The Dark King – กษัตริย์แห่งความมืด - ตอนที่ 587
The Dark King – Chapter 587 ไม่ใช่วันที่ดี
เทียนเดินตามทุกๆคนไปเงียบๆ แม้ว่ายูเรก้าจะสงบนิ่งอยู่เสมอแต่ในช่วงเวลาที่วิกฤตนั้นเขาพร้อมที่จะล้มเลิกภารกิจปกป้องเทียนและเอาชีวิตรอดเป็นคนแรก
เมื่ออยู่ด้านนอกกําแพงยักษ์ชีวิตของตนเองคือสิ่งที่สําคัญที่สุด
ไม่นานทุกๆคนก็เดินเข้ามาลึกมากขึ้น
ชายวัยกลางคนที่เดินถือคบเพลิงนําหน้าตึงเครียดทุกๆการย่างก้าวของเขา เขาต้องหลบโครงกระดูกจํานวนมากที่อยู่ที่พื้น
เทียนสามารถมองเห็นในความมืดได้และหันไปมองรอบๆที่นี่ ทันใดนั้นเขาก็พบว่าที่นี่เป็นเหมือนห้องโถงทรงกลมที่มีขนาดใหญ่มากไม่ว่าตําแหน่งไหนก็มีซากโครงกระดูกที่สวมเสื้อผ้าในยุคเก่าอยู่
ทั่วทั้งห้องโถงแห่งนี้ต่างก็มีศพที่กระจายไปทั่ว นอกจากนี้ที่มุมห้องยังมีโครงกระดูกที่วางซ้อนทับกันอย่างหนาแน่นทําให้ที่นี่ดูน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อเห็นว่าโครงกระดูกเหล่านี้สวมเสื้อผ้าที่เขาคุ้นเคย เทียนก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาในใจ มันให้ความรู้สึกเหมือนกับเขาเป็นเพียงคนเดียวที่เหลือรอดมาจากอดีต เขานึกถึงเมืองขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยตึกสูงมากมาย ท้องถนนที่สะดวกสบายและมีรถยนต์แล่นไปมา ผู้คนที่เป็นมิตรและเขาสามารถเชื่อใจได้
ภาพของพ่อ แม่ และพี่สาวของเขาค่อยๆปรากฏขึ้นในใจ
เขารู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างเพิ่งจะเกิดขึ้นไปเมื่อวานเท่านั้น
ไม่ว่านานแค่ไหนเขาก็จะไม่มีทางลืมภาพเหล่านี้
“นี่คือโครงกระดูกของมนุษย์ยุคเก่า ทําไมถึงมีเยอะขนาดนี้?” หญิงสาวผมสีทองจ้องมองไปยังโครงกระดูกที่อยู่รอบๆตัวและเธอก็ได้เห็นเศษกระดูกที่หักและแตกกระจายไปทั่วพื้น
“โครงกระดูกเหล่านี้เปราะบางจริงๆ” ชายหนุ่มอีกคนในที่กล่าวขึ้นมาขณะที่เขาก้าวเท้าเหยียบกระดูกที่อยู่บนพื้นโดยไม่สนใจที่จะหลบแม้แต่น้อย
“แม้ว่าจะผ่านมากว่า 300 ปีแล้วแต่กระดูกของพวกเขาก็ยังคงเปราะบาง ฉันเคยได้ยินมาว่าถ้าหากคนเราตายไปเมื่อผ่านไปอีก 100 ปีกระดูกของเราก็จะแข็งเหมือนเหล็ก แต่กระดูกพวกนี้เปราะบางจริงๆ”
“ไม่ว่ายุคสมัยไหนก็ต้องมีผู้ที่แข็งแกร่งและผู้ที่อ่อนแอ คนเหล่านี้น่าจะเป็นผู้ที่อ่อนแอ” ยูเรก้าตอบกลับมาอย่างเฉยเมย เขาหันไปมองรอบๆตัวที่นี่เงียบจนเกินไปเงียบจนไม่มีเสียงอะไรเลย ไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ที่นี่จริงๆหรอ?
