The Dark King – กษัตริย์แห่งความมืด - ตอนที่ 534
The Dark King – Chapter 534 การไล่ล่าในเงามืด
เทียนรีบหันไปหาที่มาของเสียง เขาเห็นลูน่าที่ยืนนอยู่ด้านหลังเอียนและมาร์ตินถูกสัตว์ร้ายที่เหมือนกับกิ้งก่าตัวนั้นจับเอาไว้ สัตว์ร้ายตัวนี้ยืนนิ่งและร่างกายของมันปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีเขียวเหมือนกับจระเข้ ศีรษะที่เป็นรูปสามเหลี่ยมของมันกำลังอ้าปากออกและเทียนสามารถเห็นฟันที่แหลมคมในปากของมันได้ สัตว์ร้ายตัวนี้กัดเข้าไปที่ศีรษะของลูน่าทันทีจากนั้นมันก็เริ่มดูดเลือดของเธอออกมาอย่างรวดเร็ว
ดวงตาของเทียนเบิกกว้างขึ้นเพราะเขารู้สึกคุ้นเคยกับสัตว์ร้ายตัวนี้
เมื่อเอียน มาร์ติน และคนอื่นๆได้ยินเสียงกรีดร้องพวกเขาก็รีบหันกลับมามองและตกตะลึงไปทันที มาร์ตินและเอียนรีบหยิบอาวุธของเขาขึ้นมา
ฉัวะ~ เพียงไม่กี่วินาทีศีรษะของสัตว์ร้ายตัวนี้ก็มุดเข้าไปในกะโหลกของลูน่า เสียงกรีดร้องของเธอหยุดทันที เศษสมองและเส้นเลือดต่างๆค่อยๆไหลออกมา
สัตว์ร้ายตัวนี้สะบัดหางไปมาและเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วมันผลักลูน่าไปทางเอียนและมาร์ตินที่กำลังวิ่งเข้ามาก่อนที่มันจะวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวของมันปราศจากเสียงใดๆราวกับว่ามันหายไปในความมืด
เอียนคว้าร่างของลูน่าเอาไว้ สีหน้าของเขาดูย่ำแย่ในตอนนี้ เขาสูงกว่าลูน่าดังนั้นจึงสามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นกับศีรษะของลูน่า เอียนกัดฟันของเขาด้วยความแค้น
มาร์ตินไม่ได้ไปดูศพของลูน่าแต่เขาวิ่งตามสัตว์ร้ายตัวนั้นไปทันที เขามองไปทั่วถ้ำแห่งนี้แต่ก็หาตัวมันไม่เจอ
รูบี้และโรสแมรี่ปากก็รีบเข้ามาช่วยเหลือ พวกเขาถืออาวุธของตนเองเอาไว้และมองไปรอบๆตัวด้วยความกังวล
“มันหายไปไหนแล้ว?” รูบี้โบกคบเพลิงในมือของตนเองไปทั่วถ้ำแห่งนี้เพื่อดูว่าสัตว์ร้ายตัวนี้ไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน แต่เขาก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของมัน ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเห็นก่อนหน้านี้เป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น
เทียนเริ่มเคลื่อนไหวในตอนนี้
มาร์ติน รูบี้ และคนอื่นๆต่างก็มองมาที่เทียนด้วยความระมัดระวังเมื่อเทียนเดินเข้ามาใกล้พวกเขา
เทียนขมวดคิ้วขึ้นมาทันที “สัตว์ร้ายตัวนั้นยังอยู่ข้างในนี้… พวกเราต้องหาวิธีรอดออกจากที่นี่ไปให้ได้… ขอฉันลองตรวจสอบที่นี่อีกหน่อยเผื่อจะเจอเบาะแสอะไรเพิ่มขึ้นบ้าง”
มาร์ตินจ้องมองมาที่เขาและหันไปพยักหน้าให้รูบี้
รูบี้ถอยออกไปเพื่อเปิดทางให้กับเทียน
เทียนนั่งลงและตรวจสอบที่พื้น เขาพบร่องรอยของเมือกเหนียวที่เป็นทางอยู่บนพื้น เขามองตามร่องรอยเมือกเหนียวนี้ไปทันทีและมันไปหยุดอยู่ที่กำแพงหิน
มาร์ตินและโรสแมรี่ก็เห็นว่าเทียนกำลังมองหาอะไรบางอย่างอยู่ ร่องรอยของเมือกเหนียวนั้นไปหยุดอยู่ที่กำแพงหินและหายไปทันทีราวกับว่าสัตว์ร้ายตัวนี้สามารถหายตัวได้
ไม่มีอะไรบอกเลยว่าสัตว์ร้ายตัวนี้หายไปไหน!
