The Dark King – กษัตริย์แห่งความมืด - ตอนที่ 502
The Dark King – Chapter 502 การลงโทษบุตรศักดิ์สิทธิ์
ห้องประชุมของตระกูลดราก้อน
มีโต๊ะกลมที่ตั้งอยู่กลางห้องโถงที่มืดมิดแห่งนี้ มีเก้าอี้ที่อยู่ด้านหลังโต๊ะตัวนี้ ความมืดที่ไร้ที่สิ้นสุดอยู่หลังโต๊ะตัวนี้ราวกับว่ามันเป็นรังของสัตว์ประหลาด ด้านบนของความมืดมีบัลลังก์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ มันดูเหมือนเตียงนอนมากกว่าเก้าอี้ ด้านข้างของบัลลังก์นั้นเต็มไปด้วยหนามสีดำมากมายซึ่งทำให้มันดูเหมือนกับดวงตาขนาดใหญ่ที่มีขนตาอยู่รอบๆ
บนบัลลังก์ที่โอ่ออาแห่งนี้มีร่างที่ดูสง่างามนอนอยู่ หญิงสาวที่นอนอยู่นั้นถูกคลุมเอาไว้ด้วยผ้าคลุมสีแดงสด ผ้าคลุมผืนนี้ถูกถักทอขึ้นด้วยดอกไม้สีดำและมีขนาดที่ยาวมาก มันยาวจนเลยออกไปจากบัลลังก์แห่งนี้และตกลงไปสู่ความมืดด้านล่าง
หญิงสาวคนนี้ดูมีอายุประมาณ 20 ปีผิวหนังของเธอมีสีขาว กระจ่างใสและงดงาม แต่เธอก็มีความเย้ายวนเหมือนกับหญิงสาวที่โตเต็มวัย ดวงตาของเธอปิดลงมาครึ่งหนึ่ง เธอจ้องมองไปด้านหน้าอย่างสงบนิ่ง มันให้ความรู้สึกราวกับว่าไม่มีสิ่งใดที่จะสามารถรอดพ้นสายตาของเธอไปได้
มีหญิงชราคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าบัลลังก์มังกรแห่งนี้
คนอื่นๆต่างก็นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้านหลังของโต๊ะกลม พวกเขานั่งอยู่ท่ามกลางความมืด บางคนดูเหมือนกับเด็กที่มีอายุ 6-7 ปีเท่านั้น บางคนตัวใหญ่กำยำ บางคนมีร่างกายผอมบาง
“สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทุกท่านครับ” ร่างกำยำนั่งอยู่ทางด้านขวาของบัลลังก์มังกรกล่าวออกมา ข้อศอกของชายคนนั้นเท้าเอาไว้กับโต๊ะในขณะที่นิ้วมือทั้งสองข้างของเขาไขว้กัน ดวงตาสีทองของเขากวาดมองทุกๆคน “เคล็ดวิชาลับของตระกูลดราก้อนได้ถูกขโมยไป การสอบสวนได้สิ้นสุดแล้วและดูเหมือนว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์ ‘ไอช่า’ จะเป็นผู้นำเคล็ดวิชานี้ไปมอบให้กับผู้เป็นสหายของเธอที่อยู่ที่กำแพงชั้นนอก เคล็ดวิชานี้ถือเป็นความลับของตระกูลของเรา ในวันนี้พวกเรามาที่นี่เพื่อหารือเรื่องการลงโทษไอช่า พวกเราจะทำตามกฎที่มีมานานและถามประชามติของทุกๆท่าน”
“ฮ่า ฮ่า!” เด็กหญิงคนหนึ่งที่มีความสูงประมาณครึ่งเมตรหัวเราะออกมาทันที “ท่านผู้อาวุโส บุตรศักดิ์สิทธิ์ ไอช่า คือลูกสาวของท่าน เธอทำความผิดร้ายแรงแบบนี้ แล้วท่านคิดว่าเราควรทำเช่นไร?”
“ผมเคยพูดไปแล้วว่าเธอไม่ใช่ลูกสาวของผมอีกต่อไปเมื่อไอช่าได้เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ของตระกูล เธอต้องแบกรับความหวังและความรับผิดชอบของตระกูลดราก้อนเอาไว้ ถ้าหากว่าผมพูดผิดอะไรเชิญทุกท่านโต้แย้งมาได้เลย”
เด็กหญิงคนนั้นพูดต่อไปว่า “เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ! แม้ว่าท่านจะพูดแบบนี้ออกมาแต่ฟังดูแล้วเหมือนว่าท่านอยากจะให้พวกเราไม่ลงโทษนาง โชคดีที่เคล็ดวิชานี้ไม่ได้ตกไปอยู่ในมือของอีก 2 ตระกูลที่เหลือ ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเราคงไม่มีหน้าไปพบกับบรรพบุรุษอย่างแน่นอน!”
