The Dark King – กษัตริย์แห่งความมืด - ตอนที่ 616
The Dark King – Chapter 616 ฤดูฝนกําลังจะมาถึงแล้ว
โลกยังคงหมุนไป
เพียงพริบตาเวลาก็ได้ผ่านไปกว่า 2 เดือนแล้ว
หิมะสีดําที่เกาะตัวอยู่บนพื้นด้านนอกกําแพงยักษ์ค่อยๆละลายไป อุณหภูมิอากาศในตอนนี้ดูเหมือนจะสูงขึ้นเล็กน้อย ฤดูฝนกําลังจะมาถึงแล้ว
นี่ถือเป็นข่าวร้ายสําหรับทุกๆคน เมื่อเทียบกับหิมะที่ตกลงมาแล้วทุกๆคนต่างก็รู้สึกเกลียดฤดูฝนและการที่น้ําท่วมขังในเมืองมากยิ่งกว่า
“หัวหน้าครับ ทําไมพวกเราถึงออกมาตรงนี้?” ไซลัสมองไปยังซากซอมบี้นับร้อยตัวที่กระจัดกระจายอยู่รอบๆด้วยความกังวลและถามหัวหน้าทีม “ผมได้ยินมาว่าเมื่อ 2 เดือนก่อนมีทีมผู้พิทักษ์ออกมาปฏิบัติภารกิจที่บริเวณนี้ ปกติแล้วการที่ทีมผู้พิทักษ์จะมีคนตายหรือสูญหายไปนั้นเป็นเรื่องธรรมดาแต่นี่มันไม่มีเบาะแสอะไรเลย มีข่าวลือว่าอาจจะมีสัตว์ร้ายระดับสูงที่ซ่อนตัวอยู่บริเวณนี้พวกเขาอาจจะปะทะกับมันด้วยความบังเอิญ”
ซอน์เนียร์ตบไปที่ไหล่ของไซลัสและพูดออกมาว่า “ไม่เอาน่า นั่นมันก็แค่ข่าวลือ เห็นซอมบี้ที่อยู่รอบๆบริเวณนี้ไหม มันคือปรากฏการณ์คลื่นซอมบี้ เมื่อราชาซอมบี้ปรากฏตัวออกมามันจะเรียกซอมบี้จํานวนมากให้เข้ามาหามันนั่นคือปรากฏการณ์คลื่นซอมบี้ ราชาซอมบี้ถูกท่านไอช่าสังหารไปก่อนหน้านี้ก่อนที่ท่านจะหายตัวไป มีการพบอาวุธของท่านไอช่าและถูกส่งมอบไปให้กับท่านเฮลี่ย์”
” พระเจ้าช่วยลูกด้วย ลูกขอให้การเดินทางครั้งนี้ปลอดภัยด้วยเถอะ” ไซลัสรู้สึกกังวลจนต้องสวดมนต์อ้อนวอนต่อพระเจ้า
แลงดอนยิ้มและพูดออกมาว่า “นี่มันแดนรกร้างนะ ดินแดนที่แม้แต่พระเจ้ายังไม่สนใจแล้ วนายคิดหรอว่าพระเจ้าจะรับฟังนาย”
ไซลัสมองไปที่เธอและกล่าวว่า “ไร้สาระน่า พระเจ้าคือผู้สร้างโลกใบนี้ขึ้นมา พระเจ้าอยู่ทุกหนทุกแห่งในโลกใบนี้”
แลงดอนได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกไม่พอใจและพูดออกมาว่า “แต่ฉันคิดว่าน่าจะไม่ใช่พระเจ้า น่าจะเป็นปีศาจมากกว่า”
” หุบปาก!” ซอน์เนียร์พูดออกมาทันที
ทั้งสองคนยังคงโต้เถียงกันต่อไป ซอน์เนียร์ก็พูดขึ้นมาทันทีว่า “คุณเป็นใคร?” มีร่างที่ผอมบางยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา ผู้ที่ยืนอยู่ตรงนั้นผอมจนถึงกระดูกและมีดวงตาที่ลึกโหล คนคนนั้นสวมชุดเกราะที่แตกหักและมีตราของตระกูลดราก้อนอยู่ในตอนนี้กําลังจ้องมองมาที่พวกเขาทั้ง 5 คนดวงตาที่ลึกโหลนั้นมีสีดําสนิทปราศจากอารมณ์ใดๆ มันทําให้ซอน์เนียร์รู้สึกได้ถึงความอึดอัด
แลงดอนและไซลัสที่กําลังโต้เถียงกันก็เงียบไปทันที โดยเฉพาะแลงดอนเธอมีความสามารถในการตรวจจับความร้อนแม้ว่าเธอจะเถียงกับไซลัสอยู่แต่เธอก็สามารถรับรู้ได้ถึงพื้นที่รอบๆตัวได้แต่ในตอนที่คนที่อยู่ตรงหน้าปรากฏตัวขึ้นมานั้นเธอไม่สามารถรับรู้ได้เลย จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นมาราวกับภูตผี!
