The Dark King – กษัตริย์แห่งความมืด - ตอนที่ 538
The Dark King – Chapter 538 ตระกูลแฟเทอร์
ทุกๆคนอดไม่ได้ที่จะหันไปมองรูบี้
รูบี้มองไปที่เอียนด้วยความไม่พอใจแต่มันก็หายไปทันที เขารู้ดีว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาจะโกรธเอียนในตอนนี้เพราะเขาต้องพึ่งพาชายคนนี้อยู่อีกมาก ที่นี่คือแดนรกร้างและเอียนคือผู้นำของทุกๆคน แม้ว่าเขาจะไม่พอใจแค่ไหนก็ทำได้เพียงต้องเก็บเอาไว้ในใจ
ตอนนี้สิ่งที่ทุกคนสนใจก็คือปัญหาที่ใหญ่กว่า
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆและพูดออกมาเบาๆว่า “ฉันกลัวมากตอนที่เห็นว่าทุกๆคนวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วในตอนที่ฉันล้มลงไปที่พื้น แต่เมื่อฉันยืนขึ้นมาได้ ฉันก็เห็นรูขนาดใหญ่ที่อยู่บนหลังของมัน และเริ่มคิดว่ามันอาจจะบาดเจ็บหนักจนขยับไปไหนไม่ได้หรือมันอาจจะตายไปแล้วก็ได้”
เทียนพยักหน้าเมื่อได้ยินแบบนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้หันไปมองแต่ก็สามารถเห็นว่าเอียน มาร์ติน และโรสแมรี่ ขณะที่เขาหันหน้าไปคุยกับรูบี้นั้นเขาสามารถเห็นทั้ง 3 คนที่อยู่ด้านหลังเขามองตากันไปมาเพื่อวางแผนอะไรบางอย่างได้
เทียนแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย เขารวบรวมพลังของตนเองเอาไว้เพื่อรับการโจมตีที่อาจจะเข้ามาได้ตลอดเวลา
แม้ว่าเพรชฆาตเงาอสูรตัวนี้จะตายแล้วแต่ศพของมันถือเป็นสมบัติชิ้นใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัญลักษณ์เวทย์มนต์ของสัตว์ร้ายในตำนานที่ไม่อาจประเมินค่าได้ จากสิ่งที่เขาได้เห็นดูเหมือนว่าทั้งสามคนที่อยู่ด้านหลังของเขานั้นน่าจะตัดสินใจว่าต้องฆ่าเขาเป็นคนแรก
รูบี้เห็นสายตาของเอียนและ 3 คนนั้นสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขากัดฟันและหันมาพูดกับเทียนว่า “เรามาร่วมมือกันเถอะ!”
“ร่วมมือ?” เทียนขมวดคิ้วขึ้นมาทันที ดูเหมือนว่าตอนนี้รูบี้คงรู้ดีว่าสถานการณ์ในตอนนี้เป็นเช่นไร
“พวกเขาอยากจะฆ่านาย เราต้องร่วมมือกัน! สัญลักษณ์เวทย์มนต์ของเพรชฆาตเงาอสูรจะเป็นของนาย แต่เมื่อเรากลับไปรายงานเรื่องนี้กับตระกูลดราก้อนเราจะแบ่งของรางวัลกันคนละครึ่ง นายว่าไง?” รูบี้จ้องมองไปที่ดวงตาของเทียน รูบี้ภาวนาให้ตัวเองคิดถูก เขาไม่ได้อยากจะแก้แค้นเอียนและคนอื่นๆ แม้ว่าเขาจะผ่านช่วงเวลาที่วิกฤตก่อนหน้านี้มาได้แต่ความสัมพันธ์ของเขากับทุกๆคนในทีมก็คงลดน้อยลงไปอย่างแน่นอน แม้ว่าเขาจะถูกเลือกให้ไปทำภารกิจครั้งหน้ากับทีมแต่เขาก็อาจจะต้องเป็นศพอยู่ภายในแดนรกร้างก็ได้
ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะต่อสู้
เทียนหันกลับไปมองและพยักหน้า “ได้”
สีหน้าของทั้ง 3 คนเปลี่ยนไปเล็กน้อย มาร์ตินจ้องมองมาที่รูบี้และตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “ไอ้เวรเอ้ยแกรู้ตัวหรือเปล่าว่าแกพูดอะไรออกมา? พวกเราคือทีมเดียวกัน! ทำไมพวกเราจะต้องฆ่ากันเองด้วย?”
