของเขาตอนนี้นั้นอยู่ในขั้นทั่วไปหรือจะเรียกว่าไม่ได้แย่นัก…มันยังอยู่ในขั้นหล่ออีกงั้นเรอะ! หวังลิ่งเริ่มชักไม่เข้าใจรสนิยมความชอบของคนยุคปัจจุบันเสียแล้ว
หลังจากนั้นเองที่เขาคิดว่าเรื่องนี้มันกําลังจะกลายเป็นปัญหาใหญ่สําหรับเขา แต่อันที่จริงแล้วความเข้าใจผิดของดามาราจานั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากตัวเขาแต่เป็นจากโทยะต่างหาก! มันมีกฎของธรรมชาติที่ว่า ถ้าหากคุณหน้าตาบ้านๆแต่ดันไปอยู่รวมกับคนหน้าตาดี คุณจะดูดีขึ้น50%…
ดั่งเช่นการส่องกระจก มีนักวิจัยกล่าวว่าเมื่อคนส่องกระจก เขาจะพบว่าตัวเองนั้นดูดีขึ้น30%จากปกติ…ทั้งหมดนี้เกี่ยวกับสมองสร้างภาพไว้ในจิตใต้สํานึกของมนุษย์
อืมมมม ใช่แล้วมันคงเป็นสมองสร้างภาพขึ้นมาเอง
ไม่รู้ใครจะคิดยังไงแต่เขาก็จะคิดและใช้ทฤษฎีนี้ในเหตุการณ์ครั้งนี้
ในช่วงนี้หวังลิ่งก็ไม่ต้องกังวลเรื่องซ่อมแซมมีดเล่มนั้น แต่ถึงอย่างนั้นชีวิตของเขาก็ยังคงไม่สงบสุข
ทางด้านเทพมือระเบิด ต้นฮาวธอร์นได้หยั่งรากลงดินเป็นที่เรียบร้อย แต่ปัญหาก็คือคนสร้างหน้ากากก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะปรากฏตัวออกมา…
และปัญหาจอมมารชั่วร้ายหนีหายไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้อีก…
แต่ทว่าตอนนี้ปัญหาที่มารออยู่ตรงหน้าหวังลิ่งนั่นก็คือการเข้าฝึกทหารที่กําลังจะเกิดขึ้นในอีกหนึ่งสัปดาห์ มันเป็นกิจกรรมที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การที่โรงเรียนทั้ง6โรงเรียนจะมาเข้าร่วมฝึกพร้อมกัน และแบ่งพรรคแบ่งฝ่ายอย่างชัดเจนเช่นนี้
ถ้าหากมันเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือใบไม้ร่วง หวังลิ่งอาจจะหาข้ออ้างในการไม่เข้าร่วมได้ แต่ไอกิจกรรมอย่างเข้าค่ายฝึกเนี่ยดันเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานที่เลขาซุนดาลังเป็นคนก่อตั้งขึ้นมา ซึ่งมันจะช่วยเสริมสร้างและเพิ่มประสบการณ์แก่เหล่านักเรียน คะแนนของมันจะถูกนับรวมไปในคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัย มันจึงเป็นกิจกรรมที่สําคัญชี้เป็นชี้ตายว่านักเรียนจะจบหรือไม่
ซึ่งตีความง่ายๆก็คือหวังลิ่งไม่มีทางหนี
มันจะต้องมีคนและสายตามากมายจับจ้องอย่างแน่นอน ทั้ง3ฝ่ายรวมไปถึงบรรดาคุณครูอาจารย์และนักเรียนทั้ง6โรงเรียนก็จะต้องอยู่ที่นั่นด้วย เมื่อพิจารณาจากปัจจัยทั้งหมดแล้ว การที่จะจบการฝึกนี้ด้วยการไม่เป็นจุดเด่นเป็นปัญหาที่ชวนปวดหัวที่สุด
ณ มิติแห่งหนึ่ง จอมมารเฒ่าผู้ซึ่งหลบซ่อนตัวอยู่ในโลกเสมือนของเขานั้นกําลังวางแผนบางอย่างกับนักฆ่าสาวเจียงหลิวเย่
ในการที่จะเอาชนะปรมาจารย์นักฆ่าได้นั้น เธอจะต้องฟื้นพลังกลับมาก่อน เวลาไม่ใช่ปัญหา เพราะว่าเวลาในโลกเสมือนนี้มันไม่เหมือนโลกข้างนอก ที่ฉันพาเธอมาก็เพราะหวังว่าเธอจะฟื้นตัวได้เร็วขึ้น หลังจากฉันทําตามสัญญาที่ให้ไว้กับเธอได้แล้ว ฉันจึงจะสามารถทําตามแผนของฉันต่อได้
ขอบคุณท่านจอมมารจริงๆ ฉันรู้สึกดีเวลาที่ฝึกวิชาในนี้มากกว่าข้างนอกเสียอีก เจียงหลิวเยู่พยักหน้า หลังจากที่หลบซ่อนอยู่ในนี้เป็นเวลา2วันเธอก็เริ่มเข้าใจตัวจอมมารคนนี้มากขึ้น
เรื่องการฟื้นตัวของเธอก็เรื่องหนึ่ง แต่ฉันอยากให้เธอช่วยอะไรหน่อย การอยู่ในร่างของเธอนั้นไม่ใช่การแก้ไขปัญหาระยะยาว ดังนั้นฉันจะทําการสร้างร่างกายขึ้นมา ฉันจะใช้กระดูกของยอดฝีมือเป็นส่วนประกอบหลัก จอมมารเฒ่าหลี่ตาลง
ท่านจอมมารจะใช้สิ่งนั้นเป็นแกนกลางในการสร้างร่างกาย? มันทําอย่างนั้นได้ด้วยหรอ? เจียงหลิวเยถามอย่างสงสัย
หลักการของมันก็เหมือนกับรากบัววิญญาณสร้างร่างกาย แต่วิธิของมันจะยุ่งยากซับซ้อนกว่า ฉันต้องการพลังชีวิตของคนหนุ่มสาวพันคนในการสร้างกระแกนกระดูก
ท่านจอมมารไม่ต้องเป็นห่วงในเรื่องนั้นเลย เมื่อท่านพูดถึงพลังชีวิตของคนหนุ่มสาว ฉันพอจะนึกอะไรบางอย่างออก เจียงหลิวเย่พูดอย่างมั่นใจ โรงเรียนที่ฉันพูดถึงก่อนหน้านี้กําลังจะไปรวมกับอีกห้าโรงเรียนสําหรับการฝึกทหาร นี่แห่งนั้นจะมีคนกว่าหนึ่งพันคน…แค่เพียงเด็กระดับแรกเริ่มลมปราณพอไหม?
หลังจากพูดจบเจียงหลิวเยก็ยิ้มอย่างเลือดเย็นเธอคิดว่าแผนการของเธอช่างยอดเยี่ยม
เธอเคยพูดว่าเธอยากจะฆ่าคนทุกคนทั้งโรงเรียนอันดับที่60
นี่คงเป็นโอกาสที่พระเจ้าประทานมาให้ ไม่ใช่แค่เพียงช่วยเหลือท่านจอมมารสร้างร่างกาย มันยังทําลายโรงเรียนแห่งนี้ได้อีกด้วย นี่สินะที่เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!