เมื่อเทียนได้ยินคําพูดของชายหนุ่มคนนั้นเขาก็เริ่มใช้ความคิดขึ้นมาและหันไปมองโครงกระดูกที่อยู่รอบๆตัวทันที เขาแน่ใจแล้วว่าที่นี่น่าจะสร้างขึ้นมาก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติดูจากโครงกระดูกที่อยู่บนพื้นแล้วส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงและเด็ก และไม่มีอาวุธจากยุคเก่าที่เก็บเอาไว้ที่นี่เลย
เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อยแต่มันก็ยังถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะถ้าหากเขาพบอาวุธล้ำสมัยจากยุคเก่าจริงๆ ยูเรก้าคงต้องมอบมันให้กับตระกูลดราก้อนอย่างแน่นอน และเมื่อมันตกอยู่ในมือของผู้คนที่อยู่ในกําแพงชั้นในคงไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอนและมันจะเป็นอุปสรรคสําหรับเขาในอนาคต
“ดูเหมือนจะมีการต่อสู้เกิดขึ้นที่นี่”
“ที่พื้นมีเศษกระดูกที่แตกออกมามากมาย” หญิงสาวผมสีทองกล่าวออกมา
เทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้โชคดีที่ทางกองทัพส่งพวกเขาเข้ามาอยู่ในที่หลบภัยแห่งนี้ การต่อสู้ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นเพราะอาหาร
“หรือว่าพวกเขาจะเปิดประตูออกไปไม่ได้?” เทียนมองกลับไปที่ประตูแต่ก็ไม่เห็นเครื่องสแกนม่านตา เขาขมวดคิ้วขึ้นมาทันที ถ้าหากพวกเขาเปิดประตูออกไปไม่ได้จริงๆก็ต้องต่อสู้เพื่อแย่งชิงอาหาร กล่าวคือผู้ที่นําคนเข้ามาที่นี่ตั้งใจที่จะเปิดประตูของที่หลบภัยหนีออกเมื่อภัยพิบัติจบลง แต่ดูเหมือนจะไม่ได้เป็นแบบนั้น
หรือการที่ที่นี่เปิดประตูจากทางข้างในไม่ได้น่าจะมีเหตุผลอื่นอยู่ด้วย
ไม่นานชายวัยกลางคนที่ถือคบเพลิงก็เดินไปจนถึงตรงกลางของห้องโถงทรงกลมในตอนนี้ เทียน เดินตามเขาไปและผ่านโครงกระดูกมากมาย สายตาของเขาหันไปมองรอบๆและสิ่งที่ เขาเห็นก็คือบนพื้นมีโครงกระดูกร่างหนึ่งที่กําลังนั่งเอนตัวพิงกําแพง ทันใดนั้นเขาก็เห็นว่าด้านหลังของศพที่นั่งพิงกําแพงนั้นรอยแตกของผนังอยู่วัดจากความสูงแล้วรอยแตกนั้นน่าจะ ยาวประมาณ 3 เมตร
เขาหรี่ตาลงและรีบหันไปมองรอบๆตัวอย่างรวดเร็วหลังจากที่เพ่งมองอยู่นานเขาก็พบว่ามัน ไม่ใช่ภาพลวงตามีช่องว่างเป็นเหมือนประตูลับอยู่ด้านหลังของศพนั้นจริงๆ
เขารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันทีและไม่ได้บอกเรื่องนี้กับยูเรก้าและคนอื่นๆ แต่ในทางกลับกันเขารอคอยเวลาที่จะได้เข้าไปภายในนั้น ด้วยขนาดของที่นี่ยูเรก้าและทุกๆคนหาเขาไม่เจอแน่นอน
แม้ว่าเขาจะยังไม่รู้ว่าด้านหลังของช่องว่างนั้นคืออะไรแต่เขาก็ไม่อยากบอกเรื่องนี้กับคนอื่น
ถ้าหากว่าด้านหลังของช่องว่างนั้นคือสมบัติอันล้ำค่า เขาอาจต้องกลายเป็นผู้ที่ตายอยู่ในนี้อีกคนหนึ่ง!
