The Dark King – กษัตริย์แห่งความมืด - ตอนที่ 626
The Dark King – Chapter 626 เตรียมกองทัพ
หลังจากที่ได้เห็นไอช่ากัดกินเนื้อของทหารคนนั้น เกล็น เกว็นเน็ท และเซอร์กี้ก็ต้องตกตะลึงและพวกเขาไม่กล้าเข้าใกล้ไอช่าที่อยู่ด้านหลังของเทียนเลย
พวกเขาเคยเห็นคนที่ต่อสู้อย่างดุดันมามากมายหรือแม้กระทั่งพวกฆาตกรโรคจิตแต่พวกเขาไม่เคยเห็นคนที่กินเนื้อคนมาก่อนและเมื่อดูจากสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าเทียนเองก็ไม่สามารถควบคุมหญิงสาวคนนี้ได้อย่างสมบูรณ์
ทั้งสามคนหันมามองหน้ากันราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อเดินออกมาจากริมแม่น้ําเทียนก็หันไปถามเกล็นว่า เธอมีทหารรับจ้างที่สามารถใช้งานได้กี่คน?
เกล็นไม่รู้ว่าเทียนถามไปเพื่ออะไรในตอนนี้แต่เธอก็ตอบออกมาตามความจริง ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมาเราทําได้เพียงรับสมัครทหารรับจ้างอย่างลับๆเท่านั้นเพราะกลัวทางกองทัพจะเพ่งเล็งมาที่พวกเราและจํานวนที่ได้นั้นก็ไม่มากนัก ประมาณ 8,000 เท่านั้น 70 เปอร์เซ็นต์ของพวกทหารรับจ้างเป็นนักล่าระดับต่ําที่เหลือเป็นนักล่าระดับกลางและมี 2 คนที่เป็นนักล่าระดับสูง…
เทียนได้ยินทั้งหมดและตอบกลับไปว่า ฉันจะให้เวลาเธอครึ่งชั่วโมงรวมตัวพวกเขาทุกคนมาที่จัตุรัสกลาง
เกล็นตอบกลับมาทันทีว่า นายท่านคะ ฉันกลัวว่าเวลาแค่ครึ่งชั่วโมงจะ…
เรียกรวมพลให้ได้มากที่สุดก็พอ
รับทราบค่ะ เกล็นถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก จากนั้นเธอก็มองไปที่เทียนแล้วพูดว่า ให้ฉันออกไปเลยไหมคะ?
เทียนพยักหน้าเบาๆ
เกล็นแยกตัวไปทันทีก่อนที่เธอจะหายไปในความมืด
หลังจากที่เกล็นออกไปเทียนก็พาเซอร์กี้และเก็นเน็ทไปที่จุดนัดพบ
เวลาครึ่งชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเทียนมาถึงจัตุรัสกลางก็มีคนประมาณ 1,000 คนกระจายตัวอยู่รอบๆจัตุรัสแห่งนี้ แม้ว่าพวกเขาจะพูดคุยกันเบาๆแต่ด้วยจํานวนคนที่มากก็ทําให้จัตุรัสแห่งนี้มีเสียงดังอยู่ตลอดเวลา เทียนขมวดคิ้วและพูดออกมาว่า พวกนายดูแลยังไงกัน?
เกว็นเน็ทที่อยู่กับเซอร์กี้ก็รู้ว่าเทียนกําลังพูดกับเธอ เธอรีบเดินเข้าไปหาทันที ฉันจะจัดการเรื่องนี้ทันทีค่ะ เมื่อเห็นว่าเทียนไม่ได้ตอบอะไรกลับมาเธอก็รีบวิ่งออกไปตรงหน้าจัตุรัสทันทีก่อนจะตะโกนออกไปให้ทุกๆคนได้ยินอย่างชัดเจน
เงียบ!
