The Dark King – กษัตริย์แห่งความมืด - ตอนที่ 647
The Dark King – Chapter 647 สละตําแหน่ง
สายลมที่รุนแรงพัดผ่านหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้จนผ้าม่านลอยสูงขึ้น ในพริบตานั้นก็มีเสียงเหมือนอะไรบางอย่า งกระแทกพื้นดังขึ้นมาอย่างรุนแรงแน่นอนว่าสิ่งที่กระแทกกับพื้นเป็นริเชลนั่นเอง สีหน้าของเขาดูตื่นตะลึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แขนที่เรียวยาวและขาวนวลแต่กลับมีกรงเล็บที่แหลมคมเจาะทะลุเสื้อคลุมของเขาที่ทํามาจากผ้า ไหมสีทองและทําให้ร่างกายของเขากระเด็นไปทันที
จากนั้นร่างของริเชลก็ถูกดึงขึ้นมาและกระแทกกับเสาเหล็กของเตียงขนาดใหญ่ที่อยู่กลางห้อง เตียงนี้มีความแข็งแรงมากแม้จะถูกกระแทกอย่างรุนแรงมันก็ไม่ขยับแม้แต่น้อย
โฮก!
เสียงคํารามที่เหมือนกับสัตว์ร้ายเข้ามากระแทกหน้าของริเชลในขณะที่เขาเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความกระหายเลือดจ้องมองมา เขารู้สึกราวกับว่าตัวเองกําลังจะถูกกลืนกินเข้าไป
“ไม่!” เขาพยายามตั้งสติ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วเกินไปจนเขาตั้งตัวไม่ทัน
กริ้ง!
เสียงกระดิ่งดังขึ้นมาอีกครั้ง
แรงกดดันมหาศาลและความน่ากลัวที่ได้เผชิญก่อนหน้านี้หายไปในพริบตา และริเชลก็รีบลุกขึ้นยืนพร้อมกับหันมองไปรอบตัวทันที สิ่งแรกที่เขาทําคือพยายามตั้งสติและขับไล่ความกลัวในจิตใจ แต่เมื่อเขาพยายามยกแขนของตนเองขึ้นในตอนนี้ไหล่ทั้งสองข้างก็รู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมากและไม่สามารถขยับเขยื้อนขึ้นได้เลย
เขาพยายามยกแขนของตนเองขึ้นมาสายตาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดในตอนนี้ มันเจ็บปวดจนเขารู้สึกว่าทนไม่ไหวแล้วและความเจ็บปวดนั้นก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ!
กริ่ง กริ่ง กริ้ง!
เสียงกระดิ่งดังขึ้นอีกครั้งแต่ครั้งนี้แตกต่างจากครั้งที่แล้ว เสียงกระดิ่งดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ริเชลรู้สึกได้ถึงสายลมที่รุนแรงเข้ามาปะทะกับร่างกายของตนเอง และความเจ็บปวดที่ไหล่ของเขาเริ่มหายไป ในเวลาเดียวกันเขาก็เห็นหญิงสาวลึกลับคนหนึ่งฟาดเขาลงกับพื้นและแยกตัวออกห่างจากเขาทันที เธอถอยออกไปด้วยความเร็วที่เขายากจะมองเห็นได้
เมื่อเขาพยายามเพ่งมองดูเขาก็เห็นว่าหญิงสาวลึกลับคนนั้นกลับไปยืนอยู่ด้านหลังเทียนเหมือนกับก่อนหน้านี้ เธอยืนอยู่ด้านหลังของเด็กหนุ่มคนนี้ราวกับเป็นคนรับใช้คนหนึ่งยืนเงียบๆไม่ส่งเสียง และไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย
ริเชลรู้สึกว่าแขนของเขากลับมาเป็นปกติความเจ็บปวดที่เกินจะทนก่อนหน้านี้เหลือเพียงความเจ็บปวดธรรมดาเท่านั้น เขาจ้องมองเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าของตนเอง เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าหญิงสาวที่เขาไม่สนใจก่อนหน้านี้จะกลายเป็นภัยคุกคามที่อันตรายที่สุดสําหรับเขา!
ดูเหมือนว่าวันนี้ไม่มีทางที่เขาจะรอดไปได้แล้ว!
และ… เขารู้ดีว่าแม้เขาจะหนีไปตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว
พลังของหญิงสาวคนนี้เหนือกว่าเขาและเกินกว่าที่เขาคิดเอาไว้ แค่พละกําลังและความเร็วของเธอก็เพียงพอที่ทําให้เขาตายได้แล้ว!
“คุณอยากจะพูดอะไรหน่อยไหมครับ?” เทียนมองมาที่เขายังเฉยเมย
เมื่อริเชลได้ยินคําพูดของเด็กหนุ่มคนนี้เขาก็ค่อยๆสงบจิตใจของตัวเองลง แม้ว่าเขาจะรู้สึกโกรธและไม่ พอใจแต่เขาก็สามารถเก็บความรู้สึกเหล่านั้นเอาไว้ในใจของตนเองได้ เขาไม่ได้เรียกร้องขอความเมตตา ในตอนแรกเขามั่นใจมากว่าตนเองจะสามารถเอาชนะเทียนได้เพราะที่กําแพงชั้นนอกแห่งนี้ไม่มีใครสามารถเอาชนะเขาได้ และไม่เคยมีใครที่ทําให้เขาต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้มาก่อน
แต่การโจมตีก่อนหน้านี้ทําให้ความมั่นใจของเขาหายไปอย่างสิ้นเชิง!
