The Dark King – กษัตริย์แห่งความมืด - ตอนที่ 529
The Dark King – Chapter 529 อุบัติการณ์
“มีอีกรังหนึ่งตรงนี้” เอียนมองไปยังไข่สีขาวจำนวนมากที่อยู่รอบตัว
รูบี้กลืนน้ำลายของเขา “ไข่พวกนี้น่าจะเป็นไข่ของมัจจุราชไร้เงาใช่ไหม? นี่หมายความว่า… พวกลูกๆของมัจจุราชไร้เงายังไม่ฟักตัวออกมา…”
สายตาของลูน่า โรสแมรี่ และคนอื่นๆก็เบิกกว้างขึ้นด้วยความโลภ ถ้าไข่พวกนี้คือไข่ของมัจจุราชไร้เงาจริงๆนั่นหมายความว่าที่นี่เต็มไปด้วยตัวอ่อนของสัตว์อสูรหายากมากมาย เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมพวกเขาก็จะสามารถฆ่ามันและนำหนอนวิญญาณกาฝากออกมาได้ ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนว่าจะมีไข่หลายสิบฟองเลยทีเดียว
ตึง~
พื้นดินยังคงสั่นและมีเสียงคำรามที่ดังเข้ามา ทุกๆคนตื่นจากความฝันและกลับสู่ความจริงที่โหดร้ายทันที พวกเขาเริ่มตื่นตระหนกอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงคำรามที่เกี้ยวกราด เสียงคำรามที่พวกเขาได้ยินครั้งสุดท้ายนั้นดังมากกว่าปกติ
ทั่วทั้งรังนี้กำลังสั่น ก้อนหินเริ่มตกลงมาจากผนังของถ้ำ
เอียนและคนอื่นๆก็มองขึ้นไปด้านบนและเห็นว่ามีดินเริ่มหล่นลงมาจากหลุมที่พวกเขาขุดลงมามากขึ้น มันหมายความว่าที่แห่งนี้พร้อมจะถล่มลงมาทุกเมื่อ
“รีบหาทางออกเร็วเข้า” เอียนวิ่งออกไปทันที
เทียนส่ายศีรษะของเขา “ไม่มีประโยชน์ ที่นี่ไม่มีทางออก มันเป็นพื้นที่ปิด”
รูบี้และลูน่าต่างก็หันมองมาที่เทียนด้วยความกลัว
เทียนยิ้มเจื่อนๆออกมา “ไม่มีลมที่พัดเข้ามาในถ้ำนี้เลย คุณเองก็รู้สึกใช่ไหมครับหัวหน้า? อุณหภูมิที่นี่ก็สูงกว่าปกติ มันสูงกว่าอุณหภูมิด้านบนมาก ถ้าให้ผมเดาที่นี่น่าจะเป็นรังสำหรับฟักไข่ ผมคิดว่ามัจจุราชไร้เงาอาจจะเป็นคนที่ขุดที่นี่ขึ้นมาด้วยตนเอง ถ้าพวกเราจะหาทางออกก็ต้องขุดออกไป ยิ่งไปกว่านั้นทางออกยังต้องเชื่อมกับถ้ำด้านบนด้วยเหมือนกัน”
ทุกๆคนเริ่มรู้สึกได้ถึงความไม่ปกติของที่นี่เมื่อได้ยินคำพูดของเทียน
ลูน่าถามออกมาว่า “แล้วตอนนี้พวกเราจะทำยังไงดี? พวกเรากำลังจะตายที่นี่หรอ? หรือว่าพวกเราจะรอคอยให้สัตว์ร้ายตัวนั้นเข้ามาหาที่นี่?”
เอียนกัดฟันของเขา “ในตอนนี้สิ่งที่ดีที่สุดที่พวกเราจะทำได้ก็คือการวางกับดักและเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ที่จะมาถึง หลังจากนั้นพวกเราต้องหาทางออกจากที่นี่ไปให้ได้ถ้าหากมีโอกาส รูบี้และยูจินพวกนายสองคนออกไปดูรอบๆว่ามีทางออกอื่นอีกหรือเปล่า”
รูบี้และยูจินพยักหน้า พวกเขาเดินไปรอบๆไข่สีขาวขณะที่ถือคบเพลิงเอาไว้ แต่ไม่นานทั้งสองคนก็กลับมาที่นี่ รูบี้พูดขึ้นมาว่า “ไม่มีทางออกเลย ทุกทิศทางเต็มไปด้วยกำแพงหินทั้งหมด”
ความหวังสุดท้ายของพวกเขาดูเหมือนจะหายไปแล้ว แต่ทุกๆคนก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ที่อาจเกิดขึ้นทุกเมื่อ
เอียนและมาร์ตินยังคงสร้างกับดักต่อไป พวกเขานำวัสดุที่มีพิษและยาพิษติดตัวมาด้วย มีลูกธนูสีดำและวัสดุอื่นๆที่ใช้สำหรับสร้างกับดัก กับดักถูกสร้างขึ้นมาด้านใต้ของรูขนาดใหญ่ที่พวกเขาหล่นลงมาก่อนหน้านี้
ใช้เวลาไม่นานนักกับดักก็เสร็จสิ้น
เอียนสูดหายใจเข้าลึกๆและถอยกลับมาใกล้ๆไข่สีขาว “เตรียมพร้อมสำหรับการซุ่มโจมตี”
ทุกๆคนกระจายประจำตำแหน่งของตนเองอย่างเงียบๆ
มาร์ตินก็พูดออกมาเบาๆว่า “การเคลื่อนไหวด้านบนดูเหมือนจะหายไปแล้ว”
เอียนตกตะลึง เขาไม่คิดว่าการเคลื่อนไหวที่อยู่บนถ้ำด้านบนจะหายไปทันทีหลังหนังคำรามครั้งสุดท้ายนั้น หรือว่าสัตว์ร้ายตัวนี้ไม่ได้ไม่ได้ไล่ตามพวกเขาอีกต่อไป?
