The Dark King – กษัตริย์แห่งความมืด - ตอนที่ 634
The Dark King – Chapter 634 เมืองที่มีความปลอดภัยมากที่สุด
“นายท่าน ข่าวของตระกูลเมลในตอนนี้ถูกลือออกไปทั่ว ผมกลัวว่าพวกเขาจะรู้ว่าเป็นฝีมือของพวกเราในไม่ช้า” นิโคลัสมาที่ห้องของเทียนและพูดด้วยความกังวล “ผู้คนต่างให้ความสนใจกับเหตุการณ์ฆ่าล้างตระกูลเมลอย่างมากและผมก็เพิ่งไปปล้นที่ดินมาจากตระกูลเมลเมื่อคืนที่ผ่านมา พวกเขาจะสังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ภายใน เร็วๆนี้”
เทียนพลิกอ่านหนังสือที่ถืออยู่ในมืออย่างใจเย็นและพูดออกมาว่า “เร็วแค่ไหนกัน?”
นิโคลัสพูดด้วยน้ําเสียงจริงจัง “ในอีกสองวันพวกเขาจะรู้แน่นอนว่าเป็นฝีมือของใคร”
“สองวันก็เพียงพอแล้ว” เทียนพลิกอ่านหนังสือต่อโดยไม่สนใจ “หลังจากผ่านไปสองวันจะไม่มีใครสนใจเรื่องนี้อีกต่อไป”
นิโคลัสตกตะลึง
เวลาค่อยๆผ่านไปและในที่สุดก็ถึงวันประชุมผู้อาวุโส
หมาป่าโลกันต์สวมชุดสูทที่สั่งทําขึ้นโดยช่างตัดเสื้อระดับสูง เขาส่องกระจกและหวีผมของตนเองให้เป็นทรงจากนั้นก็ค่อยๆผูกเนคไทอย่างปราณีต เมื่อแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยเขาก็มองตัวเองที่อยู่ในกระจกด้วยสีหน้าที่พึงพอใจ
ในการปลอมตัวเป็นผู้อาวุโสของโบสถ์แห่งความมืด เขาพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อเลียนแบบนิสัยของผู้อาวุโสของโบสถ์แห่งความมืดไม่ว่าจะเป็น ความหรูหรา เงินทอง เลือดเย็น ความโหดร้ายและอารมณ์ที่แปรปรวน เขาได้ฝังนิสัยทุกอย่างนี้ลงในตัวเองราวกับมันเป็นตัวตนที่แท้จริงของเขา
“ผู้อาวุโสวันนี้ท่านดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษเลยนะครับ!“ช็อคอายมาที่ห้องเพื่อตรวจสอบความพร้อม เมื่อเห็นรอยยิ้มของบนใบหน้าของชายชราเขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
“ตราบใดที่ฉันได้กลิ่นเลือดฉันก็จะอารมณ์ดี” หมาป่าโลกันต์ยิ้มออกมาเล็กน้อยและจัดระเบียบเสื้อผ้าของตัวเอง จากนั้นเขาก็หยิบไม้เท้าขึ้นมาและเดินออกไปข้างนอกด้วยดวงตาที่เป็นประกาย เขาเฝ้ารอโอกาสนี้มาตลอดในขณะที่ปลอมตัวเป็นผู้อาวุโสของพื้นที่หมายเลข 9 ชายชราแอบแจ้งข้อมูลให้สมเด็จพระสันตะปาปา อย่างลับๆเกี่ยวกับที่ตั้งของที่ประชุมและจํานวนผู้อาวุโสที่เข้าร่วมประชุมให้แก่พระสันตะปาปา
เขาเชื่อว่าสมเด็จพระสันตะปาปาจะไม่พลาดโอกาสอันยิ่งใหญ่นี้ในการส่งกองกําลังที่แข็งแกร่งที่สุดของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์เพื่อกําจัดบรรดาผู้ศรัทธาที่ชั่วร้ายเหล่านี้!
เมื่อถึงเวลานั้นเขาจะได้รับความดีความชอบมากมายและจะถูกจารึกลงในประวัติศาสตร์ของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ถึงวีรกรรมอันกล้าหาญของเขา!
ชายชราไม่ได้ต้องการเงินทองหรือสิ่งอื่นใด ชื่อเสียงและความเคารพนับถือเป็นสิ่งที่เขาคาดหวังและต้องการมากที่สุด
หลังจากตายไปทรัพย์สมบัติเงินทองจะมีความหมายอะไรกัน?
“เมื่อผู้อาวุโสทั้งหมดถูกกําจัดก็จะเหลือเพียงผู้ส่งสารแห่งพระเจ้าเท่านั้น โบสถ์แห่งความมืดจะถูกทําลายย่อยยับในวันนี้ โบสถ์แห่งความมืดและโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์เป็นศัตรูคู่อาฆาตกันมากว่า 200 ปี ทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นจะจบลงในวันนี้เพราะฉัน…” ริมฝีปากของชายชรามีลอยยิ้มผุดขึ้นมาเล็กน้อย
ในไม่ช้เขาก็ถูกห้อมล้อมด้วยช็อคอายและสมาชิกคนอื่นๆพวกเขานั่งในรถม้าหรูที่ตกแต่งสวยงามและทั้งสองด้านของรถม้าก็ขนาบไปด้วยอัศวินแห่งความมืด
“ออกเดินทางได้” หมาป่าโลกันต์ที่นั่งอยู่ภายในรถม้าออกคําสั่ง
ฮอว์กอายมองไปที่ชายชราและพูดออกมาว่า “ท่านผู้อาวุโส ท่านจะไม่รอต่ออีกหน่อยหรอครับ?”