“ใช่ รูบี้อย่าโง่ไปหน่อยเลยหน้า” โรสแมรี่พูดออกมาทันที
เอียนจ้องมองไปที่รูบี้จากนั้นก็กล่าวคำขอโทษออกมา “สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เป็นความผิดของฉันเอง ฉันกังวลมากไปหน่อยและตอนนั้นฉันก็ไม่เห็นนาย ฉันต้องขอโทษจริงๆ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้สีหน้าของรูบี้ก็เย็นชาขึ้นมาทันที ถ้าหากว่าเอียนขอโทษออกมาด้วยใจจริงเขาอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้แต่คำพูดของเอียนในตอนนี้มันหมายความว่า “ไม่ได้ตั้งใจ” ถ้าเขาเชื่อเอียนเขาคงเป็นคนที่โง่ที่สุดในโลกอย่างแน่นอน
เทียนหันไปมองการแสดงของทุกๆคนและยิ้มออกมา “ก่อนหน้านี้นายเคยพูดว่า ‘พวกเราจะเป็นตายร่วมกัน’ แต่ในตอนที่นายหนีไปก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะไม่เป็นแบบนั้นเลยนะ นี่หรอที่ไหนเรียกว่า ‘ทีม’ ?”
สีหน้าของเอียนเปลี่ยนไปเล็กน้อยขณะที่เขามองมาที่เทียนและพูดออกมาอย่างเย็นชาว่า “ได้หมายความว่ายังไงกัน? นายอยากจะเก็บหนอนวิญญาณกาฝากของสัตว์ร้ายในตำนานเอาไว้คนเดียวหรือไง?”
เทียนตอบกลับมาอย่างเฉยเมย “สิ่งที่นายพูดออกมาคงเป็นความคิดของนายมากกว่า แล้วนายวางแผนจะฆ่าฉันกลับรูบี้ยังไงล่ะก่อนที่นายจะจัดการกับอีก 2 คนที่เหลือ? หรือว่านายจะใช้โอกาสนี้ล้อมโจมตีฉันกับรูบี้เพื่อรักษาพละกำลังของตนเองเอาไว้ก่อนที่จะฆ่าอีก 2 คนที่เหลือในตอนที่พวกเขาเหนื่อยมากที่สุด?” เขาหันไปหามาร์ตินและโรสแมรี่พร้อมกับพูดต่อไปว่า “นายแน่ใจหรอว่าจะรอดไปได้หลังจากที่เรื่องนี้จบลง? เขาตัดสินใจฆ่าฉันกับรูบี้ได้อย่างง่ายดาย พวกนายก็คงไม่ต่างอะไรจากฉันหรอก”
“ไร้สาระ!” เอียนตะโกนออกมาทันที
เขากำลังสั่นด้วยความโกรธแต่ลึกๆในใจแล้วเขาก็เริ่มรู้สึกตัวขึ้นมา เขาหันไปมองโรสแมรี่และมาร์ติน แม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าคำพูดของเทียนจะทำให้ความคิดของทั้งสองคนนั้นเริ่มไขว้เขวแต่ก็รู้ดีว่าตนเองต้องทำอะไรบ้างแล้วในตอนนี้ เขารู้ว่าเทียนเป็นคนฉลาด เพราะในตอนนี้ตรงหน้าของเขานั้นเป็นหนอนวิญญาณกาฝากของสัตว์ร้ายในตำนานและยังมีไข่ของสัตว์ร้ายในตำนานจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่ภายในถ้ำ มันจึงเป็นเรื่องที่ยากมากที่เขาจะสามารถเชื่อใจคนอื่นได้
สีหน้าของมาร์ตินและโรสแมรี่เริ่มซีดไปในตอนนี้ขณะที่เหงื่อของพวกเขาเริ่มไหลออกมา เมื่อมองไปยังรอยยิ้มของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาก็ทำให้พวกเขาเริ่มรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา เพียงแค่คำพูดไม่กี่คำก็สามารถทำลายความสัมพันธ์ของคนในทีมได้ในทันที นี่มันร้ายกาจยิ่งกว่าอาวุธชนิดไหน!