“อยากให้ฉันพูดอะไรล่ะ?” ริเชลกําหมัดของตนเองแน่นและพูดออกมา
เทียนตอบกลับมาว่า “ผมแตกต่างจากคุณ คุณเองก็เป็นคนที่น่าเคารพคนหนึ่ง ผมแค่อยากให้โอกาสคุณได้พูดเท่านั้น”
ริเชลจ้องมองเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยสีหน้าที่สงบนิ่ง เขาไม่รู้จะพูดอะไรในตอนนี้ เขายิ้มเล็กน้อยและพูดออกมาว่า “คุณชนะผมแล้ว คุณสามารถบีบบังคับให้ผมทําอะไรก็ได้แล้วจะให้ผมพูดอะไรอีก?”
เทียนจ้องมองมาที่เขาและพูดว่า “ถ้าเป็นคนอื่นตอบคําถามแบบนี้ผมคงไม่แปลกใจแต่นี่เป็นพระสันตะปาปาที่ตอบกลับมาแบบนี้ คุณว่าผมควรแปลกใจหรือเปล่า?”
ริเชลตกตะลึงไปทันทีและรู้ความหมายในคําพูดของเด็กหนุ่มคนนี้อย่างรวดเร็ว เขาเข้าใจได้ทันทีว่าเทียนกําลังพูดอะไร และรู้สึกแปลกในใจ “คุณอยากให้ผมสวามิภักดิ์กับคุณจริงๆหรอ?”
“คุณไม่อยากทําหรอ?” เทียนจ้องมองมาที่เขาและพูดเบาๆว่า “มีคนที่ยอมสวามิภักดิ์กับคุณมากมายเพื่อให้คุณไว้วางใจเพราะเขา นับตั้งแต่สมัยโบราณไม่ว่ายุคสมัยใดการปกครองคนก็ต้องใช้ทั้งไม้อ่อนและไม้แข็งผสมกัน ต้องมีทั้งการสื่อสารเพื่อให้ผู้คนยอมทําตามและการใช้กําลังเพื่อลงโทษในตอนที่ผู้ขนไม่ทําตาม”
ริเชลรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อยแต่เขาก็คิดว่าเรื่องนี้มันก็สมเหตุสมผล ชีวิตนี้เขาอยู่มาตั้งนานแล้วและจากประสบการณ์ของเขาเขารู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้มีทั้งพละกําลังและสติปัญญาอย่างแน่นอน!
“คุณฉลาดมาก” เขานิ่งไปครู่หนึ่งและพูดต่อช้าๆว่า “ดูเหมือนว่าทุกๆคนต่างก็ประเมินคุณต่ําไปหน่อย คุณเป็นคนที่แข็งแกร่งและรู้ดีว่าจะจัดการกับคนอื่นๆยังไง แต่คุณมันก็แค่ไอ้ขี้ขลาด คนอย่างคุณคงได้รับพลังมาง่ายดาย และโชคดีกว่าคนอื่นๆจนได้รับพลังและความช่วยเหลือที่แข็งแกร่ง!”
เขาพูดออกมาอย่างจริงจังเพราะนี่คือความรู้สึกที่แท้จริงของเขา
เทียนก็ตอบกลับมาอย่างสงบนิ่งว่า “นี่ถือเป็นคําชมสําหรับผม ตอนนี้ผมอยากฟังสิ่งที่คุณเลือกแล้ว ผมหวังว่าคุณจะฉลาดพอ”
ริเชลเงียบอยู่นานจากนั้นก็ตอบกลับมาว่า “ถ้าผมยอมสวามิภักดิ์กับคุณ คุณจะกล้าใช้งานผมหรอ? คุณไม่กลัวหรือไงว่าผมจะให้ข้อมูลที่ผิดพลาดหรือพยายามทําให้คุณล้มเหลว?”
“ผมมีวิธีของผม” เทียนตอบกลับมายังเฉยเมย
ริเชลจ้องมองเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า เขารู้สึกว่าเด็กหนุ่มคนนี้ช่างดูหยิ่งผยองเหลือเกิน เขาเองก็แก่มากแล้ว และไม่อยากต้องไปทําตามคําสั่งของใคร โชคดีที่เขาไม่ต้องเกิดมาในยุคเดียวกับเด็กหนุ่มคนนี้ ไม่อย่างนั้นแล้ว แม้แต่ตําแหน่งพระสันตะปาปาเขาก็คงอาจไม่ได้เป็นแน่นอน
“ดูเหมือนว่าผมคงต้องเลือกแล้ว ผมยอมสวามิภักดิ์กับคุณก็ได้ตราบใดที่คุณยังเชื่อในตัวผม” ริเชลตอบกลับมา
“เยี่ยม” เทียนปรบมือของเขาทันที่ใบหน้าของเขายิ้มเล็กน้อย “ผมคิดไว้แล้วว่ามองคนไม่ผิด ผมจะมอบงานแรกให้กับคุณไปเตรียมตัวให้ดี ผมจะให้เวลาคุณ 7 วันคุณต้องมอบตําแหน่งพระสันตะปาปาให้กับคนของผม”
ริเชลขมวดคิ้วและตอบกลับมาทันที “คุณไม่เชื่อในตัวผมหรือไง?”