ร่างนั้นจ้องมองทุกๆคนโดยไม่ขยับเขยื้อนหรือพูดอะไรออกมา จากนั้นก็หายไปในอากาศทันที
ไซลัสจ้องมองอีกฝ่ายหายตัวไปด้วยความสงสัย หรือว่านี่จะเป็นภาพลวงตา? จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงซอน์เนียร์ที่เป็นหัวหน้าทีมตะโกนออกมา ” ระวังด้วย!” เขารู้สึกตัวขึ้นมาทันทีเมื่อร่างที่เหมือนกับภูตผีนั้นหายตัวไปตรงหน้าของตนเองราวกับเทเลพอต สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันน่าเหลีอเชื่อจนเกินไป ทันใดนั้นภูตผีที่หายไปก่อนหน้านี้ก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขาและหน้าท้องของเขารู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก
หลังจากโจมตีเสร็จภูตผีตนนั้นก็หายตัวไปทันที แลงดอนที่มีการรับรู้ที่ยอดเยี่ยมก็ล้มลงไปที่พื้นและมีแสงประกายพาดผ่านลําคอของเธอทันที หญิงสาวคนนั้นตายไปโดยที่ยังไม่รู้ตัวเลยด้วย
“ไม่!” ซอน์เนียร์กรีดร้องและดึงดาบของตนเองออกมา
ดาบของเขานั้นมีน้ําหนักเบาแต่แหลมคมและรวดเร็ว
หลังจากโจมตีออกไปหลายครั้งเขาก็ไม่สามารถสัมผัสภูตผีตัวนี้ได้เลย
หลังจากนั้นเมื่อทั้งสองปะทะกันอีกครั้งดาบในมือของซอน์เนียร์ก็หายไปทันทีและไปปรากฏอยู่ในมือของภูตผีตนนั้น ต่อจากนั้นดาบก็ถูกฟันผ่านร่างกายของซอน์เนียร์ไปทันที นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับรู้ว่าดาบของตนเองนั้นคมมากแค่ไหน
หลังจากที่เขาตายไปภูตผีตนนั้นก็โยนดาบลงไปที่พื้นทันที
ภูตผีตนนั้นแบบร่างของทุกๆคนขึ้นมาบนหลังของมันและเดินเข้าไปในปา
ไม่นานภูตผีตนนั้นก็มาหยุดลงด้านหน้าก้อนหินใหญ่ มันผลักก้อนหินออกไปเผยให้เห็นช่องทางลับที่สามารถลงไปด้านล่างได้ก่อนจะค่อยๆหย่อนศพลงไปในช่องทางลับนั้น จากนั้นก็ตามลงไปเป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้วที่เขาอาศัยอยู่ในห้องควบคุมขนาดเล็กนี้
ห้องควบคุมมีขนาดเล็กและเต็มไปด้วยโครงกระดูกมากมาย มีซากศพที่อยู่ที่ขึ้นและเลือดที่ไหลออกมานั้นเหนียวเหนอะหนะไปทั่วห้อง ที่มุมของห้องมีคราบปัสสาวะเปื้อนอยู่และมันส่งกลิ่นเหม็นออกมา นอกจากกองหนังสือที่บ่งบอกถึงความเจริญของมนุษย์แล้วสิ่งที่อยู่ในห้องนี้มีเพียงสิ่งสกปรกทั้งสิ้น!