“อย่าไปฟังที่มันพูด มันพยายามทำให้พวกเราแตกหักกันเอง ถ้าพวกเราแยกกันคงสู้มันไม่ได้แน่นอน พวกเราต้องร่วมมือกัน!” เอียนพูดพร้อมกับกัดฟัน
มาร์ตินและโรสแมรี่ต่างก็มองมาที่เขาและพยักหน้าเล็กน้อยแต่ในใจของพวกเขาต่างก็เริ่มมีความระแวงขึ้นมา ทั้งสามคนไม่กล้าไว้ใจกันอย่างสนิทใจ ขณะเดียวกันพวกเขาก็ไม่กล้าขยับตัวไปไหน เหมือนที่เทียนได้พูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ถ้าหากพวกเขาต้องเข้าไปสู้กับเทียนแม้ว่าจะชนะได้แต่ผู้ที่เหลือพลังมากที่สุดก็คงฆ่าอีก 2 คนที่เหลืออย่างแน่นอน
เมื่อเห็นว่าเทียนกำลังจะพูดอะไรบางอย่างขึ้นมาอีกครั้ง เอียนก็รู้ดีว่าเขาจะปล่อยให้ชายหนุ่มคนนี้พูดอะไรออกมาอีกไม่ได้ “รูบี้ ทำไมแกยังไม่โจมตีอีก?!”
ทั้งเทียนและรูบี้ปากก็ตกตะลึง
ถ้าหากเป็นสถานการณ์ปกติเทียนคงต้องรีบหันกลับไปมองที่รูบี้และหลบการโจมตีอย่างแน่นอน เหตุผลนั้นก็เพราะเขายังตกตะลึงและไม่คิดว่าเอียนจะพูดอะไรแบบนี้ออกมาแต่ต่อจากนั้นเขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้
เขาหันกลับไปมองรูบี้อีกครั้งหนึ่ง
ทั้งสามคนเห็นโอกาสนี้และรีบก้าวเข้ามาข้างหน้า
ในตอนนี้การมองเห็น 270 องศาของเทียนเป็นประโยชน์สำหรับเขาอย่างมาก แม้ว่าเขาจะหันหลังอยู่แต่ก็สามารถเห็นการเคลื่อนไหวของทั้งสามคนได้ อ้างจากของเขาเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เขาพุ่งตัวเข้าไปหาเอียนที่อยู่ตรงกลางทันที
ปัง! เขายกมือที่คมเหมือนกับมีดฟันเข้าไปที่ข้อมือของเอียนจากนั้นก็งอข้อศอกและโจมตีเข้าไปที่หน้าอกของเอียน เอียนกำลังตกตะลึงและรีบก้าวถอยหลังไปทันที เขาถูกโจมตีอย่างรุนแรงและเกือบจะกระอักเลือดออกมา
เทียนเอนตัวหลบมีดของมาร์ตินและดาบของโรสแมรี่ที่โจมตีเข้ามา ร่างกายของเขาลื่นไหลราวกับปลาไหล เขารีบถอยกลับมาเพื่อรักษาระยะอีกครั้งจากนั้นก็หันไปมองรูบี้ที่อยู่ข้างๆพร้อมกับพูดขึ้นมาเบาๆว่า “เตรียมตัวให้พร้อม”
รูบี้พยักหน้าและหยิบขวานของเขาออกมา
เอียนกัดฟันของเขาและร้องตะโกนออกมาขณะที่เขาพุ่งตัวออกไปปะทะศัตรูพร้อมกับเทียน
ทันใดนั้นก็มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น
ฟิ้ว!
มีลมที่รุนแรงพัดขึ้นมาบนยอดเขาแห่งนี้
เสียงของลมดังมาจากท้องฟ้าจนได้ยินอย่างชัดเจน
ทั้ง 5 คนที่กำลังต่อสู้กันอยู่บนพื้นจำเป็นต้องหยุดการต่อสู้ไปก่อนและหันขึ้นไปมองบนท้องฟ้าก่อนที่จะตกตะลึง
พวกเขาเห็นปีกค้างคาวขนาดใหญ่ที่กำลังบินลงมาจากท้องฟ้า เงาของปีกนั่นบดบังแสงอาทิตย์ที่ส่องลงมาที่พวกเขา ทุกๆคนต่างก็อยู่ในความตกตะลึงและเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา
เมื่อเทียนเห็นว่าเจ้าของปีกขนาดใหญ่นี้เป็นใครเขาก็ต้องตกตะลึงไปอีกครั้ง
ไม่ใช่สัตว์ร้าย… แต่เป็นมนุษย์!
เทียนเห็นอ่ะชุดเกราะของชายหนุ่มคนนี้มีรูปร่างที่แปลกประหลาด มันแตกต่างจากชุดเกราะของตระกูลดราก้อนอย่างสิ้นเชิง สีก็ไม่เหมือนกัน ที่หน้าอกของชายคนนี้มีเหรียญตราสีทองปิดเอาไว้อยู่ — มันเป็นรูปปีกสีทองสองข้างที่กำลังกางออก
“ตระกูลแฟเทอร์!” เอียนและคนอื่นๆต่างก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมาทันที