The Dark King – กษัตริย์แห่งความมืด - ตอนที่ 640
The Dark King – Chapter 640 เบื้องหลังที่ไม่มีใครรู้
ทุกๆคนหันมามองหน้ากันอีกครั้งและมีสีหน้าที่ดูประหลาดใจเล็กน้อย..
พวกเขาไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนและไม่คิดว่าเทียนจะรู้เรื่องนี้ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายมีข้อมูลมากกว่าพวกเขาและเห็นได้ชัดว่าหน่วยข่าวกรองของอีกฝ่ายนั้นสามารถแทรกซึมเข้าไปยังที่ต่างๆได้มากกว่าหน่วยข่าวกรองของพวกเขา… หรือบางที่อาจจะแทรกซึมอยู่ที่กําแพงชั้นในแล้วก็เป็นได้
คิดถึงเรื่องนี้ทุกๆคนก็ดูตกตะลึงขึ้นมาเล็กน้อยและด้วยสิ่งที่เทียนพูดไปก่อนหน้านี้ว่าเขาจะจัดการเรื่องของผู้ส่งสารแห่งพระเจ้าเอง ยิ่งไปกว่านั้นพลังของเทียนก็เหนือกว่านักล่าทุกๆคน ถ้าหากว่าเขาไม่เคยติดต่อกับกําแพงชั้นในพลังของเขาจะเพิ่มขึ้นถึงระดับนี้ไม่ได้แน่นอน
ใครๆก็รู้ดีว่ากําแพงชั้นในนั้นเป็นเหมือนพระเจ้าสําหรับโลกใบนี้ พวกเขาให้เช่าเส้นทางลับที่ทําให้สามารถออกไปด้านนอกกําแพงยักษ์ได้ และยังสามารถทําให้นักล่าทุกๆคนสามารถยกระดับพลังของตนเองขึ้นไปได้
เมื่อเทียนถามคําถามนี้ออกมา เขาก็เห็นสีหน้าที่ดูประหลาดใจของทุกๆคน
เมื่อได้ยินคําถามที่ 3 นี้ ราชันย์โลกใต้ดินก็ดูตกตะลึงไปเล็กน้อย เขาตกตะลึงที่เด็กหนุ่มคนนี้ทราบเรื่องนี้ได้อย่างไร ความจริงแล้วเขารู้ความลับเรื่องนี้ เขารู้ว่าพ่อแม่ของเทียนนั้นกุมความลับอะไรบางอย่างของศาสตราจารย์อัจฉริยะที่มีชื่อว่า เทียน เอาไว้และเขาคิดว่าเขาเป็นคนเดียวที่รู้เรื่องนี้ เพราะพื้นที่ที่ศาสตราจารย์อัจฉริยะอาศัยอยู่นั้นอยู่ใกล้พื้นที่ที่เขาปกครอง
เมื่อเด็กหนุ่มได้กลายเป็นศาสตราจารย์อัจฉริยะที่มีชื่อเสียงเขาก็จับตาดูเด็กหนุ่มคนนั้นมาโดยตลอด เรื่องหนึ่งที่เขาสนใจก็คือแม่บุญธรรมของเด็กหนุ่มคนนั้นแอบเข้าไปในปราสาทพร้อมกับชุดเครื่องมือแพทย์ นี่แสดงให้เห็นว่าศาสตราจารย์อัจฉริยะจะต้องป่วยเป็นโรคอะไรบางอย่างแน่นอนและโรคนี้จะปล่อยให้คนอื่นรับรู้ไม่ได้
แม้ว่าเขาจะทรมานหญิงสาวคนนั้นมากแค่ไหนแต่เธอก็ไม่ยอมปริปากพูดเรื่องนี้แม้แต่น้อย แต่เขาก็ไม่คาดคิดว่านอกจากตนเองแล้วจะมีคนอื่นที่รู้เรื่องนี้ด้วย
และยิ่งไปกว่านั้นราชันย์โลกใต้ดินยังเลือกให้ข่าวการตายของพ่อแม่เทียนไปปรากฏอยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์ วัตถุประสงค์ก็คือเขาต้องการให้ผู้อาวุโสทุกๆคนรู้ว่าเขาสนใจศาสตราจารย์อัจฉริยะคนนี้
วัตถุประสงค์อีกข้อนึงของเขาก็คือเพื่อตรวจสอบว่าผู้อาวุโสคนใหม่ที่มารับตําแหน่งในตอนนั้นเป็นคนของมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกแต่งตั้งขึ้นมาหรือไม่ เพราะในตอนที่มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์จับตัวเทียนไปนั้นเขาไม่รู้ว่ามหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ได้ทําอะไรกับเทียนบ้าง
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาดวงตาของเขาก็เปล่งประกายความสงสัย เขาเงยหน้าขึ้นมองและมองไปที่เทียนแจก เห็นว่าเทียนก็จ้องมองมาที่เขาด้วยเช่นกัน สายตาของเด็กหนุ่มคนนี้ดูเหมือนจะสามารถมองเข้าไปในจิตใจของเขาได้ ราวกับว่าความลับทั้งหมดในจิตใจของเขาถูกเปิดเผยออกมา
เขารู้สึกอึดอัดใจขึ้นมาทันที ต้องแสร้งทําเป็นยิ้มและก้มหน้าแต่ฝ่ามือของเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยเหงื่อ
“ไม่ๆๆ เกือบไปแล้ว” ราชันย์โลกใต้ดินคิดในใจ “เด็กคนนี้มีพรสวรรค์มากยิ่งกว่าคนอื่นๆแม้แต่มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ก็อาจจะไม่มีผู้ที่มีพรสวรรค์แบบนี้ เขาสามารถฆ่าราชันย์รัตติกาลได้อย่างง่ายดายและมีพลังที่อยู่เหนือนักล่าทุกๆคน เรื่องนี้มันเกินกว่าที่เราจะรับมือได้”
แต่เมื่อคิดว่าเทียนยังมีปัญหาใหญ่ที่ต้องเผชิญอยู่เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย “เขาสอบถามเกี่ยวกับเรื่องของสมเด็จพระสันตะปาปา เขาน่าจะเตรียมรับมือกับโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์และสอบถามสมเด็จพระสันตะปาปาเรื่องของศาสตราจารย์อัจฉริยะคนนั้น เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการศาสตราจารย์อัจฉริยะคนนั้นมาทํางานให้ตนเอง เพราะสิ่งประดิษฐ์ของศาสตราจารย์คนนั้นล้วนแต่น่าเหลือเชื่อทั้งสิ้น และจะทําให้พลังของเขาสามารถเพิ่มมากยิ่งขึ้นไปอีก”
เมื่อคิดแบบนี้ความหนักใจของเขาก็ลดน้อยลงไปและในตอนที่เขากําลังจะเปิดปากพูดกับเทียนนั้นเขาก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ทันที ในตอนนี้ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นและขนทุกเส้นบนร่างกายของเขาก็ลุกขึ้นมาทันที
“ไม่!” เขาอุทานขึ้นมาในใจทันที “ทําไมถึงถามเรื่องคนที่ฆ่าพ่อแม่บุญธรรมของศาสตราจารย์คนนั้น? เขาไม่ได้ถามเรื่องพ่อแม่บุญธรรมแต่ถามว่าใครเป็นคนฆ่าพ่อแม่บุญธรรมของศาสตราจารย์อัจฉริยะ หรือว่าเขาจะเกี่ยวข้องกับคู่สามีภรรยาคู่นั้น? นี่ไม่ใช่เรื่องที่สําคัญที่สุดหรอกหรอ?”
เมื่อคิดแบบนี้เขาก็รู้สึกตกตะลึงมากยิ่งขึ้นแต่เมื่อลองคิดอีกครั้ง หรือว่าเราจะคิดมากเกินไป? เขาแค่อยากจะถามก่อนว่าใครเป็นคนฆ่าพ่อบุญธรรมของเขาแล้วค่อยถามว่ารู้อะไรมากกว่านี้หรือเปล่า?”
เมื่อคิดแบบนี้เขาก็รู้สึกว่ามันแปลกประหลาด เขาลังเลใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนเลือกที่จะเงียบ เขาคิดว่าตอนนี้เขาได้เป็นผู้แทนผู้ส่งสารแห่งพระเจ้าแล้ว หากเขาตอบคําถามนี้และได้รางวัลอีกคงจะทําให้คนอื่นอิจฉาซะเปล่าๆ
เมื่อคิดได้แบบนี้เขาก็ตัดสินใจนิ่งๆเงียบๆและไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
“ไม่มีใครรู้อะไรเลยหรอ?” เทียนเห็นทุกคนไม่ได้ตอบอะไรกลับมาจึงรู้สึกผิดหวัง
ทุกๆคนได้แต่มองหน้ากันโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
“ใครเป็นผู้อาวุโสของพื้นที่หมายเลข 42” เทียน ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
ชายวัยกลางคนที่สวมเสื้อคลุมสีดําและตัวอ้วนเหมือนกับโอ่งพูดขึ้นมาทันที “ผมครับ”
เทียนมองไปที่เขาแล้วพูดว่า “ตามที่ผมรู้มาพื้นที่ที่คู่สามีภรรยาคู่นี้ตายไปอยู่ในการดูแลของคุณไม่ใช่หรอ?”