ผู้คนนับร้อยที่อยู่ใกล้เกว็นเน็ทก็สะดุ้งขึ้นมาทันที พวกเขารีบหุบปากและทําตัวให้สงบนิ่งมากที่สุด คนอื่นๆที่ อยู่ด้านหลังไกลออกไปก็รีบหยุดการสนทนาของตนเองทันทีและหันมองมาข้างหน้า
ฉันว่าฉันเห็นท่านเกว็นเน็ทนะ ดูเหมือนว่าทุกๆคนที่นี่ต่างก็ให้ความเคารพต่อเกว็นเน็ท
เกว็นเน็ทพูดออกมาเบาๆว่า ทุกๆคนตั้งแถวเตรียมฟังคําสั่ง
คนที่อยู่ด้านหน้าสุดตอบกลับมาด้วยความเคารพว่า รับทราบครับ จากนั้นพวกเขาก็หันไปหาคนอื่นๆเพื่อถ่ายทอดคําสั่ง หลังจากนั้นไม่นานผู้คนจํานวนนับพันที่อยู่ที่นี่ก็ตั้งแถวกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
ในตอนนี้มีเสียงเท้าที่กําลังวิ่งเข้ามาในจัตุรัสแห่งนี้เป็นเกล็นที่กําลังวิ่งนําคนประมาณ 100 คนมาที่นี่
จัตุรัสแห่งนี้เงียบไปทันทีผู้คนภายนอกที่เดินผ่านจัตุรัสแห่งนี้ไปมาก็ไม่กล้าเข้ามาใกล้เพราะกลัวว่ามันอาจจะมีอะไรเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
เกว็นเน็ทเดินกลับมาหาเทียน เธอก้มศีรษะของตนเองลงและพูดว่า นายท่านคะ ทหารทุกคนพร้อมแล้ว
เทียนตอบกลับไปว่า ออกคําสั่งไปในนามของฉันคืนนี้พวกเราทุกๆคนจะละเลงเลือดให้กลับตระกูลเมล!
เกว็นเน็ทตกตะลึงไปทันทีและไม่กล้าที่จะขัดคําสั่งในตอนนี้ เธอรีบตอบกลับมาทันทีว่า รับทราบค่ะ
เมื่อเซอร์ก็ได้ยินคําพูดของเทียนสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขารู้ดีว่าการเตรียมตัวสําหรับการต่อสู้ครั้งใหญ่นั้นไม่ง่ายเลย สงครามที่เกิดขึ้นในคืนนี้จะทําให้ทุกๆคนที่อยู่ในกําแพงชั้นนอกต้องตื่นตัวอย่างแน่นอน!
ในใจของเขารู้สึกกังวล การจะทําสงครามกับตระกูลเมลนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ปัญหาที่แท้จริงเกิดขึ้นหลังจากสงครามจบลงต่างหาก เพราะพวกตระกูลเมลต่างก็มีขุนนางที่มีชื่อเสียงอยู่มากมายพวกเขามีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเหล่าขุมพลังที่อยู่ในกําแพงชั้นนอกไม่ว่าจะเป็นทางกองทัพหรือโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ ยังมีบางคนที่เกี่ยวข้องกับโบสถ์แห่งความมืด เมื่อเป็นศัตรูกับคนเหล่านี้แล้วปัญหาที่แท้จริงจะตามมาหลังจากนั้นแน่นอน
เขาจ้องมองไปที่แผ่นหลังของเทียนและอยากจะพูดอะไรบางอย่างออกไปแต่เมื่อคิดดูแล้วเด็กหนุ่มคนนี้แตกต่างจากเขาอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าเขาจะยังอายุน้อยและดูหยิ่งผยองแต่ความฉลาดและความเจ้าเล่ห์ของเขานั้นเหนือกว่าพวกชายชราเจ้าเล่ห์ที่อายุ 80-90 ซะอีก
เมื่อคิดแบบนี้เขาก็ค่อยๆสงบจิตใจของตนเองลงได้
ในตอนที่เซอร์กี้กําลังใช้ความคิดอยู่นั้น เกว็นเน็ทก็กลับไปที่ด้านหน้าของจัตุรัสและถอนหายใจออกมา จากนั้นเธอก็ตะโกนออกไปเสียงดังว่า ทุกๆคน พวกเรากําลังจะเข้าทําลายล้างตระกูลเมลพร้อมกับฉันในคืนนี้และสงครามจะเริ่มต้นขึ้นทันที!