“นั่นมันเงาอะไร?” เทียนชี้นิ้วไปอีกทางหนึ่งทันที
เมื่อได้ยินขี้เทียนกล่าวออกมา ยูเรก้าก็รู้สึกประหลาดใจและกังวลเล็กน้อย แต่ผู้ที่รู้สึกกังวลใจมากที่สุดก็คือชายวัยกลางคนที่เดินนําหน้า เขากลืนน้ําลายลงไปและถือคบเพลิงเดินไปตามทางที่เทียนสีก่อนหน้านี้ เขาเดินไปช้าๆด้วยความตึงเครียดแต่เมื่อเห็นว่ามันเป็นแค่กองกระดูกอีกกอง
หนึ่งเขาก็รู้สึกโล่งใจทันที ในใจของเขารู้สึกโกรธขึ้นมาแต่เมื่อคิดถึงสถานะของเทียนที่เขายังไม่รู้เขาก็ทําได้เพียงเก็บงําความโกรธของตนเองเอาไว้
“ที่แห่งนี้กว้างมาก ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้วมันน่าจะไม่มีอันตรายอะไรอีก ทุกคนเริ่มจุดไฟกันเถอะ” ยูเรก้าพูดออกมาทันที
เมื่อได้ยินแบบนี้เทียนก็รู้สึกว่ามันไม่ดีแล้ว เมื่อทุกคนจุดไฟขึ้นมาช่องทางลัดที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ก็อาจจะถูกค้นพบได้
เมื่อหญิงสาวผมสีทองได้ยินคําสั่งก็รีบหยิบคบเพลิงและน้ํามันเชื้อเพลิงออกมาทันที เธอจุดคบเพลิงและปักเอาไว้ตามตําแหน่งต่างๆ เมื่อครบเพลิงจํานวนมากถูกจุดขึ้นมาห้องโถงแห่งนี้ ก็ดูสว่างไสวทันที..
“ต้องเจอแน่” เทียนเห็นว่าหญิงสาวคนนั้นยังคงจุดคบเพลิงอย่างต่อเนื่อง เขาคิดว่าประตูลับที่เขาค้นพบนั้นคงจะถูกคนอื่นๆพบเจอในอีกไม่ช้าก็เร็ว ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีโอกาสแก้ไขเรื่องนี้ได้เลย
ดูเหมือนว่าวันนี้จะไม่ใช่วันที่ดีสําหรับเขาสักเท่าไหร่
ตึก!
ทันใดนั้นด้านนอกของที่หลบภัยแห่งนี้ก็มีเสียงเท้าจํานวนมากกําลังเดินเข้ามา มันเป็นเสียงเท้าที่ลากมาตามพื้นดิน
ทุกๆคนต่างก็หันกลับไปมองด้วยความตกตะลึง
ในตอนนี้สีหน้าของเทียนเปลี่ยนไปทันที เขาเห็นฝูงซอมบี้จํานวนมากที่อยู่ด้านหน้าของที่หลบภัยแห่งนี้ และยังมีซอมบี้ยักษ์อีก 3 ตัว!
“แย่แล้วพวกซอมบี้ยักษ์มาที่นี่!” เขารีบบอกทุกๆคนทันที
เมื่อยูเรก้าได้ยินคําพูดของเทียน เขาก็ตกตะลึงทันทีและคิดว่าการรับรู้ของเด็กหนุ่มคนนี้ทรงพลังมากจริงๆ! เขารีบใช้ความคิดอย่างรวดเร็ว ไม่นานเขาก็ได้เห็นซอมบี้ยักษ์ทั้ง 3 ตัวที่กําลังวิ่งเข้ามาที่นี่อย่างรวดเร็ว เขาตกตะลึงและไม่คิดว่าจะมีซอมบี้ยักษ์ที่นี่ถึง 3 ตัว!
“บ้าเอ้ย!” ยูเรก้กัดฟันและพูดออกมาว่า “พวกนายถอยไปก่อน!”
หลังจากที่เขากล่าวจบเขาก็พุ่งตัวไปทันที
“พวกนั้นคือซอมบี้ยักษ์หรอ?” หญิงสาวผมสีทองเดินถอยกลับไปด้วยความหวาดกลัว นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอสามารถต่อสู้ด้วยได้
เทียนจ้องมองไปที่ยูเรก้าและรู้ว่าซอมบี้ยักษ์ทั้ง 3 ตัวนี้แม้แต่เขาก็ไม่สามารถรับมือได้แน่นอน