ลูน่าพูดออกมาเบาๆว่า “บางทีมันอาจจะติดอยู่ที่ถ้ำด้านบน จนขยับไปไหนไม่ได้”
“นั่นก็เป็นไปได้” เอียนนึกถึงเสียงคำรามก่อนหน้านี้จากนั้นก็ใส่ศีรษะ “แต่มันยังอยู่ที่ถ้ำด้านบนแน่นอน มันยังไม่ไปไหน”
ทุกๆคนรู้ดีว่าถ้าหากสัตว์ร้ายตัวนี้เดินกลับไปจะต้องมีเสียงเท้าให้ได้ยินอย่างแน่นอน แต่ดูเหมือนว่าสัตว์ร้ายตัวนี้กลับหยุดเดินไปดื้อๆ มันอาจกำลังพักเหนื่อยหรือกำลังรอคอยอะไรบางอย่างอยู่
ยูจินค่อยๆนั่งลงและพูดขึ้นมาว่า “ที่นี่ร้อนจริงๆ! ถ้ามันไม่เข้ามา พวกเราลองออกไปดีไหม?”
เอียนขมวดคิ้วขึ้นมา “พูดเบาๆหน่อยสิ! พยายามทำให้สัตว์ร้ายตัวนี้สนใจน้อยที่สุด ถ้ามันเป็นสัตว์ร้ายที่หิวโหยความอดทนของมันคงไม่มากหรอก สุดท้ายแล้วมันต้องออกจากถ้ำนี้ไปก่อนพวกเราแน่นอน อย่าเพิ่งรีบร้อนไป.”
ยูจินยักไหล่ของเขา
ทุกคนออกมาจากที่ซ่อนของตนเองเมื่อเวลาผ่านไปและไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆอีก พวกเขานำขวดน้ำออกมาจากกระเป๋าสัมภาระและเริ่มดื่ม
“พวกเราต้องรอต่อไปหรอ?” รูบี้ถาม
เอียนพยักหน้า “เราต้องรอจนกว่ามันจะออกไปจากที่นี่”
ไม่มีใครพูดหรือเสนอความคิดเห็นอะไรขึ้นมาอีกเพราะพวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นในตอนนี้ พวกเขาทําได้เพียงหาที่สะอาดๆและนั่งรอ ถ้ำแห่งนี้สกปรกมาก ทั่วพื้นดินเต็มไปด้วยเมือกเหนียว มันดูเหมือนน้ำมูกของสัตว์ร้ายที่ผสมกับอุจจาระของตัวอะไรบางอย่าง เมือกเหนียวทำให้พื้นดินเฉอะแฉะเหมือนโคลนและส่งกลิ่นเหม็นออกมา
ยิ่งไปกว่านั้นกลิ่นเหม็นยังทวีความรุนแรงเพราะความร้อนที่นี่
ลูน่าต้องปิดจมูกของตนเองอย่างแน่นหนา ใบหน้าของเธอซีดเซียวและดูเหมือนว่าเธอพร้อมที่จะสลบไปได้ตลอดเวลา
เอียน มาร์ติน และคนอื่นๆก็เป็นกังวลเมื่อเห็นสภาพของเธอในตอนนี้ เอียนยื่นขวดน้ำให้กับลูน่า “ดื่มน้ำซะหน่อยสิ”
ลูน่าพยักหน้าเบาๆจากนั้นก็หยิบขวดน้ำไป แต่สภาพของเธอก็ไม่ได้ดูดีขึ้นมามากนัก
มาร์ตินขมวดคิ้ว “พวกเราจะอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ได้ กลิ่นเหม็นที่นี่รุนแรงเกินไป อย่างน้อยพวกเราก็น่าจะให้ลูน่าออกไปที่รูนั้นก่อน”
เอียนมองไปที่ลูน่าที่ดูเหมือนจะเป็นลมตลอดเวลา เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็พยักหน้า
พวกเขาพยุงลูน่าให้ขึ้นไปยังรูที่ทุกคนลงมา
เมื่อศีรษะของลูน่าโผล่ขึ้นมาจากรูเธอก็สูดหายใจเพื่อนำ ‘อากาศบริสุทธิ์’ เข้าไปทันที
เทียนรู้สึกมีความสุขที่เขาไม่ได้มีสัญลักษณ์เวทย์มนต์ของหมาป่าวิญญาณในตอนนี้ ประสาทสัมผัสทางด้านกลิ่นที่ดีก็กลายมาเป็นจุดอ่อนได้เหมือนกัน ลูน่าไม่ได้เป็นพวกชนชั้นสูงจึงไม่ได้พยายามเก็บอาการอะไรเลย แต่กลิ่นที่อยู่ในถ้ำข้างล่างนั่นก็เหม็นมากจริงๆ มันไม่ใช่เรื่องของความอดทนแต่เป็นเพราะเธอไวต่อกลิ่นมากกว่าคนอื่นๆ