หมาป่าโลกันต์รู้ว่าฮอว์กอายหมายถึงอะไร เมื่อเขานึกถึงวันที่ถูกบุกเข้ามาในห้องประชุมเขาก็รีบพูดออกมาว่า “ไม่ เขารู้สถานที่ประชุมผู้อาวุโสอยู่แล้ว” ไม่แน่เขาอาจจะไปถึงก่อนเราแล้วก็ได้
ฮอว์กอายไม่ได้พูดอะไรต่อ
ณ เมืองมิลาน
ที่แห่งนี้คือดินแดนของตระกูลมิลานซึ่งเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน นายพลหญิงนามว่ามิลานได้มีส่วนร่วมอย่างมาก ในการต่อสู้กับพวกป่าเถื่อน เธอสังหารคนป่าเถื่อนนับไม่ถ้วนช่วยพลเมืองนับหมื่นนับพันและได้รับรางวัลเป็นที่ดินและเมืองแห่งนี้เพื่อตอบแทนความสําเร็จทางทหารที่โดดเด่นของเธอ
ในปัจจุบันนายพลหญิงคนนั้นได้ตายจากไปนานแล้ว แต่ลูกหลานของตระกูลมิลานยังคงยึดมั่นและทําตามบรรพบุรุษของตนเองโดยมีเธอเป็นแบบอย่าง พวกเขาทุกคนล้วนภาคภูมิใจในการเข้าร่วมกองทัพ มีบุคคลสําคัญมากมายที่สายเลือดของตระกูลมิลานแห่งนี้ แต่ตระกูลมิลานไม่ได้เป็นตระกูลขุนนางดังนั้นจึงไม่ได้รับคัดเลือกจากทางสมาคมและพวกเขาจงรักภักดีต่อทางกองทัพเท่านั้น
รถม้าที่หมาป่าโลกันต์นั่งอยู่ค่อยๆวิ่งเข้ามาในเมืองมิลานอย่างช้าๆ เมืองเล็กๆแห่งนี้ได้รับการชื่นชมจากผู้คนมากมายและได้รับขนานนามว่าเป็นเมืองที่มีความปลอดภัยมากที่สุด ดังนั้นการประชุมของผู้อาวุโสจึงจัดขึ้น ณ ที่แห่งนี้
หมาป่าโลกันต์เปิดม่านขึ้นและมองออกไปที่ทิวทัศน์ข้างถนน ดวงตาของเขาหรี่แคบลงและมีความเย็นชา ปรากฏขึ้นเล็กน้อย “บรรพบุรุษของตระกูลมิลานชื่นําสมาชิกไปในทางที่ผิด ทําให้ลูกหลานของตระกูลต้องกลายเป็นสุนัขรับใช้ของโบสถ์แห่งความมืด ฉันจะต้องรีบแจ้งให้พระสันตะปาปาติดต่อกับทางกองทัพเพื่อทําลายตระกูลมิลานให้สิ้นซาก..”
รถม้าค่อยๆวิ่งไปตามทางจนถึงภูเขาด้านหลังของเมือง ที่นี่เป็นที่ตั้งของปราสาทซึ่งอยู่ห่างไกลจากความคึกคักและความวุ่นวาย ตามกําแพงของปราสาทในแต่ละด้านมีธงชาติที่มีลวดลายหญ้าสีน้ําเงินซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจําตระกูลมิลาน บริเวณนอกกําแพงมีกลุ่มอัศวินออกลาดตระเวนตามท้องถนนที่ทอดไปสู่ปราสาท สองข้างทางมืดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอมและมีหญ้าถูกตัดแต่งสวยงาม บางครั้งก็สามารถเห็นพุ่มหญ้าที่สั่นไหวเนื่องจากกระต่ายที่วิ่งไปมาตามพุ่มหญ้า ต่อมาชายชราก็เห็นเด็กๆที่กําลังเล่นกันอย่างสนุกสนาน
หมาป่าโลกันต์เปิดผ้าม่านกว้างขึ้นเพื่อมองดูเด็กๆที่วิ่งเล่นอยู่ตามทุ่งหญ้า เขาสังเกตเห็นว่าเด็กทุกคนต่างสวมชุดที่มีสัญลักษณ์หญ้าสีฟ้าและเป็นลูกหลานของตระกูลมิลาน
“เด็กน้อยผู้น่าสงสาร…” เมื่อมองดูรอยยิ้มที่ไร้เดียงสาของเด็กๆ ใบหน้าของหมาป่าโลกันต์ก็เต็มไปด้วยร่องรอยของความสงสาร เด็กพวกนี้ไม่ได้ทําสิ่งเลวร้ายอะไรและพวกเด็กๆอาจไม่รู้เลยว่าพวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับความชั่วร้ายอยู่