ผู้อาวุโสตอบกลับมาอย่างเย็นชาเมื่อได้ยินสิ่งที่เด็กหญิงกล่าว “ความเห็นของผมคือจำคุกเธอเอาไว้เป็นเวลา 3 ปีเพื่อให้เธอได้ทบทวนความผิดของตนเอง”
“ท่านผู้อาวุโสครับ นี่มันไม่ใช่การลงโทษที่ไร้เหตุผลไปหน่อยหรอ?” ชายหนุ่มคนหนึ่งส่ายศีรษะพร้อมกับยิ้มออกมา “บุตรศักดิ์สิทธิ์มีหน้าที่รับผิดชอบภารกิจ! ถ้าหากว่าเธอถูกจำคุกแล้วใครจะเป็นผู้ปกป้องกำแพงยักษ์แห่งนี้?”
เด็กหญิงยิ้ม “ท่านผู้อาวุโส ท่านคงจัดการเรื่องของครอบครัวตนเองได้ นี่ไม่ใช่การลงโทษแต่ดูเหมือนว่าเป็นการปกป้องมากกว่า! แม้ว่าเธอจะอยู่ในคุกแต่มังกรใต้พิภพคงไม่กล้าเข้าใกล้เธออย่างแน่นอน! นี่ไม่ใช่การจำคุกแต่เป็นการให้เธอได้ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายเป็นเวลาตลอด 3 ปี!”
ผู้อาวุโสตอบกลับมาอย่างเฉยเมยว่า “ที่ผมเรียกทุกท่านมาในวันนี้ก็เพื่อหารือเรื่องนี้ ถ้าหากพวกท่านมีความคิดที่ดีกว่านี้ก็โปรดบอกมาได้เลย ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับผม พวกเราจะใช้วิธีลงคะแนนเสียงและจะใช้วิธีที่ได้รับคะแนนเสียงมากที่สุด! หรือว่าผมต้องย้ำทวนกฎอีกครั้ง?”
“ท่านผู้อาวุโสครับทำไมพวกเราถึงต้องรีบหาวิธีลงโทษ?” มีชายคนหนึ่งหาวออกมาขณะที่เขาพูดออกมาจากความมืด “เราควรหาหลักฐานก่อนการลงโทษดีกว่าไหมครับ? ทุกๆคนรู้ดีว่านี่เป็นเรื่องต้องห้ามและบุตรศักดิ์สิทธิ์ก็คงจะทราบเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน ส่วนตัวแล้วผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่โง่เขลาเป็นอย่างมากที่เธอจะทำอะไรแบบนี้”
เด็กหญิงจ้องมองไปที่ชายคนนั้น “คุณอยากจะพูดอะไรกันแน่? หรือว่าคุณกำลังตั้งคำถามถึงความสามารถของการสอบสวนของตระกูลดราก้อน? คุณกำลังบอกว่ามีใครบางคนใส่ร้ายบุตรศักดิ์สิทธิ์งั้นหรอ? ใครกันล่ะที่กล้าทำแบบนี้?”
“ผู้ที่ได้ประโยชน์มากที่สุด…” ชายคนนั้นตอบกลับมาช้าๆ
เด็กหญิงหันกลับไปมองผู้อาวุโส “ขอให้ท่านโปรดชี้แจงเรื่องหลักฐานด้วยไม่อย่างนั้นแล้วพวกเราก็คงต้องหารือเรื่องนี้กันจนไม่มีที่สิ้นสุด”
ผู้อาวุโสเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะหันไปหาหญิงชราที่ยืนอยู่ข้างๆบัลลังก์มังกร “ลาริน่า อธิบายเรื่องนี้”
“ได้ค่ะ” หญิงชราพยักหน้าและมองไปที่หญิงสาวที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร เธอก้าวออกมาข้างหน้าพร้อมกับพูดออกมาเบาๆว่า “พวกเราพบกลิ่นของท่านหญิงไอช่าบนม้วนคัมภีร์! นอกจากนี้ท่าทีของเด็กหนุ่มคนนั้นยังบ่งบอกว่าท่านหญิงไอช่าเป็นคนมอบคัมภีร์เล่มนี้ให้กับเขา”
เธอหยุดนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนพูดต่อไปว่า “พวกเราได้ส่งองครักษ์ของตระกูลดราก้อนไปตรวจสอบตัวตนของเด็กหนุ่มคนนี้แล้ว เขาเป็นตัวหมากของมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกส่งออกไปอยู่ที่กำแพงชั้นนอก องครักษ์ได้ตรวจสอบที่อยู่อาศัยของเขาและได้พบกับผ้าเช็ดหน้า! ” เธอยื่นผ้าเช็ดหน้าออกมาวางไว้บนโต๊ะ
มันเป็นผ้าเช็ดหน้าสำหรับเด็ก มีลวดลายดอกไม้สีม่วงปักอยู่บนผ้าเช็ดหน้าผืนนี้
“ฮ่าๆๆ!” เด็กหญิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเมื่อได้เห็นผ้าเช็ดหน้า
ทุกๆคนต่างก็จ้องมองไปที่ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้และรู้ดีว่ามันไม่ใช่ของปลอมอย่างแน่นอน!