เมื่อเสียงของเธอดังออกไปก็ทําให้ผู้ที่เดินอยู่รอบๆจัตุรัสและไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต้องรีบวิ่งหนีไปทันที
ทหารรับจ้างทุกๆคนต่างก็ตกตะลึงแต่ไม่นานพวกเขาก็กร้องตะโกนออกมาเป็นสัญญาณว่าพวกเขาพร้อมที่จะทําสงคราม
เกล็นกลับไปหาเทียนและพูดว่า นายท่านคะ เวลามีน้อยเกินไป ฉันรวบรวมคนมาได้เท่านี้ไม่รู้ว่าจะพอหรือเปล่า
ถ้าคิดว่าพอมันก็พอ เทียนพูดต่อไปว่า ไปบอกกับเกว็นเน็ทว่าให้เธอเป็นผู้นําของกองทหารกลุ่มนี้แล้วพวกเราจะล่วงหน้าไปก่อน
เกล็นตอบกลับมาว่า คุณอยากจะล่วงหน้าไปก่อนหรอคะ?
เทียนไม่ได้ตอบอะไรกลับมาแต่ออกจากที่นี่ไปทันที
เซอร์กี้ก็ตกตะลึงและรีบตามไปทันที
เมืองพอร์ตออชาร์ด ตระกูลเมล
เมืองพอร์ตออชาร์ดนั้นมีชื่อเสียงในด้านอาหารทะเลของพื้นที่ฝั่งตะวันตกในย่านการค้า ที่นี่มีทะเลสาบที่มีชื่อเสียงชื่อว่าทะเลสาบสีน้ําเงิน ทะเลสาบแห่งนี้กระจ่างใสเหมือนกับชื่อของมัน มีปลาหายากที่มีรสชาติอร่อยอยู่เป็นจํานวนมากในทะเลสาบแห่งนี้ ผู้คนที่อยู่ในเมืองแห่งนี้ต่างก็สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมายาวนานหลายปี
อาชีพชาวประมงก็ถูกส่งต่อมาเป็นร้อยปีด้วยเช่นกัน มีคํากล่าวเอาไว้ว่าผู้คนของเมืองพอร์ตออชาร์ดรักการว่ายน้ํายิ่งกว่าการเดินเสียอีก
ใจกลางของเมืองแห่งนี้ที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากที่สุดมีอาคาร 3 หลังที่มีความโดดเด่นมากที่สุดตั้งอยู่ อาคารหลังแรกคือวิหารของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ อาคารหลังที่ 2 คือตระกูลวิคเกอร์ ตระกูลขุนนางแห่งเมืองพอร์ตออชาร์ด และหลังที่ 3 คือปราสาทแห่งใหม่ของตระกูลเมล
มีหลายคนที่รู้ว่าตระกูลวิคเกอร์และตระกูลเมลเคยเป็นญาติห่างๆกัน บรรพบุรุษหลายรุ่นก่อนของพวกเขาเคยแต่งงานกัน เพียงแต่หลังจากนั้นตระกูลวิคเกอร์ตกต่ําและพวกเขาก็ต้องตัดขาดจากตระกูลเมล แต่ในตอนนี้พวกเขากลับมาร่วมมือกันอีกครั้ง
คุณซาร่าห์ รออีกสัก 3 เดือนเถอะครับปลาทูน่าในทะเลสาบสีน้ําเงินจะถึงฤดูที่สามารถจับขายได้ครับ จากการคํานวณรายได้ก่อนหน้านี้ ปีนี้พวกเราน่าจะมีรายได้ประมาณ 100,000 เหรียญทอง 100,000 เหรียญทองที่ได้มานี้พวกเราจะใช้ในการเสริมความยิ่งใหญ่และรับสมัครยอดฝีมือ นี่คงพอที่จะทําให้ตระกูลของคุณกลับมายิ่ง ใหญ่อีกครั้งได้ครับ ชายวัยกลางคนที่สวมชุดสีดําและนั่งอยู่บนโต๊ะกล่าวขึ้น
โต๊ะนี้มีความยาวถึง 6 เมตร ยังดีที่ห้องโถงแห่งนี้มีเพียงความเงียบเท่านั้นทําให้ทุกๆคนสามารถได้ยินเสียงของเขาอย่างชัดเจน