สีหน้าของทุกๆคนเต็มไปด้วยความตึงเครียด
ติ๊ง~~
มีเสียงที่เบามากดังออกมาจากด้านหลังกำแพง
เทียน มาร์ติน และทุกๆคนรีบหันไปมองทันที พวกเขาเห็นเลือดสดๆที่หยดลงมาบนพื้น มันต้องเป็นเลือดของลูน่าอย่างแน่นอน
เทียนหรี่ตาลงขณะที่มองไป
ด้านบนของถ้ำแห่งนี้เป็นหินที่มีความสูงต่ำไม่เท่ากัน แต่มันก็ไม่มีร่องรอยของสัตว์ร้ายตัวนี้เลย
มาร์ตินถามออกมาว่า “นายเห็นมันหรือเปล่า?”
“ไม่เลย” เทียนตอบกลับมา
เอียนแบกศพของลูน่าเอาไว้ขณะที่เขาจ้องมองมาที่เทียน “ดูเหมือนว่านายจะรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับสัตว์ร้ายตัวนี้”
มาร์ติน รูบี้ และโรสแมรี่ก็หันมามองเทียน
ใบหน้าของเทียนเย็นชาขึ้นมาทันทีเมื่อเขาเห็นปฏิกิริยาของทุกๆคน “ก่อนหน้านี้ฉันเห็นไข่ใบหนึ่งที่ข้างในว่างเปล่า ฉันคิดว่าสัตว์ร้ายที่อยู่ในไข่ฟักตัวออกไปแล้ว! ฉันจึงหันมาเตือนทุกๆคนแต่ก็ไม่ทันแล้ว ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าทุกคนจะเชื่อฉันหรือเปล่า?”
เอียนหันไปรอบรอบและเดินไปที่ตำแหน่งที่เทียนตรวจสอบก่อนหน้านี้ เขาเห็นเปลือกไข่ที่ว่างเปล่าจึงหันไปมองรูบี้ “ก่อนหน้านี้ฉันบอกให้นายกลับยูจินมาตรวจสอบที่นี่ นายไม่เห็นเปลือกไข่ใบนี้หรือไง?”
รูบี้ตอบกลับมาว่า “ฉันตรวจสอบอีกฝั่งนึงฝั่งนี้เป็นยูจินที่รับผิดชอบ ฉันต้องแจ้งให้นายทราบแน่นอนถ้าหากว่าฉันเห็นว่ามีไข่ที่ถูกฟักตัวออกไปแล้ว!”
เอียนขมวดคิ้ว เขาเชื่อใจรูบี้แต่ดูเหมือนว่ายูจินขี้เกียจเกินกว่าจะรายงานเรื่องนี้กับเขา ดูเหมือนว่าเขาตรวจสอบพื้นที่รอบๆแค่คร่าวๆเท่านั้นและไม่ได้สนใจว่าจะมีไข่ที่ถูกฟักตัวออกไปหรือไม่ ยูจินไม่มีการมองเห็นในความมืดหรือการมองเห็นตรวจจับความร้อนเขามีเพียงแค่คบเพลิงในมือเท่านั้นทำให้เขาตรวจสอบได้เพียงด้านนอกของผนังถ้ำเท่านั้น หรือบางทียูจินอาจจะเห็นไข่ใบนี้แล้วแต่ก็ไม่ได้สนใจ
แต่ยูจินก็ตายไปแล้วและไม่มีทางที่ทุกคนจะรู้ได้ว่าทำไมเขาถึงไม่บอกเรื่องนี้
“มันเหมือนกับสัตว์ร้ายที่เราได้เห็นในไข่ที่แตกออกมาก่อนหน้านี้” โรสแมรี่พูดออกมาเสียงดัง
สีหน้าของเอียนเปลี่ยนไปทันที “เรื่องนั้นฉันรู้ดี มันน่าจะฟักออกมาสักพักแล้ว ขนาดของมันใหญ่กว่าตัวที่ยังอยู่ในไข่ ฉันคิดว่ามันน่าจะฟักออกมาตั้งแต่ก่อนที่เราจะเข้ามาที่นี่แล้ว”
มาร์ตินกําหมัดแน่น “ไอ้เวรเอ้ย มันซ่อนตัวอยู่ตลอดและรอคอยโอกาสเหมาะสมที่จะโจมตีพวกเรา!”
“มันอยู่ใกล้ๆพวกเรามาโดยตลอด…” โรสแมรี่พูดต่อไปว่า “ตอนนี้พวกเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันอยู่ที่ไหน รีบออกไปจากที่บ้าๆแบบนี้กันเถอะ!”
“ออกไปหรอ?” มาร์ตินมองกลับมาที่เธอ “เธอไม่อยากแก้แค้นให้ลูน่าหรือยังไง?”