“ท่านหญิงเฮลี่ย์ได้ส่งคนออกไปจับกุมเด็กหนุ่มคนนี้ในขณะที่ท่านหญิงไอช่าอยู่บนกำแพงยักษ์ พวกเราได้ตรวจสอบกลิ่นของเธอและยืนยันแล้ว ดูเหมือนว่าท่านหญิงไอช่าจะออกไปพบเด็กหนุ่มคนนี้แต่ท่านหญิงเฮลี่ย์ได้ใช้โอกาสนี้ไปจับกุมเด็กหนุ่มคนนั้น” หญิงชราพูดออกมาช้าๆ
“องครักษ์ที่ประจำอยู่ในอาคารกล่าวว่าท่านหญิงไอช่าปรากฏตัวที่นั่นในเวลาที่คัมภีร์ถูกขโมยไป” หญิงชราพูดต่อไปว่า “ท่านหญิงไอช่าคือผู้ที่น่าสงสัยมากที่สุดและไม่มีทางที่เธอจะหนีไปจากเครื่องนี้ได้เลย
“แล้วท่านได้ถามบุตรศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องนี้หรือยัง?” ชายชราร่างสูงจ้องมองมาที่เธอ
เด็กหญิงก็ถามขึ้นมาว่า “ถามไปแล้วเธอจะยอมรับหรือยังไง?”
หญิงชราพูดออกมาเบาๆว่า “พวกเราได้ถามเรื่องนี้แล้ว เธอบอกว่าเธอไม่ได้ขโมยเคล็ดวิชา เธอบอกว่าเธอออกไปที่นอกกำแพงยักษ์ก็เพราะท่านหญิงเฮลี่ย์สั่งให้เธอทำ เธอบอกว่าเธอไปที่อาคารหลังนั้นก็เพราะได้ยินว่าม้วนคัมภีร์ถูกขโมยไป และสำหรับผ้าเช็ดหน้า… เธอบอกว่าเธอได้ทิ้งเอาไว้เมื่อ 9 ปีก่อนเมื่อเธอแอบหนีออกไปยังกำแพงชั้นนอก”
“เห็นได้อย่างชัดเจนว่า…” เด็กหญิงพูดต่อไปว่า “เธอไม่ได้ยอมรับข้อกล่าวหานี้เลย!”
ชายชราร่างสูงดูเหมือนจะไม่สนใจคำพูดของเด็กหญิง เขามองไปที่หญิงชรา “แล้วเธอมีหลักฐานพิสูจน์หรือเปล่าครับ?”
หญิงชราส่ายศีรษะ “ไม่มี”
“บุตรศักดิ์สิทธิ์อาศัยอยู่ลำพังเสมอ ฉันคิดว่ามันคงเป็นเรื่องยากที่เธอจะหาหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองในตอนนี้” ชายหนุ่มคนก่อนหน้านี้พูดขึ้นมา “แต่บุตรศักดิ์สิทธิ์ก็ได้บอกว่าท่านหญิงเฮลี่ย์สั่งให้เธอไปที่นั่น ท้ายที่สุดแล้วถ้าหากบุตรศักดิ์สิทธิ์ถูกลงโทษขึ้นมาผู้ที่ได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้ก็คงหนีไม่พ้นท่านหญิงเฮลี่ย์ ไม่ต้องเดาเลยว่าท่านหญิงเฮลี่ย์วางแผนเรื่องนี้มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว!”
*******************************************************
เพิ่มเติมตรงนี้ สำหรับคนที่งงกับเนื้อเรื่องนะครับ คือ ไอช่าที่ไปพบเทียนทุกๆครั้งก่อนหน้านี้คือ เฮลี่ย์ ที่ปลอมตัวเป็น ไอช่า (สรุปคือจริงๆแล้ว ไอช่าเป็นพี่ เฮลี่ย์เป็นน้อง)