“ใช่ครับ” ชายวัยกลางคนร่างอ้วนดูเขินอายเล็กน้อยและตอบกลับมาว่า “แต่พวกเขาไม่ใช่คนสําคัญอะไร ผมเลยไม่ได้สนใจเรื่องนี้ ใครจะรู้กันว่าพวกเขาเป็นพ่อแม่บุญธรรมของศาสนาอาจารย์อัจฉริยะ ถ้าผมรู้แบบนี้ผมคงลักพาตัวพวกเขามาทรมานเพื่อรีดข้อมูลไปนานแล้ว”
เทียนจ้องมองที่ชายวัยกลางคนร่างอ้วนแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรจากนั้นก็หันไปมองราชันย์โลกใต้ดินพร้อมกับพูดว่า “คุณรู้อะไรหรือเปล่า?”
ราชันย์โลกใต้ดินรู้สึกหนักใจขึ้นมาทันทีในขณะที่เขาตอบกลับไปว่า “เรียนตามตรง ผมเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้เหมือนกันครับ”
“จริงหรอ?” เทียนจ้องมองมาที่เขา
เมื่อเห็นสายตาของเทียน หัวใจของราชันย์โลกใต้ดินก็เต้นเร็วขึ้นมาเล็กน้อย แต่เขาเป็นคนที่อยู่ในตําแหน่งสูงมานานและรู้ดีว่าควรเก็บงําอารมณ์และสีหน้าของตนเองอย่างไร เขารีบก้มศีรษะลงและตอบกลับมาว่า “ผมไม่รู้จริงๆครับ แต่เรื่องนี้เราสามารถตรวจสอบได้ เราสามารถตรวจสอบสาเหตุการตายของพวกเขาได้ครับ!”
“สาเหตุการตาย?” เทียนถามออกมาอย่างเย็นชา “นายไม่รู้หรอ?”
ราชันย์โลกใต้ดินรู้สึกตื่นตะลึงจนขนบนร่างกายของเขาลุกขึ้นมาอีกรอบ เขาจ้องมองไปที่เทียนและยิ้มเจื่อนๆออกมาพร้อมกับพูดว่า “ผมไม่รู้จริงๆครับ ถ้าผมรู้ผมคงจับตัวพวกเขาเพื่อใช้ข่มขู่ศาสตราจารย์อัจฉริยะคนนั้นแล้ว นี่จะเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลสําหรับโบสถ์แห่งความมืดของพวกเรา แต่ผมคิดว่าพวกเขาเป็นแค่พ่อแม่บุญธรรมที่รับอุปการะมาเท่านั้นและไม่ได้มีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งเท่าไหร่ ตามที่ผมรู้มาศาสตราจารย์อัจฉริยะนั้นได้เข้าไปเป็นหน่วยค้นหาตั้งแต่เด็กและฝึกฝนอยู่ภายในนั้นตลอดเวลา ผมคิดว่าเวลาที่พวกเขาใช้ร่วมกัน คงจะน้อยมากและคงไม่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเท่าไหร่ครับ”
“ถ้าเราดึงดันจะสืบหาเรื่องนี้ต่อไปผมคิดว่าคงจะไม่ได้อะไรมากหรอกครับ”
เมื่อคนอื่นได้ยินคําพูดของเขาก็พยักหน้าขึ้นมาทันที ความจริงแล้วพวกเขาก็คิดแบบเดียวกัน ศาสตราจารย์อัจฉริยะนั้นถูกกําแพงชั้นในจับกุมตัวไปแล้วคงยากที่จะออกมาได้ เพื่ออนาคตที่สดใสแล้วแม้แต่พ่อแม่บุญธรรมศาสตราจารย์คนนี้ยังทิ้งไปได้นับประสาอะไรกับโบสถ์แห่งความมืดที่เขาอาจจะไม่รู้จักเลยด้วยซ้ํา
เทียนจ้องมองมาที่เขา หลังจากนั้นครู่หนึ่งก็หันไปมองคนอื่นต่อ เมื่อทุกๆคนคิดว่าปัญหาเรื่องนี้คงจบลง แล้วเทียนก็มองมาที่ราชันย์โลกใต้ดินอีกครั้งพร้อมกับพูดว่า “คุณฆ่าพวกเขาหรือเปล่า?”