เอียนเงียบไปครู่หนึ่งจากนั้นเขาก็หันมามองมาร์ติน “มันมีความสามารถในการลอบโจมตีและการซ่อนตัวที่ยอดเยี่ยม คงยากมากที่เราจะฆ่ามันได้”
มาร์ตินพูดออกมาว่า “ถ้าเรารวมตัวกันจะต้องกลัวอะไรอีก? มันก็ทำได้แค่ลอบโจมตีไม่ใช่หรือไง? ดูสิพวกเราอยู่ที่นี่กันกี่คน… นายอยากจะออกไปทั้งแบบนี้จริงๆหรอ? อย่างนั้นก็ได้แต่ฉันขออยู่ที่นี่เพื่อฆ่ามันก่อน ถ้าฉันได้เจอมันฉันจะไม่ปล่อยมันไปแน่นอน ฉันคิดว่าเดี๋ยวมันต้องออกมาอีกครั้ง!”
“ฉันเองก็เห็นด้วยกับมาร์ตินนะ พวกเรามีอยู่ตั้ง 5 คน… ถ้าพวกเราออกไปตอนนี้คงไม่ได้ล้างแค้นให้กับลูน่าอีกแล้ว!” รูบี้กล่าวออกมา
เอียนขมวดคิ้วขึ้นมาทันทีเมื่อเขาเห็นว่าทีมของตนเองเริ่มเสียงแตก “เอาล่ะงั้นพวกเราก็ต้องรีบหาวิธีฆ่ามันและออกไปจากที่นี่กัน”
เทียนรู้สึกว่ามันตลกจริงๆเมื่อทุกๆคนบอกว่าจะล้างแค้น “แต่ฉันคิดว่าพวกเราควรออกจากที่นี่ทันที! แม้ว่าพวกนายจะฆ่าสัตว์ร้ายตัวนี้ได้ลูน่าก็คงไม่ฟื้นขึ้นมาหรอก กลับกันพวกเราจะต้องเหนื่อยเพิ่มมากขึ้น หรือถ้าเลวร้ายกว่านั้นก็อาจจะมีการบาดเจ็บล้มตายเพิ่มมากขึ้น!”
มาร์ตินตะโกนใส่เทียนทันที “หุบปาก! แกไม่เคยมีเพื่อนเลยหรือไง?”
เทียนขมวดคิ้วขึ้นมาทันทีแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
เอียนโบกมือของเขาเพราะเขาไม่อยากให้ทุกคนมีปัญหากันในตอนนี้ “เทียน ลูน่าอยู่ในทีมของเรามานาน เธอร่วมทำภารกิจกับพวกเรามาหลายครั้ง มีหลายครั้งที่เธอได้ช่วยชีวิตของพวกเราเอาไว้ นายเพิ่งจะมาทำภารกิจครั้งแรกคงยังไม่ได้เข้าใจถึงความสัมพันธ์พวกนี้แต่ฉันก็อยากให้นายเคารพการตัดสินใจของพวกเรา”
เทียนพยายามกลั้นหัวเราะขณะที่เขาพูดต่อไปว่า “ฉันเข้าใจความรู้สึกที่ทุกๆคนมีในตอนนี้ แต่สถานการณ์ในตอนนี้มันซับซ้อนกว่าที่พวกเราคิดเอาไว้ ไม่รู้ว่ามีสัตว์ร้ายถูกฟักออกมาจากไข่กี่ตัวในตอนที่พวกเราเข้ามาที่นี่ และนอกจากนี้ตลอด 5 วันที่พวกเราอยู่ที่นี่มันก็ไม่มีการเคลื่อนไหวเลย ทำไมมันถึงรอคอยอยู่เงียบๆมาโดยตลอด?”
“เพราะว่ามันไม่ใช่สัตว์ร้ายธรรมดา! มันมีสติปัญญาและความฉลาด! สัตว์ร้ายตัวนี้ไม่ได้โจมตีพวกเราก่อนหน้านี้มันรอจนกว่าพวกมันจะเติบโตจนมีพละกำลังมากขึ้นจากนั้นจึงเลือกโจมตีลูน่า!”
เอียน ตกตะลึง
เทียนพูดต่อไปว่า “มันเติบโตจนมีพละกำลังมากขึ้นและแน่ใจว่าสามารถฆ่าพวกเราได้! ช่วงเวลาที่ผ่านมา 5 วันนั้นมันซ่อนตัวอยู่ในความมืดและเฝ้ามองพวกเราอยู่! บางทีตอนนี้มันอาจจะอยู่ห่างพวกเราไปแค่ไม่กี่เซนติเมตรก็ได้! แต่พวกเรากลับไม่รู้เลยว่ามันอยู่ที่ไหน!”
โรสแมรี่และรูบี้คิดว่าที่เทียนพูดมาก็มีเหตุผล ตอนที่พวกเขาเข้ามาที่ถ้ำนี้พวกมันไม่เคยปรากฏตัวออกมาเลยแต่การปรากฏตัวเพียงครั้งเดียวก็ทำให้พวกเขาต้องสูญเสียสมาชิกในทีมไปทันที!
เหงื่อของทุกๆคนเริ่มไหลออกมาด้วยความตึงเครียดและกังวลว่าสัตว์ร้ายตัวนั้นอยู่ที่ไหนในตอนนี้