“ผมเชื่อสิ” เทียนคู่ต่อไปว่า “ผมเชื่อว่าคุณจะยอมเชื่อฟังผม”
ริเชลใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งและตอบกลับมาว่า “ถ้าผมทําตามคําสั่งของคุณแล้วผมจะได้อะไร? ผมจะแน่ใจได้ยังไงว่าคุณจะไม่กําจัดผมหลังจากที่ผมสละตําแหน่งของตนเอง?”
“คุณคิดมากเกินไปแล้ว” เทียนพูดต่อไปว่า “ทุกๆคนที่ยอมสวามิภักดิ์กับผมตราบใดที่ยังไม่หักหลังผม ผมก็เชื่อในตัวพวกเขาเสมอ นี่คือกฎของผมในการทําสิ่งต่างๆ! นอกจากนี้ถ้าหากว่าผมอยากได้ตําแหน่งพระสันตะปาปาจริงๆผมคงฆ่าคุณไปตั้งแต่ตอนนี้แล้ว ผมแค่ต้องการควบคุมผู้อาวุโสทุกๆคนและให้พวกเขาทําการเลือกตั้งพระสันตะปาปาขึ้นมาใหม่ หลังจากผ่านการเลือกตั้งและมีพระสันตะปาปาคนใหม่ที่ถูกแต่งตั้งแล้ว จะไม่มีใครคัดค้านเรื่องนี้ได้แน่นอน”
สีหน้าของริเชลเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย เขารู้ว่าจริงๆแล้วเทียนต้องการควบคุมผู้อาวุโสทุกๆคน จากนั้นก็จะสามารถควบคุมพระสันตะปาปาได้อย่างสมบูรณ์
“ถ้าคุณยอมตามผมมาและรอจนกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทําเสร็จสิ้น ตําแหน่งของคุณจะไม่ใช่แค่พระสันตะปาปาที่ได้ปกครองแค่พื้นที่กําแพงชั้นนอกอีกต่อไป แม้แต่ตําแหน่งประมุขของมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ผมก็สามารถมอบให้คุณได้” เทียนพูดต่อไปว่า “แต่ตอนนี้คุณต้องยอมทําตามคําสั่งผมก่อน ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี”
ริเชลเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ เขารู้ดีว่าเมื่อเลือกทางเดินนี้แล้วก็ไม่มีทางถอยกลับไปได้อีก เขารู้สึกเสียใจและผิดหวังเล็กน้อย ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาอยู่ในจุดสูงสุดเฝ้ามองทุกๆคนอยู่ในการดูแลของตนเอง แต่ในตอนนี้เขาไม่ต่างอะไรกับคนธรรมดาคนหนึ่ง
“ผมทราบแล้วครับ” ริเชลถอนหายใจและตอบกลับมาชําๆ น้ําเสียงของเขาดูไม่เต็มใจอยู่เล็กน้อย
เทียนพูดต่อไปว่า “ในระหว่างนี้คุณอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว ผมจะพาคุณไปหาที่อยู่ใหม่ มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์จะต้องส่งคนมาตรวจสอบที่นี่แน่นอน”
ริเชลรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อยทันใดนั้นเขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าเทียนกําลังป้องกันไม่ให้เขาทรยศและติดต่อกับคนของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ เห็นได้ชัดว่าที่เทียนพูดว่าเทียน “ผมมีวิธีของผม” คือแบบนี้นี่เอง
“ทราบแล้วครับ” เขาไม่ได้ตอบอะไรกลับมาอีก
เทียนพยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “ตอนนี้คุณต้องทิ้งหลักฐานอะไรบางอย่างไว้เพื่อบ่งบอกว่าคุณถูกลอบสังหารเมื่อคืนและได้รับบาดเจ็บหนักมาก กําลังพักรักษาตัว”
“ลอบสังหารหรอครับ?” ริเชลได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกว่าเทียนวางแผนเอาไว้ก่อนอยู่แล้วจริงๆด้วยแต่เมื่อเขาได้เห็นศพที่ถูกเตรียมเอาไว้สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เทียนพูดว่า “ลอบสังหาร” นั่นหมายความว่าศพที่ถูกเตรียมเอาไว้นั้นจะถูกแทนตัวเขาและเขาจะไม่มีทางกลับสู่เส้นทางเดิมของตนเองได้อีกต่อไป…
เมื่อคิดแบบนี้เขาก็รู้สึกโล่งใจโดยไม่รู้ตัว