กลิ่นเป็นสิ่งกระตุ้นประสาทสัมผัสที่เข้มข้นที่สุด มันเป็นเรื่องปกติสำหรับมนุษย์ที่จะเป็นลมถ้าเส้นประสาทของพวกเขาถูกกระตุ้นมากเกินไป
“กระจายตัวออกไปรอบๆ” เอียนพูดออกมาเบาๆ
พวกเขาเดินแยกกันออกไปด้วยความเงียบมากที่สุด
ที่แห่งนี้มีเพียงความเงียบและมีแต่ไข่สีขาวเท่านั้น
1 ชั่วโมง 2 ชั่วโมง…. เพียงพริบตาเวลาก็ได้ผ่านไปกว่า 10 ชั่วโมงแล้วและถ้ำด้านบนก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ
แต่พวกเขาก็ยังคงต้องอดทน เป็นไปได้ว่าสัตว์ร้ายตัวนี้อาจจะหลับไปแล้ว
…
…
เพียงพริบตาเวลาก็ได้ผ่านไปแล้ว 5 วัน
สีหน้าของทุกๆคนดูย่ำแย่เป็นอย่างมาก แม้ว่าทุกๆคนจะเริ่มชินและเริ่มปรับตัวกับความร้อนและกลิ่นที่เหม็นภายในถ้ำนี้ได้แต่พวกเขาก็ไม่คิดว่าตนเองจะต้องรอคอยนานถึง 5 วัน!
ในตอนแรกพวกเขาคิดว่าสัตว์ร้ายตัวนี้อาจจะอยู่ในถ้ำเพียงแค่วันสองวันเท่านั้น
แต่พวกเขาก็ไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใดๆเลยภายใน 5 วันนี้
“อุณหภูมิที่นี่ร้อนเกินไปและอาหารของพวกเราก็เริ่มบูดแล้ว” โรสแมรี่ค่อยๆจิบน้ำที่เหลืออยู่น้อยเต็มทีของเธอจากนั้นก็หันไปพูดกับเอียน “ถ้าอยู่ที่นี่ต่อไปพวกเราต้องอดตายแน่นอน”
การนั่งรอคอยเฉยๆไม่ได้หมายความว่าจะไม่ใช้พลังงาน ปกติแล้วจำนวนพลังงานที่พวกเขาต้องการต่อวันก็มากอยู่แล้ว อาหารของพวกเขาถูกบรรจุเอาไว้ภายในถุงกันน้ำแต่ไม่ได้กันความร้อน
เอียนไม่ได้ตอบอะไรกลับมา
โรสแมรี่เข้าใจว่าเอียนยังไม่ได้วางแผนอะไรเลย เธอถอนหายใจจากนั้นก็หันไปมองรูบี้ รูบี้ได้ซ่อนกระเป๋าสัมภาระที่เต็มไปด้วยเสบียงเอาไว้ด้านหน้าถ้ำก่อนที่ทุกคนจะเข้ามา อาหารและน้ำที่อยู่ภายในกระเป๋านั้นจะทำให้พวกเขามีชีวิตต่อไปได้ดีกว่าครึ่งเดือน แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่อดตายแต่ปฏิกิริยาตอบสนองของทุกๆคนก็ช้าลงไปมาก
“ปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้” เทียนมองไปที่ทุกๆคนที่นั่งอยู่รอบๆถ้ำ เขาพูดออกมาเบาๆว่า “ถ้าหากว่าสัตว์ร้ายตัวนี้เป็นพวกหลับนานและการหลับของมันยาวนานมากกว่าครึ่งเดือน…พวกเราคงรอคอยนานขนาดนั้นไม่ได้แน่นอน”
“นายมีแผนอะไรหรือเปล่า?” มาร์ตินหันมามอง เขาชื่นชมเทียนในใจเพราะเทียนมักจะมีความคิดดีๆอยู่เสมอ แต่เขาก็เริ่มรู้สึกหงุดหงิดหลังจากที่ต้องอยู่ในรังที่เน่าเหม็นนี้มากว่า 5 วัน
เทียนหันไปมองยูจินที่นั่งอยู่ข้างๆไข่สีขาว “ผมคิดว่าเราต้องการผู้กล้าที่ต้องออกไปดูว่าสัตว์ร้ายตัวนี้หลับอยู่หรือว่าออกไปแล้ว บางทีพวกเราอาจจะแอบออกไปได้ถ้าหากสัตว์ร้ายตัวนี้หลับลึก”