เทียนโยนร่างของเหยื่อที่เขาล่ามาได้วันนี้เข้าไปในห้องควบคุม เขานั่งลงและพักให้หายเหนื่อยกลิ่นเหม็นของห้องนี้ยังคงทําให้เขารู้สึกตกตะลึงได้ทุกครั้ง เมื่อมองไปยังร่างที่งดงามที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตรตรงหน้าเมื่อเทียบกับความสกปรกและกลิ่นเหม็นราวกับนรกแล้ว เธองดงามราวกับดอกบัวที่ถูกล้อมรอบเอาไว้ด้วยโคลนตม
ตราบใดที่เธอยังมีชีวิตอยู่แม้จะต้องใช้ชีวิตอยู่ในที่แบบนี้เทียนก็รู้สึกว่าไม่ได้ลําบากเลยเธอยังคงงดงามเหมือนดังเดิม
ตอนนี้เขาผอมลงไปจนร่างกายเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูก แก้มตอบ และดวงตาลึกโหล
“เมื่อการฝึกครั้งสุดท้ายจบลง พวกเราจะได้กลับบ้านกันสักที” เขาพูดกับเธอเบาๆ
ไอช่ายังคงยืนนิ่งไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมา ไม่ได้ร้องคํารามหรือเคลื่อนไหวใดๆ แม้แต่เปลีอกตาของเธอก็ไม่มีการขยับ เธอยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าเทียนเหมือนกับหุ่นไม้
เทียนรู้สึกชินกับสิ่งที่เธอเป็นแล้วจึงยิ้มออกมาเล็กน้อย หลังจากที่ได้พักจนหายเหนื่อยเขาก็ส่งศพที่ตนเองล่ามาได้ให้กับเธอ
กลิ่นหอมของเลือดที่ไหลออกมาจากลําคอของแลงดอนดึงดูดความสนใจของไอช่าจนเธอต้องกางกรงเล็บของตนเองออกมา ดวงตาสีดําของเธอจับจ้องไปที่อาหารของตนเองและทําจมูกฟุดฟิดเพื่อสูดดมกลิ่น ปากของเธอมีอาการสั่นอยู่ตลอดเวลา ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอพยายามอดทนต่อความอยากอาหาร
เทียนยังคงเงียบอยู่และเวลาก็ได้ผ่านไปประมาณ 5 นาที ในตอนนี้การตอบสนองของไอซีอว่าดีขึ้นมากมือของเธอไม่ได้มีการขยับใดๆ ดวงตาของเธอยังคงจ้องมองมาที่ศพของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า
เทียนเห็นว่ามันน่าจะถึงขีดจํากัดของเธอแล้วก็ดีดนิ้วขึ้นมาทันที
หลังจากได้ยินเสียงดีดนิ้วไอช่าก็พุ่งทะยานเข้ามาเหมือนกับสุนัขที่ถูกปล่อยออกจากกรง ความดุร้ายและอารมณ์ที่รุนแรงของเธอถูกปลดปล่อยออกมาทันที ใบหน้าที่ดูสงบนิ่งและงดงามของเธอก่อนหน้านี้ได้หายไปทันที ตอนนี้มีเพียงการกัด ฉีก เลีย และดื่มเลือดราวกับสัตว์ร้ายตัวหนึ่ง
เทียนยังคงจ้องมองฉากที่น่าหดหูและสยดสยองตรงหน้า
ไม่รู้ว่าเพราะความตื่นเต้นที่มากเกินไปหรือว่าเพราะอะไร ไอช่ากัดเข้าไปที่ลําคอของแลงดอนอย่างรุนแรงและทําให้เลือดกระเด็นมาจนถึงใบหน้าของเทียน แต่เทียนก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเขายังคงต้องมองสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า
หลังจากที่ไอช่ากัดกินลําคอของแลงดอนไปสักพักหนึ่ง เทียนก็ดีดนิ้วขึ้นมาอีกครั้ง ไอช่าที่ดูบ้าคลั่งก่อนหน้านี้ก็หยุดนิ่งทันทีจากนั้นก็ปล่อยมือของเธอ เธอกลับมาสงบนิ่งอีกครั้งและไม่สนใจแลงดอนอีกต่อไป
เทียนจ้องมองไอช่าที่สงบนิ่งด้วยสายตาที่อ่อนโยน เขาดึงผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งออกมาและเช็ดเลือดที่เปื้อนอยู่มุมปากของไอช่า ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าได้มาจากไหนแต่มันน่าจะมาจากหญิงสาวคนหนึ่งจากทีมที่เขาได้ฆ่าตายไปเมื่อ 3 วันก่อน
ในตอนที่เทียนเช็ดปากให้นั้น ไอช่าไม่ได้มีการตอบสนองใดๆ เธอยังคงยืนนิ่งราวกับก้อนหิน